ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 540 ทำให้ตื่นตระหนก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ในการต่อสู้ของจอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ คนอื่นๆ ล้วนหลบไม่ให้โดนลูกหลง พากันถอยหนีไปด้านข้าง

เยี่ยนจ้าวเกอมองสวีเฟย ส่งกระแสเสียงเบาๆ หลายประโยค

สวีเฟยดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย ผงกศีรษะลง

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเหาะขึ้นฟ้า กางแขนออก เปลี่ยนท่าหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกเป็นท่าหมัด เหมือนคุนเผิงออกจากน้ำ

มันต่อยหมัดหนึ่งใส่เหนียนเชินเหมือนหอกยักษ์ทะลุฟ้าดิน

ร่างญาณวรยุทธ์ปรากฏเหนือศีรษะของเหนียนเชินอีกครั้ง จับตัวกันกลายเป็นร่างที่มีศีรษะเป็นมังกรตัวเป็นมนุษย์ กรงเล็บที่มีเก้านิ้วข้างหนึ่งข่วนลงมา

นิ้วมังกรทั้งเก้าซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงเหนือร่างมังกรโลหิตของเขา แต่เมื่อเหลือแค่ปลอกนิ้วแปดปลอก พลังจึงอ่อนแอลงอย่างช่วยไม่ได้

อาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างนิ้วมังกรทั้งเก้ามีความพิเศษอยู่ หากนิ้วทั้งเก้าแยกจากกันและกันทั้งหมด จะยังก่อให้เกิดปฏิกิริยาได้อยู่ ทว่าหากหายไปนิ้วหนึ่ง พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์จะอ่อนแอ่กว่าตอนที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบ “เก้านิ้วท่านยังไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแปดนิ้ว”

เหนียนเชินเงียบงัน พ่นลมหายใจ สั่นไหวจุดลมปราณทั่วทั้งร่าง

มังกรสีเลือดหลายตัวบินออกมาจากในจุดลมปราณทั่วร่าง ส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนแก้วหู

เขาขยับลูกกระเดือก มังกรสีเลือดหลายตัวบนร่างเขาทำแบบเดียวกัน พากันขยับลูกกระเดือกครั้งหนึ่ง

ลูกกระเดือกของมังกรโลหิตทุกตัวพองขึ้นมาเหมือนกับเนื้องอก

วินาทีถัดมา มังกรนับหมื่นนับพันก็อ้าปากคำรามขึ้น ไข่มุกสีเลือดหลายลูกถูกพ่นออกมาจากปากมังกร จากนั้นก็ระเบิดออกกลางอากาศ!

เคล็ดวิชาลับสืบทอดของสำนักมังกรโลหิต มังกรโลหิตพ่นไข่มุก!

ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอเคยเห็นไห่เจิ้งเซิน ซึ่งเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณของสำนักมังกรโลหิตใช้วิชานี้ อีกฝ่ายมีพลังเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเท่าตัวในทันที

ตอนนี้เมื่อเหนียนเชินซึ่งเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมใช้วิชานี้ ละอองเลือดกว้างใหญ่ก็พลันครอบคลุมฟ้าดินไว้ในทันที

ละอองเลือดทั้งหมดถูกร่างมังกรโลหิตเหนือศีรษะของเหนียนเชินดูดซับ จากนั้นลูกกระเดือกของร่างมังกรโลหิตก็ยกขึ้น

ร่างมังกรโลหิตอ้าปาก ไข่มุกสีเลือดขนาดยักษ์ลูกหนึ่งปรากฏออกมา ประกายโลหิตหลายสายส่องแสง ทำให้มิติบริเวณรอบๆ ถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน

ไข่มุกสีเลือดนั้นมีขนาดมหึมาและละลานตา ลอยค้างอยู่กลางอากาศเหมือนกับดวงอาทิตย์สีเลือดดวงหนึ่ง

จากนั้นไข่มุกสีเลือดก็แตกออก ประกายโลหิตนับไม่ถ้วนสาดลงบนปลอกนิ้วมังกรทั้งแปด พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์พลันถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง

กรงเล็บข่วนลง อากาศเหมือนปรากฏรอยแตกสีเลือดแปดสาย จากนั้นก็รวมตัวและกดอัดไปยังจุดเดียว เป้าหมายคือพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ร่างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกลอยกลางอากาศ กำปั้นที่เหมือนกับคมหอกกวาดเป็นครึ่งวงกลม

เมื่อครึ่งวงกลมนี้ปรากฏออกมา โลกด้านหน้าราวกับถูกครอบคลุมอยู่ด้านใน รอยกรงเล็บสีเลือดแปดสายนั้นก็ไม่ยกเว้น

