บทที่ 1658 บ่อนการพนัน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1658 บ่อนการพนัน

 

ฟางหยวนทิ้งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ไว้หน้าหอคอยเกียรติยศ

 

วิญญาณดวงนี้บันทึกประสบการณ์ในการรวบรวมน้ํามันดิบอย่างตรงไปตรงมารวมถึง การทดสอบหอคอยเกียรติยศของฟางหยวนหากผู้อมตะคนอื่นๆมาที่นี่ พกวเขาจะได้รับข้อมูลนี้

 

ไม่จําเป็นต้องปิดบัง

 

ประการแรก พวกเขาคาดเดาไว้แล้ว ประการที่สอง มันง่ายต่อการตรวจสอบ

 

ฟางหยวนเปิดเผยเรื่องนี้ก่อนที่คนอื่นๆจะทําการทดลองเท่านั้น

 

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ เทพอมตะสวรรค์พิภพสร้งมรดกที่แท้จริงนี้ขึ้นเพราะต้องการให้ผู้คนแสดงความเมตตา

 

นี่คือวิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

เมื่อถึงจุดนี้ฟางหยวนก็มั่นใจอย่างเต็มที่แล้วว่านี่คือมรดกของเทพอมตะสวรรค์พิภพจริงๆ

 

มรดกทุกชิ้นที่ผู้ใช้วิญญาณหรือผู้อมตะทิ้งเบื้องหลังมีเป้าหมายของตนเอง

 

ตัวอย่างเช่นเป้าหมายของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้คือการแก้แค้นตระกูลแสงจันทร์ ดังนั้นเขาจึงทิ้งภาพเหตุการณ์ในอดีตเอาไว้เบื้องหลังและล่อลวงให้ฟางหยวนทําลายน้ําพุจิตวิญญาณธรรมชาติของตระกูล

 

สําหรับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดที่ทิ้งไว้ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงเป้าหมายของมันคือช่วยสนับสนุนการบ่มเพาะของทายาทตระกูลฮวงจินและทําให้พวกเขาสามารถปกครองภาคเหนือต่อไป

 

ด้านไห่ฟาน เดิมที่เขาต้องการส่งต่อมรดกที่แท้จริงให้กับบุตรหลาน แต่ด้วยโชคชะตา ที่พลิกผันความปรารถนาของเขาจึงไม่ประสบความสําเร็จ

 

มรดกที่แท้จริงของนิกายเงาถูกส่งต่อมายังฟางหยวนเนื่องจากความล้มเหลวของเทพ ปีศาจจิตวิญญาณ

 

มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพต่างจากมรดกอื่นๆ มันเต็มไปด้วยความสงบ ความเมตตาความอบอุ่น และความสว่างไสว

 

“หากวันหนึ่งข้าล้มเหลว ข้าจะทิ้งมรดกไว้เบื้องหลังเช่นกัน” ฟางหยวนคิด แม้เขาจะเป็นปีศาจต่างโลกแต่เขาก็มีชีวิต ดิ้นรน และต่อสู้อยู่ในโลกใบนี้มาเป็นเวลานาน เขาหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมันแล้ว

 

หากฟางหยวนสร้างมรดกที่แท้จริงของตน เขาจะสนับสนุนให้ผู้สืบทอดไล่ล่าชีวิตนิรันดร์

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ็ดสิบถึงแปดสิบวันผ่านไปแล้ว

 

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนทําภารกิจมากมาย ชื่อของเขาไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ

 

“ครีนครืน…”

 

ลมทะเลพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของฟางหยวน ตอนนี้เขาอยู่ที่ตลาดน้ําแห่งหนึ่ง

 

เขารับภารกิจลงโทษพ่อค้าไร้ยางอายที่อยู่ในตลาดแห่งนี้

 

ตลาดน้ําได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทะเลตะวันออก มันมีทั้งตลาดขนาดเล็ก ข นาดกลางขนาดใหญ่ และขนาดยักษ์ หากแบ่งตามเวลา มันแบ่งออกเป็นตลาดน้ําชั่วค ราวและตลาดน้ําถาวร

 

ที่นี่คือตลาดน้ําถาวร แม้มันจะไม่ได้เปิดทุกวัน แต่มันก็เปิดเกือบทั้งปี

 

ตลาดน้ําจะปิดเมื่อเกาะจมลงสู่ใต้น้ํา เมื่อเกาะโผล่ขึ้นมา ตลาดจะเปิดอีกครั้ง

 

นอกเกาะมีคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์หลายหลังที่มีรูปร่างเหมือนเรือจอดอยู่ ชั้นดาดฟ้าเรือเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างเป็นตลาดรอบเกาะ

 

ฟางหยวนยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนบนดาดฟ้าเรือลําหนึ่ง

 

ที่นี่มีทั้งผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์และเผ่ามนุษย์เงือก

 

ท่ามกลางพวกเขามีมนุษย์เงือกอยู่ครึ่งหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากในห้าภูมิภาค เนื่องจากเผ่ามนุษย์กดขี่เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์มาตลอด มนุษย์กลายพันธุ์ต้องเร้นกายและไม่สามารถเผยตัวออกมา

 

“เข้ามาดู ที่นี่มีผลึกหินปะการังที่ยอดเยี่ยม”

 

“คฤหาสน์วิญญาณเรือล่องสมุทรเหลืออยู่สามลํา รีบซื้อก่อนของจะหมด!”

