ตอนที่ 29 ศิษย์ภายใต้สำนัก Ink Stone_Fantasy
สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วสิบสำนักใหญ่แห่งดินแดนจิตโลกา การจะเป็นศิษย์ภายใต้สำนักได้นั้นช่างยากเย็นเป็นที่สุด!
แต่สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ค่อนข้างชอบพอกับประชากรของรัฐเมฆทักษิณา ถึงอย่างไรการต่อสู้อย่างลับๆ ในรัฐประเทศจำนวนมากมาย หรือแม้กระทั่งการเกิดสงครามก็มีอยู่บ่อยๆ ประชากรของตนก็ย่อมควรค่าแก่การเชื่อมั่นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว!
“อิงซานเสวี่ยอิง ศิษย์ตระกูลอิงซาน เกิดมาก็เป็นสมาชิกตระกูลอ๋องโหวของพวกเรารัฐเมฆทักษิณาแล้ว” ผู้แกร่งกล้าขั้นอลวนสิบห้าคนรวมตัวกันอยู่ภายในโถงตำหนักแห่งหนึ่ง ตรงจุดศูนย์กลางของกลุ่มพวกเขามีภาพปรากฏอยู่ภาพหนึ่ง นั่นก็คือภาพเหตุการณ์ที่หนุ่มน้อยอาภรณ์ขาวผู้หล่อเหลางดงามคนหนึ่งเข้าสู่วังปฐมเทพ
“ถือกำเนิดมาก็มีพรสวรรค์ร้ายกาจ ดูกลิ่นอายของวิญญาณ ก็ไม่เคยเร่งเวลามาก่อน บำเพ็ญมาจนถึงตอนนี้ก็เพียงแค่ห้าล้านปีเท่านั้นเอง”
“ฮ่าฮ่า เขาบุกผ่านชั้นที่ห้าของวังปฐมเทพแล้วล่ะ”
“ทุกท่าน… การรับเขาเข้าสู่สำนัก ไม่มีความเห็นต่างกระมัง”
“ไม่มีความเห็นต่าง”
“ผ่านแล้ว”
“เด็กน้อยจากบ้านแม่เฒ่าอิงซาน ผ่านแล้ว ผ่านแล้ว”
ผู้แกร่งกล้าขั้นอลวนสิบห้าคนในที่นั้นพูดไปพลาง หัวเราะไปพลาง บรรยากาศผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้แม่เฒ่าอิงซานก็เบิกทางเอาไว้ให้หมดแล้ว ทุกคนในที่นั้นต่างก็เห็นด้วยกันหมด
การพิจารณาตัดสินให้ผ่านนั้นก็ผ่อนปรนให้กับประชากรของตนเองมากกว่า ถ้าหากเป็นผู้บำเพ็ญของรัฐประเทศอื่นๆ นึกอยากจะเป็นศิษย์ภายใต้สำนัก การพิจารณาก็จะเข้มงวดกว่าเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าพรสวรรค์จะไม่ด้อยไปกว่าตงป๋อเสวี่ยอิง เงื่อนไขพลังยุทธ์ก็จะสูงกว่า หรือแม้กระทั่งอาจมี ‘ภารกิจเข้าสู่สำนัก’ ให้ไปทำ เพื่อทดสอบระดับความจงรักภักดีของศิษย์
เพราะว่าศิษย์นอกสำนัก ไม่สนใจความจงรักภักดี สามารถไปคารวะเข้าสำนักอื่นได้โดยสมบูรณ์
แต่เมื่อใดที่ถูกรับเข้ามาภายในสำนักแล้ว กลายเป็นศิษย์ภายใต้สำนัก หากไม่มีการยินยอมจากตัวประมุขรัฐเมฆทักษิณาเอง ก็ห้ามฝ่าฝืนเข้าสู่สำนักอื่นๆ อีกเป็นอันขาด เมื่อใดที่กล้าทำเช่นนั้น นั่นก็คือโทษกบฏอันยิ่งใหญ่! จะต้องเผชิญกับการไล่ล่าสังหาร!
