ตอนที่ 542 ต้นแบบอาวุธเวท โดย Ink Stone_Fantasy
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้บรรยากาศในห้องประมูลเงียบสงัดขึ้นมาเล็กน้อย และผู้อาวุโสคิ้วขาวก็กลับมาท่าทีเกียจคร้านอีกครั้ง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะแฮ่ม! สหายที่อยู่ด้านล่างเสนอราคาสองล้านแปดแสนหินจิตวิญญาณประมูลหุ่นนักรบชุดนี้ ไม่ทราบว่ายังมีคนให้ราคาสูงกว่านี้หรือไม่?” พอชายหน้าขาวเห็นว่าเหตุการณ์สงบลงแล้ว ก็รีบดำเนินการประมูลต่อ
“สามล้าน!” ชายหนุ่มชุดเขียวทำเสียงฮึดฮัดและจ้องมองผู้อาวุโสคิ้วขาวบนเวทีทีหนึ่ง จากนั้นก็เสนอราคาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“สามล้านห้าแสน!” หญิงชุดม่วงที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามก็ไม่ยอมอ่อนข้อแต่อย่างใด
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่ยิ้มในใจอย่างขมขื่น และก็ยอมสงบปากแต่โดยดี
หากแย่งชิงต่อไปไม่เพียงแต่จะไร้ความหมายเท่านั้น หินจิตวิญญาณบนตัวก็ไม่พอด้วย
“ข้าเสนอสี่ล้านหินจิตวิญญาณ! ข้าจองหุ่นนักรบชุดนี้ไว้แล้ว!” ชายหนุ่มชุดเขียวหัวเราะอย่างน่าขยะแขยง และกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
ขณะนี้ไม่มีใครเสนอราคาประมูลของชิ้นนี้แล้ว ทุกคนต่างก็มองห้องที่นั่งพิเศษทั้งสอง และรู้สึกทอดถอนใจกับกำลังทรัพย์ของกลุ่มอิทธิพลทั้งสอง
“สี่ล้านห้าแสน!” หญิงสาวชุดม่วงยังคงกล่าวอย่างไม่รีบร้อน และไม่สนใจคำพูดสกปรกของชายหนุ่มชุดเขียว
“ห้าล้าน!” ชายหนุ่มชุดเขียวลุกขึ้นมา และเสนอราคาอันน่าตกใจทันที น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
อีกด้านหนึ่ง หญิงสาวชุดม่วงพยักหน้าเบาๆ ราวกับว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ จากนั้นก็หัวเราะอย่างเยือกเย็น และไม่เสนอราคาเพิ่มอีก
สุดท้ายหุ่นนักรบชุดนี้ก็ถูกชายหนุ่มชุดเขียวประมูลไปในราคาห้าล้านหินจิตวิญญาณ
หลังจากหยุดพักชั่วคราว ชายใบหน้าขาวสะอาดก็ทำท่าทางเชื้อเชิญชายผิวดำที่อยู่ด้านข้าง
ชายผิวดำพยักหน้าและพลิกฝ่ามือหยิบกล่องผ้าแพรที่ดูประณีตขึ้นมา หลังจากเปิดฝาออกจะเห็นว่ามีแหวนที่มีลวดลายสีดำวางอยู่ในนั้น
“ทุกท่านต่างก็เป็นผู้ที่รอบรู้ คิดว่าคงมองเจ้าสิ่งนี้ออก ไม่ผิด! ของประมูลชุดสุดท้ายชิ้นที่สองก็คือแหวนย่อส่วนวงนี้ พื้นที่เก็บของด้านในมีขนาดห้าสิบจั้ง นับว่าเป็นอาวุธเก็บของล้ำค่า ราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งล้านหินจิตวิญญาณ เสนอราคาเพิ่มได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าห้าหมื่น” ชายผิวขาวแนะนำของประมูลไปหนึ่งรอบ จากนั้นก็ประกาศให้เริ่มการประมูล
พอน้ำเสียงสิ้นสุดลงก็มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมา ประจักษ์ชัดว่าผู้คนส่วนมากต่างก็รู้จักแหวนวงนี้ดี
อย่างที่รู้ว่าแม้แต่ในแผ่นดินจงเทียนที่เป็นดินแดนของผู้ฝึกฝน ต่างก็ใช้ยันต์เก็บของเป็นหลัก
และยันต์เก็บของไม่เพียงแต่จะมีพื้นที่น้อย ซึ่งโดยทั่วไปมีขนาดไม่กี่จั้ง ทำให้ไม่อาจใส่สิ่งของที่มีขนาดใหญ่ได้ และชั้นจำกัดในนั้นก็มีจำกัด
