ประตูฝืนลิขิตสวรรค์! โดย Ink Stone_Fantasy

เหล่าเซียนทั้งหมดที่อยู่รายล้อมต่างก็โค้งคำนับอย่างเคารพต่ออารามแมงป่องที่ตอนนี้แรงกดดันวิบากแก่นแท้หายไปแล้ว

กลิ่นอายขั้นวิบากดับสูญข้างในพายุกำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง เพียงแค่กลิ่นอายกระจายออกมา โลกก็เปลี่ยนสีสันราวกับสวรรค์กำลังหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

ภายในพายุมีร่างหนึ่งผอมเพรียว เรือนผมยาวสะบัดพริ้วในพายุ รูปร่างลักษณะไม่อาจเห็นได้ชัดเจนแต่เขาปลดปล่อยกลิ่นอายขั้นวิบากดับสูญอันทรงพลัง

แม้จะเป็นเพียงแรงกดดันของเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับต้น มันกลับทำให้จิตใจของเซียนบริเวณนี้เกิดการสั่นเทา ราวกับพวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับต้น แต่เป็นขั้นวิบากดับสูญระดับสูงสุด!

ร่างในพายุค่อยๆ ก้าวเดินออกมาและชัดเจนขึ้น หวังหลินมองท้องฟ้าอย่างสงบนิ่ง

เขารู้สึกว่าหลังจากทำลายวิบากแก่นแท้ด่านที่เก้าไปแล้ว ม่านที่กดดันระดับบ่มเพาะของเขาจึงหายไป ทำให้ระดับบ่มเพาะเพิ่มพูนขึ้นจนบรรลุขั้นวิบากดับสูญ!

‘วิบากดับสูญ…’ หวังหลินหลับตา ในร่างกายมีวังวนขนาดยักษ์ที่กำลังหมุนอย่างรวดเร็ว มันปลดปล่อยกลิ่นอายน่ากลัวออกมา หวังหลินรู้สึกว่าแค่เปิดฝ่ามือก็ครอบครองโลกได้แล้ว

เป็นความรู้สึกอันพิเศษ

วินาที่ต่อมาขณะที่พายุหายไปจากด้านหลัง เขาจึงลืมตาขึ้น กำหมัดขวาจนส่งเสียงดังปะทุ พลังอันน่ากลัวเหนือล้ำกว่าขั้นวิบากดับสูญระดับต้นได้รวมกันอยู่ในมือ

พื้นดินด้านล่างเขาเกิดเสียงสั่นสะเทือนและเกิดรอยแตกร้าวแผ่กระจาย แรงกดดันแผ่กระจายออกไปทันที เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวต่างก็ล่าถอยและมองหวังหลินด้วยความสงสัย

พอไม่อาจสัมผัสกลิ่นอายแมงป่องมารเขียวจากหวังหลินได้ แต่ละคนจึงมีท่าทีเปลี่ยนไป

‘ความรู้สึกของขั้นวิบากดับสูญ…’ หวังหลินก้มหน้ามองไปที่มือตัวเอง ตอนที่เขากำลังจะจากไป สีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันทีเพราะหลังจากบรรลุขั้นวิบากดับสูญมาได้ ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าในร่างก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยพลังเต็มที่ พลังดึงดูดกำลังแผ่กระจายออกมาจากร่างและพุ่งไปถึงพื้นด้านล่าง

เป็นครั้งแรกที่หวังหลินรู้สึกชัดเจนถึงความปั่นป่วนจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ความปั่นป่วนนี้เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า!

เป็นความปั่นป่วนที่หวังหลินไม่สามารถสัมผัสได้ชัดเจนก่อนจะบรรลุขั้นวิบากดับสูญ หลังจากระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้นดูเหมือนลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าจะแตกต่างจากก่อนหน้านี้

แววตาหวังหลินเป็นประกายเย็นเยียบ หลังจากขบคิดเล็กน้อยจึงยกมือขวาขึ้นมาโยนกำปั้นลงใส่พื้นปฐพีด้านล่าง!

พอกำปั้นลงไป มันเปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือลงกระแทกพื้นจนเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนและผิวพื้นดินแตกกระจาย

พลังทำลายล้างระเบิดออกมาและเข้าสู่พื้นดิน เกิดเป็นหลุมยักษ์กว้างหลายหมื่นฟุต พริบตาเดียวมันก็ลงเข้าสู่ส่วนลึก!

