ตอนที่ 2753 สมบัติของผู้สังหารเทพ

“เทือกเขาที่ถูกทำลาย ?”

อิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทตกตะลึงกับคำตอบของซือเฟิง ก่อนที่ใบหน้าของพวกเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว และไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาสองคนไม่ได้ไม่คุ้นเคยกับชื่อของเทือกเขาที่ถูกทำลายเลย …. ตรงกันข้ามนี่มันนับเป็นชื่อที่ดังมากในหมู่ประเทศมหาอำนาจต่างๆด้วย

โดยปกติมหาอำนาจต่างๆจะส่งหน่วยสอดแนมของตัวเองเข้าไปสำรวจแผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยที่มีเขตอันตรายจำนวนมาก ขณะที่มหาอำนาจบางกลุ่มก็ได้เลือกจะไปสำรวจแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบถึงหนึ่งร้อยห้าสิบด้วยซ้ำ

ซึ่งจากการสำรวจที่ดำเนินการโดยมหาอำนาจต่างๆนั้น มันไม่มีหน่วยสอดแนมหน่วยใดที่พวกเขาส่งไปสำรวจที่เทือกเขาที่ถูกทำลายรอดชีวิตกลับมาได้เลย

ใช่แล้ว !!!

แม้ว่าเทือกเขาที่ถูกทำลายจะเป็นเพียงแผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ แต่มันก็ไม่มีผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญคนใดที่เข้าไปในแผนที่นี้และกลับออกมาได้ทั้งๆที่ยังมีชีวิตเลย ในความเป็นจริงพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาตายอย่างไร

หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับความสูญเสียที่แปลกประหลาดเหล่านี้ มหาอำนาจต่างๆก็ได้หยุดความพยายามที่จะสำรวจเทือกเขาที่ถูกทำลาย เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นที่พวกเขาส่งไปทำหน้าที่สำรวจแผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบนี้ล้วนแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ และแม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังอยู่ในขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำด้วยซ้ำ มหาอำนาจต่างๆไม่สามารถจะยอมให้ผู้เชี่ยวชาญระดับนี้เสียชีวิตได้มากเกินไป

ด้วยเหตุนี้เทือกเขาที่ถูกทำลายจึงกลายเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับมหาอำนาจต่างๆ

แม้ว่าตอนนี้มหาอำนาจต่างๆจะมีผู้เชี่ยวชาญเลเวลหนึ่งร้อยสิบแปดหรือมากกว่านั้นกันจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีกล้าจะลองอีก

หลังจากนั้นไม่นานอันยีลดิ้งฮาร์ทก็ถามอย่างประหม่าว่า “เราต้องไปที่นั่นจริงๆงั้นหรอ ?”

เหล่าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นทุกคนล้วนถือเป็นเสาหลักของกิล แม้แต่การตายของหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับนี้มันก็จะจัดว่าทำให้กิลได้รับความสูญเสียมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการตายของผู้เชี่ยวชาญระดับนี้หลายสิบคนพร้อมกันเลย

“อืม เราต้องไป เทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นมีสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จของเราอยู่” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ยังไม่อยากจะเข้าไปในเทือกเขาที่ถูกทำลายในเวลานี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเทือกเขาที่ถูกทำลายมันเป็นทางเลือกเดียวของเขาในการจะรับเอาทรัพยากรจำนวนมากมาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเพราะเทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นจัดเป็นดินแดนต้องห้ามที่แท้จริงสำหรับผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำ ผู้เล่นจะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นก็ต่อเมื่อพวกเขามาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่แล้วเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเทือกเขาที่ถูกทำลายยังจัดว่าเป็นดินแดนต้องห้ามที่ถูกพูดคุยและโต้แย้งกันมากที่สุดในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา

แม้ว่าเทือกเขาที่ถูกทำลายจะถูกระบุว่าเป็นดินแดนต้องห้าม แต่มันก็ไม่ใช่ดินแดนต้องห้ามสำหรับทุกชีวิต มันเป็นเพียงดินแดนต้องห้ามสำหรับมนุษย์เท่านั้น

มนุษย์จะต้องเผชิญกับสิ่งที่อันตรายมากๆ เมื่อเขาสู่เทือกเขาที่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตามสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์จะไม่ต้องเผชิญกับเรื่องนี้

ที่สำคัญที่สุดคือเบาะแสที่เขามีเรื่องผู้สังหารเทพนั้นมันก็ล้วนนำเขาไปที่เทือกเขาที่ถูกทำลาย

หลังจากวิเคราะห์เบาะแสทุกอย่างที่ได้รับมา และด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับเทือกเขาที่ถูกทำลายของเขา ซือเฟิงก็รู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่สมบัติชิ้นหนึ่งของผู้สังหารเทพจะถูกซ่อนอยู่ในดินแดนต้องห้ามแห่งนี้

ดินแดนลับเอิร์ธฟอล !!!

