ตอนที่ 686: การเข่นฆ่า

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 686: การเข่นฆ่า

บรรพชนครอบครัวหยานนั้นรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินว่ามากเพียงใด และความจริงที่ว่าผู้มีพรสวรรค์เช่นเขานั้นยังไม่เคยปรากฎเช่นนี้มาก่อนในทวีปเทียนหยวน และอนาคตของเขานั้นจึงไม่อาจคาดเดาได้ ดังนั้น ทันทีที่มีโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าเขา ในทันที เขาจึงพยายามที่จะสร้างความประทับใจให้กับเจี้ยนเฉิน ซึ่งเขาไม่อยากพลาดโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเจี้ยนเฉิน

“ท่านบรรพชนครอบครัวหยานสุภาพเกินไป ในอนาคตหากเจี้ยนเฉินต้องการความช่วยเหลือ ข้าก็จะต้องรบกวนให้ครอบครัวหยานช่วยเหลือแล้ว เจี้ยนเฉินมองไปที่บรรพชนครอบครัวหยาน ด้วยรอยยิ้มและมือของเขาก็ป้องมือเข้าหากัน เขาไม่เคยปฏิเสธความพยายามของบรรพชนครอบครัวหยานในการที่จะสานไมตรี

นอกจากนี้ ครอบครัวหยานเป็นตระกูลสันโดษซึ่งเป็นเซียนผู้คุมกฎที่ทรงอำนาจและไม่สามารถละเลยได้อย่างง่ายดาย ถ้าเขารักษาความสัมพันธ์กับตระกูลเหล่านี้ ไม่ว่าจะสำหรับตัวเขาเองหรือจะเป็นตระกูลเจียงหยางหรือกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องที่ดี

ฮ่า ๆ มันไม่ได้รบกวน มันไม่ได้รบกวนเลย ครอบครัวหยานนั้นดีใจมากที่ได้ช่วยน้องเจี้ยนเฉินในเรื่องที่ไม่เกินความสามารถของเรา บรรพชนครอบครัวหยานหัวเราะโดยไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ดูเหมือนจะมีความสุขมาก

น้องเจี้ยนเฉิน ข้าจะไม่ถ่วงเวลาเจ้าอีกต่อไป ครอบครัวหยานมีเรื่องเล็กน้อยบางเรื่องที่ต้องให้ข้าแก้ปัญหา ดังนั้นข้าจะต้องจากไปก่อน ในอนาคตหากน้องเจี้ยนเฉินมีเวลา ยินดีต้อนรับน้องเจี้ยนเฉินที่จะมาเยี่ยมเยือนครอบครัวหยานของข้าในฐานะแขกคนหนึ่ง บรรพชนครอบครัวหยานไม่ได้พูดมากนักและจากไปอย่างรวดเร็วที่สุดหลังจากเขาอำลาเจี้ยนเฉิน

บรรพชนทั้งสองของตระกูลหวงฟู่มองดูบรรพชนครอบครัวหยานด้วยความรู้สึกหดหู่ เมื่อบรรพชนครอบครัวหยานตัดความสัมพันธ์กับพวกเขาในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ทำให้ทั้งสองคนโกรธมาก แต่รู้สึกอับจนหนทาง

จินเทียน จิ้งเฟิง ทั้งสองตระกูลของเราบาดหมางกันมาอย่างต่อเนื่องหลายพันปีแล้ว ทุกอย่างควรจะจบสิ้นในวันนี้ หวงเทียนป้ามองไปที่เซียนผู้คุมกฎทั้งสองของตระกูลหวงฟู่ด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา ในขณะที่มือของเขามีคันธนูยาวสีทองปรากฏตัวขึ้น มันเป็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ ธนูสุริยันจันทรา

อย่างไรก็ตาม จินเทียนและจิ้งเฟิงไม่ใส่ใจกับหวงเทียนป้า หนึ่งในนั้นมองไปที่เจี้ยนเฉินว่า เจี้ยนเฉิน เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนกับเหมืองโลหะผสมทังสเตน เราสองคนได้ล่วงเกิน เราขอโทษเจ้าอย่างจริงใจที่นี่ เราหวังว่าเจ้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหวงฟู่และครอบครัวหวง ตราบเท่าที่เจ้าและสหายของเจ้าไม่ข้องเกี่ยว พวกเราสองคนจะมอบของขวัญให้เจ้าเป็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ เจ้าจะว่าอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจี้ยนเฉิน ?

