แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1073
มองอาเปียวและคนอื่น จู่ๆ สีหน้าของเจี่ยงหยาวไม่สู้ดีขึ้นมา แน่นอนว่าเจี่ยงหยาวรู้จักพวกลูกน้องของอานหลิงหัว
“พวกนายจะทำอะไร” เจี่ยงหยาวถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
อาเปียวและคนอื่นหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ทำร้ายคุณหรอก”
คำว่าพี่สะใภ้ ทำให้ใบหน้าเล็กของเจี่ยงหยาวแดงเหมือนแอปเปิลสุกงอม “พวกนายอยากเรียกมั่วซั่ว ใครเป็นพี่สะใภ้พวกนาย!”
เจี่ยงหยาวเถียงด้วยความโมโห
“ตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่ในอนาคตใช่แน่นอน ผู้หญิงที่คุณชายอานชอบ ไม่มีใครหนีได้สักคน” อาเปียวพูดพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า
สีหน้าเฉินโม่เย็นชาเล็กน้อย มองเจี่ยงหยาวแล้วถามอย่างราบเรียบว่า “พวกเขาเป็นใคร”
เจี่ยงหยาวยังไม่ทันตอบ หลินเหม่ยหลิงที่อยู่ด้านหลังชิงพูดออกมาว่า “พวกเขาเป็นลูกน้องของอานหลิงหัว อานหลิงหัวเป็นหนึ่งในคนที่ตามจีบหยาวหยาว มีเงินมีอำนาจ ไม่รู้แข็งแกร่งกว่านายตั้งกี่เท่า!”
เฉินโม่ไม่สนคำเยาะเย้ยของหลินเหม่ยหลิง เขาไม่ได้สนใจว่าอานหลิงหัวเป็นใคร แต่มองเจี่ยงหยาวแล้วถามอย่างราบเรียบว่า “จะให้ไล่พวกเขาไปไหม”
เจี่ยงหยาวส่ายหน้า สีหน้ากังวลเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอก เราเดินไปทางนั้นดีกว่า!”
“อืม” เฉินโม่เคารพความคิดของเจี่ยงหยาว หันหลังเดินกลับไปกับเจี่ยงหยาว
หลินเหม่ยหลิงส่งเสียงหึอย่างเย็นชา มองบนใส่เฉินโม่ แล้วพูดเยาะเย้ยเบาๆ ว่า “ขี้ขลาด!”
เฉินโม่ขมวดคิ้วเบาๆ เห็นแก่เจี่ยงหยาว เขาจึงไม่สนใจเธอ
มีหรือที่อาเปียวกับคนอื่นจะปล่อยเฉินโม่ไปแบบนี้ ไม่รอให้เฉินโม่กับเจี่ยงหยาวเดินออกไป พวกเขาเดินมาขวางหน้าทั้งสองคนเอาไว้
“พวกนายจะทำอะไร” เจี่ยงหยาวพูดเสียงดังด้วยความโมโห
อาเปียวมองเฉินโม่อย่างไม่เป็นมิตร หัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ได้ทำอะไร แค่อยากบอกไอ้หมอนี่เท่านั้น”
เจี่ยงหยาวไม่อยากให้เฉินโม่สร้างศัตรูเพราะตัวเองอีก จึงพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกนายมีอะไรก็พูดกับฉัน อย่ารังแกเพื่อนฉัน!”
อาเปียวและคนอื่นไม่กล้าล่วงเกินเจี่ยงหยาว มองเฉินโม่ด้วยใบหน้าดูหมิ่นแล้วตะโกนว่า “ไอ้หนุ่ม ทำเป็นแต่หลบหลังผู้หญิงเหรอ”
พูดจบ ชายหนุ่มในนั้นยังชูนิ้วกลางใส่เฉินโม่ด้วยสีหน้าท้าทาย
หลินเหม่ยหลิงก็ยิ้มเย็นชาอยู่ข้างหลัง แล้วพูดว่า “ถ้าเป็นผู้ชาย ตอนนี้ควรออกมาอย่างไม่ลังเล ให้ผู้หญิงออกหน้าแทนนาย เป็นผู้ชายประสาอะไร!”
เจี่ยงหยาวหันมาถลึงตาใส่หลินเหม่ยหลิง แผดเสียงเบาว่า “เหม่ยหลิง ทำไมเธอเอาแต่เล่นงานเฉินโม่! ถ้าเธอเป็นแบบนี้อีกฉันจะไม่สนใจเธอจริงๆ แล้วนะ!”
หลินเหม่ยหลิงยิ้มอย่างประจบ “โอเคๆ ฉันไม่พูดแล้ว อย่าโกรธสิ!”
เฉินโม่ยื่นมือไปดึงเจี่ยงหยาวกลับมา แล้วเดินเข้ามาประจันหน้ากับพวกอาเปียว
“พี่เฉินโม่!” เจี่ยงหยาวตะโกนอย่างเป็นกังวลอยู่ข้างหลัง
เฉินโม่หันมายิ้มให้เธอ “ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีก จำไว้ว่าให้ยืนอยู่หลังฉัน ไม่งั้นฉันจะเสียหน้ามาก”
เจี่ยงหยาวหน้าแดง พยักหน้าอย่างว่าง่าย “อืม ฉันจะจำไว้!”
หลินเหม่ยหลิงส่งเสียงหึอย่างเย็นชา “พอใช้ได้!”
อาเปียวและคนอื่นมองเฉินโม่ ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “พอแล้วไอ้หนุ่ม อย่ามาเสแสร้งตรงนี้ นายมาจากไหน รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน”
เฉินโม่ไม่พูดอะไร มองอาเปียวที่อวดดีด้วยความเฉยชา คนธรรมดาพวกนี้ ไม่ได้ทำให้เฉินโม่เกิดความสนใจได้เลยสักนิด
เมื่อเห็นว่าเฉินโม่ไม่พูด อาเปียวเข้าใจว่าเฉินโม่กลัว จึงยิ้มอย่างได้ใจ ชี้หน้าเฉินโม่แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ที่นี่คือมณฑลซีไห่ จำเอาไว้ ไปถามดูสิว่าในมณฑลซีไห่ ใครกล้าล่วงเกินตระกูลอานบ้าง!”
เฉินโม่หน้านิ่ง “ฉันจำได้แค่ว่ามณฑลซีไห่มีตระกูลเย่ มีตระกูลอานตั้งแต่เมื่อไร”
อาเปียวประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ คิดไม่ถึงว่านายจะรู้จักตระกูลเย่ด้วย ดูเหมือนนายก็เป็นคนมีประสบการณ์นะ”