แน่นอนว่า…
มีเงื่อนไขอันเข้มงวดมากมาย แต่การเป็นศิษย์ภายใต้สำนักนั้นก็มีประโยชน์มากมายเหลือคณา
……
ตงป๋อเสวี่ยอิงเดินผ่านประตูทางเข้าของวังปฐมเทพออกมา
“ที่อากาศอันสับสนอลหม่าน คู่ต่อสู้ภายในเจดีย์ดาวล้วนเป็นฝูงมารผลาญทำลาย ทว่าการทดสอบภายในวังปฐมเทพนั้นกลับมีคู่ต่อสู้ที่แตกต่างกันมากมายหลายแบบ” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบรำพึง ถึงแม้ว่าวังปฐมเทพจะมีลูกไม้มากกว่า แต่ว่าระดับพลังยุทธ์ก็เหมือนกันกับเจดีย์ดาวอย่างแท้จริง แน่นอนว่ามีชั้นที่สิบเพิ่มขึ้นมาจากเจดีย์ดาว
“อิงซานเสวี่ยอิง ยินดีด้วย ยินดีด้วย” ท่านโหวเฉิงหมิงยืนคอยท่าอยู่ที่ด้านนอกวังปฐมเทพพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าได้ข่าวมาแล้ว การพิจารณาของเจ้าผ่านฉลุยทั้งหมด ตอนนี้เจ้าก็เป็นศิษย์ภายใต้สำนักของสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้าแล้ว อ้อ อีกประเดี๋ยวพวกเราก็ไปรับป้ายประจำตัวศิษย์ภายใต้สำนัก เสื้อผ้าอาภรณ์ และของอื่นๆ ของเจ้ากันเถิด ส่วนคูหาที่พักของเจ้า เจ้าก็ไปเลือกเอาเองได้เลยนะ”
“ขอบคุณท่านโหวเฉิงหมิงด้วย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด
“เรื่องเล็กเท่านั้นน่า ไปๆๆ ไปรับป้ายประจำตัวเสีย”
ท่านโหวเฉิงหมิงกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง
ณ ตำหนักผู้อาวุโสแห่งสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์
“อิงซานเสวี่ยอิง นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็คือศิษย์คนที่สามพันสามร้อยเก้าสิบสองของสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของพวกเราแล้ว” ชายชราผมเทาผู้หนึ่งที่มีกลิ่นอายอันใหญ่โตถืออาภรณ์อย่างนับถือแล้วส่งให้กับตงป๋อเสวี่ยอิง บนอาภรณ์ยังมีป้ายประจำตัวชิ้นหนึ่งวางอยู่ด้วย “ในภายหน้าเจ้าก็จะมิได้เป็นเพียงแค่ศิษย์ตระกูลอิงซานเท่านั้นอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นศิษย์ของ ‘สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์’ หนึ่งในสิบสำนักใหญ่แห่งดินแดนจิตโลกา จงทุ่มเทจิตใจให้กับการบำเพ็ญ เป็นขั้นอลวนในเร็ววัน ศิษย์สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้า หากมิได้เป็นขั้นอลวน นั่นก็นับเป็นเรื่องน่าละอายแล้ว”
“ศิษย์เข้าใจขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงรับมาอย่างนอบน้อม
เขาย่อมต้องเข้าใจดีอยู่แล้ว
การจะคารวะเข้าสู่สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์นั้นเดิมทีก็มีเงื่อนไขอันเข้มงวดมากอยู่แล้ว ประชากรของรัฐเมฆทักษิณานั้นตามปกติแล้วต่างก็ต้องมีพลังยุทธ์ระดับชั้นที่เจ็ดของขั้นรวมเป็นหนึ่งจึงจะสามารถเป็นศิษย์ภายใต้สำนักได้! ดังนั้นคำพูดที่ว่า ‘มิได้เป็นขั้นอลวนก็เป็นเรื่องน่าละอาย’ ก็มิใช่คำพูดที่ผิดเลย
ศิษย์สามพันกว่าคนนี้เป็นจำนวนคนทั้งหมดนับตั้งแต่เปิดสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์มาจนกระทั่งถึงบัดนี้
