ตอนที่ 890 ปัญหาล้านแปด

Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น

หลังจากพูดถึงโซรอส เฝิงหยู่คิดว่ากำปั้นเหล็กจูจะเชิญให้เขาออกไปจากห้องซะอีก แต่กำปั้นเหล็กจูเริ่มพูดถึงเรื่องอื่น ๆ

“ผู้จัดการเฝิงมีความคิดเห็นอย่างไรกับการพัฒนาประเทศของเรา มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

เฝิงหยู่ขมวดคิ้ว ผมไม่ได้เป็นข้าราชการและก็ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดที่จะพูดถึงเรื่องนี้ มีประเทศไหนในโลกนี้บ้างที่ไม่มีปัญหากับรัฐบาลของตัวเอง ไม่มีวิธีที่ถูกต้องในการปกครองประเทศหรอก แม้ว่าการตัดสินใจใดก็ตามที่ดูเหมือนจะถูกต้องในตอนแรก แต่สุดท้ายก็เจอช่องโหว่ในภายหลัง

“ผมไม่มีความคิดเห็นครับ และผมคิดว่าทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปด้วยดี” เฝิงหยู่ถูจมูกของเขา

“เจ้าเด็กบ้านี่ คุณต้องรู้ปัญหาอะไรบางอย่าง แต่ไม่ยอมบอกฉันแน่ๆ คุณรู้หรือเปล่าว่าจีนมีสำนักงานวิจัยด้านนโยบายและสมาชิกจำนวนมากก็เป็นนักธุรกิจ ฉันอยากให้คุณมาเข้าร่วมด้วย”

“ถ้าอย่างนั้น ผมจะบอกอะไรให้ฟังนิดหน่อยนะครับ ถ้าผมพูดผิดไป โปรดอย่าตำหนิผมนะครับ”

“มีอะไรให้ตำหนิกัน? บางทีสิ่งที่คุณพูดอาจจะถูกและการตัดสินใจของเราอาจจะผิดก็ได้” กำปั้นเหล็กจูตอบ  เขาไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ และต้องมีปัญหาบางอย่างที่เขาพลาดไป

“ผมจะเริ่มด้วยคำขวัญที่ผมเห็นก่อนนะครับ จากหมู่บ้านไปจนถึงเมืองใหญ่ มีคำขวัญของรัฐบาลมากมายเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัว การพัฒนาเศรษฐกิจ กฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในเมือง คำขวัญจะมีลักษณะเป็นแบบเกาต้าซั่งมากกว่า…”

“เกาต้าซั่งหมายถึงอะไร?” หมัดเหล็กจู้หยุดชะงัก

“ห้ะ? ก็หมายความว่ายิ่งใหญ่ สูงส่ง ดีเลิศมากกว่าน่ะสิครับ เขาเรียกสั้นๆ ว่าเกาต้าซั่ง ซึ่งเป็นคำที่ใช้บนกระทู้ทางอินเทอร์เน็ต” เฝิงหยู่อธิบาย เขาต้องระวังที่จะไม่ใช้คำศัพท์ทางอินเทอร์เน็ตที่เคยใช้กันเมื่อชาติที่แล้ว คำนี้ยังไม่มีการใช้ในปัจจุบัน และเฝิงหยู่ก็เพิ่งนำไปใช้บนอินเทอร์เน็ต

“ฮ่าฮ่าฮ่า…อธิบายได้ดีมาก” กำปั้นเหล็กจูหัวเราะและชี้ไปที่เฝิงหยู่

“คำขวัญพวกนี้มีจุดประสงค์อะไรหรอครับ? เพื่อสร้างอุดมการณ์สังคมนิยมของจีนให้แข่งแก่ง ต่อต้านการทุจริต ส่งเสริมเศรษฐกิจของเรา ให้เกียรติคนงานที่ถูกปลดออกจากงาน และอื่นๆ อีกมากมาย แต่คำขวัญพวกนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทั้งหมดที่เรากำลังเผชิญอยู่”

กำปั้นเหล็กจูมองเฝิงหยู่อย่างสงสัย คำขวัญพวกนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แล้วมันมีอะไรผิดปกติงั้นหรอ?