เมื่อได้ยินสิ่งที่พูด มุมปากของเจี้ยนเฉินหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ารังเกียจ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไร

เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้กล่าวสิ่งใด เซียนผู้คุมกฎของตระกูลหวงฟู่ยังคงกล่าวต่อไปว่า เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้ารู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษนี้ เราสามารถเพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ ในอนาคต ตระกูลหวงฟู่ของข้าจะช่วยงานเจ้า 3 อย่างโดยไม่มีใต้เงื่อนไขใด ๆ ตราบเท่าที่พวกมันอยู่ในความสามารถของเรา เจ้าพอใจหรือไม่ ?

ฮ่าฮ่า, จินเทียน จิ้งเฟิง สิ่งที่เจ้าได้ทำตอนนี้ได้ขยายขอบเขตอันไกลโพ้น ใครจะคิดว่าเจ้าจะมีความคิดเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าขอให้เจ้ายอมแพ้เรื่องนี้ น้องเจี้ยนเฉินนั้นจะอยู่ข้างเจ้าด้วยเรื่องแค่นี้ได้อย่างไรกัน ? หวงเทียนป้าหัวเราะ เขามองไปที่เซียนผู้คุมกฎทั้งสองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

ผู้อาวุโสหวงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว เจ้าสองคนควรจะยอมแพ้เรื่องนี้ เจี้ยนเฉินทำตามที่หวงเทียนป้ากล่าวไว้

ใบหน้าของสองเซียนผู้คมกฏเปลี่ยนไป ถ้าเราให้ของขวัญเป็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ 2 ชิ้นกับเจ้า ? เราต้องการให้เจ้า เจี้ยนเฉินและพี่ชายผู้นั้นวางมือและไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตระกูลหวงฟู่และครอบครัวหวง คราวนี้ทั้งสองเซียนผู้คุมกฎรีบพูดออกมาทันที พวกเขาเข้าใจได้ดีว่า ถ้าเจี้ยนเฉินและนูบิสร่วมมือกับหวงเทียนป้า พวกเขาไม่มีโอกาสได้ชัยชนะ แม้กระทั่งใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ

จินเทียน จิ้งเฟิง เลิกพูดจาเพ้อเจ้อได้แล้ว เมื่อเราฆ่าพวกเจ้าสองคน ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของเจ้าทั้งสองชิ้นจะตกอยู่ในมือเราหรือไม่ ? หวงเทียนป้ากล่าวด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็น ก่อนที่จะเหนี่ยวคันธนูออก ลูกศรพลังงานสีทองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะกลายเป็นรังสีของแสงสีทอง ซึ่งปรากฏต่อหนึ่งในนั้นเช่นสายฟ้า

เซียนผู้คุมกฎรู้ดีว่าลูกศรที่ยิงจากธนูสุริยันจันทรานั้นไม่สามารถหลบได้ ปฏิกิริยาของพวกเขาไม่อาจช้า การเหนี่ยวคันธนูนั้นเป็นดั่งการโจมตีที่เฉียบคม ตรงไปยังพวกเขาในเวลาเดียวกัน ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎทั้งสองชิ้นอาบไปด้วยแสงระยิบระยับและกระเพื่อมจากพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่ไหลออกมาจากยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ ทำให้พื้นที่โดยรอบบิดเบือนไปอย่างมาก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เหวี่ยงยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของตนไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสกัดกั้นลูกศรสีทองที่เข้ามา

ปัง!

