บทที่ 1944 - ประสานการโจมตีทุกกระบวนท่า พระราชวังอมตะดาราจรัส

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

พลังของเจ้าทรราชสวรรค์ทำยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์การเคลื่อนที่ของเขาก็คล่องแคล่วเป็นอย่างมาก มันจะทำให้เขาเชื่อว่าการโจมตีที่เขาทำ มันจะต้องสร้างอาการบาดเจ็บสาหัสให้กับชิงสุ่ยได้ในทันที แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันเกินความคาดคิดเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าการโจมตีของเขาจะทำได้เพียงแค่ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าถอยหลังกลับไปไม่กี่ก้าว และพลังรวมถึงร่างกายยังคงเหมือนเดิม ไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้นแม้แต่เสี้ยว
  ชิงสุ่ยขับเคลื่อนพลังถึงขีดสุดโดยไม่พึ่งพาอาวุธใดๆทั้งสิ้นความแข็งแกร่งของเขายังคงได้กว่าชายชรา แต่การเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าได้ มันจะทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมากกว่า
  ”นำอาวุธของเจ้าออกมาอาวุธของข้าคือถุงมือคู่นี้”เจ้าทรราชสวรรค์กล่าว  ”ไม่ต้องกังวลข้าไม่ใช่คนที่หยิ่งยโส และข้าก็ไม่ได้โง่ ข้าสามารถหยิบอาวุธออกมาตอนไหนก็ได้ ฉะนั้นท่านเองก็ต้องระวังเอาไว้ให้ดี และข้าก็อยากจะรู้ฝีมือที่แท้จริงของท่าน ฉะนั้นถ้าหากท่านมีโอกาสท่านก็ต้องคว้าโอกาสเข้าโจมตีข้า แล้วอ้อมเอามือเป็นอันขาด”ชิงสุ่ยกล่าวในสิ่งที่เขาต้องการ
  ”มาลองดูอีกครั้ง”เจ้าทรราชสวรรค์ตั้งท่าเตรียมพร้อมรับการโจมตีของชิงสุ่ย
  ย่างก้าว9 เทวา!!
  ชิงสุ่ยหายวับไปในพริบตาแล้วไปปรากฏตัวต่อหน้าชายชราพร้อมกับปลดปล่อยหมัดเข้าโจมตี
  เจ้าทรราชสวรรค์โต้ตอบด้วยปฏิกิริยาฉับพลันและโจมตีสวนกลับด้วยพลังที่รุนแรงกว่าเดิม
  เขารู้ดีว่าถ้าหากยังคงใช้การโจมตีแบบเก่าเขาไม่มีทางทำอะไรชิงสุ่ยได้ ฉะนั้นแขนยาวของเขาในครั้งนี้ จึงคล้ายกับค้อนมังกรไฟขนาดใหญ่ที่เตรียมทุบ ตรงกลางร่างของชิงสุ่ย
  แต่การแสดงออกของชิงสุ่ยก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเขาใช้หมัดของเขาปะทะกับหมัดของชายชราโดยตรง
  ไทเก๊กจะอาศัยพลังของคู่ต่อสู้วนกลับไปโจมตีตัวของคู่ต่อสู้เองฉะนั้นตอนนี้หมัดของชิงสุ่ยจึงเริ่มดึงหมัดของศัตรูจากนั้นก็ใช้กันเบี่ยงตัวดูดซับพลัง ผันแปรทิศทางของหมัดศัตรู ต่อยตรงกลางกระดูกซี่โครงของตัวเขาเอง
  แต่ในขณะที่หมัดกำลังจะเข้ากะแทกซี่โครงหน้าอกชายชราก็รีบดึงมืออีกข้างหนึ่งเข้ามาป้องกันการโจมตีของตัวเอง
  ตูมมมม!!
  เสียงปะทะดังอึกทึกไปทั่วทั้งพื้นที่ชิงสุ่ยหายวับไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเจ้าทรราชสวรรค์ จากนั้นก็ปล่อยหมัดเข้าใส่กระดูกสันหลังข้อที่ 7 ของชายชรา ทำให้ร่างของชายชรากระเด็นออกไปด้านหน้ายังไม่ทันตั้งตัว  จากนั้นร่างของชิงสุ่ยก็กระพริบอีกครั้ง
  ชิงสุ่ยไปปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าเหมือนกับว่าตัวของเขากำลังพุ่งทะยานเข้าหาชายชรา ในครั้งนี้เขาไม่ได้ปล่อยหมัดออกไปเหมือนกับทุกๆครั้ง แต่เขาใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางงอ ออกมาจากกำปั้นและกระแทกใส่ชายชราอย่างจัง
  จุดชวีฉือ!!
  ปังงงงง!!
