ตอนที่ 1666 คนที่แข็งแกร่งที่สุด

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

จางจื่ออันไม่ได้ปลอบใจเธอ ราวกับคนแข็งแกร่งอย่างเธอไม่อยากได้การปลอบใจของเขา

 

 

เขาก็ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของเธอ เธอเป็นอมตะอยู่ในความฝัน จึงมีเวลามากมายคิดปัญหาทางปรัชญาพวกนี้ แต่ก็เป็นอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นแค่คนทั่วไปในบรรดามนุษย์มากมาย ยุ่งอยู่กับการซ่อมบ้าน บำรุงรักษารถ หาเงิน หาแฟน ต่อไปก็เลี้ยงลูก…ถึงแม้มีคนบอกเขาว่าโชคชะตาของเขาถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เขาก็ทำได้แค่ร้องอ๋อ จากนั้นก็ทำทุกอย่างตามปกติ

 

 

เขายอมรับเรื่องจริงที่ว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา และเธอไม่ใช่คนธรรมดา เธออาจจะไร้เทียมทานในใต้หล้า อาจจะกลายเป็นผู้ชี้ขาดที่แข็งแกร่งที่สุด แต่พอได้ยินข้อมูลที่ว่าเจตจำนงเสรีอาจจะไม่มีอยู่จริงขึ้นมากะทันหัน ไม่ว่าตัวเองจิตใจแข็งแกร่งแค่ไหน โชคชะตาก็เหมือนถูกบางอย่างกลืนกินในความมืด ทำให้จิตใจของเธอสับสนอย่างรุนแรงและรู้สึกพ่ายแพ้อย่างมาก

 

 

“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอทุกข์ใจและโมโหมาก ฉันอยากตอบเธอนะ แต่น่าเสียดาย ในเมื่อเธอควบคุมความทรงจำของฉันแล้ว ก็น่าจะเข้าใจมากกว่าฉันเป็นเท่าตัว ไม่ว่าฉันบอกเธอว่ามีหรือไม่มีเจตจำนงเสรี ก็เป็นเรื่องคลุมเครือที่ไม่มีหลักฐานทั้งนั้น ก็ได้แต่ทำให้เธอรู้สึกโมโหมากขึ้น และไม่มีทางคลายความทุกข์ใจของเธอได้”

 

 

หลังจากเขาพิจารณาแล้ว เขาก็ตัดสินใจพูดตามตรง เพราะความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ของเธอเหนือกว่าเขามาก เขาพูดไร้สาระอะไรไปเธอก็เข้าใจอย่างปรุโปร่ง ยั่วโมโหคนที่กำลังอารมณ์เสีย ก็รังแต่จะทำให้จุดจบของเขายิ่งน่าเวทนามากขึ้น

 

 

พอพูดออกไป เขาก็เตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะยั่วโมโหเธอยิ่งกว่าเดิม แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกลับหัวเราะ หัวเราะเป็นครั้งแรกของวันนี้ แล้วถามอย่างอ่อนโยนว่า “คุณอยากกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดหรือเปล่า”

 

 

เขาตะลึงไปในทันที

 

 

ตอนมัธยมสองมีใครไม่เคยฝันให้ตัวเองกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดบ้าง กลายเป็นนักกีฬายิ่งใหญ่ กลายเป็นดาราภาพยนตร์ระดับโลก กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก กลายเป็นเจ้าโลก…แต่พอโตขึ้น ความฝันก็ถูกความจริงทำลายจนถล่มยับเยิน

 

 

“แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันพูดถึง ก็คือแข็งแกร่งที่สุดจริงๆ ไม่ได้แค่สอนกังฟูเตะต่อยสองสามกระบวนท่าเหมือนเหล่าฉา สมัยนี้เป็นกังฟูแล้วทำอะไรได้? สู้กับศัตรูหนึ่งคน สิบคน หรือสู้กับศัตรูร้อยคนได้?” เธอยิ้ม แต่รอยยิ้มกลับทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ

 

 

“คุณน่าจะเข้าใจมากแล้ว ในโลกความฝัน ฉันควบคุมได้ทุกอย่าง” เธอพูดราวกับมีความหวังเต็มเปี่ยม “ฉันทำให้คุณมีแต่รอยแผลเต็มตัวจนเผชิญหน้ากับความตายได้ เข้าใกล้ความตายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หัวใจหยุดเต้น หยุดหายใจ ขาดก็แค่สมองตายเท่านั้น วินาทีต่อมาก็ฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม วนเวียนเป็นวัฏจักแบบนี้…เกิดแล้วตายซ้ำๆ ตายแล้วเกิดซ้ำๆ ผ่านวัฏจักรนี้นับครั้งไม่ถ้วน คุณน่าจะรู้ว่าเป็นแบบนี้แล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไรสินะ?”