ส่วนอาวุธเวทหรืออาวุธจิตวิญญาณที่ใช้เก็บของโดยทั่วไป ถ้าไม่มีขนาดใหญ่ก็จะมีพื้นที่น้อยกว่ายันต์เก็บของ ด้วยเหตุนี้จึงมีแค่ผู้ที่มีหน้ามีตาในนิกายหรือศิษย์ของตระกูลใหญ่เท่านั้น ถึงพอจะมีอาวุธเก็บของที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่พกติดตัวได้
อย่างเช่นหอยสังข์ย่อส่วนที่หลิ่วหมิงได้มาจากเผ่าเจ้าสมุทรนั้น ก็มีพื้นที่ภายในสามสี่จั้งเท่านั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันก็เป็นของล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง
แหวนย่อส่วนวงเล็กๆ วงนี้กลับมีพื้นที่เก็บของห้าสิบจั้ง มันย่อมเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกฝนโดยทั่วไปอยากได้
แต่ราคาหนึ่งล้านหินจิตวิญญาณก็ทำให้คนส่วนมากละทิ้งความคิดนี้ไป
หลิ่วหมิงจ้องมองแหวนงดงามบนแท่นสูงแล้ว ก็รู้สึกใจเต้นอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
ช่วงระยะเวลานี้ เขาไปซื้อวัตถุดิบโอสถจำนวนมากจากทุกหนทุกแห่ง และมักจะรู้สึกตลอดว่าการใช้ยันต์เก็บของมันไม่ค่อยสะดวกมากนัก ทุกครั้งยังต้องใช้เวลาในการจัดการไม่น้อย และแหวนตรงหน้านี้ก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการพอดี
“หนึ่งล้านหนึ่งแสนหินจิตวิญญาณ!” ผู้ที่มีกำลังทรัพย์มากยังคงมีอยู่ ไม่นานก็มีคนเสนอราคาอย่างรวดเร็ว
“หนึ่งล้านสองแสน!”
“หนึ่งล้านสองแสนห้าหมื่น!”
“หนึ่งล้านสามแสน!”
……
ผู้คนเริ่มแย่งประมูลกันอย่างคึกคัก ไม่นานราคาก็ถูกยกขึ้นสูงมาก
แต่คนที่ประมูลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกฝนที่อยู่ด้านล่าง น้อยมากที่จะมีคนที่อยู่ชั้นสองเสนอราคาออกมา ในสายตาของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่ของที่หายากแต่อย่างใด
“หนึ่งล้านแปดแสนหินจิตวิญญาณ” ผู้ที่เสนอราคาคือผู้เชี่ยวชาญการหลอมอาวุธของหอเฉวียนจวี้
“หนึ่งล้านเก้าแสน!” ภายในห้องที่นั่งพิเศษบนชั้นสอง บัณฑิตหนุ่มสำนักเฮ่าหรานก็เข้าร่วมประมูลด้วย
ทั้งสองต่างก็ช่วงชิงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
“สองล้านหนึ่งแสน!” น้ำเสียงของผู้อาวุโสแซ่เจ้าดูเคร่งขรึมขึ้นมา สิ่งของที่เขาถูกใจต่างก็มีคนช่วงชิงกับเขาถึงสองครั้ง ตอนนี้สีหน้าของเขาจึงดูไม่เป็นสุขเล็กน้อย
“สองล้านสองแสน!” บัณฑิตหนุ่มเผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา
ผู้อาวุโสแซ่เจ้าเงียบไปพักหนึ่ง ราคาขึ้นมาถึงจุดนี้ หินจิตวิญญาณบนตัวเขาก็ไม่พอเสียแล้ว
“สองล้านสองแสนห้าหมื่น!” ขณะนี้พลันมีเสียงแทรกเข้ามา
ผู้อาวุโสแซ่เจ้าเพ่งเล็งสายตาด้วยความตกใจเล็กน้อย คนที่เสนอราคาก็คือหลิ่วหมิงที่อยู่ตรงมุมนั่นเอง
“คนผู้นี้ช่างมีกำลังทรัพย์มากนัก ก่อนหน้านั้นใช้หนึ่งล้านห้าแสนหินจิตวิญญาณซื้อผงวิญญาณบริสุทธิ์ไป ตอนนี้ยังมีกำลังทรัพย์เหลือมาประมูลอีก หรือว่าเขาจะเป็นศิษย์ที่นิกายใหญ่ส่งมา หรือไม่ก็เป็นคนในตระกูลผู้ฝึกฝนที่มีชื่อเสียง?” ผู้อาวุโสแซ่เจ้าวิจารณ์อยู่ในใจสองสามประโยค จากนั้นก็ส่ายหน้าและถอนตัวออกจากการประมูลในครั้งนี้
“สองล้านสามแสนหินจิตวิญญาณ!” พอบัณฑิตหนุ่มเห็นว่ามีคนมาผสมโรงด้วย เขาก็จ้องมองหลิ่วหมิงด้วยสายตาเยือกเย็น จากนั้นก็เสนอราคาเพิ่มขึ้น
“สองล้านสามแสนห้าหมื่น!”