  ชิงสุ่ยยังคงไม่หยุดแต่ร่างกายของชายชราตอนนี้มันถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ แขนทั้งสองข้างของเขาเกิดอาการชาและเจ็บปวด เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังของเขาได้ ในขณะที่ชิงสุ่ยโจมตีเข้าใส่ข้อสอบของชายชรา มันทำให้ร่างกายของเขาเหมือนสูญเสียรากฐานที่มั่นคง พร้อมจะล้มตลอดเวลา
  ย่างก้าว9 เทวา
  ชิงสุ่ยกำหมัดเตรียมตัวโจมตีเข้าที่คอของชายชรา  ร่างกายของเจ้าทรราชสวรรค์แข็งแกร่งจนน่ากลัวชิงสุ่ยจึงรู้ดีว่าต่อให้โจมตีส่วนต่างๆของร่างกายไป มันก็คงจะไร้ประโยชน์ เพราะชายชราที่อยู่เบื้องหน้าคือคนที่ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งเหนือกว่าทุกๆคนที่ชิงสุ่ยเคยได้พบเจอ
  เจ้าทรราชสวรรค์เจ็บปวดอย่างหนักจนพร้อมจะกระอักเลือดแม้ว่าร่างกายของเขาจะมีความสามารถในการต้านทานการโจมตี อวัยวะบริเวณคอมันไม่ได้เหมือนกับร่างกายของเขา สัญชาตญาณจึงพยายามบังคับมือของเขาให้ขึ้นมาป้องกันลำคอ
  ปังงงงงง!!
  พลังที่ชิงสุ่ยใช้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังของชายชราฉะนั้นทันทีที่หมัดปะทะเข้ากับฝ่ามือที่ปกป้องลำคอ ชายชราจึงไม่สามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงได้อีกต่อไป เขาถูกแรงกระแทกอัดจนร่างกายลอยขึ้นกลางอากาศ
  แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ปล่อยให้เสียโอกาสเขาหายวับไปปรากฏตัวอยู่ใกล้กับชายชราอีกครั้ง
  หมัดปืนใหญ่!!
  ตูมมมมมม!!!!
  หมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังระเบิดเข้าใส่ร่างกายของเจ้าทรราชสวรรค์จากนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มใช้ลูกเตะสังหารเข้าโจมตีชายชราอย่างต่อเนื่อง
  ปังงงงง!!!
  เสียงแรงระเบิดจากการโจมตีดังสั่นสะเทือนไปทั่วด้านขวาชายชราเจ้าทรราชสวรรค์ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้การโจมตีของชิงสุ่ย เขาจึงไม่ต่างจากกระสอบทรายที่คอยรับแรงโจมตีเพียงอย่างเดียว
  ชิงสุ่ยไม่ได้คิดสังหารชายชราเจ้าทรราชสวรรค์มิฉะนั้นเขาก็คงไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ ชิงสุ่ยเข้าถึงจิตสังหารนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะโจมตีจุดสังหารเหล่านี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
  ชิงสุ่ยใช้ทักษะเพลงหมัดทุกกระบวนท่าไม่ว่าจะเป็นทักษะเพลงสิงอี้ไทเก๊ก มวยแปดทิศ ลูกเตะหย่งชุน และกระบวนท่าอีกมากมาย การเคลื่อนไหวที่เขาสร้างขึ้น รวดเร็วและแม่นยำจนทำให้บรรดาผู้รับชมที่อยู่เบื้องล่างตกตะลึง
  ชายผู้นี้เป็นถึงเจ้าทรราชย์สวรรค์ชางเหลียน ยอดยุทธอาณาจักรพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7
  สำหรับดินแดนอาณาจักรพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่อยู่ในจุดเริ่มต้นของขั้นที่ 7 จะมีพลังประมาณ 50 ล้านเต๋า และระดับกลางจะมีพลังอยู่ประมาณ 100 ล้านเต๋า ส่วนขั้นสูงสุดก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ระดับถัดไป ส่วนใหญ่จะมีพลังอยู่ในระดับ 500 ล้านเต๋า มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนดูจะประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่มีระดับพลังสูงขนาดนี้กำลังจะพ่ายแพ้ แล้วไม่สามารถตอบโต้กลับได้เลย
  แปดขุนเขาคลั่ง!!
  ชิงสุ่ยโจมตีเข้าใส่กลางหน้าอกของชายชราในเมื่อชายชราไม่สามารถคิดกระบวนท่าป้องกันตัวเองได้อีกต่อไป เขาจึงต้องทำตามสัญชาตญาณใช้มือทั้งสองข้างปกป้องหน้าอกของตัว
  ตูมมมมม!!
