ตอนที่ 665
ประสบการณ์
“กล้าดีนี่นา”หยูเจินเหอสัมผัสพลังวิญญาณของฟงเป่ารวมทั้งพลังของหนี่หลิงหนานและเซี่ยจินเย่อย่างพิจารณา ทั้งสามพลังก้าวหน้าขึ้นมากก็จริงแต่ก็ยังอยู่ระดับเสินเซียนขั้นกลางอยู่ เทียบกับตนเองที่เข้าระดับเทียนเซียนแล่วต่างกันมาก เพราะแบบนั้นหยูเจินเหอเลยไม่มีท่าทีจะหวาดกลัวฟงเป่าแม้ร่างกายจะบาดเจ็บก็ตาม
“ที่ส่งคนมาจับตัวข้า เจ้าก็รู้แล้วสินะว่าข้าเป็นใคร”ฟงเป่าพูดพลางจ้องมองหยูเจินเหอนิ่ง คราวก่อนมันจำไม่ได้ด้วยซ้ำต่อให้ได้ยินใครเรียกตนเองว่า ฟงเป่า พวกมันก็ไม่เอะใจ มาคราวนี้กลับจงใจเจาะจงระบุชื่อฟงเป่าโดยเฉพาะก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันต้องจำได้แล้วแน่ๆว่าฟงเป่ามาจากตระกูลอะไร
“ไม่นึกเลยว่าเด็กน้อยตระกูลฟงจะยังมีชีวิตอยู่ แถมยังส่งเจ้าไป๋จูล่งนั้นไปทำลายบ้านของข้าอีก”หยูเจินเหอเรียกกระบี่ออกมาหมายจะเข้าไปต่อสู้กับฟงเป่า สิ่งที่มันต้องการก็คือจับตัวฟงเป่าและเค้นเอาที่อยู่ของไป๋จูล่งจากฟงเป่าให้ได้ และหลังจากนั้นมันจะไปจัดการไป๋จูล่งด้วยตนเองและจะสังหารมันให้สมกับที่ทำลายบ้านที่ตระกูลมันสร้างมาหลายชั่วอายุคน
“ไป๋จูล่ง….”ฟงเป่ากะพริบตาด้วยท่าทีงุนงง ตนเองไปส่งคนผู้นั้นไปตอนไหน แล้วไป๋จูล่งนี่ทำไมถึงรู้สึกคุ้นๆอย่างประหลาด
ฟุบ!..
ร่างของหยูเจินเหอทะยานเข้ามาหาฟงเป่าอย่างรวดเร็วพร้อมกระบี่ในมือขวา พริบตานั้นดวงตาสีทองของฟงเป่าก็ตรวจสอบไปตามร่างกายของหยูเจินเหอทันทีตามความเคยชิน กระบี่ที่หยูเจินเหอแสนจะภูมิใจเทียบกับกระบี่ทัณฑ์สวรรค์หรือกระบี่ประจำตัวของหลินเฟยแล้วแทบไม่ต่างจากเอาก้อนหินไปเทียบกับเพชรน้ำงาม ความน่ากลัวแทบจะไม่มีเลย แถมฟงเป่ายังมองเห็นอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าดูจากสมุนไพรที่ใช้น่าจะมีอาการเลือดคั่งไม่น้อยเลย นอกจากนี้ที่ไหล่ขวายังมีรอยโดนฟันอยู่ด้วย แม้จะไม่ลึกแต่มันย่อมมีผลกับการต่อสู้แน่ๆ
“ช้าจัง….”หนี่หลิงหนานที่คอยระวังอยู่ด้านหลังรำพึงออกมา ความเร็วของคนระดับเทียนเซียนนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่สายตาของพวกหนี่หลิงหนานนั้นเคยชินกับความไวเหนือมนุษย์ของอู๋หมิงอยู่ก่อนแล้วนั่นเอง ความไวระดับเทพอัสนีที่หาคนเหนือกว่าได้ยากยิ่งนั้นพลาดเพียงเศษเสี้ยววินาทีก็แพ้ได้ เมื่อเอามาเทียบกับวิชากระบี่ของสำนักวิญญาณกระบี่แล้วมันช่างช้าและเต็มไปด้วยช่องว่างเต็มไปหมด
เคร๊ง!!
ฟงเป่าจ้องไปที่กระบี่ของหยูเจินเหอก่อนจะใช้ปราณกระบี่แทงเข้าไปใส่กระบี่ของหยูเจินเหอจนกระบวนท่าของหยูเจินเหอโดนขัดทันที
“เจ้า….”หยูเจินเหอถอยออกไปหลายก้าวด้วยท่าทีตกใจ พลังที่มันสัมผัสได้จากการโจมตีไม่เหมือนระดับพลังของคนชั้นเสินเซียนเลย พลังที่ฟงเป่าใช้ออกมาเมื่อครู่พอๆกับพลังของเจ้าสำนักวิถีเซียนเลย
เคร๊ง!!
