ตอนที่ 534 คำเล่าลือในตลาด

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ

ตอนที่ 534 คำเล่าลือในตลาด โดย Ink Stone_Fantasy

“เถ้าแก่ ทำการค้าครั้งนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องอื่นก็ยังไม่สาย” หลิ่วหมิงได้ยิน ก็กล่าวออกมา

“ท่านโปรดรอสักครู่!” ตอนนี้ชายชุดดำถึงค้นพบว่าตนเองยั้งสติไม่อยู่เล็กน้อย หลังจากยิ้มเคอะเขินออกมาแล้ว ก็ปิดกล่องหยกที่อยู่บนโต๊ะ และลุกเดินออกไปจากห้องรับรอง

ผ่านไปราวๆ หนึ่งถ้วยชา ชายมนุษย์เผ่าค้างคาวถึงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม บนมือมีกล่องไม้สีเทาขนาดสองสามฉื่อใบหนึ่ง

เขาวางกล่องไม้ไว้บนโต๊ะ และใช้นิ้วเรียวยาวแตะเบาๆ ไอสีแดงสายหนึ่งจมเข้าไปในกล่อง พอฝากล่องเปิดออกมา ผลผลึกเขียวสิบห้าลูกที่อยู่ในนั้น ก็เปล่งแสงสีเขียวจางๆ

สำหรับหลิ่วหมิงที่เคยเห็นผลผลึกเขียวมานับไม่ถ้วนแล้ว เพียงแค่ใช้จิตกวาดดูเล็กน้อย ก็มั่นใจในอายุของผลผลึกเขียวเหล่านี้ พอใช้มือข้างหนึ่งลูบมันเบาๆ กล่องไม้ก็ถูกเขาเก็บเข้าไปในหอยสังข์ย่อส่วนที่อยู่บนเอว

“เถ้าแก่ ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำต้องขอตัวก่อน ส่วนโอสถคุณภาพสูงนั้น ข้าจะนำไปคิดดู” หลิ่วหมิงกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ

เดิมทีหลิ่วหมิงกะจะพูดจาคลุมเครือ แต่คิดไม่ถึงว่าตนเองจะพูดเรื่องโอสถระดับที่สูงกว่าออกมา แต่พอมานึกดูแล้ว อย่างไรซะโอสถพสุธาก็ต้องนำออกมาขายเช่นกัน และร้านมนุษย์เผ่าค้างคาวก็เป็นคู่ค้าที่ดี อีกอย่างเขาก็ค่อนข้างสนใจผลผลึกเขียวพันปีนี้ไม่น้อย

“สหายค่อยๆ เดิน! หากครั้งหน้ามาร้านของเราล่ะก็ มาหาข้าโดยตรงได้เลย” ชายเผ่าค้างคาวเก็บกล่องหยกที่ใส่โอสถผลึกเย็น และกล่าวด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า จากนั้นก็เดินลงหอไปกับหลิ่วหมิง

เวลาที่เหลือเขาก็เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันสิบกว่าแบบ และใช้หินจิตวิญญาณที่มีอยู่ในมือไปรวบรวมวัตถุดิบเสริมที่จำเป็นจำนวนมาก ทั้งยังซื้อแก่นบริสุทธิ์อสูรจินหยวนระดับผลึกมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นถึงกลับไปที่หอร้อยหลอม

ช่วงเวลาหลังจากนี้ นอกจากเขาจะลงหอไปดูสถานการณ์ของร้านในคราวจำเป็นแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือส่วนมากก็จะอยู่บนห้องลับชั้นสาม ด้านหนึ่งฝึกฝนเคล็ดกระบี่ทั้งสองแบบ อีกด้านหนึ่งก็ปรุงโอสถทั้งสองชนิดเป็นจำนวนมาก

สองเดือนต่อมา ในที่สุดเขาก็ปรุงโอสถทั้งหมดเสร็จสิ้น

ครั้งนี้เขาปรุงโอสถผลึกเย็นออกมาได้หนึ่งร้อยกว่าเม็ด ในนั้นมีโอสถธรรมดาถึงสามสิบกว่าเม็ด และมีโอสถพสุธามากถึงสี่เม็ด

นอกจากนี้ยังมีโอสถจินหยวนสิบกว่าเม็ด ทั้งยังมีโอสถธรรมดาหนึ่งเม็ดด้วย

ที่เขาได้โอสถระดับสูงมามากเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบหลักอย่างผลผลึกเขียวที่มีอายุสี่ห้าร้อยปีเหล่านี้ คุณภาพของโอสถที่ปรุงออกมาจึงเพิ่มเป็นทวี

