ยูมินตอบอย่างอวดดีพร้อมกับขึ้นคร่อมตัวอึยชาน แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือบนส่วนแข็งขืนขยายตัวอย่างเต็มที่และจ้องเธอมาตั้งแต่เมื่อกี้ต่างหาก แก่นกายเหนียวเหนอะด้วยน้ำหล่อลื่นและน้ำลายแทรกสัมผัสผ่านผิวเนื้อ
“จะว่าดี มันก็ดีนะ อา…”
อึยชานใช้ฟันกัดปมที่มัดข้อมือแน่นออก
“ตอนนี้ผมถึงขีดจำกัดแล้ว”
“ยังแก้มัดได้ไม่หมดเลย”
ยูมินขยับโยกเอวขึ้นลงอย่างผ่อนคลาย ยิ่งการเคลื่อนไหวสงบราวกับเกลียวคลื่นค่อยๆ เร็วขึ้นทีละนิด กล้ามหน้าท้องแกร่งก็ยิ่งเกร็งมากขึ้นเท่านั้น ของเหลมของทั้งคู่ผสานกลายเป็นหนึ่งเดียว จนนองแก่นกายแล้วไหลออกมา
“คุณ อื้อ จะไม่ใส่มันเข้าไปเหรอ”
“ขอดูก่อน”
“ซอยูมิน”
อึ่ก อึยชานขมวดคิ้วที่ชุ่มด้วยเหงื่อ ยูมินยังคงขยับเอวต่อไปและใช้ปลายนิ้วหมุนวนและขยี้ตรงยอดอกที่นูนขึ้นมาอย่างหยอกเย้าซ้ำไปมา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ล้อเล่นและตั้งใจจะแกล้งเขาจริงๆ
“แม่งเอ๊ย”
ร่างสูงใช้กล้ามเนื้อบริเวณเอวยกตัวขึ้นมาพร้อมกับสบถเบาๆ ขณะเดียวกันการจูบอันเร่าร้อนก็แทรกเข้ามา เขาไล่กวาดทั่วโพรงปากและดูดกลืนน้ำลายอย่างรีบร้อนราวกับสัตว์ป่าที่หาแหล่งน้ำเจอท่ามกลางความแห้งแล้ง
“ผมผิดไปแล้ว รีบใส่เข้าไปเถอะ”
อึยชานถอนหายใจแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากยูมินพร้อมกับกระซิบ
“ทำผิดอะไรล่ะ”
“ผมผิดทุกอย่างเลย ขอโทษ ใส่เข้าไปหน่อยนะ”
จะระเบิดแล้ว พึมพำราวกับอ้อนวอนพลางขบติ่งหูอวบอิ่ม ขอโทษ? ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกพอใจกับคำนั้นขนาดนี้ ยูมินยกเอวขึ้นมาเล็กน้อยและขยับแก่นกายที่ต้องการจะเข้าตั้งแต่เมื่อกี้จนว้าวุ่นให้ตรงกับปากทาง
“อ่า อื้อ!”
เธอเปล่งเสียงครางและดึงอีกฝ่ายมากอดแน่น กระดูกเชิงกรานดีดตัวขึ้นอย่างแรง ก่อนจะลงมาด้านล่าง ตัวตนของอึยชานจึงสอดแทรกเข้าไปด้านในได้ลึกขึ้นตามน้ำหนักนั้น
“เอานี่ออกหน่อย ผมจะได้ใส่เข้าไปลึกกว่านี้”
การยั่วยวนแสนหวานทำให้ความเร้าใจเพิ่มมากขึ้นอีกราวกับเป็นเสียงกระซิบของปีศาจ นิ้วมือที่ถูกมัดแทรกไปตรงระหว่างขาของคนขยับสะโพกขึ้นลงโดยใช้มือยันไหล่แกร่งไว้ นิ้วหนึ่งแหวกหุบเขาออกและคลำหาผิวหนังด้านใน จนเจอส่วนอ่อนไหวก่อนจะกดลงไป
“อ๊ะ อ๊าา”
ยูมินส่งเสียงครวญครางออกมาและหยุดขยับ นิ้วเรียววาดวนรอบปุ่มกระสันอย่างจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยความใคร่มองดูเธอกัดเม้มริมฝีปาก ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
“เมื่อกี้ทำได้ดีนะ”
อึยชานขยับเอวอย่างเชื่องช้า แก่นกายแน่นเต็มด้านในค่อยๆ ทิ่มแทงและกดทั่วทุกที่ ปลายนิ้วชุ่มโชกบดคลึงต่อมกระสันอ่อนไหวกว่าปกติเบาๆ และค่อยๆ กดลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เล็บของยูมินจิกลาดไหล่กว้าง หากขยับแรงกว่านี้อีกนิดก็คงจะถึงจุดสุดยอดได้ในไม่ช้า แต่อึยชานกลับไม่เร่งความเร็วขึ้นราวกับจะแก้แค้นอย่างไรอย่างนั้น ปากทางเข้าจึงกระตุกและเริ่มหดเกร็งจนบีบรัดสิ่งแปลกปลอมด้านใน
“แกะออกเถอะ”
แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือความเจ็บปวดตรงไหล่ที่โดนกัด จิ๊ อึยชานเดาะลิ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดมือและยกแขนถูกมัดขึ้นด้านบน ขณะที่ยูมินกำลังซุกอยู่ตรงหน้าอกกว้างอยู่นั้น ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรจนฝ่ายที่นอนกลายเป็นเธอแทน
“ฮ้า อึ่ก!”