ฟงเป่าไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว โอกาสที่มันกำลังตกตะลึงอยู่นี่ล่ะคือโอกาสงามที่ฟงเป่าจะชิงความได้เปรียบ ฟงเป่าตรงเข้าไปใช้ปราณกระบี่จากเคล็ดวิชากระบี่แสงอรุณแทงเข้าไปใส่หยูเจินเหอ แต่ก็ต้องนับว่าหยูเจินเหอมีประสบการณ์มาโชกโชนพอสมควร ปราณกระบี่ที่แทงเข้ามายังสามารถรับได้อย่างหวุดหวิด
เคร๊งๆๆๆ
แน่นอนว่าฟงเป่าไม่คิดว่าจะโจมตีครั้งเดียวแล้วจะสามารถล้มหยูเจินเหอได้หรอก มันเรียบเปลี่ยนกระบวนท่าโจมตีหยูเจินเหออย่างต่อเนื่อง ปราณกระบี่แสงอรุณที่ทั้งฟัน ปาด แทง หรือ ยิงเข้าใส่พุ่งเข้าหาหยูเจินเหอเป็นชุดๆ บ้างโดนกระบี่ป้องกัน บ้างเฉือนเข้าเนื้อจนได้เลือดก็มี
“ฮ้า…..” หยูเจินเหอคำรามออกมาพร้อมปล่อยพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนของตนออกมาเต็มที่ พลังระดับนี้ทำให้คนของอาณาจักรซานตกตะลึงกันถ้วนหน้า แต่ไม่ใช่กับฟงเป่าหรือพวกหนี่หลิงหนาน ทั้ง 3 คนที่ได้ประสบพบเจอความแปลกประหลาดของอาณาจักรไป๋มาแล้วไม่มีทางตื่นเต้นกับพลังระดับเท่านี้แน่ๆ แต่ปัญหาคือฟงเป่าจะชนะอย่างไรเท่านั้น
เคร๊ง!!
กระบี่ของหยูเจินเหอหลังจากเปลี่ยนมาใช้พลังเต็มที่แล้วทำเอาฟงเป่าเสียกระบวนไปเหมืนกัน แม้จะฝืนเพิ่มพลังขึ้นมาจนต่อกรกับหยูเจินเหอได้ แต่หยูเจินเหอก็มีกำลังเหนือกว่าอยู่ดี
“ฆ่ามันซะ”เหล่าอาวุโสและศิษย์สำนักวิญญาณกระบี่เห็นฟงเป่าต่อสู้กับเจ้าสำนักได้อย่างสูสีก็เริ่มกังวลว่าหนี่หลิงหนานและเซี่ยจินเย่จะเข้าไปช่วยจนทำให้เจ้าสำนักต้องลำบาก พวกมันเลยเข้าไปหมายจะจัดการหนี่หลิงหนานและเซี่ยจินเย่ก่อนแล้วจึงเข้าโจมตีฟงเป่ากันทั้งหมด เพียงแต่
เปรี้ยง!!!
“อากกก” กระบี่เกลียวสมุทรของหนี่หลิงหนานเหมาะมากกับการโจมตีคนจำนวนมาก การวาดกระบี่แต่ละครั้งทิ้งเงากระบี่เอาไว้เบื้องหลัง ยิ่งวาดฟันออกไปเงากระบี่จำนวนมากก็จะพุ่งโถมเข้าไปราวกับคลื่นยักษ์ไม่มีผิด ว่ากันตามตรงพลังของหนี่หลิงหนานเหนือกว่าฟงเป่าเสียอีก เมื่อต้องต่อสู้กับคนระดับเสินเซียนเหมือนกันนางจึงสามารถกวาดพวกมันได้ในพริบตา จะมีก็แต่พวกระดับเสินเซียนขั้น 10 อย่างรองเจ้าสำนักหรือเหล่าอาวุโสไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังรอดมาได้
ผลัก!!