หลังจากเขาคิดไตร่ตรองไปรอบหนึ่งแล้ว ก็นำโอสถผลึกเย็นระดับกลางในมือมาแบ่งเป็นชุดๆ ขายให้กับร้านค้าในตลาดหลายร้าน เหลือเพียงโอสถระดับกลางไว้ใช้เองยี่สิบกว่าเม็ดเท่านั้น

และโอสถผลึกเย็นระดับสูงเหล่านั้น หลังจากหลิ่วหมิงคิดพิจารณาดูแล้ว ก็เก็บมันไว้ทั้งหมด

ไม่ว่าเขาจะรอบคอบระมัดระวังแค่ไหนก็ตาม แต่การที่มีโอสถผลึกเย็นปรากฏออกมาจำนวนมากเช่นนี้ ก็ก่อให้เกิดความฮือฮาขึ้นมาในตลาดขนาดใหญ่อย่างตลาดฉางหยางแห่งนี้

แม้ร้านค้าโอสถในในตลาดจะมีจำนวนมาก แต่สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจแล้ว พวกเขาย่อมรู้แหล่งที่มา และจำนวนโอสถชนิดต่างๆ ในตลาดดี แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ ก็ดึงดูดความสนใจของกลุ่มอิทธิพลจำนวนหนึ่งได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอสถผลึกเย็นจำนวนมากที่ไม่รู้ที่มาเหล่านี้

ตอนนี้ต่อให้ผู้ที่สมองทึ่ม ก็คงจะรู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่แท้จริงมาในตลาดแล้ว

โอสถผลึกเย็นเป็นโอสถเพิ่มพลังเวท ย่อมมีกลุ่มอิทธิพลจำนวนมากสนใจผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นี้ จึงได้เริ่มส่งคนตามสืบอย่างเงียบๆ

ช่วงพื้นที่เจริญรุ่งเรืองใกล้กับมุมตะวันออกเฉียงเหนือของตลาดฉางหยาง มีร้านค้าข้างถนนแห่งหนึ่งที่ทอดยาวติดต่อกันสิบกว่าจั้ง

การตกแต่งร้านภายนอกสวยหรูดูดีมีระดับ ประตูใหญ่สีแดง หน้าต่างดูสว่างไสว ประตูหน้าร้านมีป้ายไม้สีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ บนนั้นเขียนว่า ‘เรือนโอสถเฮ่าหราน’

ที่นี่ก็คือร้านโอสถแห่งหนึ่งที่สำนักเฮ่าหรานเปิดไว้ในตลาดนั่นเอง เทียบกับหอร้อยหลอมของนิกายยอดบริสุทธิ์แล้ว เห็นได้ชัดว่ามีกำลังทรัพย์และอิทธิพลกว่ามาก

ห้องโถงแห่งหนึ่งภายในเรือนโอสถเฮ่าหราน ภายในมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือนหรือการตกแต่งด้านใน ล้วนมีกลิ่นอายโบราณ เหมือนกับว่ามีมานานแล้ว

ตรงที่นั่งใจกลางห้องโถง ชายวัยกลางคนที่สวมชุดบัณฑิตนั่งอยู่บนนั้น เขากำลังชื่นชมขวดหยกขาวที่มีลายสลักเป็นรูปบุปผาอยู่

หากหลิ่วหมิงอยู่ที่นี่ล่ะก็ จะต้องจำได้ว่าคนผู้นี้ก็คือบัณฑิตวัยกลางคนของสำนักเฮ่าหราน ที่เขาเคยพบในร้านค้าอสูรเมื่อหลายวันก่อน

และขณะนี้บัณฑิตหนุ่มผู้นั้นก็ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ นอกจากนี้แล้วยังมีผู้อาวุโสผมขาวกำลังรายงานอะไรบางอย่างกับบัณฑิตวัยกลางคนอย่างนอบน้อม

“เถ้าแก่สวี พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า ตอนนั้นมีชายวัยกลางคนสวมคลุมสีเทามาขายโอสถผลึกเย็นนี้” บัณฑิตวัยกลางคนทำสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ใช่แล้ว เป็นเพราะว่าตอนนั้นข้าเป็นคนซื้อโอสถผลึกเย็นอันหายากนี้มากับมือ คนผู้นั้นเรียกร้องให้ค้าขายกันอย่างลับๆ ข้าน้อยจึงไม่อาจถามที่มาของโอสถนี้ได้ หลังทำการค้าเสร็จ คนผู้นั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว” ผู้อาวุโสผมขาวตอบอย่างนอบน้อม

“ชายวัยกลางคนผู้นั้นมีลักษณะพิเศษอย่างไรบ้าง?” บัณฑิตวัยกลางคนขมวดคิ้วขึ้นมา

“คนผู้นั้นมีอายุราวๆ สี่สิบกว่าปี รูปร่างหน้าตาดูธรรมดามาก การฝึกฝนก็แค่ระดับของเหลว หากไม่ได้ลงมือล่ะก็ ไม่อาจรับรู้ระดับการฝึกฝนที่ละเอียดกว่านี้ได้” เถ้าแก่สวีนึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา

พอเห็นว่าบัณฑิตวัยกลางคนยังคงไม่พูดอะไรออกมา เถ้าแก่สวีก็ดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็เล่าต่อ

“ข้าได้ส่งคนไปตรวจสอบแล้ว โอสถผลึกเย็นที่ปรากฏในครั้งนี้ มีจำนวนประมาณสองร้อยเม็ด แบ่งขายตามร้านค้าเจ็ดแปดร้าน อีกอย่าง คนของเรารายงานมาว่า คนที่ขายโอสถตามร้านต่างๆ ไม่ใช่คนๆ เดียวกัน มีทั้งคนแก่ และคนที่อายุน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นหน้าใหม่ทุกครั้ง”

“ดูท่าผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นั้นคงจะระมัดระวังตัวมาก ไม่อยากเป็นจุดสนใจ ถึงได้ส่งคนออกมาไม่ซ้ำกัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นคนๆ เดียวกัน แต่เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาอยู่ตลอดก็ได้” บัณฑิตวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่ง และคาดเดาออกมา

“ผู้อาวุโสไป๋กล่าวได้ไม่มีผิด คนส่วนมากก็คิดเช่นนี้” เถ้าแก่สวีพูดจาประจบประแจงด้วยรอยยิ้ม

บัณฑิตวัยกลางคนมองเถ้าแก่สวีทีหนึ่ง แม้จะไม่พูดอะไรออกมา แต่แววตาดูพอใจเป็นอย่างมาก คำพูดเยินยอเช่นนี้ได้ผลไม่น้อย

บัณฑิตวัยกลางคนผู้นี้เป็นผู้อาวุโสระดับผลึก ที่สำนักเฮ่าหรานส่งมาที่นี่ และก็เป็นอาจารย์อาของบัณฑิตหนุ่มที่อยู่ด้านข้างด้วย

บัณฑิตวัยกลางคนก็เป็นศิษย์ประจำการที่เรือนโอสถเฮ่าหรานแห่งนี้ ไม่แปลกที่เถ้าแก่สวีจะดูนอบน้อมเช่นนี้

“อาจารย์อา เป็นไปได้ไหมว่าผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นั้นจะเปลี่ยนโฉมมาขายโอสถผลึกเย็นเอง?” บัณฑิตหนุ่มที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างมาโดยตลอดพูดแทรกเข้ามาในฉับพลัน

“คงเป็นไปไม่ได้ ผู้ที่สามารถปรุงโอสถผลึกเย็นออกมาได้ ย่อมมีสถานะไม่ธรรมดา คงไม่ทำเรื่องเล็กๆ อย่างการขายโอสถด้วยตนเอง หากคนเหล่านั้นเป็นคนๆ เดียวกัน ก็คงเป็นลูกน้องหรือคนติดตามของเขา” บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหน้าแล้วกล่าวออกมา

บัณฑิตหนุ่มได้ยินก็พยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สำนักเฮ่าหรานของเรา จะต้องดึงผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถท่านนี้มาเป็นพวกให้ได้ หากสำเร็จล่ะก็ นับว่าเป็นการสร้างผลงานใหญ่ให้สำนักเรา เบื้องบนจะต้องมอบรางวัลให้อย่างไม่เสียดาย เถ้าแก่สวี หากมีคนมาขายโอสถผลึกเย็นอีก เจ้าต้องหาวิธีหน่วงเหนี่ยวเขาไว้ จากนั้นให้รีบส่งข่าวให้ข้าโดยเร็ว” บัณฑิตวัยกลางคนสั่ง

“รับทราบ! ข้าจะสั่งการลงไป” เถ้าแก่สวีคารวะ และพยักหน้าให้กับบัณฑิตหนุ่ม จากนั้นก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

……

ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของตลาดฉางหยาง ภายในร้านที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์เผ่าค้างคาว ก็มีคนทำการสนทนาอยู่เช่นกัน

“ฝูหมิ่น สองเดือนก่อนเจ้าให้คนไปส่งข่าวว่าได้ซื้อโอสถผลึกเย็นจำนวนมากจากคนลึกลับผู้นี้ ทั้งยังเป็นโอสถระดับธรรมดาที่หาได้ยากยิ่ง หลังจากผู้อาวุโสหลายคนในเผ่าเห็นโอสถนี้แล้ว ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ผู้อาวุโสฝูหลีชมเจ้าต่อหน้างานรวมตัวผู้อาวุโสไปหนึ่งรอบ” ผู้ที่พูดเป็นหญิงวัยกลางคนใบหน้างดงาม รูปร่างกระจุ๋มกระจิ๋มผู้หนึ่ง นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องลับชั้นบนสุดของร้าน ทุกท่วงท่าลีลาของนางดูยั่วเย้าจิตใจผู้คนเป็นอย่างมาก