รอยกรงเล็บสีเลือดระเบิดออกด้านนอกอย่างบ้าคลั่ง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้ท่าหอกเทพสมุทรสุดขอบโลก วาดหอกเป็นววงโค้ง ป้องกันรอยกรงเล็บสีเลือดแปดสาย ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุดันกลางอากาศ

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยืนอยู่ที่เดิม ร่างมังกรโลหิตของเหนียนเชินสั่นไหว ถูกกระแทกจนซวนเซ

ทว่าบนใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ปรากฏแววได้ใจ จิตใจกลับรู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้างด้วยซ้ำไป

ห่างออกไปพลันมีปราณสีดำสายหนึ่งฝ่ามหาสมุทร ฟันมายังเกาะน้อย!

เหนียนเชินที่อยู่กลางอากาศเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าหนุ่ม คนที่เจ้าล่วงเกินมีมากเกินไป คนที่จะสู้กับเจ้าไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว!”

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ประหลาดใจ “คนของสำนักตาข่ายปีศาจหรือ?”

ชายหนุ่มรู้จักปราณดาบสีดำตรงหน้า เป็นวรยุทธ์ของสำนักตาข่ายปีศาจ ปราณดาบวิหคทมิฬ

คมดาบสีดำอันน่าพรั่นพรึงฟันใส่เกาะ น่านน้ำรอบๆ ถูกแยกออก เกาะน้อยพลันถูกฟันเป็นสองส่วน ก้อนหินถูกผ่าออกไปสองทาง ปราณดาบทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าเหมือนกับปาดเต้าหู้ คิดฟันเยี่ยนจ้าวเกอให้กลายเป็นสองซีกไปพร้อมเกาะ

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่เคลื่อนไหว แขนเสื้อของเยี่ยนจ้าวเกอเปล่งแสงสีเขียว กระบี่บึงมรกตคำรามออกมาเป็นเสียงมังกร ก่อนจะกลายร่างเป็นมังกรเขียวยิ่งใหญ่ ขวางปราณดาบสีดำที่น่ากลัวเอาไว้

ปราณดาบสีดำแหลกสลาย ประกายโลหิตสว่างวาบในความมืดมิด

ในท่าดาบของผู้มายังซ่อนท่าดาบเอาไว้ ส่วนลึกของปราณดาบวิหคทมิฬแฝงไว้ด้วยปราณดาบทะเลเลือด!

ประกายโลหิตเส้นหนึ่งฟันใส่ลำคอของมังกรที่เกิดจากประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอย่างเหี้ยมหาญ เหลือเส้นโลหิตสายหนึ่งไว้บนคอมังกร

เส้นโลหิตขยายออกอย่างรวดเร็ว กำลังจะฟันศีรษะมังกรเขียวทิ้ง!

ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอสาดประกายเย็นเยียบ เกล็ดทั่วร่างมังกรสยายออก ปล่อยประกายแสงสีเขียวครอบฟ้าครอบแผ่นดินออกมา

ในดวงตาทั้งสองข้างของมังกรระเบิดประกายเย็นเยียบน่าตื่นตระหนก เสียงร้องที่ดังชนิดเจาะทะลุชั้นฟ้าดังขึ้น มังกรเขียวสะบัดตัว ประกายกระบี่ขยายออกอย่างบ้าคลั่ง

เยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบวนท่าเปลี่ยนแปรสวรรค์ สภาวะกระบี่มังกรในแขนเสื้อถูกกระตุ้นถึงขีดสุด ปะทะกับปราณดาบทะเลเลือดของอีกฝ่าย

วินาทีถัดมา มังกรเขียวพลันขดตัวซ่อนในหมู่เมฆ เหมือนกับหายไปในชั่วพริบตา กลายเป็นเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง

หลังประกายโลหิตเส้นนั้นหยุดชะงักลง ก็คิดจะสำแดงฤทธิ์ต่อ แต่กลับสูญเสียเป้าหมายไป

ด้วยวิชามังกรเมฆาซ่อนกระบี่ มังกรเขียวที่เกิดจากประกายกระบี่เดี๋ยวใหญ่เดี๋ยวเล็ก เปลี่ยนแปลงในขณะเหาะเหิน แล้วระเบิดอีกครั้งในพริบตาต่อมา ม้วนประกายโลหิตเส้นนั้น ก่อนจะออกแรงบดขยี้!

ประกายโลหิตที่ดุดันน่ากลัวก่อนหน้านี้ถูกทำลายในทันทีทันใด!