นี่เป็นสิ่งที่เขาเคยได้ยินมาในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปิดใช้งานดินแดนลับเอิร์ธฟอลขึ้น แต่สิ่งที่เขาก็คือห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้ส่งผู้เชี่ยวชาญขั้นห้ามากกว่าสี่สิบคนของตัวเองเข้ามาแย่งชิงที่นี่กัน และการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มันก็ทำให้พื้นที่ชั้นนอกของเทือกเขาที่ถูกทำลายเกือบทั้งหมดหายไป

เกี่ยวกับสิ่งที่ดินแดนลับเอิร์ธฟอลมีอยู่นั้น มันมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่มากมายในโลกภายนอก อย่างไรก็ตามมันไม่มีใครมีคำตอบที่เป็นรูปธรรมเลย

นี่เป็นเพราะไม่นานหลังจากที่ดินแดนลับเอิร์ธฟอลปรากฎขึ้น สามในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้จับมือกันผูกขาดมัน และห้ามไม่ให้คนภายนอก รวมไปถึงสมาชิกภายในของตัวเองเข้าสู่ดินแดนนี้ และผู้ที่ได้รับอนุญาติให้เข้าสู่ดินแดนนี้จะต้องเป็นแกนหลักขั้นสี่เป็นอย่างน้อย

แต่มันก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ดินแดนลับเอิร์ธฟอลนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ในมิติที่แตกต่างที่ผู้สังหารเทพสร้างขึ้น โดยดินแดนลับแห่งนี้มันมีความร่ำรวย ผลประโยชน์ และแร่ธาตุอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังจะสามารถพบคริสตัลเวทย์มนต์ได้รอบๆมันอีก มันไม่ใช่สถานที่ที่โลกภายอกนจะสามารถเปรียบเทียบได้เลย ดังนั้นซือเฟิงจึงตั้งใจจะเข้าไปที่นี่แหละ ….

อย่างไรก็ตามเส้นทางที่จะนำไปสู่ดินแดนลับเอิร์ธฟอลนั้นต้องบอกเลยว่ามันเลยคำว่าน่ากกลัวและอันตรายไปมาก เพราะในชีวิตที่ผ่านมาของเขา แม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่จำนวนมากก็ยังต้องเอาชีวิตมาทิ้งบนเส้นทางนี้ และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าก็ยังเดินทางตัดผ่านไปได้อย่างยากลำบาก มันไม่ใช่สถานที่ที่คนๆเดียวจะสามารถเดินทางตัดผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้นซือเฟิงจึงวางแผนที่จะหยิบยืมพลังของจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลเพื่อมาใช้ในความพยายามเรื่องนี้

“เทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นไม่ธรรมดา นี่ไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งสองกิลของเราก็ยังไม่มีคนมากพอที่จะจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหนึ่งร้อยคนขึ้นมาได้ด้วย ฉันกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเรามากๆที่จะอยู่รอดในพื้นที่นั้น” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวอย่างกังวล “เรารวบรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปที่ไว้ใจได้มาเพิ่มดีกว่าไหม ? นั่นจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดของเราด้วย”

เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามแล้ว ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปขั้นสามนั้นสำคัญน้อยกว่ามาก และหากพวกเขาต้องเจอกับสถานการณ์อันตราย พวกเขาก็อาจจะให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วไป ไปสอดแนมด้านหน้าแทนที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดออกไปอยู่ในความเสี่ยง

วิธีนี้มักถูกใช้โดยมหาอำนาจต่างๆเพื่อสำรวจดินแดนต้องห้าม

“ไม่ …” ซือเฟิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม และพูดว่า “คนที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้จะไม่ได้มีแค่ผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองกิลของพวกคุณเท่านั้น แต่จะมีผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆมาเข้าร่วมกับเราเช่นกัน”

“ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ?”

“พวกเขาปลอดภัยไหม ?”

อิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทสับสนกับคำพูดของซือเฟิง การดำเนินการในครั้งนี้ถือเป็นความลับสุดยอดของพวกเขาที่ไม่น่าจะเชิญบุคคลภายนอกมาได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้นในปฎิบัติการนี้ดูเหมือนว่าจะมีข้อกำหนดความต้องการสำหรับผู้เล่นที่จะเข้าร่วมสูงมาก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามันไม่น่าเชื่อมากๆที่สภาสิบแปดปีกจะมีพันธ
มิตรอื่นๆที่เชื่อถือได้สำหรับปฎิบัติการครั้งนี้

“อืม พวกเขาปลอดภัย และความแข็งแกร่งที่พวกเขามีมันก็มากเกินพอที่จะสามารถเข้าร่วมปฎิบัติการครั้งนี้ได้” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

ดินแดนลับเอิร์ธฟอลนั้นสถานที่ที่แม้แต่ในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้นซุเปอร์กิลทั้งห้าที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังถือว่ามันเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เขาจึงไม่สามารถจะสำรวจมันทั้งหมดร่วมกับจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลได้

อย่างไรก็ตามการสำรวจดินแดนลับแห่งนี้ด้วยตัวเขาเองคนเดียว มันก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องพาคนอื่นมาด้วย คนอื่นที่เหล่าคนนอกนั้นไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของสภาสิบแปดปีก

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ให้อิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทไปรวบรวมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจากกิลของพวกเขา ในขณะที่เขาก็ติดต่อไปหาทีมนักผจญภัยอาชูร่า

สำหรับหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ เขาได้มอบหมายให้ไฟเออร์แดนซ์และกองกำลังหลักที่เหลือของสภาสิบแปดปีกจัดการมัน เพราะท้ายที่สุดการเดินทางไปยังเทือกเขาที่ถูกทำลายจะต้องใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆสามารถจะเริ่มท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้แล้ว มันจึงจะจัดว่าเป็นการสูญเสียมาก หากให้ทั้งหมดติดตามเขามา

จักรวรรดิมังกรดำ เมืองพันหิน :

แสงสว่างวาบจำนวนหลายโหลปรากฎขึ้นบนวงเวทย์เทเลพอร์ตของเมือง เมื่อผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลมาถึงเมืองชายแดนที่รกร้างแห่งนี้

แม้ว่าเมืองพันหินแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักกันในฐานะเมือง แต่เมืองก็แทบจะไม่มี NPC อยู่ที่นี่เลย นับประสาอะไรกับผู้เล่น เนื่องจากเมืองนี้มันอยู่ใกล้กับแผนที่เป็นกลางที่อันตรายมากอย่างเทือกเขาที่ถูกทำลาย มันจึงทำให้แม้แต่ NPC ก็ยังหลีกเลี่ยงจะมา

หลังจากมองไปที่ถนนที่รกร้างแล้ว บลูเกาน์ก็หันไปสบตากับซือเฟิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ จากนั้นเธอก็ถามอิลูซะรี่เวิร์ดด้วยความอยากรู้อยากเห็นผ่านแชทส่วนตัวว่า “พี่สาวอิลูซะรี่ คุณคิดว่าแบล๊คเฟรมไปเชิญใครมา ?”

ในความคิดของเธอทีมของพวกเขาที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นมันหายากมากใน God domain และเธอก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อเลบที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถเชิญทีมอื่นที่เทียบเคียงกับพวกเขามาได้

นอกเหนือจากผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจำนวนมากแล้ว ทีมของพวกเขายังมีอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทด้วย ซึ่งอิลูซะรี่เวิร์ดก็นับเป็นหนึ่งในเครอลิคที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของ God domain ขณะที่อันยีลดิ้งฮาร์ทก็เป็นเบอเซิกเกอร์ที่มีอาชีพลับคล้ายกับแท๊งเกอร์ นอกจากนี้ตัวบลูเกาน์เองก็ยังเป็นการ์เดี้ยนไนท์หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสามของกองกำลังหลักจักรพรรดิคริมสันด้วย

ในระยะนี้ของเกมมันจะมีแต่เพียงห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะจัดทีมเหนือกว่าพวกเขาได้