“ข้าเป็นคนในเผ่าคนหนึ่ง เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่สมควรทำ ผู้อาวุโสฝูหลีกับฮูหยินวั่นชมเกินไปแล้ว”

ชายชุดดำผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคนด้วยท่าทีนอบน้อม เขาก็คือเถ้าแก่ชุดดำที่ใช้ผลผลึกเขียวอายุห้าร้อยปีแลกกับโอสถของหลิ่วหมิงนั่นเอง

“แต่ข้าได้ยินมาว่า ช่วงนี้มีโอสถผลึกเย็นออกมาในตลาดเป็นจำนวนมาก ใช่คนลึกลับผู้นั้นเป็นคนปล่อยออกไปหรือไม่?” หญิงงดงามกล่าว

“เรียนฮูหยินวั่น คงจะเป็นเช่นนี้ โอสถผลึกเย็นที่ปรากฏออกมาในครั้งนี้ มีจำนวนมากกว่าเดิม และคนผู้นั้นยังมาขายที่ร้านของพวกเราจำนวนหนึ่งด้วย” ขณะที่พูด เถ้าแก่ชุดดำก็หยิบกล่องหยกออกมาสองใบ

“ในนั้นมีโอสถระดับสูงหรือไม่?” หญิงงดงามรับกล่องหยกมาใบหนึ่ง ในนั้นมีโอสถผลึกเย็นสิบเม็ด มันส่งกลิ่นหอมเข้มข้นออกมา

“อันนี้กลับไม่มี ล้วนเป็นโอสถระดับกลางทั้งหมด” เถ้าแก่ชุดดำหัวเราะอย่างขมขื่นและกล่าวออกมา

หญิงงดงามเผยสีหน้าผิดหวังออกมาทันที และหยิบโอสถผลึกเย็นมาดมหนึ่งเม็ด จากนั้นก็กล่าวต่อ

“โอสถเหล่านี้ก็มีความบริสุทธิ์ไม่เลว แตกต่างจากโอสถระดับของเหลวทั่วไปมาก ดูท่าผู้ที่ปรุงออกมา คงเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่แท้จริง”

“ฮูหยินวั่นกล่าวได้ถูกต้อง ครั้งนี้พวกเราซื้อโอสถผลึกเย็นมายี่สิบเม็ด ล้วนเป็นโอสถระดับกลางที่มีความบริสุทธิ์หกถึงเจ็ดส่วน ห่างจากโอสถระดับสูงไม่มากนัก” เถ้าแก่ชุดดำกล่าว

“ฝูหมิ่น ระหว่างที่เจ้าตอนรับคนลึกลับผู้นั้น เคยสอบถามเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นหรือไม่?” หญิงงดงามปิดกล่องหยก และลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวออกมา

“คนผู้นั้นปิดปากแน่นมาก มาขายโอสถสองครั้งล้วนระมัดระวังเป็นอย่างดี เขาปิดปากเงียบไม่ยอมพูดถึงที่มาของโอสถ ข้าก็กลัวว่าจะทำให้คนผู้นี้ไม่พอใจ จึงไม่กล้าถาม” เถ้าแก่ชุดดำส่ายหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

“อืม! เจ้าทำการได้รอบคอบดีมาก” หญิงงดงามพยักหน้า

“แต่ว่าโอสถผลึกเย็นเกี่ยวพันกับเรื่องใหญ่ในเผ่าเรื่องหนึ่ง ผู้อาวุโสฝูหลีกำชับเป็นพิเศษว่า หากคนผู้นี้มาในครั้งหน้า จะต้องถามให้ชัดเจนว่าในมือเขามีโอสถระดับพสุธาหรือไม่ หรือไม่ก็ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหลังผู้นั้น สามารถปรุงโอสถผลึกเย็นระดับพสุธาออกมาได้หรือไม่?

“หากคนผู้นั้นไม่ยอมพูด พวกเราบีบบังคับเขาจนเกินไป จะเป็นการล่วงเกินผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นั้นหรือไม่?” เถ้าแก่ชุดดำกล่าวด้วยความกังวล

“เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลไป ข้ามาในครั้งนี้ได้พกผลผลึกเขียวพันปีมาด้วย เชื่อว่าคงจะระงับโทสะของผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นได้” หญิงงดงามกล่าวด้วยความมั่นใจ

“รับทราบ! ข้าน้อยรู้แล้ว” เถ้าแก่ชุดดำกล่าวด้วยสีหน้าหนักแน่น

…………………………………