“การส่งเสริมการวางแผนครอบครัวแสดงให้เห็นว่าการวางแผนครอบครัวของรัฐบาลยังไม่ประสบความสำเร็จ การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจสะท้อนให้เห็นว่าหมู่บ้านส่วนใหญ่ของเรายังคงตกอยู่ในภาวะยากจน การส่งเสริมการศึกษาหมายความว่าคนในชาติของเราจำนวนมากยังไม่รู้หนังสือ การส่งเสริมการต่อต้านการทุจริตสะท้อนให้เห็นว่าประเทศของเรายังมีเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตมากมาย การส่งเสริมเศรษฐกิจแบบตลาดหมายถึงเศรษฐกิจแบบตลาดของเรายังไม่พัฒนา การให้เกียรติคนงานที่ถูกปลดออกแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของเราไม่สามารถจัดหางานให้กับคนงานได้อย่างเพียงพอ”

กำปั้นเหล็กจูคิดอยู่พักหนึ่งและรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องจริง ก่อนที่จะพบกับ เฝิงหยู่ไม่มีใครมองเห็นปัญหาพวกนี้จากมุมมองนี้เลย

“คำขวัญพวกนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในการพัฒนาประเทศของเรา เมื่อผู้คนขาดวัฒนธรรมทางวัตถุ พวกเขาจะไม่คิดถึงวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณ พูดง่ายๆ ก็คือปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อคนยากจน และพวกเขาจะได้รับอิทธิพลจากโลกภายนอกได้ง่าย ในสมัยโบราณ จะมีการเปลี่ยนราชวงศ์เพราะสงครามที่เกิดจากความยากจน สหรัฐอเมริการ่ำรวย และนั่นคือเหตุผลที่อุดมการณ์และค่านิยมของพวกเขามีอิทธิพลต่อประเทศอื่นๆ ได้”

สีหน้าของกำปั้นเหล็กจูเปลี่ยนไปอย่างจริงจัง ฮึ่ม! ชาวอเมริกันพวกนั้นพยายามกำหนดค่านิยมของตัวเองให้กับประเทศจีน! ทุนนิยมมีอะไรดีงั้นหรอ? อัตราการก่ออาชญากรรมของพวกเขาสูงมาก สังคมนิยมยังทำให้คนของเราร่ำรวยได้!

“แล้วคุณคิดว่าเราควรทำยังไง?” กำปั้นเหล็กจูถาม

“อ่า…ท่านผู้นำครับ…ผมไม่รู้จริงๆ ผมเป็นแค่นักธุรกิจเท่านั้น ผมไม่รู้เรื่องนโยบายของรัฐบาลและจะไม่แทรกแซงการตัดสินใจของประเทศ ผมแค่ต้องการหาเงินและบริจาคเงินให้กับประเทศของเราครับ”

“นักธุรกิจอย่างคุณจะไม่แทรกแซงการเมืองได้ยังไง? คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าคุณจะโจมตีเศรษฐกิจของประเทศอื่นพร้อมกับชายชาวยิวคนนั้น? แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรอ?”

“นั่นคือประเทศอื่น ไม่ใช่ประเทศจีนนิครับ” เฝิงหยู่เถียง เขารู้ว่าเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง นักธุรกิจจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของประเทศเพราะทุกนโยบายที่ออกมาจะส่งผลต่อผลกำไรของพวกเขา

ตัวอย่างเช่น หากจีนกำหนดให้อสังหาริมทรัพย์เป็นอุตสาหกรรมหลัก นักธุรกิจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกำไรสูง ก็เหมือนกับสหรัฐอเมริกา ทำไมนักธุรกิจจำนวนมากจึงให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดี? พวกเขาทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้ประธานาธิบดีดำเนินนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา ผลตอบแทนของพวกเขาอาจจะเป็น 10 เท่าหรือ 100 เท่าของเงินบริจาคก็ได้!

ทุกครั้งที่สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงคราม พ่อค้าอาวุธปืนจะได้รับผลกำไรสูง

“ผมคิดว่าคุณเหมาะที่จะอยู่ในแวดวงการเมืองมากกว่านะ คุณควรพิจารณาเรื่องนี้”

สีหน้าของเฝิงหยู่เปลี่ยนไปทันทีและตอบกลับ “อาจจะอีกไม่กี่ปีหลังจากที่ผมทำทุกสิ่งที่อยากทำเสร็จแล้ว ดูสิครับ ผมยังโสดและน่าจะมีคนอื่นที่เสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเข้ามาแทนที่ผม”

กำปั้นเหล็กจูยิ้มและส่ายหน้า

“พูดต่อสิ”

“ลองดูการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของประเทศเราสิครับ ตั้งแต่ต้นปีมานี้รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ของเรากำลังสูญเสียเงิน หากยังคงดำเนินต่อไป จะมีเพียงไม่กี่รายที่สามารถทำกำไรได้ในปีหน้า ผู้นำในรัฐวิสาหกิจพวกนี้เป็นคนเข้มงวดและอนุรักษ์นิยม พวกเขายังคงพูดถึงการกระจายตัวและการจ่ายเงินสำหรับงานที่เท่าเทียมกันอยู่เลย พวกเขากำลังถอยหลังลงคลองแทนที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าตามยุคสมัย เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการกระจายตามความต้องการและบทบาทขององค์กรคือการกระจายตามผลงาน ดูบริษัทต่างชาติและเอกชนพวกนั้นสิ ทำไมพวกเขาจึงผลิตสินค้าประเภทเดียวกันและยังสามารถทำกำไรได้ แต่รัฐวิสาหกิจของเรากลับทำไม่ได้ล่ะครับ?”

“มีพนักงานจำนวนมากเกินไปในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและนโยบายการให้บุตรหลานเข้ารับตำแหน่งต่อจากผู้ปกครองในองค์กรทำให้หลายองค์กรต้องล้มละลาย คนงานบางคนเกษียณอายุในวัย 40 ปีเพื่อรับเงินบำนาญหลังเกษียณ จากนั้นจึงปล่อยให้เด็กที่ไม่มีประสบการณ์เข้ามาในโรงงานที่พวกเขาทำงานอยู่ ไม่มีใครสนใจว่าลูกหลานของตัวเองจะเหมาะสมกับงานนั้นหรือเปล่า ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพของโรงงานเท่านั้น แต่ยังเพิ่มต้นทุนด้านกำลังคนอีกด้วย อีกอย่างก็คือ จะมีพนักงานจำนวนมากในสำนักงานไปเพื่ออะไรกัน? ผมเคยเห็นโรงงานขนาดเล็กที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน และพนักงานมากกว่า 30 คนก็อยู่ในระดับบริหาร ในบรรดาพนักงาน 30 คนในฝ่ายบริหารนั้น มีมากกว่าสิบสองคนที่เป็นสมาชิกพรรคและโรงงานแห่งนี้ก็มีสมาชิกพรรคมากกว่า 30 คน ถ้าองค์กรจะเลิกจ้างพนักงาน ผู้บริหารพวกนี้จะต้องเป็นกลุ่มแรกที่ต้องออกจากงาน!”

“เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารหรอ? ทำไมล่ะ?”

“ผมเพิ่งพูดไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจำนวนมากพวกนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยในองค์กรเลยและยังได้รับเงินเดือนสูงด้วย อีกเหตุผลหนึ่งก็คือพนักงานพวกนี้มีการศึกษาสูงและมีความสามารถมากกว่าคนงานทั่วไป ดังนั้นพวกเขาน่าจะหางานใหม่หรือเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองได้สบายๆ มีคนเคยบอกว่า “ทุกคนรู้วิธีการเป็นผู้นำและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นคนงานได้!”

สีหน้าของกำปั้นเหล็กจูเปลี่ยนไป ภาพลักษณ์ของพนักงานราชการกลายเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ดูเหมือนว่าถึงเวลาต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังซะแล้ว คนที่ดำรงตำแหน่งแต่ไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ควรจะต้องทำจะต้องถูกปลดออก ไม่ว่าพวกเขาจะเคยทำผลงานมามากน้อยขนาดไหน แต่ตราบใดที่พวกเขายังไม่เกษียณ ต้องไม่ทำตัวเหมือนหายใจทิ้งไปวันๆ!

“สิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่ผมเห็นเท่านั้นครับ โดยรวมแล้วผมคิดว่าประเทศของเรายังคงพัฒนาไปได้ด้วยดีและสถานะระหว่างประเทศของเราก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี” เฝิงหยู่เริ่มประจบในตอนท้ายขณะที่กำปั้นเหล็กจูเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เฝิงหยู่ได้ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องของรัฐบาลและเขาต้องพูดอะไรบางอย่างเพื่อประจบผู้นำบ้าง

กำปั้นเหล็กจูกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อผู้อำนวยการฟางเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู เขาเดินไปที่ กำปั้นเหล็กจูและกระซิบข้างหูของเขา

สีหน้าของกำปั้นเหล็กจูเปลี่ยนไปและพูดว่า “ ผู้จัดการเฝิง ผมมีธุระนิดหน่อย วันนี้เราคุยกันพอเท่านี้ก่อน เสี่ยงฟาง ช่วยไปส่งคุณเฝิงด้วย”

ดวงตาของเฝิงหยู่เบิกกว้าง เกิดอะไรขึ้น? หรือว่า…