ประเทศจีนไม่มีเพลงเฮฟวี่เมทัล? โดย Ink Stone_Fantasy

เครื่องบินบินขึ้นฟ้าแล้ว

ทะยานขึ้นไปที่ความสูงหนึ่งหมื่นเมตร

หนิงหลันหลับตาพักผ่อน

ฉีเหม่ยหลันอ่านหนังสือ

เฉินกวงและจ้าวอู่ลิ่วพูดคุยเกี่ยวกับเทศกาลดนตรี

“เหล่าจ้าว คุณเตรียมเพลงอะไรไว้เหรอ?”

“เพลง ‘BOBO’ น่ะ”

“อ่า เพลงนี้เหรอ”

“ก็ยากอยู่ รอดูสถานการณ์ก่อน คุณล่ะ”

“เพลงเฮฟวีเมทัลผมก็ได้ไม่กี่เพลงเอง น่าจะเป็น ‘CHARIOT’ นั่นแหละ”

“เราสองคนไม่ใช่สไตล์เฮฟวี่เมทัล ที่จริงก็ไม่ค่อยอยากร้องเท่าไร”

“ประเทศเราไม่มีเพลงเฮฟวี่เมทัลเป็นของตนเองนี่นะ”

“ใช่ไง เฮ้อ สุดท้ายก็ต้องเลียนแบบคนอื่น”

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีเพลงเฮฟวี่เมทัลจีนออกมาสองสามเพลง แต่ก็ไม่ดังสักเพลง พวกเราเพิ่งเริ่มเดิน ค่อยเป็นค่อยไปเถอะ ยังไงก็ต้องมีผลงานที่ดีเข้าสักวัน”

“หวังว่าอย่างนั้นนะ”

จางเย่ที่กำลังสวมผ้าปิดตาหลับพักผ่อนก็ได้ยินการสนทนาของพวกเขา

เป็นไปไม่ได้มั้ง?

ประเทศจีนไม่มีแนวเพลงเฮฟวี่เมทัลของตนเองเหรอ?

ถ้าอย่างนั้นเพลงเฮฟวี่เมทัลของนานาชาติเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?

เขาเองก็อยากรู้อยากเห็น ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ใช่คนของโลกนี้ เรื่องราวมากมายในประเทศช่วงหลายปีมานี้จางเย่ก็เรียนรู้อย่างช้าๆ แต่เรื่องราวระดับนานาชาติจางเย่ยังไม่เข้าใจอยู่มาก เนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะพัฒนาไปจนถึงระดับนานาชาติ แน่นอนว่าต้องรู้สถานการณ์ของประเทศอื่นก่อน เช่นสไตล์เพลง วัฒนธรรม นี่คืออีกเป้าหมายหนึ่งที่จางเย่มาเกาหลีในครั้งนี้ เขามาเพื่อหาลู่ทางนั่นเอง

หนึ่งชั่วโมง

สองชั่วโมง

ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอด มาถึงเกาหลีแล้ว

ณ กรุงโซล

ที่สนามบิน

ทันทีที่ทุกคนออกมา ตัวแทนเจ้าภาพคอนเสิร์ตการกุศลที่มารับพวกเขาก็เข้ามาต้อนรับ และไม่รู้ว่ามีข่าวรั่วหรืออย่างไร เพราะมีแฟนคลับชาวเกาหลีและนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนมารอรับด้วย

“กรี๊ด!”

“ฉีเหม่ยหลัน!”

“ฉีเหม่ยหลัน!”

“เจียงฮั่นเวย!”

“เสี่ยวตงนี่นา!”