เวลาผ่านมาเนิ่นนาน ที่ตายตกไปก็มีเป็นจำนวนมาก ศิษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้เกรงว่าคงมีอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น! แต่ศิษย์ภายใต้สำนักไม่กี่ร้อยคนนี้ก็ทำให้สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ยังคงมีชื่อเสียงเลื่องลือเช่นเดิม ในบรรดาศิษย์ภายใต้สำนักไม่กี่ร้อยคนนี้ มีเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่เป็นประชากรของรัฐเมฆทักษิณา ส่วนใหญ่จำนวนมากต่างก็มาจากรัฐประเทศอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีเงื่อนไขอันเข้มงวดกับคนจากรัฐประเทศอื่นๆคารวะเข้าสู่สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ แต่ก็มิอาจต้านทาน…จำนวนที่มากมายเหลือเกิน ในท้ายที่สุดก็มีผู้มีพรสวรรค์จำนวนมากที่คารวะเข้าสู่สำนัก เห็นได้ชัดว่าสถานะสิบสำนักใหญ่นี้ช่างมีแรงดึงดูดอย่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ตงป๋อเสวี่ยอิงดูเหมือนว่าจะเป็นศิษย์ภายใต้สำนักได้อย่างค่อนข้างง่ายดาย
อันที่จริงพรสวรรค์ที่เขามีมาแต่กำเนิดนั้นจัดได้ว่าเป็นสิบอันดับแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐเมฆทักษิณาเลยทีเดียว
ในด้านการหยั่งรู้ก็ไปถึงขั้นรวมเป็นหนึ่งระดับชั้นที่ห้าได้ภายในห้าล้านปี
พรสวรรค์และการหยั่งรู้ล้วนสูงส่ง อีกทั้งยังเป็นคนกันเอง นี่จึงทำให้เข้ามาได้อย่างง่ายดาย
******
สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ ถึงแม้ว่าจะมีผู้บำเพ็ญจำนวนนับไม่ถ้วนมุ่งหน้ามา
แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นศิษย์นอกสำนักกันทั้งสิ้น ศิษย์นอกสำนักมาถึงที่นี่ก็ได้รับการชี้แนะที่ดียิ่งขึ้น!
“ศิษย์ภายใต้สำนัก”
ตงป๋อเสวี่ยอิงยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ด้านหลังก็คือคูหาแห่งหนึ่ง มารรับใช้จื่อไป๋ เถียนอี้จือ สาวใช้เหยียนอวี๋ สิงห์เมฆาทะมึนสองตน และองครักษ์ติดตามคนอื่นๆ ต่างก็เตรียมพร้อมกันอยู่ก่อนแล้ว
“ในภายหน้าก็นับว่าข้าเกี่ยวโยงกับสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดพึมพำ
“สวบ”
ตงป๋อเสวี่ยอิงเคลื่อนผ่านเวหา ทะยานไปยังที่ไกลออกไป
สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์มีกฎเกณฑ์เคร่งครัด ขอบเขตการเคลื่อนไหวของบรรดาศิษย์นอกสำนักเหล่านั้นต่างก็อยู่ในอาณาบริเวณรอบนอก อาณาเขตสำคัญภายในสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเหล่าผู้ติดตามของศิษย์ภายใต้สำนักก็มีขอบเขตการเคลื่อนไหวอันจำกัด
ดังนั้นอาณาเขตสำคัญภายในนี้ก็ร้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“โลกหนังสือสะสม”
ตงป๋อเสวี่ยอิงเคลื่อนผ่านเวหามาถึงยังยอดเขาที่แขวนลอยอยู่กลางเมฆหมอกแห่งหนึ่ง บนยอดเขามีถ้ำสูงหลายสิบจั้งอยู่แห่งหนึ่ง บนถ้ำมีตัวอักษรเขียนว่า ‘หนังสือสะสม’ ซึ่งก็คือสถานที่เก็บตำราศาสตร์ลับที่ตงป๋อเสวี่ยอิงเห็นความสำคัญมากที่สุดในการคารวะเข้าสู่สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์
เมื่อย่างเท้าเข้าสู่ถ้ำ ห้วงมิติโดยรอบก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
“หืม” ตงป๋อเสวี่ยอิงมองไปรอบๆ ตนเองเข้ามาในมิติอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
ภายในมิตินี้มีตำราจำนวนนับไม่ถ้วนล่องลอยอยู่
มีบางส่วนของตำราเหล่านี้ที่เป็นหนังสือเบ็ดเตล็ด แน่นอนว่าที่มีมากกว่าก็คือตำราศาสตร์ลับนานาชนิด ทั้งยังมีประสบการณ์การบำเพ็ญที่ผู้อาวุโสมากมายยทิ้งเอาไว้ให้ อย่างเช่นประสบการณ์การบำเพ็ญวิชาเมฆทักษิณาทิพย์สิบสองกระบวนท่า ในบรรดาตำราจำนวนนับไม่ถ้วนก็มีวิชาเมฆทักษิณาทิพย์สิบสองกระบวนท่าฉบับสมบูรณ์อยู่ด้วย