“อัก…..”อาวุโสคนหนึ่งที่เข้าไปจัดการเซี่ยจินเย่ล้มลงตรงหน้าเซี่ยจินเย่เพราะโดนกระบวนท่าของตนเองสะท้อนกลับมาวิชากระจกภูตพรายของนางนั้นหาคนแก้ทางได้ยากมาก เพียงแต่วิชานี้มีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง
“ไม่ต้องสนใจนางนี่ เข้าไปจับตัวเจ้าหนูนั่นเลย”อาวุโสคนหนึ่งตะโกนออกมาหลังจากเห็นวิชาของเซี่ยจินเย่แล้ว วิชาสะท้อนการโจมตีของเซี่ยจินเย่นั้นมีจุดอ่อนใหญ่ๆก็คือหากศัตรูไม่โจมตีเข้ามานางก็สะท้อนไม่ได้
คลืนนนน……
เรื่องนั้นนางทราบมานานแล้ว และไม่คิดจะปล่อยให้จุดอ่อนนั้นอยู่ต่อไปหรอก ทันทีที่คนที่วิ่เข้ามาหมายจะผ่านเซี่ยจินเย่ไปเฉยๆรากไม้สีดำสนิทก็โผล่ออกมาจากดินมัดร่างของคนพวกนั้นเอาไว้ รากไม้ดำที่พวกมารเคยใช้แข็งแกร่งขนาดมัดร่างของอสูรปักเป้าเอาไว้ได้ระยะเวลาหนึ่งเลย ความแข็งแกร่งระดับนี่ย่อมสร้างความสนใจให้กับไป๋จูเหวินอยู่แล้ว เพียงแต่นอกจากมังกรธรณีแล้วก็ไม่มีใครมีธาตุไม้อีกเลย วิชานี้เลยไม่ได้เอาออกมาสอนใคร เมื่อทราบว่าเซี่ยจินเย่ที่เป็นญาติห่างๆของตระกูลไป๋กำลังฝึกฝนภายใต้การดูแลของหลินเฟยและอู๋หมิง ไป๋จูเหวินจึงส่งวิชานี้มาผ่านทางอู๋หมิง เท่ากับว่าไป๋จูเหวินช่วยเหลือหลานตนเองผ่านทางสหายไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหลินเฟยเลย
“อะไรกัน ข้าขยับไม่ได้”ทั้งอาวุโสของสำนักวิญญาณกระบี่และเหล่าศิษย์ที่โดนมัดเอาไว้ต่างตกใจเป็นอย่างมาก รากไม้สีดำนี่แข็งแกร่งจนน่าตกใจ อย่างกับโดนเหล็กทั้งเส้นมัดเอาไว้อย่างนั้นล่ะ
“พลังของข้า….”อาวุโสคนหนึ่งร้องออกมาด้วยความตกใจ อยู่ๆพลังวิญญาณของตนก็เหมือนโดนสูบไปเสียอย่างนั้น วิชารากไม้ดำนี้ไม่เหมือนที่พวกมารเคยใช้แต่กลับผสานวิชาดูดพลังวิญญาณของมังกรธรณีเข้าไปด้วย นอกจากจะแข็งแกร่งแล้วยังดูดซับพลังอีกฝ่าย หากนำไปใช้จับกุมมันถือเป็นอาวุธอันตรายเลยทีเดียว
“………..ไอ้เจ้าพวกนี้มันอะไรกัน”หยูเจินเหอที่กำลังพยายามกดดันฟงเป่าอยู่นั้นตกตะลึงกับภาพตรงหน้าอย่างมาก เด็กเมื่อวานซืนแถมยังเป็นผู้หญิงกลับเอาชนะเหล่าอาวุโสรวมถึงรองเจ้าสำนักของตนเองได้อย่างง่ายดาย คนพวกนั้นแม้จะแพ้สำนักวิถีเซียนแต่ก็เป็นยอดคนที่อยู่สำนักอันดับ 2 ได้อย่างเต็มภาคภูมิเลยนะ
เปรี้ง!!
เสียสมาธิเพียงครู่เดียว ปราณกระบี่ของฟงเป่าก็ชิงเอาความได้เปรียบคืนมา ไม่ใช่แค่พวกหนี่หลิงหนานหรอกที่พัฒนาขึ้น ฟงเป่าที่ใช้ปราณกระบี่เป็นหลักเองก็ได้เรียนรู้มาจากการต่อสู้กับอู๋หมิงมาไม่น้อย สิ่งที่ฟงเป่าขาดไปคือจิตกระบี่ และเมื่อได้มองกระบวนท่าของอู๋หมิงมาอย่างต่อเนื่อง ฟงเป่าจึงปรับมันมาใช้ร่วมกับวิชากระบี่แสงอรุณของตนเองจนสร้างวิชาผสานขึ้นมาได้สำเร็จ
เปรี้ยง!!