ด้านล่างอารามแมงป่องเป็นจุดที่แมงป่องมารเขียวถูกผนึกเอาไว้! ตอนนี้หวังหลินได้ทำลายพื้นดินและเปิดเส้นทางเข้าสู่ตำแหน่งที่วิญญาณแมงป่องถูกผนึกเอาไว้

วินาทีที่พื้นดินถูกเปิดออกมา มีเสียงคำรามดังออกมาจากในหลุม เสียงคำรามรุนแรงและเต็มไปด้วยความแค้นสะสมมหาศาล

สายหมอกสีเขียวจำนวนมากพุ่งออกมาจากหลุมลึก หมอกราวกับเสาพุ่งทะลุขึ้นสู่อากาศและก่อเกิดเป็นแมงป่องเขียวขนาดยักษ์ในท้องฟ้า!!

แมงป่องขนาดร้อยฟุตและมีร่างเงาขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างพื้นดิน พอเหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวเห็นเช่นนี้จึงเผยความหวาดกลัวออกมา!!

“ท่านมารเขียว!!”

“นี่…มันเกิดอะไรขึ้น? วิญญาณของท่านมารเขียวปรากฏตัว เช่นนั้นคนผู้นี้เป็นใคร!?”

“หรือว่าเขาไม่ใช่ท่านมารเขียวที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา!?” เหล่าเซียนสงสัยอยู่ในใจ หลังจากเห็นหมอกสีเขียวเปลี่ยนกลายเป็นแมงป่องยักษ์ พลันเกิดความคิดขึ้นในใจจนแทบไม่อยากเชื่อ!

“หวังหลิน!! เขาคือหวังหลินแห่งแคว้นกระทิงสวรรค์!” หนึ่งในเซียนจากสำนักเต๋ามารพูดขึ้น เมื่อร้อยปีก่อนเขาอยู่ชายแดนของแคว้นมารเขียวและแคว้นเมิ่งตู เข้าร่วมการไล่ล่าหวังหลินด้วยเช่นกัน!

ในใจเกิดความลังเลบางอย่าง ตอนนี้พอจดจำหวังหลินได้จึงเกิดเสียงดังสั่นสะเทือน!!

วิญญาณแมงป่องมารเขียวที่โผล่ออกมาจากหลุมลึกได้ส่งเสียงฟ่อ ร่างใหญ่ยักษ์พลิกตัวอยู่กลางอากาศและจ้องมองหวังหลิน บนร่างมีผนึกอยู่สี่แห่งคือหัว หาง ด้านหน้าและด้านหลัง

ผนึกทั้งสี่นี้ถูกสร้างขึ้นจากบรรพชนเทพเพื่อผนึกวิญญาณและทำให้กลายเป็นพลังของแคว้นมารเขียว!

ร่างหวังหลินดูเล็กมากเบื้องหน้าแมงป่องเขียว ทว่าเขายืนด้วยสายตาเยือกเย็นและเปล่งกลิ่นอายข่มเหงวิญญาณแมงป่อง

เรือนผมสีขาวปกคลุมหัวไหล่ ขณะที่วิญญาณแมงป่องร้องคำราม เขายกแขนขึ้นมาและโยนกำปั้นออกไป กำปั้นนี้มีทั้งพลังบัญชาโบราณและระดับขั้นวิบากดับสูญ กลายเป็นพลังฉีกกระชากสวรรค์พุ่งเข้าหาวิญญาณแมงป่อง

ร่างของวิญญาณแมงป่องเกิดการสั่นเทาและมีเสียงดังสนั่น มันถูกดันกลับไปราวกับโดนสายลมรุนแรงตีเข้าใส่ วิญญาณแมงป่องดูเหมือนกำลังจะมอดดับแต่วินาทีนี้มีผนึกทั้งสี่เรืองแสงวูบวาบและรับพลังจากกำปั้นของหวังหลินเข้าแทน หลังจากโดนผลักออกไปหมื่นฟุต ร่างของมันยังคงอยู่เหมือนเดิม!

กรรร!!

วิญญาณแมงป่องสั่นสะท้านและพุ่งเข้าหาหวังหลินอีกครั้ง คราวนี้มีสัมผัสวิญญาณดังออกมาอย่างมืดหม่น!

“เซียนแคว้นมารเขียวทั้งหมด สังหารมัน!!”