มองไปปราดหนึ่ง ภายในห้วงมิติอันกว้างใหญ่แห่งนี้ก็มีเงาร่างสิบกว่าสายกำลังพลิกอ่านตำราอยู่อย่างเงียบๆ หรือไม่ก็กำลังบำเพ็ญหยั่งรู้อยู่ อย่างน้อยผู้ที่สามารถเข้ามาได้ก็ต้องเป็นศิษย์ภายใต้สำนัก
“ดูตำราในตำนานพวกนั้นสิ”
ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจอยู่บ้าง เขาเหินมาถึงตรงศูนย์กลางของห้วงมิติอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ที่นั่นมีเสาหินค้ำฟ้าอยู่ต้นหนึ่ง บนเสาหินค้ำฟ้านั้นมีตัวอักษรอยู่หลายแถว
“เคล็ดวิชาสามชาติภพ ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบห้าแสนแต้ม”
“เคล็ดร่างแยก ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบสามแสนแต้ม”
“ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบสามแสนแต้ม”
“เคล็ดผนึกห้าภาพ ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบสองแสนแต้ม”
“ร่างเทพดารา ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบสองแสนแต้ม”
“เคล็ดร่างแปรนอกกาย ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบหนึ่งแสนแต้ม”
“เคล็ดกลายเป็นอากาศธาตุไร้สลาย ต้องแลกเปลี่ยนด้วยแต้มความดีความชอบหนึ่งแสนแต้ม”
……
ตงป๋อเสวี่ยอิงที่ได้เห็นตัวอักษรหลายแถวนั้นดวงตาเป็นประกาย
ข้างบนนี้มีมหาศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา อีกทั้งยังมีศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกาแบบธรรมดาอีกด้วย ศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกา… คงจะเป็นศาสตร์การส่งถ่ายผ่านระยะทางอันไกลโพ้นของตน ต้องการเพียงแค่ห้าหมื่นแต้มความดีความชอบมาแลกเปลี่ยนเท่านั้น
“ตำราศาสตร์ลับในตำนาน” ตงป๋อเสวี่ยอิงอุทาน เขาได้ล่วงรู้สิ่งเหล่านี้จากหนังสือเบ็ดเตล็ดมาก่อนแล้ว
สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์เป็นถึงสิบสำนักใหญ่ ก็ย่อมต้องสะสมตำราเอาไว้มากพอสมควร มีบางส่วนที่มีมาตั้งแต่ก่อนสงครามประเทศโบราณครั้งแรก มีบางส่วนที่มีเพียงหนึ่งเดียวไม่มีสองในดินแดนจิตโลกา แม้กระทั่งหกรัฐโบราณก็ยังต้องมาหยิบยืมเอาจากที่นี่ แน่นอนว่าย่อมต้องจ่ายเป็นมูลค่ามหาศาล แน่นอนว่า…พื้นฐานของหกรัฐโบราณนั้นแข็งแกร่งกว่าสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์เป็นอันมากอยู่แล้ว พวกเขาก็มีตำราศาสตร์ลับอันแข็งแกร่งเป็นหนึ่งไม่มีสองอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ตนเองผู้มาจากรัฐประเทศภายนอกคนหนึ่ง นึกอยากจะคารวะเข้าสู่สำนักชั้นยอดบางแห่งในหกรัฐโบราณน่ะหรือ ก็ยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง ผู้มาจากรัฐประเทศภายนอกโดยทั่วไปก็มีบ้างที่เผชิญกับการเลือกปฏิบัติ
ดีร้ายอย่างไรสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ก็เป็นรัฐประเทศของตน ทั้งยังเป็นสิบสำนักใหญ่แห่งดินแดนจิตโลกาอีกด้วย ก็เพียงพอแล้ว
“น่าเสียดายที่ตำราบนเสาค้ำฟ้าอันมีชื่อเสียง ทั้งหมดล้วนต้องใช้แต้มความดีความชอบมาแลกเปลี่ยน แต่ก็ไม่เลวนักหรอก นี่คือราคาที่ให้ศิษย์ภายใต้สำนักมาแลกเปลี่ยน ถ้าหากเป็นผู้มาจากภายนอก อยากจะเรียนก็ยังไม่มีที่ให้เรียนเลยเสียด้วยซ้ำ” ตงป๋อเสวี่ยอิงรำพึง สายตากวาดมองตำราจำนวนนับไม่ถ้วนภายในห้วงมิติอันกว้างใหญ่นี้ปราดหนึ่ง ส่วนตำราจำนวนนับไม่ถ้วนของห้วงมิติอันกว้างใหญ่นี้นั้นดูได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
…………………………………….