 

“ข้าต้องการดินใหญ่ ข้าจะซื้อเท่าที่เจ้าสามารถขาย…”

 

เสียงพูดคุยดังเข้าหูของฟางหยวน ผู้ใช้วิญญาณจํานวนมากเปิดแผงลอยขายสินค้าอยู่บนดาดฟ้าเรือ

 

ฟางหยวนเดินทางไปยังตลาดที่อยู่บนเกาะ

 

เขาตรวจสอบมาแล้ว ภารกิจลงโทษพ่อค้าไร้ยางอายอยู่บนเกาะ

 

ภารกิจนี้เป็นเพียงเป้าหมายรองเท่านั้น เป้าหมายที่แท้จริงของฟางหยวนคือการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร

 

ตลาดน้ําแห่งนี้อยู่ใกล้กับทะเลปีศาจร่ําไห้มากที่สุด นอกจากนั้นที่นี่ยังเต็มไปด้วยผู้คนมีโอกาสสูงที่เขาจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิญญาณความเสียใจ

 

แม้ฟางหยวนจะมาที่นี่นานแล้ว แต่เขายังไม่สามารถเข้าสู่ทะเลปีศาจร่ําไห้

 

ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้ผู้อมตะไม่ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

 

เช่นเดียวกับภารกิจแรก เขาทําได้เพียงเคลื่อนที่ไปรอบๆเกาะเท่านั้น ทุกภารกิจมีข้ดจํากัดเดียวกัน

 

เพื่อกลับไปที่หอคอยเกียรติยศ ผู้อมตะต้องท่องคําว่า กลับไป สามครั้งในใจ

 

จากสิ่งนี้ฟางหยวนสามารถสัมผัสถึงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่เขาก็ไม่สามารถคลี่คลายการจัดเตรียมเหล่านี้

 

นอกจากนั้นผู้อมตะยังถูกจํากัดการสื่อสาร ประการแรก พวกเขาไม่สามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองหรือโลกภายนอก ประการที่สอง พวกเขาไม่สามารถติดต่อกันและกันดังนั้นพวกเขาจึงต้องทิ้งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ด้านหน้าหอคอยเกียรติยศ

 

“มันควรเป็นที่นี่” ฟางหยวนหยุดเท้าลง

 

เขามาถึงบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง บนประตูเขียนไว้ว่า เรือนหยกทอง

 

เรือนหยกทองตั้งอยู่กลางเกาะ มันเป็นสถานที่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในตลาดน้ําแห่งนี้ผู้ใช้วิญญาณธรรมดาไม่สามารถเข้าไป มันมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก

 

แต่วิธีการระดับมนุษย์จะหยุดฟางหยวนได้อย่างไร?

 

“ข้าควรทดลองเปิดผนึกหินโชคลาภ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มให้กับตนเอง

 

ฟางหยวนเคยเป็นพ่อค้ามาก่อน เขาเคยดูแลบ่อนการพนันของตนเอง เขารู้วิธีที่จะทําให้เจ้าของบ่อนการพนันพบกับความทุกข์ทรมาน

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็เดินเข้าไป

 

ความทรงจําปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้ใดจะพนันกับข้า? กระทั่งเทพธิดาเมื่อกยังหวาดกลัว พวกเจ้ากล้าหรือไม่?” มนุษย์เงือกกล้ามโตผู้หนึ่งตะโกนด้วยความเย่อหยิ่ง

 

รอบตัวเขามีผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์เงือกและมนุษย์เงือกธรรมดามากมาย ม นุษย์เงือกส่วนใหญ่มองเขาด้วยความโกรธ

 

“ถั่วต้าผู้นี้ช่างน่ารังเกียจนัก เขากล้ายั่วยุท่านหญิงในตลาดอย่างเปิดเผย!”

 

“เขาได้รับการสนับสนุนจากผู้นําเผ่าคลื่นน้ําแข็ง”

 

“เราจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ มันจะทําลายชื่อเสียงของท่านหญิง แต่เราควรทําอย่างไร?”

