ราชินีเลือดเย็น โดย Ink Stone_Fantasy
“จับ…ทั้งหมด?” เหล่าองครักษ์ของร้านความลับต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินคำสั่งของจีสุ่ยเยียน
พวกเขาเองก็รู้ว่าไม่นานมานี้ร้านความลับเทพมีการสู้กับร้านขยายฟ้า ร้านความลับเทพแทบจะต้องอดทนกับทุกอย่าง พวกเขาไม่กล้าปะทะกับร้านขยายฟ้า แต่วันนี้กลับจะให้จับกุมคนจากร้านขยายฟ้าทีเดียวหลายสิบคน ในนั้นยังมีคนสำคัญอยู่จำนวนหนึ่ง
เหยียนเทียนชงไม่ได้ส่งใครที่ไหนก็ไม่รู้มาเชิญจีสุ่ยเยียน นอกจากกุนซือหยางที่ถูกตัดแขนขาแล้วยังมีน้องชายต่างแม่ของเหยียนเทียนชงอยู่ด้วย
“จีสุ่ยเยียน! เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ? ข้าคือเหยียนหยางผิง น้องชายแท้ๆ ของเหยียนเทียนชง เจ้าคิดจะมีเรื่องกับร้านขยายฟ้าหรือ?”
หากเหยียนหยางผิงไม่พูดถึงเหยียนเทียนชงก็ยังดีหน่อย แต่เมื่อเขาพูดชื่อนี้ขึ้นมาก็ยิ่งทำให้จีสุ่ยเยียนโมโห
นางรู้ว่าเหยียนหยางผิงเทียบเหยียนเทียนชงไม่ติด เขาเป็นแค่คุณชายไร้ความสามารถ แต่เหยียนหยางผิงกลับใช้ฐานะตัวเองมาใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปทั่วเมืองแสงหยก กลั่นแกล้งรังแกผู้คน ไม่รู้ว่าย่ำยีสาวน้อยไปมากเท่าไร บางคนถึงขั้นโดนย่ำยีถึงตายด้วยซ้ำ
จีสุ่ยเยียนมีจิตสังหารอย่างรุนแรงเมื่อคิดถึงตรงนี้
นางโบกมืออย่างฉับพลัน กระบี่ขนาดพกพาสิบสองเล่มที่ชี้ไปยังกุนซือหยางบินกลับมาแทงไปที่เหยียนหยางผิง!
“อ้า!”
เหยียนหยางผิงเห็นลำแสงสิบสองสายพุ่งเข้ามา เขาตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่างและรีบลงมือเพื่อต้านการโจมตีของจีสุ่ยเยียน แต่เหยียนหยางผิงที่ใช้ความคิดแต่กับเรื่องผู้หญิงจะเป็นคู่ต่อสู้ของจีสุ่ยเยียนได้อย่างไร?
ปราณคุ้มครองของเขาถูกกระบี่ฉีดขาดทันที จากนั้นก็มีเสียงร้องโอดครวญดังขึ้น มือเท้าเขาถูกกระบี่สี่เล่มตัดขาด! มือเท้าเพิ่งจะร่วงลง โลหิตยังไม่ทันไหลก็ถูกกระบี่อีกสี่เล่มตัดข้อศอกและหัวเข่า! จากนั้นกระบี่อีกสี่เล่มที่เหลือก็ตัดต้นแขนกับต้นขา!
จีสุ่ยเยียนไม่เพียงแค่ตัดแขนขาของเหยียนหยางผิง นางยังหั่นแขนขาเขาเป็นสามท่อน!
ทุกคนตะลึงงันเมื่อเห็นภาพนี้
กุนซือหยางก็ช่างมันเถอะ แม้ตำแหน่งเขาจะสูงแต่ก็เป็นคนนอกสำหรับร้านขยายฟ้า แต่เหยียนหยางผิงเป็นหลานแท้ๆ ของผู้เฒ่าเหยียนเชียวนะ!
หลานแท้ๆ ถูกทำให้มีสภาพเช่นนี้ เขาจะยอมได้อย่างไร?