สีหน้าท่าทางของเซียนจากแคว้นมารเขียวมากกว่าสิบคนล้วนเปลี่ยนไป พวกเขามองหวังหลินและพุ่งทะยานเข้าหา

‘ผนึกของบรรพชนเทพยังคงทรงพลังแม้จะผ่านมาแล้วหลายปี แสดงให้เห็นว่าตอนนั้นบรรพชนเทพทรงพลังแค่ไหน…’

หวังหลินมองวิญญาณแมงป่องที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีเย็นชา ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าหมุนด้วยความเร็วสูงสุดจนถึงขีดจำกัด ความต้องการของมันยิ่งรุนแรง

หวังหลินมีแววตาเป็นประกายและยกแขนขวาขึ้นมาสะบัดใส่แมงป่องมารเขียว แสงสีขาวกะพริบออกมาจากฝ่ามือ ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่มาถึงแผ่นดินเซียนดารา!

พอลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าปรากฏตัว มันปลดปล่อยแสงสีขาวมหาศาลและทำให้บริเวณแห่งนี้ส่องสว่าง ทันทีที่วิญญาณแมงป่องได้เห็นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้ามันจึงชะงักไปชั่วจังหวะ จากนั้นเกิดแววตาหวาดกลัวและหวาดหวั่นขึ้นทันที มันส่งเสียงคำราม ร่างกายหยุดเคลื่อนไหวและถอยอย่างบ้าคลั่ง!

“แสงขาว…นี่มัน…นี่มันลูกปัดขาว!!”

มันดูหวาดกลัวและการถอยกลับไปได้ทำให้เหล่าเซียนที่กำลังมุ่งเข้ามาต้องตกตะลึง สายตาแต่ละคนรวมกันไปที่ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าทันที!

แม้วิญญาณแมงป่องจะล่าถอยอย่างรวดเร็วมันก็ไม่เร็วเท่าลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ลูกปัดทะยานออกไปด้วยความเร็วเหนือจินตนาการและเข้าไปใกล้วิญญาณของแมงป่องเขียว ผนึกทั้งสี่เรืองแสงวูบวาบแต่ลูกปัดก็ทะลุเข้าไปได้และตรงเข้าสู่วิญญาณแมงป่อง!

วินาทีที่มันเข้าไป ลูกปัดส่งพลังดึงดูดอันน่ากลัวออกมา วิญญาณแมงป่องซึ่งมีขนาดหลายแสนฟุตกำลังหดขนาดลงต่อหน้าต่อตาทุกคน

หนึ่งลมหายใจ สองลมหายใจ สามลมหายใจ!!

เพียงแค่เวลาสามลมหายใจ วิญญาณแมงป่องยักษ์ได้หดลงอย่างบ้าคลั่งจนถูกลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าดูดซับไปทั้งหมด เหลือไว้เพียงผนึกทั้งสี่ของบรรพชนเทพ พอไม่ได้กักขังแมงป่องแล้วผนึกจึงเปลี่ยนกลายเป็นสีเทาและสูญสลายไป

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้แทบทำให้เซียนรอบด้านต้องจนปัญญา สำหรับพวกเขาแล้วหวังหลินเสมือนฝันร้าย พวกเขากระจายตัวออกไปและใช้วิชาของตัวเองหลบหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

หวังหลินไม่ได้ไล่ตามแต่ยืนอยู่ตรงนั้น มองลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าที่ได้ดูดซับวิญญาณแมงป่องเข้าไป ดวงตาหวังหลินทอประกาย ยกแขนขวายื่นออกไป

ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าลอยเข้าสู่ฝ่ามือหวังหลินทันที

พอหวังหลินจับลูกปัดได้ ร่างกายจึงสั่นเทาและสัมผัสได้ว่าลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าได้บรรลุอีกระดับหนึ่ง มันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึง

หลังจากขบคิดเพียงเล็กน้อย หวังหลินโบกสะบัดแขนซ้ายให้พายุเข้ามาห่อหุ้มรอบตัว พายุนี้กว้างถึงพันลี้และเปล่งกลิ่นอายน่ากลัวหยุดยั้งสิ่งมีชีวิตทุกอย่างไม่ให้เข้ามา

หลังจากวางการป้องกันได้แล้ว หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เขาต้องการดูว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหลังจากบรรลุความสำเร็จไปอีกระดับ!

ทันทีที่หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไป ภาพทัศนวิสัยจึงพร่าเลือน เมื่อได้สติได้เขาอยู่ในมิติว่างไร้ขอบเขต มีประตูยักษ์คล้ายกับเชื่อมต่อกับฟ้าดินอยู่ที่นี่!

มีแขนสีเขียวข้างหนึ่งบนประตูที่กำลังเปล่งกลิ่นอายทำลายล้าง!

ประตูฝืนลิขิตสวรรค์!