หลายคนตะโกนเป็นภาษาเกาหลี

หลายคนชูป้ายต้อนรับ

จางเย่ฟังไม่ออกและอ่านภาษาเกาหลีไม่เข้าใจ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าในนั้นไม่มีคนตะโกนชื่อของเขาเลย นี่ก็สามารถแสดงถึงความต่างชั้นของคะแนนนิยมในเอเชียได้แล้ว ในประเทศจางเย่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับเดียวกับสตาร์ควีนฉีเหม่ยหลัน ไปที่ไหนก็มีแต่แฟนคลับล้อมรอบ ยกตัวอย่างเช่นในห้องรับรองของสนามบิน มีผู้โดยสารสองคนวิ่งเข้ามาขอลายเซ็นของจางเย่และฉีเหม่ยหลัน แต่หลังจากมาถึงเกาหลี ฉีเหม่ยหลันยังคงโด่งดัง แต่ชื่อเสียงของจางเย่กลับมองไม่เห็นแล้ว คะแนนนิยมไม่พอ ไม่ต้องพูดถึงฉีเหม่ยหลัน แค่เจียงฮั่นเวยกับเสี่ยวตงเอมี่พวกเขายังได้รับการต้อนรับมากกว่าจางเย่ ในจำนวนคนมากมายไม่มีใครรู้จักจางเย่สักคน สายตาไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาทางเขา

บนรถบัส

จางเย่มองไปที่ทิวทัศน์แปลกตาด้านนอกหน้าต่าง เขากลับรู้สึกผ่อนคลายมาก

หนิงหลันถาม “อารมณ์ดีไม่เลวนี่นาย?”

จางเย่หัวเราะ “ใช่สิ ยากนะที่จะมีสถานที่ที่คนไม่รู้จักผม”

เสี่ยวตงกลอกตา “คุณเป็นถึงดาราเอเชียระดับเอเชียวนะ”

จางเย่ขำ “ระดับเอปลายแถวน่า ทั้งยังอยู่บรรทัดสุดท้ายของระดับเออีก”

“ที่นี่มีคนรู้จักคุณเยอะแยะ” เฉินกวงพูด “เพียงแต่แฟนคลับมีไม่มาก ใครใช้ให้คุณไม่มีผลงานฉายต่างประเทศกันล่ะ แล้วยังไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมของแถบเอเชียเลยด้วย”

เอมี่ “แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผู้มีอิทธิพลและมีคะแนนนิยมมากที่สุดในเอเชีย ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นดาราเกาหลี ในบรรดาสตาร์คิงสตาร์ควีนของเอเชีย เป็นดาราเกาหลีซะเกินครึ่ง อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก จากการฝึกฝน การคัดกรอง จนไปถึงการโฆษณา ล้วนแต่เป็นมืออาชีพ ตรงจุดนี้พวกเราเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลย”

ในที่สุดเจียงฮั่นเวยก็พูดแล้ว “ดาราศิลปินเกาหลีเป็นที่นิยมจริงๆ แม้ว่าบนเวทีระดับโลกพวกเขาจะมีคนที่ประสบความสำเร็จน้อยมาก และไม่ใช่ดาราชั้นนำของนานาชาติ แต่ในเอเชียกลับโด่งดังอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงที่อื่น พูดถึงแค่ในจีน ดาราเกาหลีคนใดคนหนึ่งขอแค่มีผลงานที่โอเค รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาก็เป็นที่นิยมในจีนแล้ว อย่างน้อยก็เติบโตได้ไม่เลว แต่ว่าศิลปินของประเทศเราถ้าต้องการจะมีชื่อเสียงโด่งดังในเกาหลีและญี่ปุ่น นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก”

รถบัสเคลื่อนตัวแล้ว

ทุกคนคุยกันตลอดทาง

พวกเขาเข้าพักที่โรงแรม

จัดเก็บสัมภาระ

กินข้าว

กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เป็นช่วงเย็นแล้ว

ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัว งานเลี้ยงการกุศลจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ทุกคนไม่มีอะไรทำจึงตัดสินใจไปกับเฉินกวงและจ้าวอู่ลิ่ว

“ไปกันไหม?”

“โอเค ไปดูเทศกาลดนตรีเฮฟวี่เมทัลนั่นกัน”

“เฮฟวี่เมทัล ฉันฟังมาน้อยมากจริงๆ”

“เหล่าเฉินเหล่าจ้าวก็จะขึ้นแสดงเหรอคะ?”