พลังของผู้เฒ่าเหยียนไม่ใช่สิ่งที่พวกกงหยางเหนี่ยนกับเซี่ยวเค่อหลินจะเทียบได้ เขาเป็นยอดฝีมือโดยแท้จริง เป็นคนที่สั่นสะเทือนทั้งร้านขยายฟ้า
ในความเป็นจริง แม้ร้านความลับเทพจะเป็นร้านใหญ่สองร้านของเมืองแสงหยกด้วยกันกับร้านขยายฟ้า แต่ประวัติศาสตร์ของร้านขยายฟ้ายาวนานกว่าร้านความลับเทพมาก มรดกก็เยอะกว่า!
“จับเอาไว้!”
จีสุ่ยเยียนโบกมือ ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนราชินีเลือดเย็นผู้สูงส่ง
เมื่อหลายคนมองจีสุ่ยเยียนอีกครั้งก็สูดลมหายใจเย็นๆ ความจริงแล้วจีสุ่ยเยียนมีอำนาจหลังจากผู้เฒ่าจีหายตัวไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมานางประพฤติตนอ่อนแอ อดทนได้ก็อดทน นี่เองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กุนซือหยางไม่กลัวจีสุ่ยเยียนก่อนหน้านี้ นางเป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมในสายตาทุกคน จะมีความเด็ดเดี่ยวอะไรได้
แต่ความเด็ดขาดโหดเหี้ยมของนางในวันนี้กลับอยู่เหนือจินตนาการทุกคน กุนซือหยางกับเหยียนหยางผิงกลายเป็นคนแขนขาด้วน นี่คือราคาของการดูถูกจีสุ่ยเยียน!
เสียงฝีเท้าอันวุ่นวายดังขึ้น คนของร้านขยายฟ้าถูกจับกุมทั้งหมด ภายในมีคนที่ฝีมือไม่เลวอยู่จำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่กล้าต่อต้านเช่นกัน อานุภาพสยบจากอี้อวิ๋นรุนแรงเกินไป
“ส่งสารให้ร้านขยายฟ้านำโอสถเข้าสวรรค์สามเม็ดมาไถ่ตัวคนที่ข้าจับ! ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่รับประกันว่าพวกเขาจะรอดกลับไป!”
จีสุ่ยเยียนพูดเงื่อนไขเช่นนี้ก็เพื่อทำเรื่องที่อี้อวิ๋นสั่งมาให้สำเร็จ นางจะพยายามรวบรวมวัตถุล้ำค่าและโอสถชั้นยอดต่างๆ เพื่อช่วยอี้อวิ๋นหาที่ตั้งของแก่นหยางบริสุทธิ์ในทะเลทรายกลบอาทิตย์
ตอนนี้ร้านความลับเทพมีทั้งปัญหาภายในและภัยคุกคามจากภายนอกจึงยากจนเล็กน้อย ใช้คนเหล่านี้มาแลกโอสถเข้าสวรรค์สามเม็ดให้อี้อวิ๋นเพิ่มความแข็งแกร่ง นับว่าใช้ประโยชน์จากคนไร้ค่า
โอสถเข้าสวรรค์มีมูลค่าไม่น้อย แม้แต่ร้านขยายฟ้าก็ยังปวดใจที่ต้องให้ถึงสามเม็ด แต่อย่างไรการยอมมอบให้ก็ดีกว่า เพราะหากไม่ยอมมอบให้ก็จะทำให้คนในร้านขยายฟ้าเกิดความสงสัย พวกเขาจะรู้ว่าการทุ่มเทให้ร้านขยายฟ้าไม่ได้มีจุดจบดีเสมอไป
อี้อวิ๋นย่อมรู้ว่าจีสุ่ยเยียนคิดอะไรเช่นกัน ความจริงนางดูเหมือนโหดเหี้ยมแต่ก็เหลือทางหนีทีไล่
หากเป็นอี้อวิ๋นที่ลงมือก็คงไม่ใช่แค่ตัดแขนตัดขาแต่คงทำลายจุดตันเถียนหรือไม่ก็เอาชีวิตไปเลย
แขนขาขาดก็ยังต่อกลับไปได้ แต่หากจุดตันเถียนถูกทำลายก็จะถือว่าพิการ
จีสุ่ยเยียนใช้วิธีเช่นนี้ก็เพื่อ หนึ่ง เพิ่มความแข็งแกร่งให้อี้อวิ๋น
สอง ลองวัดขีดจำกัดของตระกูลเหยียน นางอยากรู้ว่าภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เปิดศึกอย่างเต็มขั้น พวกเขาจะทนได้ถึงขั้นไหน
และแน่นอนว่าสิ่งพึ่งพิงของการกระทำทั้งหมดนี้คืออี้อวิ๋น!