ลูกศรพลังงานสีทองและพลังงานจากสองยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎตัดกลางอากาศให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ผลที่ตามมาจากการรวบรวมพลังงานที่ยอดเยี่ยมทำให้เกิดความหายนะในทุก ๆ ที่ มันราวกับลมกระโชกแรงแรงพัดพรวดขึ้นไปในอากาศและระหว่างสองกลุ่มพื้นที่นั้นก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้เกิดหลุมดำราวกำปั้นขึ้น อย่างไรก็ตาม มันกลับมาเหมือนเดิมในพริบตาเดียว

ด้วยการปะทะกันของเซียนผู้คุมกฎ ในทุกครั้งจะมีพลังอำนาจในการเคลื่อนที่และทำลายโลก ทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกัน คลื่นที่มีประสิทธิภาพที่สร้างขึ้นจากพลังงานอันยิ่งใหญ่จะส่งผลต่อคฤหาสน์ด้านล่าง พื้นดินที่คฤหาสน์ยืนอยู่บนทันทีเริ่มร้าวและรอยร้าวผ่านอาคารหลายหลัง ทำให้พวกมันยุบลง ด้วยพริบตาคฤหาสน์ที่มิได้ถูกแตะต้อง กลับราบเป็นหน้ากลอง

ด้วยตัวตนที่โดดเด่นของนูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นโปรดทำให้หนึ่งในพวกเขาไม่ว่าง น้องเจี้ยนเฉิน เราควรจะร่วมมือกันเพื่อฆ่าคนหนึ่ง น้ำเสียงของหวงเทียนป้าดูเหมือนจะมีความตื่นเต้นเรื่อย ๆ ความเป็นปฏิปักษ์ที่มีมากว่าพันปีซึ่งสร้างความหนักใจให้กับครอบครัวหวงนั้นกำลังจะหมดไป

ปล่อยให้คนที่อยู่ด้านขวาสำหรับข้าที่จะจัดการ นูบิสกำกำปั้นของเขา และในวินาทีถัดไปมีเพียงประกายแสงสีทอง เขาหายตัวไปจากที่เดิม เขากำลังวิ่งตรงที่จิ้งเฟิงซึ่งเป็นผู้ถือหอกยาว

ผู้อาวุโสหวงใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎเพื่อทำให้เขาไม่ว่าง ข้าจะไปจัดการเขา เจี้ยนเฉินบอกกับหวงเทียนป้า ก่อนที่จะวิ่งไปหาจินเทียนที่ใช้กระบี่ ก่อนหน้านี้ เมื่อเขายังไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎ เขานั้นเพียงสามารถจับคู่กับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 4 ได้ ตอนนี้เขากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้ว เจี้ยนเฉินก็ต้องการที่จะลองกำลังของเขาในปัจจุบัน

“น้องเจี้ยนเฉิน ระวังยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎในมือของเขา เจ้าต้องไม่ปะทะมันตรง ๆ หวงเทียนป้าไม่สามารถที่จะหยุดเขา เขาจึงได้แต่เตือนเจี้ยนเฉิน

เซียนผู้คุมกฎทั้งของสองตระกูลหวงฟู่กลายเป็นเคร่งขรึมมาก เหลือบไปที่คฤหาสน์ที่ตกลงไปในที่พังทลายด้านล่างทั้งสองดูเหมืนจะมีความเข้าใจโดยปริยาย ทั้งสองคนได้ยืมพลังมิติเพื่อหลบหนีไปไกล

ต้องการหนี ? มันไม่ง่ายอย่างนั้น! นูบิสหัวเราะเยาะและเดินตามด้วยการใช้พลังมิติเพื่อไล่ตามจิ้งเฟิง

เจี้ยนเฉินไม่ลังเลและใช้พลังมิติในการติดตามจินเทียนอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามจินเทียนมีความเข้าใจเรื่องพลังมิติมากกว่าเจี้ยนเฉิน เป็นผลให้เขาทะยานไปข้างหน้าโดยหลายกิโลเมตรในพริบตา

หวงเทียนป้ายืนอยู่ตรงที่เดิม เขาค่อย ๆ เหนี่ยวคันธนูอย่างช้า ๆ อย่างสงบ เขายิงลูกศรพลังงานที่มองไม่เห็นออกมา ลูกศรพลังงานถูกสร้างขึ้นจากพลังงานโลก มันมองไม่เห็นและไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยตาเปล่าแม้แต่น้อย

ลูกศรที่เกิดขึ้นจากพลังงานโลกถูกล็อคเป้าไว้ที่จินเทียน ดูเหมือนว่าจะมีพลังในการเคลื่อนย้ายผ่านมิติ มันวิ่งไล่ตามจินเทียนด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น พริบตาผ่านไปหลายสิบกิโลเมตร เดินทางมาถึงด้านหลังจินเทียน