“ฉันไม่รู้ แต่จากข้อมูลที่เรารวบรวมมามีเพียงฟีนิกซ์เรนของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเท่านั้นที่จะพอมาช่วยเราได้เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามตอนนี้ฟีนิกซ์เรนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นสภาสิบแปดปีกจึงไม่น่าจะมีพันธมิตรอื่นๆที่มีความสามารถมากพอแล้ว” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางส่ายหัว เธอเองก็อยากรู้เกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่ซือเฟิงว่าเช่นกัน

ไม่นานหลังจากที่อิลูซะรี่เวิร์ด และบลูเกาน์พูดคุยกัน มันก็มีแสงสว่างวาบจำนวนมากกว่าหนึ่งโหลปรากฎขึ้นที่วงเวทย์เทเลพอร์ตอีกครั้ง

เมื่อผู้มาใหม่เหล่านี้ออกมาจากวงเวทย์เทเลพอร์ต ทั้งอิลูซะรี่เวิร์ดและอันยีลดิ้งฮาร์ทต่างก็ตกตะลึง เพราะเหล่าผู้มาใหม่นั้นแผ่ออร่าที่ทรงพลังมากๆออกมา นอกจากนี้วัดจากรูปลักษณ์และมานารอบตัวพวกเขาแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ก็น่าจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ หรือไม่ก็ใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว

ขณะเดียวกันผู้ชายที่ดูท่าทางแข็งกระก้างที่นำผู้มาใหม่เหล่านี้มาก็เป็นคนที่แม้แต่อันยีลดิ้งฮาร์ท กับ อิลูซะรี่เวิร์ดก็ยังต้องระวัง

ปีศาจสายฟ้า ไลฟ์เลสธอร์น !!

ไลฟ์เลสธอร์นนั้นเป็นคนโหดเหี้ยมที่บ้าการต่อสู้เอามากๆ เขาได้ทำการท้าทายผู้เชี่ยวชาญต่างๆทั่ว God domain มามากมาย และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ต่อสู้กับ Stalwart Sky หนึ่งในราชันหมาป่าของ Battle Wolves จนผลจบลงที่การเสมอกัน และได้รับการยอมรับจากศาลาลับให้เป็นหนึ่งในสิบรุกกี้ที่ทรงพลังที่สุดของ God domain

ในตอนนี้ไลฟ์เลสธอร์นไม่เพียงแต่จะมีเลเวลสูงถึงหนึ่งร้อยยี่สิบสองเท่านั้น แต่เขายังมีอุปกรณ์ระดับอีปิคอีกเจ็ดชิ้น และแม้ว่าเขาจะซ่อนเอฟเฟคของหอกที่เขาสะพายไว้ด้านหลัง แต่วัดจากรูปแบบเวทย์มนต์บนหอกแล้วก็สามารถจะบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่อาวุธระดับอีปิคทั่วไปแน่นอน

ทีมนักผจญภัยอาชูร่า !! ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ ?! อิลูซะรี่เวิร์ดและอันยีลดิ้งฮาร์ทตอนนี้เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างถึงที่สุดเมื่อเห็นกลุ่มของไลฟ์เลสธอร์นเดินเข้ามา เพราะท้ายที่สุดทีมนักผจญภัยอาชูร่าในปัจจุบันนั้นจัดได้ว่าเป็นทีมนักผจญภัยชั้นนำของ God domain แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ทีมนักผจญภัยทีมนี้มีภูมิหลังที่ลึกลับมากๆ แต่ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถพิชิตดันเจี้ยนทีมขนาดใหญ่ที่มีความยากสูงได้จำนวนมาก แต่สมาชิกในทีมนักผจญภัยทุกคนยังมีความแข็งแกร่งที่ไม่อาจหยั่งถึงได้ สมาชิกในทีมนักผจญภัยหลายคนได้ไปถึงขอบเขตจิตวิญญาณแล้ว ซึ่งนี่มันทำให้พวกเขาสามารถจะแสดงพลังต่อสู้ที่ค่อนข้างพิเศษออกมาได้ และมหาอำนาจต่างๆก็ได้พยายามจะรับสมัครทีมนักผจญภัยทีมนี้กันอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามทีมนักผจญภัยอาชูร่าได้ปฎิเสธข้อเสนอทั้งหมด และแม้ว่ามหาอำนาจต่างๆจะส่งทีมที่นำโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดมาจัดการกับพวกเขา แต่มันก็ไม่มีทีมใดที่ประสบความสำเร็จเลย แถมทุกทีมยังจะกลับไปพร้อมกับความเสียหายที่รุนแรงด้วย

“เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว เราก็ไปกันเถอะ ….”