แต่ว่าท่ามกลางประกายโลหิตที่แหลกสลาย พลันปรากฏดาบยาวที่เหมือนกับกระดูกขาวขึ้นเล่มหนึ่ง

ดาบกระดูกนี้ฟันใส่ตัวมังกรเขียวอย่างสะเทือนเลือนลั่น

จากนั้นคนที่ถูกเกราะกระดูกห่อหุ้มไว้ทั่วร่างก็ปรากฏตัวออกมา

เกราะกระดูกเป็นมีลักษณะเป็นหนามแหลมที่อยู่ในแนวตั้ง ทำให้ผู้สวมใส่ดูน่ากลัวถึงขีดสุด

ปราณชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ หวาดผวา “เจ้าสำนักตาข่ายปีศาจ ‘ปีศาจฟ้า’ เฝิงจิ่งเชิง!”

ผู้มาเยือนก็คือเจ้าสำนักตาข่ายปีศาจ หนึ่งในหกพรรคมาร ถูกจัดเป็นอันดับที่สี่ในจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบคนแรกแห่งโลกลอยน้ำ เฝิงจิ่งเชิง!

กระบวนท่าระดับสูงของสำนักตาข่ายปีศาจ ดาบกระดูกตาข่ายนรกนี้ ครั้นเขาสำแดงพลังของมันออกมา ร่างญาณวรุยทธิ์กระดูกตาข่ายนรกแทบจะรวมกับเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน

เขาคิดฟันมังกรเขียวที่เกิดจากสภาวะกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอไปพร้อมกันในดาบเดียว!

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าราบเรียบ ประกายเย็นเยียบในดวงตาทั้งสองข้างหายไป กลายเป็นสับสนและว่างเปล่า

อาคมมากมายรวมตัวกันกลางฟ้าดิน จากนั้นก็กลายเป็นค่ายกลอาคมอันลี้ลับค่ายหนึ่ง ลอยอยู่บนคมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ

มังกรเขียยวหายสาปสูญ สรรพสิ่งคล้ายกลับสู่ความโกลาหล

เมื่อความโกลาหลสูญสลาย ก็ก่อเกิดเป็นพลังอันอันน่ากลัว หลอมรวมเข้าไปในกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ!

กระบี่และดาบปะทะใส่กัน พลังอันเหี้ยมหาญกระจายออกไปสองด้าน ใจกลางของคนทั้งสองกลายเป็นเส้นแบ่ง กั้นเกาะด้านล่างออกเป็นสองส่วน ทั้งยังขยายออกไปสองฟากข้างของมหาสมุทร ผ่าทะเลสีมรกตออก

เมื่อทุกคนเห็นค่ายกลอาคมของเยี่ยนจ้าวเกอ หลังจากงงงวยแล้ว ต่างก็รู้สึกตื่นตระหนก

“มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณระยะกลาง?!”

“ก่อนหน้านี้ที่ระเบียงสมุทร เขาเพิ่งเลื่อนเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณระยะต้นไม่ใช่หรือ?”

ใบหน้าของเจ้าสำนักตาข่ายปีศาจเฝิงจิ่งเชิงที่ถูกเกราะกระดูกคลุมไว้ไม่เห็นสีหน้า แต่ว่าประกายในดวงตาทั้งสองข้างที่เผยออกมาก็เกิดความประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน

ทุกคนมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ต่างคิดไม่ถึงว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกถูกเหนียนเชินและนิ้วมังกรทั้งเก้าพัวพันไว้ ส่วนมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณอีกคนหนึ่งลอบโจมตีเยี่ยนจ้าวเกอ กลับยังทำอะไรไม่ได้

กระนั้นยามนี้ ไกลออกไปมีเสียงสายฟ้าดังขึ้นอีก เสียงอันน่าอึดอัดเข้ามาใกล้จากก้นทะเล จากนั้นก็ระเบิดออกมาข้างใต้เยี่ยนจ้าวเกอ

เกาะด้านล่างพังทลายลงโดยสิ้นเชิง แสงอัสนีเจิดจ้าพุ่งขึ้นท้องฟ้า!

เยี่ยนจ้าวเกอหยีตาลงเล็กน้อย ‘วรยุทธ์เช่นนี้ในโลกผืนสมุทร เป็นสำนักอัสนีเรืองรองในหกพรรคมารกระมัง? แต่ข้ากลับไม่เคยพบสำนักนี้มาก่อนเลย…’

ความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอทำงานดุจสายฟ้า ทว่าการเคลื่อนไหวของเขาไม่ช้าลงแม้แต่น้อย พลางใช้วิชาดัชนีฟ้าคำรนแสดงพลังอีกครั้งในชั่วอึดใจ!

เขาฟันกระบี่ลง แสงสายฟ้าพลันสลาย!