“ใช่สิ ขอแสดงความอ่อนด้อยแล้ว”

“ฮ่าๆ พวกเราจะอยู่ด้านล่างเชียร์คุณสองคนนะ”

หลังจากจัดการเรื่องรถ เรียกล่ามเรียบร้อย ทุกคนก็ออกไปพร้อมกัน

……

ตอนเย็น

ช่วงเวลาห้าโมงกว่า

ณ สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงโซล มีเสียงเพลงอึกทึกดังไปทั่ว

พวกเขาได้ตั๋วเข้าผ่านประตูหลัง และนั่งบนที่นั่งวีไอพี

ทันทีที่เข้าไป หนิงหลันก็ต้องเอามือปิดหู “ยังไม่เริ่มอีกเหรอ? ทำไมเสียงดังแบบนี้?”

เอมี่หัวเราะฮาๆ “ที่ต้องการก็คือบรรยากาศแบบนี้แหละ เพลงเฮฟวี่เมทัลเพราะนะ ต้องใช้ใจฟัง น่าเสียดายที่ประเทศเราไม่มีผลงานอะไรเลย มีแต่ที่เลียนแบบต่างประเทศ อย่างมากก็ร้องเพลงที่แปลงมาจากภาษาต่างประเทศเท่านั้น”

ต้าฉีถาม “แล้วเกาหลีกับญี่ปุ่นล่ะ?”

เอมี่คือมืออาชีพด้านการทำเพลง เธอมีความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง “เกาหลี ญี่ปุ่นต่างก็มีสไตล์ดนตรีเฮฟวี่เมทัลเป็นของตัวเอง อย่างเช่นญี่ปุ่นนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นสไตล์แรกเริ่มของเฮฟวี่เมทัลได้เลย ส่วนเกาหลี ที่จริงฉันคิดว่าสไตล์ไม่ชัดเจนมากนัก เป็นการเปลี่ยนจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาเกาหลีในการร้องเท่านั้น แต่หากจะบอกว่านี่คือดนตรีร็อกเฮฟวี่เมทัลของเกาหลีเอง ก็ไม่ผิด”

เสี่ยวตง “มีแต่ประเทศจีนที่ไม่มีสไตล์เฮฟวี่เมทัลเป็นของตัวเองนี่นา”

เอมี่ “นี่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเราเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางด้านนี้ ต้องลองดูว่าจะเอาวิธีการร้องของภาษาจีนมาทำเพลงเฮฟวี่เมทัลในสไตล์ตัวเองได้ยังไง พูดเหมือนง่ายนะ แต่ที่จริงมันยากมาก”

ประเทศจีนไม่มีเฮฟวี่เมทัล?

ประโยคนี้อีกแล้ว?

จางเย่ได้ยินเป็นครั้งที่สองของวันแล้ว

เขายิ่งอยากรู้ว่าดนตรีเฮฟวี่เมทัลในโลกนี้เป็นอย่างไรกันแน่มากขึ้นไปอีก

ผู้ชมทยอยเข้ามา มีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีน มีคนเกาหลี มีคนมาจากทั่วทุกสารทิศ บรรยากาศคึกคักมาก การแต่งกายของแต่ละคนก็มีความโดดเด่นอย่างมาก บางคนอินดี้มาก บางคนเป็นชุดหนังทั้งตัว และยังมีคนที่ทำผมหลากสีสัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ทุกคนต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

สามสิบนาทีให้หลัง

ทุกคนต่างเข้ามาหมดแล้ว

เทศกาลดนตรีเฮฟวี่เมทัลนานาชาติเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

วงดนตรีเกาหลีวงหนึ่งขึ้นแสดงแล้ว

เพียงแค่พวกเขาออกมา ด้านล่างก็มีเสียงตะโกนเชียร์ทันที!

“$%$!”

“$%$!”

“$%$!”