 

องค์รักษ์เกล็ดฟ้าและเกล็ดแดงมองหน้ากับด้วยความกังวล

 

เซี่ยฮันโม่ยิ้ม “ปล่อยเขาไป เขาไม่สามารถสั่นคลอนรากฐานของข้า เมื่อเขายั่วยุข้า นั่นหมายความว่าพวกเขากําลังตื่นตระหนก เราไม่จําเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้ เราจะชนะหากเราดําเนินการตามแผนต่อไป”

 

เมื่อได้ยินถ้อยคําเหล่านี้ องค์รักษ์เกล็ดฟ้าและเกล็ดแดงก็ผ่อนคลายลง

 

“ท่านหญิงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ถั่วต้าผู้นี้เป็นเพียงตัวตลก”

 

“ข้ารู้สึกเสียใจนักที่ไม่สามารถทําสิ่งใดและทําให้ท่านหญิงต้องอดทนต่อความอัปยศเช่นนี้ น่าโมโหที่ไม่มีมนุษย์เงือกคนใดก้าวออกไปเผชิญหน้ากับถั่วต้าผู้นี้”

 

เซี่ยฮันโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถั่วต้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ เขามีชื่อเสียงมานานกว่าท ศวรรษข้าเข้าใจว่าเหตุใดถึงไม่มีมนุษย์เงือกคนใดก้าวออกไปเพื่อพวกเรา เราต้องเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขา”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสายหนึ่งดังขึ้น “ข้าจะเดิมพันกับเจ้า!”

 

เขาคือผู้ใด?

 

ผู้ใดกล้าท้าทายอํานาจของถั่วต้า?

 

ทุกคนหันหน้าไปทางต้นเสียงเพื่อพบกับผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ผู้หนึ่งที่เดินออกมาจากฝูงชน

 

เซี่ยฮันโม่ตะลึง “เขาคือผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ที่เราช่วยชีวิต!”

 

ถั่วต้าประหลาดใจมาก เขาขมวดคิ้วขณะมองฟางหยวนและกล่าวเสียงเข้ม “ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์นี่เป็นเรื่องของมนุษย์เงือก เจ้าต้องการสอดมือเข้ามางั้นหรือ?”

 

“เทพธิดาเงือกช่วยชีวิตข้าก่อนหน้านี้ ข้าต้องตอบแทนความเมตตาของนาง” ฟางหยนกล่าวกับถั่วต้าอย่างไม่เกรงกลัว

 

“เด็กคนนี้”

 

“ไม่เสียแรงที่พวกเราช่วยเขา”

 

สององค์รักษ์พยักหน้า

 

เซี่ยฮันโม่ถอนหายใจ “ออกไปกันเถอะ เขาเป็นคนนอก เราไม่สามารถปล่อยให้เขาเสียสละตนเองเพื่อพวกเรา”

 

สององค์รักษ์ประหลาดใจ พวกเขาพยายามหยุดนาง “ท่านหญิง ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่ท่านพึ่งวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่าพวกเราไม่ควรปรากฏตัวเช่นนั้นหรือ? หากเราทําเช่นนั้น เราจะตกลงสู่หลุมพรางของพวกเขา”

 

ลั่วต้าหัวเราะด้วยความโกรธ “ดี มนุษย์ เมื่อเจ้าต้องการตายก็อย่าโทษว่าข้าใจร้าย ข้าอธิบายกฎของการพนันไปแล้ว ข้าจะให้เจ้าเลือกก่อน แล้วมาดูกันว่าผู้ใดจะได้วิญญาณที่ดีกว่า!”

 

“เลือกก่อนก็ดี” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

 

รอบแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนชนะ

 

รอบที่สองใช้เวลานานกว่า แต่ฟางหยวนยังชนะ

 

“มนุษย์ ข้าประเมินเจ้าต่ําเกินไป บอกชื่อของเจ้ามา เจ้ามีคุณสมบัติที่จะใช้พื้นที่ในความทรงจําของข้า”ลั่วต้ามองฟางหยวนในมุมมองใหม่

 

“ชื่อของข้าคือฟางหยวน จําไว้ ข้าเป็นเจ้าของบ่อนการพนันในอดีต” ฟางหยวนกล่าว “มาเริ่มรอบสุดท้ายกันเถอะ”

 

ถั่วต้าเลือกผลึกหินอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาก็ทุบผลึกหินทั้งหมดจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“เจ้ากําลังแหกกฎ!” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป

 

ถั่วต้าหัวเราะ “กฏ? ข้าบอกว่าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถโจมตีกัน แต่นั่นไม่ได้รวมถึงผลึกหินเหล่นี้ข้ามีผลึกหินอยู่ในมือขณะที่เจ้าไม่มี ไม่ว่าข้าจะได้รับวิญญาณชนิดใด เจ้าก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เด็กน้อย เจ้ากล้าสอดมือเข้าด้วยการบ่มเพาะระดับสาม โดยเฉพาะเมื่อตลาดน้ําแห่งนี้เป็นอาณาเขตของข้ามานับสิบปีแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ฆ่าตัวตายซะ อย่าให้ถึงมือข้า!”

 

ฟางหยวนยกกําปั้นขึ้นและพร้อมสู้ตาย

 

“เดี๋ยว!” ทุกคนเปิดเส้นทางขณะที่เซี่ยฮันโม่เดินออกไปด้วยการแสดงออกที่เย็นชา