  ชายชราเจ้าทรราชสวรรค์ถูกแรงกระแทกอัดจมพื้นดินถ่มเลือดสดออกจากปาก
  หลังจากที่เขานอนลงกับพื้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขามันดีขึ้น พลังจากการโจมตีของชิงสุ่ยที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเขามาทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่หลังจากที่เขาได้ถมเลือดคำโตออกมา ร่างกายของเขากลับรู้สึกสบายมากกว่าที่เคยเป็น ไม่เพียงเท่านั้น การโจมตีของชิงสุ่ยแต่ละครั้ง มันได้พังทลายจุดติดขัดภายในร่างกาย พังทลายในจุดที่ขวางกั้นความสามารถของเขามาแสนยาวนาน
  ความรู้สึกในร่างกายของเขามันประหลาดจนทำให้เขาต้องหันมามองชิงสุ่ยซึ่งเด็กหนุ่มคนนี้กำลังยิ้มและพยักหน้าให้กับเขา  เขาจึงเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้ามันไม่ใช่การต่อสู้แต่เป็นเด็กหนุ่มที่กำลังช่วยเหลือเขา ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ จากสีหน้าของชายหนุ่ม มันก็บ่งบอกถึงความสมเหตุสมผลอย่างชัดเจน ด้วยอาการบาดเจ็บภายในร่างกาย ตราบใดที่เขายังมีความสามารถในการฟื้นฟู อีกไม่เกิน 2-3 วันเขาก็จะกลับมาเป็นปกติ
  แต่เรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับกำแพงขวางกั้นความสามารถของเขาที่ถูกพังทลายลงตอนนี้เขามีความหวังที่จะบรรลุก้าวขึ้นสู่ระดับพลังทักไป เมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างเขาและชายหนุ่ม เขาก็รู้แล้วว่ามันต่างชนิดกันมากเพียงใด เขาจึงรีบลุกขึ้นพร้อมกับยิ้มและกล่าวอย่างมีความสุขว่า “ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือข้า ขอบคุณมากจริงๆ ข้าเป็นหนี้ชีวิตเจ้าแล้ว”
  ชายชราเจ้าทรราชสวรรค์โค้งคำนับให้กับชิงสุ่ยก่อนจะเดินลงจากลานราชกิจสวรรค์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  ภาพที่เกิดขึ้นมันยิ่งทำให้คนดูแลตะลึงงันอย่างไรก็ตาม ชายชราเจ้าทรราชย์สวรรค์ชางเหลียนนั่งลงในที่นั่งของตนเองและหลับตา และด้วยสถานะที่สูงส่ง มันจะทำให้ไม่มีใครกล้าพูดจาก่อกวน หรือพูดจาดูถูกเขา
  ชิงสุ่ยค่อนข้างมีความสุขและยืนอยู่บนลานราชกิจสวรรค์พร้อมแสดงท่าทางผ่อนคลายก่อนจะกล่าวว่า “ข้าจะให้เวลา 1 ก้านธูป ถ้าหากมีคนไม่พอใจก็ขึ้นมาได้ แต่ถ้าหากครบเวลา ข้าจะถือว่าทุกคนยอมรับ”
  ชิงสุ่ยยังคงแสดงท่าทางหยิ่งทะยงแต่ด้วยความสามารถในการล้มคู่ต่อสู้ที่ทรงพลัง มันถึงทำให้บรรดาคนดูที่อยู่เบื้องล่างได้แต่ปิดปากเงียบไม่พูดจาอะไรทั้งสิ้น
  ”ในเมื่อคนของจักรวรรดิหมาป่าจันทราเองขึ้นไปประลองฝีมือกับเจ้าครั้งนี้ก็คงถึงคราวของพวกเราพระราชวังอมตะดาราจรัส หวังว่าการเดินทางมาในครั้งนี้จะไม่ปล่าวประโยชน์”ชายชราคนนึงลุกขึ้นยืนและส่งเสียงป่าวประกาศ  ”ผู้อาวุโสดาราจรัส!!นั้นมันตาผู้อาวุโสดาราจรัส!!”
  ”ใช่แล้วล่ะ แม้แต่ผู้อาวุโสท่านนี้ยังต้องออกโรงเอง สิ่งที่เขาทำมันกำลังลดความเป็นผู้อาวุโสของตัวเองอยู่หรือไม่?”
  ”เพราะชายหนุ่มคนนี้มันหยิ่งยโสเกินไปยังไงล่ะถ้าหากข้าเป็นท่านอาวุโสปีศาจดาราจรัส ข้าเองก็คงออกไปสั่งสอนเจ้าเด็กนั่นให้รู้สำนึก”
  ……………….
  บรรดาผู้คนที่อยู่เบื้องล่างส่งเสียงพูดคุยสับสนอลหม่านชิงสุ่ยได้ยินคำพูดของทุกคนอย่างชัดเจน จากสายตาของเขา ผู้อาวุโสดาราจรัสไม่ใช่คนธรรมดา และดูจากรัศมีพลัง เขาก็พอคาดเดาได้เลยว่าชายชราคนนี้มีพลังเหนือกว่าชายชราเจ้าทรราชสวรรค์