อึยชานเสียบตัวตนที่รู้สึกทรมานตั้งแต่เมื่อกี้เข้าไปจนลึกและโยกเอวอย่างแรงโดยไม่มีหยุดพัก บนเตียงที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ร่างยูมินถูกดันไปตรงปลายเตียงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จู่ๆ ก็หยุดชะงักลง
“หมดเวลาเล่นแล้ว”
แกะออก อึยชานพูดเสริมด้วยเสียงแหบพร่าพร้อมยื่นแขนไปข้างหน้า ทันทีที่ข้อมือโดนมัดแน่นหนาถูกปลดออก เขาก็จับขาทั้งสองข้างของยูมินลากลงมาอย่างรุนแรง เสียงเฉอะแฉะถูกเปลี่ยนเป็นเสียงกระแทกปั่กๆ จนของเหลวกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง
“อ่า อื้อ ชาน ฮ้า!”
เส้นเลือดที่ปูดโปดบนแก่นกายที่ชักเข้าชักออกอย่างรุนแรงครูดกับปากทางเข้า แม้อึยชานจะยกเอวขึ้นจนเอวแทบพับก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ความรู้สึกทั้งหมดออรวมกันอยู่ด้านในท้องที่กอบกุมตัวตนของอึยชานเอาไว้ เสียงที่ไม่ได้กลั้นไว้จึงถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากตามใจชอบ เส้นเลือดปรากฏขึ้นบนมือของยูมินที่ยึดผ้าปูเตียงไว้แน่น ก่อนจะผ่อนคลายลง การกระตุกที่เหมือนกับถูกไฟดูดไหลผ่านไปทั่วทั้งตัว ในขณะเดียวกันนั้นวัตถุร้อนก็เกิดระเบิดด้านในท้อง ในตอนที่สายตาซึ่งมืดสนิทไปสักพักกลับมาเป็นปกติจึงเห็นว่าอึยชานนอนฟุบอยู่บนตัวและกำลังหายใจหอบอยู่
“มินอา”
“ว่าไง”
“ผมมาลองคิดๆ ดูแล้ว”
อึยชานเงยหน้าขึ้นและจูบที่ปลายจมูกยูมินจนเกิดเสียงดังจุ๊บ
“คุณเหมาะกับชุดสีขาวมากกว่านะ”
ฉันเคยใส่ชุดสีขาวด้วยเหรอ แค่ความคิดของยูมินก็คงอยู่ได้ไม่นาน ความอ่อนเพลียกับความรู้สึกสงบที่ตามมาหลังจากความสนุกจบลงทำให้เปลือกตาของเธอเริ่มหนักทีละนิด และในไม่ช้าเสียงลมหายใจอันสงบสุขก็ค่อยๆ ปกคลุมบนเตียงแทนเสียงครางรุนแรง
* * *
“พวกเราจะแต่งงานกัน”
ละครประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี อึยชานกับยูมินต่างก็ยุ่งจนน้ำหนักลดลงพอสมควร หลังจากยุ่งจนไม่มีเวลาทำอะไรมาตลอดสองเดือน ในที่สุดตอนนี้พวกเขาก็มีเวลาบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ยูฮาพูดขณะจับมือจาฮอนแน่นหลังจากเรียกพวกเขามานั่ง ช่างเป็นเรื่องไม่อยากเชื่อสุดๆ
“บ้าไปแล้วเหรอ คบกันได้เท่าไหร่ก็จะแต่งงานแล้ว”
ยูมินขมวดคิ้วอย่างแรงและถามกลับ อึยชานที่นั่งอึ้งอยู่ข้างๆ ก็เช่นกัน
“อีจาฮอน ไหนลองอธิบายมาสิ”
“ก็อย่างที่ยูฮาบอกนั่นแหละครับ พวกเราจะแต่งงานกัน ผมจะไม่เขียนใบลาออกนะ แต่พี่ช่วยให้วันหยุดพักร้อนผมด้วยครับ”
“ฉันบอกให้เขามาทำงานบริษัทฉัน แต่เขาบอกว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ค่ะ ฮอนของฉันทำไมถึงมีความรับผิดชอบขนาดนี้นะ”
ยูฮายิ้มตาหยีพร้อมเอนตัวพิงฮอนเบาๆ สายตาของฮอนเองก็หวานหยดย้อยขณะมองเธอ
“ยูฮาของผมสงสัยต้องซื้อแหวนทิฟฟานี่ให้แล้วล่ะ”
“ไม่เอา คุณเหมาะกับทิฟฟานี่ต่างหาก”
“ถ้างั้นยูฮาก็ต้องเป็นคาเทียร์สินะ”