“สองล้านสี่แสน!”
“สองล้านห้าแสน!”
เมื่อหลิ่วหมิงเสนอราคาสองล้านห้าแสน บัณฑิตวัยกลางคนก็ห้ามปรามบัณฑิตหนุ่มไว้ และเอ่ยปากอย่างราบเรียบ
“ก็แค่แหวนเก็บของวงหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้หินจิตวิญญาณมากถึงขนาดนั้น หากครั้งนี้สามารถช่วยสำนักดึงผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถผู้นั้นมาเป็นพวกได้ ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญถังหลอมให้เจ้าก็ได้ แม้จะจุของได้ไม่มาก แต่ก็พอสำหรับเจ้าใช้แล้ว”
“ขอบคุณอาจารย์อา!” บัณฑิตหนุ่มมได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้าตอบรับด้วยความดีใจ
ที่จริงแล้ว ไหนเลยเขาจะไม่รู้ว่าหินจิตวิญญาณจำนวนนี้ไม่คุ้มค่ากับแหวนเก็บของวงหนึ่ง เพียงแต่ก่อนหน้านั้นทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และไม่อยากเสียหน้าก็เท่านั้น
“ในเมื่อไม่มีคนเสนอราคา แหวนวงนี้ก็ตกเป็นของสหายผู้นี้แล้ว” แหวนเก็บของขายได้ในราคาที่สูงเช่นนี้ ชายหนุ่มหน้าขาวย่อมรู้สึกพอใจมากแล้ว หลังจากกวาดสายตามองดูโดยรอบ และเห็นว่าไม่มีใครแย่งชิงแล้ว เขาก็จ้องมองหลิ่วหมิงด้วยสายตาอบอุ่น และประกาศออกมา
ผ่านไปซักพัก หลิ่วหมิงก็ไปชำระหินจิตวิญญาณที่ห้องโถงด้านข้างด้วยความสบายใจ เช่นนี้แล้วเขาก็เหลือหินจิตวิญญาณอีกล้านกว่าๆ เท่านั้น
“ของประมูลชุดสุดท้ายยังคงมีอีกชิ้นสินะ?” หลิ่วหมิงเก็บกล่องผ้าดิ้น และถามคนรับใช้ชุดดำ
“อ้อ! ใช่แล้ว ยังมีอีกชิ้นสุดท้าย” คนรับใช้คนนี้เป็นผู้ฝึกฝนระดับศิษย์จิตวิญญาณเท่านั้น ดูเหมือนจะคิดไม่ถึงว่าหลิ่วหมิงจะถามขึ้นโดยฉับพลัน จึงตอบด้วยความลนลานเล็กน้อย
หลิ่วหมิงพยักหน้าแล้วเดินไปที่ห้องประมูลทันที
ของประมูลชิ้นสุดท้ายจะต้องเป็นของประมูลที่แท้จริงของงานประมูลในครั้งนี้อย่างแน่นอน
“หรือว่าสมบัติชิ้นสุดท้ายก็คือ……” พอนึกถึงข่าวลือในตลาดหลิ่วหมิงก็ใจเต้นขึ้นมา และแอบทำการคาดเดาในใจ
……
ในที่สุดการประมูลรอบสุดท้ายก็มาถึง ชายหน้าขาวที่อยู่บนเวทีเปลี่ยนจากรอยยิ้มที่นุ่มนวลกลายเป็นสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมา และชายผิวดำที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าจริงจังมาก
แม้แต่ผู้อาวุโสคิ้วขาวระดับแก่นแท้ก็นั่งยืดตัวตรง สีหน้าที่เคยง่วงเหงาหาวนอนแลครูเคร่งขรึมขึ้นมา
“สมบัติชิ้นต่อไปเป็นของประมูลชิ้นสุดท้ายของงานประมูลในครั้งนี้ ซึ่งเป็นของประมูลสุดท้ายที่แท้จริง เชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในที่นี้คงเคยได้ยินข่าวคราวมาบ้างแล้ว” ขณะที่พูด ชายผิวขาวก็พยักหน้าให้กับชายผิวดำที่อยู่บริเวณนั้น
ชายผิวดำถอนหายใจออกมา และก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็มาปรากฏตัวบนเวทีแล้วโบกมือไปด้านหน้า
แสงลำหนึ่งกระพริบผ่านไป ชั้นไม้ขนาดเล็กๆ ปรากฏตัวบนแท่นประมูล มีมีดเล็กสีเขียวที่ยาวครึ่งฉื่อวางขวางอยู่บนนั้น