กระบี่แสงอรุณของฟงเป่าแทงเข้าไปใส่หยูเจินเหอเต็มแรง แต่มันก็ยังยกกระบี่ขึ้นมาป้องกันได้อยู่ เพียงแต่กระบวนท่าของฟงเป่ายังไม่จบเท่านี้
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฟงเป่าจดจำกระบวนท่ากระบี่ประกายอัสนีของอู๋หมิงเอาไว้แล้วใช้ปราณกระบี่ของตนกระหน่ำแทงให้เหมือนกับวิชากระบี่ประกายอัสนีของอู๋หมิงให้มากที่สุด แม้ความเร็วจะเทียบไม่ได้ ความแม่นยำอาจจะยังไม่ถึง แต่ในห้วงอึดใจเดียวฟงเป่าก็แทงปราณกระบี่ใส่กระบี่ของหยูเจินเหอไปแล้ว 13 ครั้ง ประกอบกับการใช้ดวงตาสีทองเพื่อหาจุดเปราะบางของกระบี่ที่หยูเจินเหอใช้ ทำให้กระบี่ที่โดนปราณกระบี่จี้จุดอ่อนอย่างหนักเกิดรอยแตกร้าว ก่อนจะ….
เคร๊ง!!
กระบี่ของหยูเจินเหอแตกทำให้ร่างของหยูเจินเหอเปิดกว้างพริบตานั้นฟงเป่าใช้มือข้างซ้ายที่ยังไม่ได้โจมตีสร้างปราณกระบี่ก่อนจะเล็งโจมตีร่างของหยูเจินเหอโดยตรงทันที
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปราณกระบี่จำนวนมากพุ่งเข้าไปใส่ร่างของหยูเจินเหอติดๆกันจนหยูเจินเหอต้องล่าถอย แต่ปราณคุ้มกันของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนนั้นไม่ธรรมดา ปราณกระบี่ที่ควรเสียบทะลุร่างไปแล้วกลับทำได้แค่สร้างความเสียหายภายนอกเท่านั้น
“เจ้า….”หยูเจินเหอโดนกระบี่แสงอรุณหลายสิบครั้งแทงเข้าจุดเดิมต่อๆกันเข้าก็ถึงกับกระอักเลือดออกมา กลางอกที่โดนโจมตีแดงก่ำเต็มไปด้วยเลือดคั่งและรอยฟกช้ำ
“ตาย”หลังจากโดนโจมตีอย่างรุนแรงท่าทางหยูเจินเหอจะเลิกคิดจะจับฟงเป่าแล้วเลือกที่จะฆ่าทิ้งมากกว่าเสียแล้ว ทันทีที่ตั้งหลักได้หยูเจินเหอก็พุ่งเข้ามาหาฟงเป่าอีกครั้งพร้อมกระบี่หักในมือ เพียงแต่ฟงเป่าเองก็เตรียมโจมตีซ้ำอยู่แล้ว แม้ปราณคุ้มกันจะหนา แต่หากโจมตีซ้ำเข้าที่หน้าอกได้ละก็…
เปรี้ยงๆๆๆๆๆ
น่าเสียดายเรื่องซ้ำจุดโจมตีเดิมผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ย่อมคิดทันอยู่แล้ว หยูเจินเหอแม้จะไม่เคยเจอวิชาสูงส่งหรือเล่นรับอะไรแต่เรื่องพื้นฐานในการปะทะกันเช่นนี้มันมีประสบการณ์มากกว่าฟงเป่ามาก ทันทีที่ฟงเป่าเตรียมจะแทงปราณกระบี่มันก็ยกแขนอีกข้างขึ้นมาป้อนกันที่อกทำให้แขนของมันโดนโจมตีแทน เพียงแต่กระบี่หักอีกมือกลับพุ่งตรงไปยังร่างของฟงเป่าอย่างไม่ลดละ
เคร๊ง!!
ขณะที่ฟงหยูเจินเหอกำลังเข้ามาฟงเป่าเปลี่ยนปราณกระบี่ครั้งสุดท้ายไปที่กระบี่ของหยูเจินเหอ ส่งผลให้หยูเจินเหอที่บาดเจ็บหนักปล่อยกระบี่หลุดมือในวินาทีสุดท้ายพอดี
“ฟงเป่า….”หนี่หลิงหนานที่พึ่งล้มรองเจ้าสำนักของสำนักวิญญาณกระบี่อย่างยากลำบากสำเร็จพึ่งจะได้หันมามองทางด้านของฟงเป่า กระบี่ของหยูเจินเหอหลุดมือไปแล้วก็จริง แต่มือของมันกลับไม่ยอมหยุด หยูเจินเหอฝืนแรงยืดแขนเข้าไปจับคอฟงเป่าเอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบฟงยกฟงเป่าขึ้นมาทั้งร่าง