 

 

เชี่ย!

 

 

จางจื่ออันขนลุกซู่ เกือบจะฉี่รดกางเกงแล้ว!

 

 

ซิงไห่เคยเจอการหมุนเวียนไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้แล้ว จนกลายเป็นแมวควอนตัม

 

 

เฟยหม่าซือก็ผ่านการหมุนเวียนที่มีขีดจำกัดคล้ายคลึงกันแต่แย่น้อยกว่านั้น จนได้รับความสามารถลางสังหรณ์วิกฤต

 

 

ดูเหมือนน่าอิจฉา แต่ถ้าให้พวกมันเลือก พวกมันคงจะเลือกทิ้งความสามารถที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ เพื่อแลกกับชีวิตธรรมดาและสงบสุข

 

 

ในฐานะมนุษย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งของโลกนี้ เขาแข็งแกร่งกว่าแมวและสุนัขมาก ถ้าผ่านวัฏจักรที่คล้ายกัน ถึงแม้ไม่ถึงระดับของซิงไห่ อย่างน้อยก็คงเก่งกาจกว่าเฟยหม่าซือ ถ้าบอกว่ามนุษย์แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ใช่คำพูดไร้สาระเลยจริงๆ

 

 

นี่ไม่ใช่การพูดเรื่อยเปื่อยให้กลัวไปอย่างนั้น เพราะเธอทำได้อย่างที่พูดแน่นอน

 

 

แต่ขั้นตอนนี้ ค่อนข้างเหมือนกับพลังไร้ขีดจำกัดของนรก

 

 

อย่าว่าแต่ไร้ขีดจำกัดเลย ถึงเกือบตายหนึ่งร้อยครั้ง สุดท้ายก็ต้องร้องขอความตายจริงๆ อย่างแน่นอน

 

 

เธอเดินเข้าใกล้เขาทีละก้าว หน้าตาพึงพอใจ ส่วนเขาถอยหลังทีละก้าวด้วยความกลัว ถอยหลังไปจนถึงริมผาแล้วถึงหยุดชะงัก

 

 

“เริ่มตั้งแต่ตกหน้าผาเลยแล้วกัน คุณว่าเป็นยังไง?” เธอยิ้มหวานหยดย้อย ก่อนจะมองไปยังหน้าผาสูงหลายร้อยเมตรนั้น แล้วยกมือลูบปอยผมเบาๆ น้ำเสียงผ่อนคลายจนให้อารมณ์เหมือนกำลังปรึกษากับเขาว่าเย็นนี้จะกินอะไร

 

 

เรื่องถึงตรงนี้ จางจื่ออันไม่สนใจประเทศ ชื่อเสียงเกียรติยศส่วนรวม และภารกิจหนักอึ้งของตัวเองอีกแล้ว ถ้าเขารู้ความลับอะไร เขาต้องนำออกมาใช้เพื่อแลกกับความตายแน่นอน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีแม้แต่แต้มต่อเลยด้วยซ้ำ

 

 

“นี่เธอวางแผนจะทำอะไร ฉันไม่คู่ควรให้เธอเสียเวลาวุ่นวายด้วยหรอกนะ” เขาอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

 

 

เธอมองเขาอย่างจริงจัง “พอคุณกลายเป็นหมาควอนตัม…เอ้ย หลังจากเป็นคนควอนตัม พวกเราก็ร่วมมือกันศึกษาได้ ลองดูว่าคุณเลือกอนาคตมากมายที่คุณมองเห็นได้อย่างอิสระหรือไม่กันแน่ นี่มีประสิทธิภาพสูงกว่าฉันก้มหน้าศึกษาด้วยตัวเองเสียอีก คุณก็หวังว่าจะได้กลายเป็นคนเหนือคนไม่ใช่เหรอ มีความสามารถแบบนี้แล้ว อยากมีสาวๆ กี่คนก็ได้ทั้งนั้น…”

 

 

“ฉันไม่เคยหวังเลยสักนิด! ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ ถ้าเธอปล่อยฉันไป จะให้ฉันทำอะไรก็ได้!”  จางจื่ออันละทิ้งเกียรติของตัวเองไปแล้ว