คมมีดโค้งงอเล็กน้อย พื้นผิวเป็นสีเขียวมรกต ดูไม่ออกว่าสร้างขึ้นมาจากวัสดุอันใด ตัวมีดเปล่งแสงสีเขียวแวววาว มีอักขระเล็กๆ จำนวนมากหมุนวนอยู่บนพื้นผิวตลอดเวลา และด้ามมีดสีทองก็มีหยกแข็งสีเขียวเลี่ยมฝังอยู่ แลดูลึกลับเป็นอย่างมาก
แม้ว่าจะไม่มีคนกระตุ้น มีดเล็กสีเขียวหยกยังคงสั่นสะท้านเบาๆ แลดูคล้ายอสูรร้ายที่นอนจำศีล ประจักษ์ชัดว่ามันเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ
พอมองอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าบนชั้นไม้จะมีด้ายแดงรัดพันมีดเล็กสีเขียวไว้เป็นชั้นๆ แต่ครู่ต่อมาก็ถูกลำแสงที่มีดเล็กแผ่ออกมาตัดขาดจนหมดสิ้น จากนั้นมันเกิดขึ้นซ้ำเดิมไปเรื่อยๆ ทำให้มีดเล็กไม่อาจหลุดออกมาได้
“เป็นอย่างที่ทุกท่านเห็น ของประมูลชิ้นสุดท้ายเป็นต้นแบบอาวุทเวทที่มีสามสิบหกชั้นจำกัด ‘มีดปีกตาข่าย’ ผู้เชี่ยวชาญเฟ่ยของหอการค้าเชียนเหมิงได้รวบรวมสมบัติฟ้าดินจำนวนมาก และใช้เวลาห้าปีเต็มๆ ถึงหลอมขึ้นมาได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นข้าไม่ขอพูดมากแล้ว เชื่อว่าทุกท่านคงรู้อยู่แก่ใจดี” ชายหน้าขาวค่อยๆ กล่าวออกมา
“นี่ก็คือต้นแบบอาวุทเวทหรือ เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก!”
“อานุภาพแข็งแกร่งมาก เมื่อครู่ข้าใช้จิตลองดูแล้ว ยังไม่ทันได้สัมผัสก็ถูกผลักออกมา สมกับเป็นสมบัติระดับสุดยอดจริงๆ!”
“หากได้มาไว้ในมือ พอฟันมีดนี้ลงไปเกรงว่าอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดก็คงจะขาดเป็นสองส่วน”
ฝูงชนพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา มีคนกล่าวชื่นชมด้วยความประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา
ผู้ที่เคยรู้เรื่องนี้มาบ้าง พอได้เห็นของจริงในตอนนี้ต่างก็มีสีหน้าเร่าร้อนขึ้นมา และอยากจะช่วงชิงมันมาให้ได้ใจจะขาด
“ไม่พูดอะไรมากแล้ว ตอนนี้เริ่มการประมูลได้ ราคาต่ำสุดสี่ล้านหินจิตวิญญาณ เสนอราคาเพิ่มได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสน” ภายใต้การกวาดสายตามองของชายผิวขาว เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างพอใจต่อปฏิกิริยาตอบสนองของผู้คนในนั้นมาก เขาจึงประกาศออกมาในทันที
ขณะเดียวกันก็โบกมือหยิบผ้ามุ้งสีแดงมาคลุมมีดเล็กไว้
การปิดบังอำพรางเช่นนี้ทำให้คนจำนวนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจมาก แต่ในเมื่อชื่อเสียงของหอการค้าเชียนเหมิงยังอยู่ ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา แต่กลับกระตุ้นความปรารถนาของผู้คนมากขึ้น
“สี่ล้านหินจิตวิญญาณ!” คนสวมชุดสีเทาดูไม่เตะตาที่นั่งอยู่ตรงมุมรีบตะโกนออกมา
“สี่ล้านห้าแสน!” จากนั้นก็มีน้ำเสียงสูงๆ ของคนผู้หนึ่งดังออกมา ดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มผู้ฝึกฝนอิสระ เขากัดฟันกรอดๆ ราวกับจะกดดันผู้คนไว้ทั้งหมด
…………………………………