อี้อวิ๋นพยักหน้าเงียบๆ เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ วิธีการของจีสุ่ยเยียนทำให้เขาสบายใจมาก นางไม่ลืมคำสั่งของเขา ไม่ทำเกินเหตุจนลืมตัว นางดูโหดเหี้ยมเด็ดขาดก็จริง แต่แท้จริงแล้วผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ
อี้อวิ๋นมีหรือที่จะพิจารณามากถึงเพียงนี้ เขาคงสังหารให้จบไปนานแล้ว แต่จีสุ่ยเยียนกลับคิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“นำคนพวกนี้ไปขังในคุกใต้ดิน พวกเรากลับจวนไปจัดงานเลี้ยง!”
จีสุ่ยเยียนย่อมไม่ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อตัวเอง นางจัดเพื่อเลี้ยงต้อนรับอี้อวิ๋น
นางเองก็รู้ว่าอี้อวิ๋นทุ่มเทจิตใจไปกับการฝึกยุทธ์ คงไม่ชอบงานรื่นเริง ดังนั้นแม้ด้านนอกจะมีโต๊ะจัดเลี้ยงที่คึกครื้นอยู่หลายสิบโต๊ะ แต่จุดที่อี้อวิ๋นอยู่กลับเป็นห้องรับรองอันเงียบเชียบและกว้างขวาง ภายในมีโต๊ะเพียงตัวเดียว ทว่าสิ่งที่วางเป็นโต๊ะกลับเป็นอาหารชั้นยอดที่มีมูลค่าสูงทั้งสิ้น
จีสุ่ยเยียนรู้ว่าอี้อวิ๋นชอบวัตถุล้ำค่า นางจึงจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้อี้อวิ๋นอย่างไม่เสียดาย
นอกจากอี้อวิ๋นแล้ว ภายในห้องรับรองนี้ก็มีแค่จีสุ่ยเยียนกับสาวใช้ประจำกายที่นางเชื่อใจมากที่สุด
ตอนที่จีสุ่ยเยียนกลับมาที่จวนก่อนหน้านี้ นางได้กวาดล้างคนสนิททั้งหมดของกงหยางเหนี่ยนกับเซี่ยวเค่อหลิน จากนั้นก็ช่วยคนของนางเองออกมาจากคุกใต้ดิน จีสุ่ยเยียนใช้วิธีที่เด็ดขาดและรวดเร็ว เพียงชั่วยามเดียวก็กลับมาเป็นผู้ควบคุมร้านความลับเทพ!
นางไม่ออมมือต่อคนที่ทรยศร้านความลับเทพ ทั้งเนรเทศ ทำลายพลังยุทธ์ ประหาร! ลงโทษทุกอย่างตามกฎของร้านความลับเทพ
กวาดล้างหนึ่งชั่วยาม ตัดสินหนึ่งชั่วยาม ขณะเดียวกันก็ยังจัดงานเลี้ยงไปด้วยอีก งานเฉลิมฉลองกับการนองเลือดอยู่เคียงคู่กัน เพียงสองชั่วยาม จีสุ่ยเยียนที่คนอื่นมองเป็นลูกแกะก็กลายเป็นราชินีเลือดเย็น
ตอนนี้ไม่ใช่แค่พวกคนที่เดิมทีก็ไม่ภักดีกับจีสุ่ยเยียนอยู่แล้วที่กลัวนาง แม้แต่คนที่เดิมทีภักดีกับนางก็ยังเคารพยำเกรงไปด้วย
อย่างเช่นตาเฒ่าจั่งซุนที่ก่อนหน้านี้ ‘รักษา’ ให้อี้อวิ๋น เดิมทีเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสเมื่ออยู่ต่อหน้าจีสุ่ยเยียน ทว่าตอนนี้กลับเคารพนบนอบมาก
แต่ตอนนี้สาวน้อยที่ถูกทุกคนในร้านความลับเทพมองเป็นราชินีเลือดเย็นกลับกำลังคุกเข่าอยู่ข้างอี้อวิ๋นอย่างเชื่อฟัง นางถือสุราวิญญาณกาหนึ่งไว้ในมือ หลังจากที่อี้อวิ๋นเพิ่งดื่มสุราเสร็จก็ค่อยๆ รินเติมให้อย่างระมัดระวัง