ทุกคนต่างตะโกนหนึ่งประโยคเป็นภาษาเกาหลี

แน่นอนว่าพวกจางเย่ฟังไม่ออกสักนิด

ล่ามคนที่มาด้วยหัวเราะ “พวกเขาตะโกนชื่อวงอยู่ครับ สตรองวินด์”

จางเย่หยอก “พายุฝนไม่มาเหรอ?”

เอมี่กลอกตา “นี่เป็นหนึ่งในวงเฮฟวี่เมทัลที่ดังที่สุดในเกาหลีเชียวนะ”

เสี่ยวตง “มาแล้ว!”

ฉีเหม่ยหลันก็มองไปทางเวทีอย่างสนอกสนใจ เธอเองก็ไม่ค่อยได้ฟังเพลงเฮฟวี่เมทัลเช่นกัน

ทันใดนั้นแสงไฟก็สว่างเป็นประกายระยิบระยับ!

เสียงดนตรีอันหนักแน่นดังขึ้น!

กีตาร์!

เบส!

เสียงดังกระหึ่มทั่วงานทันที!

“&8((&…%!”

“&()(%$@@!”

นักร้องร้องเป็นภาษาเกาหลี พวกเขาฟังไม่ออก ทำได้เพียงใช้ความรู้สึกรับฟัง

เอมี่คือผู้เดินสายทางด้านนี้ เธอพูดเสียงดังว่า “ไม่เลวเลยจริงๆ!”

เสี่ยวตงก็เข้าใจอยู่เล็กน้อย “เสียงดนตรี และเสียงนักร้องนำเยี่ยมมาก!”

ฉีเหม่ยหลันชื่นชมอย่างเงียบๆ

หนิงหลันนั่งไขว่ห้างเอามือปิดหู เสียงเพลงดังเกินไป

มีเพียงจางเย่คนเดียวที่แสดงออกไม่เหมือนคนอื่น เขาอึ้งไปแล้ว

วงที่สองขึ้นแสดงแล้ว!

วงเฮฟวี่เมทัลจากญี่ปุ่น!

จากนั้นวงดนตรีที่สามเป็นหนึ่งตัวแทนจากวงดนตรีเฮฟวี่เมทัลของอเมริกา!

วงที่สี่มาจากฟินแลนด์!

วงที่ห้าเป็นของอังกฤษ!

ด้านล่างมีนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนหลายคนกำลังดื่มเหล้าและโบกแขนโยกตัวอย่างเมามัน!

“สุดยอดเลย!”

“เพราะมาก!”

“ฉันชอบวงสตรองวินด์!”

“ยังไงดนตรีสดก็ยอดเยี่ยมที่สุด!”

“ใช่แล้วใช่แล้ว มาวันนี้คุ้มแล้วล่ะ!”

“เฉินกวงกับจ้าวอู่ลิ่วออกมาหรือยัง?”

“ใกล้แล้วใกล้แล้ว!”

“น่าเสียดายพวกเราไม่มีเฮฟวี่เมทัลเป็นของตัวเอง!”

ฉีเหม่ยหลันแสดงความคิดเห็นหนึ่งประโยค

เจียงฮั่นเวยและต้าฉีก็กำลังคุยกันเรื่องนี้

มีเพียงจางเย่เท่านั้นที่ฟังการร้องเพลงของวงดนตรีบนเวทีด้วยท่าทางที่งุนงง!

นี่เหรอ?

นี่น่ะเหรอ?

เชี่ย พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ ฉันยังนึกว่าเพลงเฮฟวี่เมทัลของโลกนี้พิเศษมาก ฉันยังนึกว่าเพลงเฮฟวี่เมทัลของโลกนี้แตกต่างจากโลกเดิมของฉันเสียอีก มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? นี่มันไม่ใช่เพลงเฮฟวี่เมทัล แต่เป็นเพลงร็อกธรรมดาที่มีอยู่เกลื่อนกลาดหรอกหรือ?

แต่ประเทศจีนกลับไม่มีเนี่ยนะ?

นายกำลังล้อฉันเล่นอยู่เรอะไง??