 

 

เธอเคยพูดว่า ตอนเจอเธอครั้งหน้า เธอจะให้เขาขอร้องเธอแน่นอน ตอนนี้เธอทำให้คำสัญญาเป็นจริงแล้ว

 

 

ผู้หญิงคนนี้…ไม่ใช่สิ ผีเสื้อตัวนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ตอนนี้เขาเริ่มสาปแช่งโชคชะตา ว่าทำไมถึงให้เขาเจอกับภูตสัตว์เลี้ยงที่สวยสุดๆ และน่ากลัวสุดๆ ตัวนี้

 

 

เธอเหมือนจะรอเขาพูดคำนี้อยู่พอดี “อ๋อ จริงเหรอ”

 

 

“จริงสิ เธอให้ฉันไปตายฉันก็รับปาก” เขาพูดด้วยท่าทางห่อเ**่ยว

 

 

น่าเสียดายที่เธอไม่ให้เขาตาย เขาตายแล้วเธอก็ต้องหายไปน่ะสิ

 

 

“ดีมากเลย!” เธอยิ้มกว้าง ปรบมือดีใจเหมือนเด็กสาวคนหนึ่ง

 

 

“เธอก็อย่ามัวแต่เล่นละครเลย พูดมาตรงๆ เถอะ จะให้ฉันทำอะไร” เขาถอนหายใจอย่างหมดแรง

 

 

เธอเก็บรอยยิ้ม ใบหน้าเย็นชาเช่นเดิม “เด็กสาวที่คุณเจอเมื่อตอนกลางวัน ยังจำได้ไหม”

 

 

จางจื่ออันตะลึง เขายังอยากถามว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องกับจวงเสี่ยวเตี๋ยหรือเปล่า สุดท้ายเธอก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน

 

 

“จำได้สิ ทำไมเหรอ”

 

 

เธอเงียบอยู่พักหนึ่ง “อาจจะเป็นลางสังหรณ์ ฉันรู้สึกว่าเธอให้คำตอบของคำถามฉันได้ ถ้าครั้งหน้าคุณเจอเธอ ต้องถามคำถามนี้ให้ชัดเจนนะ ไม่อย่างนั้น…”

 

 

ไม่อย่างนั้นอะไร คงไม่ต้องพูดอีกแล้ว

 

 

จางจื่ออันงุนงงไปในทันที เด็กผู้หญิงวัยมัธยมต้นคนนั้นมีความสามารถแบบนี้ด้วยเหรอ หรือว่าเธอเป็นไอน์สไตน์กลับชาติมาเกิด?

 

 

ในหัวสมองของเขาสับสนวุ่นวาย กำลังพยายามทำความเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ แต่ก็ได้ยินเธอพูดอีกว่า “อย่ามัวแต่ตะลึงสิ คุณไม่ลืมหรอก วันนี้ฉันมีสองคำถามที่อยากถาม เมื่อกี้ถามไปแค่คำถามเดียว”

 

 

อาการเข่าอ่อนจู่โจมร่างกายของเขาเป็นระลอก เขาแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว คำถามแรกต้องการชีวิตเขาครึ่งหนึ่ง อย่างนั้นคำถามที่สองคงจะ…

 

 

“คำถามที่สองฉันไม่รีบเอาคำตอบ คุณกลับไปค่อยๆ คิดก็ได้”

 

 

เธอเข้าใกล้หน้าอกของเขา ก่อนจะหายใจออกมาอย่างแรง และพูดเสียงเบาว่า “หุ่นยนต์ฝันถึงแกะอิเล็กทรอนิกส์ได้ไหม”

 

 

เขายังไม่ทันได้สติ ฝ่ามือขาวบอบบางของเธอก็ยื่นเข้ามาผลักหน้าอกของเขาอย่างแรงครั้งหนึ่ง

 

 

ตกเขาแล้ว

 

 

เสียงหัวเราะสบายอารมณ์ของเธอดังมาจากยอดเขา เสียงเริ่มไกลจากเขาขึ้นเรื่อยๆ

 

 

เขาตะโกนร้องอย่างหวาดกลัว แกว่งแขนมั่วซั่ว ยอดเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ ข้างหูมีเสียงลมผ่านไปดังฟู่ๆ จากนั้นพริบตาที่เขาตกลงบนพื้น…ก็ตื่นจากฝัน