บทที่ 366

เว่ยหย่งเจิ้งรีบอธิบาย “ยาน่าจะยังไม่ออกฤทธิ์ครับ มันต้องเข้าไปรักษาในส่วนที่เสียหายก่อน จากนั้นมันจะค่อยๆ ทำให้คุณฟื้นตัว ผมคิดว่าไม่น่าจะเกินหนึ่งชั่วโมงก็จะตื่นตัวอย่างแน่นอนครับ!”

เซียวอี้เชียนพูดอย่างตื่นเต้น “ถ้าเป็นแบบนี้ เวลาก็ค่อนข้างเร่งรีบสินะ ถ้าอย่างนั้นผมจะขอไม่รบกวนทุกคนต่อแล้วนะครับ”

หลังจากพูดจบ เขาก็ออกจากบ้านตระกูลเว่ยไปพร้อมกับเซียวเวยเวยทันที

ขณะที่อยู่บนรถในระหว่างการเดินทางกลับ เซียวอี้เชียนก็เริ่มรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว เขาขับรถไปด้วยแล้วพูดอย่างกระสับกระส่ายไปด้วย “ผมรู้สึกมันร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่ามันยังไม่ถึงจุดจุดนั้น……”

เซียวเวยเวยรีบพูดว่า “ผู้นำตระกูลเว่ยบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่ามันต้องรอให้ยาเข้าไปรักษาในส่วนที่เสียหายก่อน ถึงจะออกฤทธิ์ได้!”

“ฮ่า ๆ ๆ!” เซียวอี้เชียนพูดอย่างตื่นเต้น “มันคงเหมือนการนับถอยหลังก่อนถึงสงครามสินะ!”

เซียวเวยเวยยิ้มพูด “แล้วสงครามของประธานเซียวนับถอยหลังถึงไหนแล้วคะ?”

เซียวอี้เชียนหัวเราแล้วพูดต่อ “ผมเดาว่าอีกครึ่งชั่วโมงคงต้องเปิดศึกแล้วล่ะ! ฮ่า ๆ ๆ!”

จากนั้นมือของเซียวอี้เชียนก็โอบไปที่เอวของเซียวเวยเวยแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เวยเวย รอร่างกายผมฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ก่อน แล้วคุณค่อยกลับมาอยู่กับผมนะ ถ้าคุณดูแลผมดีๆ ผมจะรับประกันความมั่งคั่งในอนาคตของคุณอย่างแน่นอน”

เซียวเวยเวยยิ้มอย่างมีเสน่หา “เวยเวยจะดูแลท่านให้ดีที่สุดนะคะ!”

เซียวอี้เชียนพยักหน้าตอบ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย “ไอ้เย่เฉินคนนั้น มันเกือบทำให้ผมหมดความเป็นชาย ผมจะไม่ปล่อยมันไว้อย่างแน่นอน!”

เขาไม่รู้ว่าถูกเย่เฉินเล่นงานไปกี่รอบในการมาเยือนเมืองจินหลิงในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังต้องเรียกเย่เฉินว่าคุณปู่อีกด้วย

บอกได้ว่าเซียวอี้เชียนไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีกแล้ว

รอให้เขาหายดีก่อน เขาไม่จำเป็นต้องกลัวเย่เฉินหรือซือเทียนฉีอีก ไม่เพียงแค่นั้นเขาจะหาโอกาสจัดการกับทั้งสองคนนั้นให้ได้!

ไอ้สารเลวซือเทียนฉีก็ช่างน่าเกลียดเหลือเกิน มันไม่เพียงแต่ไม่ยอมเอายาให้เขาใช้และยังข่มขู่เขาด้วย ให้ตายเถอะ!

……

ไม่นานหลังจากนั้นเซียวอี้เชียนก็กลับถึงบ้าน

หลังจากทั้งสองลงจากรถก็ตรงขึ้นไปห้องนอนบนชั้นสองทันที

นายหญิงใหญ่เซียวกำลังนั่งดื่มชาในห้องรับแขกพอดี เมื่อเธอเห็นเซียวอี้เชียนกับเซียวเวยเวยกลับมาและตรงขึ้นชั้นสองอย่างเร่งรีบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามเซียวฉางเฉียน “ประธานเซียวหายดีแล้วเหรอ?”

“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ” เซียวฉางเฉียนพูดต่อ “ถ้าเร่งรีบขนาดนี้ก็อาจจะใช่นะ”

นายหญิงใหญ่เซียวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ดี ดีมาก! ประธานเซียวสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ เวยเวยก็กลับมาอยู่กับเขา การลงทุน 70 ล้านของบริษัทเซียวซื่อจะมีโอกาสสักที!”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็รีบพูดกับเซียวฉางเฉียนว่า “ไป ลองไปแอบฟังที่หน้าห้องเขาดูว่ามันใช่ไหม ถ้ามันจริง พรุ่งนี้เช้าเราไปคุยเรื่องการลงทุนครั้งที่สองกับประธานเซียวเลย!”

เซียวฉางเฉียนตอบอย่างลำบากใจ “แม่ครับ เวยเวยเป็นลูกสาวแม่นะครับ ให้ผมไปแอบฟังแบบนี้มันไม่น่าเหมาะสมเลย……”

นายหญิงใหญ่เซียวมองไปที่เขาแล้วพูดต่อ “คนเหลือขอ ตอนนี้อะไรสำคัญที่สุดนายยังไม่รู้เหรอ? ตอนนี้การฟื้นตัวของประธานเซียวสำคัญที่สุด!”

เฉียนหงเย่นภรรยาของเซียวฉางเฉียนที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบพูดขึ้นมา “แม่พูดถูกนะ ตอนนี้การฟื้นตัวของประธานเซียวสำคัญที่สุดแล้ว ถ้าคุณไม่กล้าไปแอบฟัง งั้นเดี๋ยวฉันไปเอง!”

นายหญิงใหญ่เซียวมองไปที่เฉียนหงเย่นแล้วพูดอย่างเห็นด้วย “เฉียนหงเย่นเป็นงานที่สุด! บ้านเราผู้หญิงแกร่งกว่าเสมอ แม่ก็เหนือกว่าพ่อของพวกเธอ ส่วนเธอก็เหนือกว่าฉางเฉียน เซียวชูหรันหลานสาวที่อกตัญญูก็เก่งกว่าไห่หลงเหมือนกัน