ล้อเล่นอยู่หรือไง อึยชานใช้มือข้างหนึ่งปิดตาเพราะทนดูต่อไปไม่ไหว ยูมินเองก็รู้สึกเหมือนกัน แต่เธอมีเรื่องต้องบอกเลยล้วงมือเขาไปในกระเป๋าก่อนจะหยิบของออกมาวางบนโต๊ะดังปัก ซึ่งสร้างผลกระทบไม่ใช่เล่นๆ จาฮอนอ้าปากค้างและปล่อยมือยูฮา ส่วนยูฮาก็ลุกพรวด อึยชานก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อเป็นหินไปแล้ว
“พวกเราแต่งก่อน ส่วนพวกคุณไว้แต่งทีหลัง”
“คุณ… คุณยูมิน”
ในที่สุดคนตัวแข็งทื่อไปก็ค่อยๆ เปิดปากพูดอย่างตะกุกตะกัก แม้จะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าคืออะไร ที่ตรวจครรภ์ แถมยังมีขีดแดงสองขีดปรากฏชัดเจนอีกด้วย
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ไม่ชอบเหรอ”
ยูมินขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องอึยชาน ดวงตาสั่นไหวมองเธอสลับกับที่ตรวจครรภ์
“รักสิ ผมรักคุณจริงๆ นะ”
ทำได้ดีมาก เยี่ยมมาก น่ารักมาก ภรรยาของฉัน มีคำพูดมากมายหลายหมื่นคำ แต่อึยชานกลับพูดคำพิเศษและธรรมดาที่สุดออกมาเพียงคำเดียวพร้อมดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่น
“ช้าไปก้าวนึงสินะ”
ยูฮามองดูทั้งคู่ด้วยสีหน้ามึนงงและพึมเพาเบาๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งบนโซฟาเหมือนเดิม แต่จาฮอนกลับลุกพรวดขึ้นและจับมือยูฮาด้วยความแน่วแน่
“ไปกันเถอะยูฮา”
“ไปไหน”
“พวกเราก็ต้องทำเหมือนกัน”
“กลางวันแสกๆ เนี่ยนะ”
“คุณสวยที่สุดเลยตอนกลางวันแบบนี้”
ยูฮาทำเป็นสู้ไม่ได้และลุกขึ้นตามจาฮอนออกไปนอกออฟฟิศ โดยไม่ลืมแสดงความยินดีแก่อึยชานที่ยังคงมองคนรักด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความตื้นตัน กับยูมินที่พยายามสะบัดเขาออกด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“ฉันจะโทรบอกพ่อกับแม่ ไปเลือกวันมาซะ”
ปัง พูดจบประตูออฟฟิศถูกปิดอย่างรวดเร็ว
“คุณอึยชาน”
ยูมินเรียกราวกับพึมพำ
“ว่าไง อยากกินอะไรไหม ให้ผมไปซื้อมาให้หรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร คุณอึยชานอดทนเก่งไหม”
“อด ทน…”
อดทน? นั่นมันหมายความว่าไง หัวสมองปะปนด้วยความดีใจและความสับสนยังไม่สามารถคิดอะไรเป็นปกติได้ อึยชานครุ่นคิดสักพักหนึ่ง และในที่สุดก็นึกความหมายที่ถูกต้องของคำนั้นขึ้นได้พร้อมรอยยิ้ม
“อยากตีเหรอ ตีสิ ไม่เป็นไร ผมจะรับมันไว้เองหมดเลย”
“ดีเลย โล่งอกไปที”
ไปกินไส้ย่างกันเถอะ ยูมินเอ่ยพลางลุกขึ้น
แค่วันเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะให้อึยชานเข้าใจคำนั้น เพราะวันต่อมา พ่อของยูมินที่บินมาจากแคนาดามาหาพร้อมดาบไม้ไผ่และยิ้มอย่างสุภาพให้ทันทีที่เห็นลูกเขย
เจ็บจัง เจ็บทั้งมือที่พ่อตาขอจับจนแน่น เจ็บทั้งไหล่ที่โดนดาบไม้ไผ่ตีหลังจากอีกฝ่ายก็ขอท้าประลองกะทันหัน เจ็บทั้งหลังที่โดนแม่ยายตีดังปักและบอกว่าดูแลลูกสาวของเธอให้ดีๆ
แต่ไม่เป็นไร เพราะชุดแต่งงานสีขาวช่างเหมาะกับหญิงสาวที่มักจะใส่แต่ชุดสีดำมากจริงๆ ช่อดอกไม้ที่ยูมินโยนวาดเส้นโค้งและลอยละลิ่วถึงอ้อมแขนของยูฮาโดยสวัสดิภาพ คำอวยพรที่แต่ละคนมอบให้ก็ลอยละล่องตามกลีบดอกไม้สีชมพูจนเต็มสถานที่จัดงานวิวาห์
[ตอนพิเศษชาน จบ]
ตอนต่อไป →