วันถัดไป
หลังจากทำงานมาทั้งวัน พนาวันก็เอนหลังพิงเก้าอี้แล้วขยับคอ
ตรีเข้ามาพูดว่า “งานเสร็จแล้วหรอ”
พนาวันพยักหน้า “เสร็จแล้ว”
“ชวนฉันดื่มชานมไหม”
พนาวันตกตะลึง “หือ”
คุณปราณีที่เดินผ่านมาข้างหลังเธอ ยิ้มและพูดว่า “ชานมถ้วยแรกในฤดูใบไม้ร่วง เธอไม่รู้หรอว่ามันเป็นคำฮิต”
พนาวันยิ้ม “ฉันไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ต”
“วันเกิดครั้งที่แล้ว ตรีไปส่งเธอกลับบ้าน วันเธอควรชวนเขาดื่มชานมถ้วยแรกในฤดูใบไม้ร่วงนะ” คุณปราณียังคงยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนี้พนาวันก็รู้สึกถูกต้อง
มันเป็นน้ำใจ ต้องให้คืน
“ได้สิ ดื่มอะไรดีคะ” เธอตอบ
ก่อนที่ตรีจะได้พูด คุณปราณีก็พูดไปแล้วว่า “มีร้านชานมเปิดใหม่ห่างจากบริษัทของเราหนึ่งกิโลเมตร รสชาติอร่อยมาก ฉันแนะนำเลย”
ตรียิ้มและพูดว่า “ปากของคุณปราณีดีเสมอ เธอแนะนำขนาดนี้แล้ว มันต้องดีแน่นอน ไปลองกันมั้ย”
พนาวันยิ้ม “โอเค”
ตั้งแต่ร่างทั้งสองจากไป รอยยิ้มบนปากของคุณปราณีก็ไม่หุบเลย
หนึ่งกิโลเมตร ไม่ใกล้ไม่ไหล ขับรถเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง
ฝั่งตรงข้ามถนน พนาวัน เห็นร้านชานม
“คุณจอดรถ ฉันจะไปซื้อ” เธอบอก
ตรีตอบ “โอเค จอดรถเสร็จแล้วผมจะไปหา”
ทันทีที่เข้าไป พนาวันก็ตกตะลึงเล็กน้อย
คิวยาวมาก แทบทุกคนมาเป็นคู่
เธอคิดไม่ถึงว่าแค่ชานมถ้วยเดียวคิวจะยาวได้ขนาดนี้
ถ้าไม่ต่อคิวถึงครึ่งชั่วโมง ต้องไม่ถึงคิวเธอแน่
ตามจริงแล้วไม่ใช่นิสัยของเธอที่ต้องรอครึ่งชั่วโมงเพื่อดื่มชานมแก้วเดียว แต่เพื่อตอบแทนน้ำใจ เธอจึงต้องรอ
ว่าแต่ชานมถ้วยแรกในฤดูใบไม้ร่วงหมายความว่าอย่างไร
ทันใดนั้นคู่รักคู่หนึ่งก็พุ่งเข้ามาแซงคิวตรงหน้าเธอ
ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้มาก พนาวันขมวดคิ้ว “ไปต่อคิวด้านหลังค่ะ”
ชายคนนั้นหันมา
เขาคาบบุหรี่ จ้องไปที่พนาวัน และสังเกตเห็นใบหน้าที่สวยงามของเธอ หัวใจของเขาก็เต้นแรง “เรียกพี่ชายสิ แล้วพี่จะไปเข้าแถวข้างหลังให้”
พนาวันรู้สึกคลื่นไส้และรังเกียจ เธอจึงเพิกเฉย
“หรือจะเรียกว่าพี่ก็ได้…”
ก่อนที่พนาวันจะได้พูด เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเธอก็ตะโกนออกมาว่า “ผู้หญิงอายุสามสิบปีมาแย่งแฟนคนอื่น หน้าด้านไปมั้ย”
“มีปัญญาด่าคนอื่น ก็หัดดูแลแฟนตัวเองด้วย”
พนาวันพูดเบาๆ “ไม่มีใครอยากแย่งแฟนแบบนี้ของเธอหรอก แล้วก็ช่วยดูคุณสมบัติของเธอด้วย อย่ามาแซงคิวคนอื่น”
“แฟนแบบนี้ยังไง พูดมาให้ชัดๆ แฟนของฉันมันยังไง”
ขณะพูด หญิงสาวก็ผลักพนาวันอย่างแรง
พนาวันถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างไม่มั่นคง
หญิงสาวเอามือปิดปากและหัวเราะเสียงดัง “โอ้ย ที่แท้ก็คนขาเป๋! คนขาเป๋ก็ดื่มชานมด้วยหรอ”
เสียงของเธอดังมากจนทุกคนหันกลับมามอง
ทันใดนั้น ตรีก็มาถึงพอดี เขาเอาเธอไปไว้ข้างหลังอย่างปกป้อง และพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าบังคับให้ฉันต้องตีผู้หญิง”
หญิงสาวกลอกตา “คนขาเป๋แต่ไม่ให้พูด แล้วไง ฉันจะพูด แฟนคุณขาเป๋ ขาเป๋….”
ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้อีกต่อไป ตรีพับแขนเสื้อขึ้น แล้วเดินไปทางหญิงสาว
หญิงสาวไม่ได้กลัว แต่กลับยั่วยุ และผลักแฟนของเธอที่อยู่ข้างๆ “มัวยืนมองอะไรอยู่”
ชายคนนั้นถ่มน้ำลาย และต่อสู้กับมนตรี
เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ และดูมีพลังมาก
แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตรี
หลังจากสู้ไม่กี่ครั้ง เขาถูกมนตรีตีจนร่วงไปกับพื้น
ทุกคนที่อยู่รอบๆตกตะลึง รวมทั้งพนาวันด้วย
“ขอโทษ!” มนตรีจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างเหนือกว่า
ชายคนนั้นยังคงตะโกนว่า “อยากให้ฉันขอโทษเหรอ ไม่มีทาง! เก่งก็มาหักแขนกูสิวะ!”
ตรีก้าวเท้าเหยียบอย่างแรง
ทันใดนั้นชายคนนั้นก็ร้องไห้คร่ำครวญ และขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น พวกก็ซื้อชานมได้
ตรีพูดขอโทษ “ผมขอโทษ วันนี้คุณไม่มีความสุขเพราะผม”
พนาวันส่ายหัว “มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ฉันแค่เจอคนที่ไม่มีคุณภาพ”
“ผมอยากเลี้ยงอาหารเย็นคุณเป็นหานไถ่โทษ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ผมขอยืนกราน ไม่เช่นนั้นผมจะรู้สึกเสียใจ และรู้สึกผิดมาก”
ทำอะไรไม่ได้ พนาวันจึงต้องตกลง
ตรีจงใจเลือกร้านอาหารหรูที่สุดในฮ่องกงชื่อ การ์เดนสกาย
นี่เป็นครั้งแรกที่พนาวันมาที่นี่
มนตรีก็เป็นแขกประจำของที่นี่ สั่งอาหารจานพิเศษหลายอย่าง
“ไม่ยักรู้ว่าคุณเล่นเทควันโดเป็นด้วย” พนาวันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ตรีหัวเราะเบาๆ “ในฐานะผู้ชาย คุณต้องมีความสามารถ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จะได้แก้ไขได้”
พนาวันคิดว่ามันสมเหตุสมผล
“ว่าแต่ ทำไมต้องเป็นชานมแก้วแรกในฤดูใบไม้ร่วงล่ะ” เธอถาม
ตรีตอบว่า “ปีที่แล้วมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนราวกันตกบนตึก กำลังจะกระโดดตึก ตำรวจท้องที่จึงใช้ชานมแก้สแรกในฤดูใบไม้ร่วงมาดึงดูดความสนใจเธอ และช่วยชีวิตหญิงสาวได้ประสบผลสำเร็จ จากนั้นชานมถ้วยแรกในฤดูใบไม้ร่วงก็ดังขึ้นมา”
พนาวัน ตกตะลึงเป็นเวลาสองวินาที
ชานมสักถ้วยก็มีเรื่องราวเช่นนี้โดยไม่คาดคิด
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าการรอคิวเป็นเวลาสามสิบนาทีเพื่อดื่มชานม ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล
สำหรับผู้หญิงที่ฆ่าตัวตาย ชานมถ้วยแรกในฤดูใบไม้ร่วงหมายถึงการช่วยเหลือและการเกิดใหม่
ดังนั้นเธอจะสามารถโชคดีพอที่จะได้รับการช่วยเหลือและเกิดใหม่ได้หรือไม่
แต่ทั้งสองไม่ได้สังเกตเห็นแผ่นหลังคุ้นเคยในห้องส่วนตัวด้านหลังพวกเขาเลย
อาคิระยกแก้วไวน์ขึ้น และขมวดคิ้ว
ฮ่องกงไม่ถือว่าเล็กหรือใหญ่ แต่ดันได้มาเจอกัน
แปลกจริงๆ ก่อนแต่งงาน เราไม่เคยพบกันโดยบังเอิญ แต่หลังจากหย่าร้าง เราพบกันโดยบังเอิญทุกที่
แน่นอนว่าเขายังจำมันได้
ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าของพนาวัน เป็นคนที่ไปส่งเธอกลับบ้านในวันเกิดของเธอ
“หึ……”
ริมฝีปากบางของเขากระตุกยิ้มเยาะ
ในโลกนี้ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือคำพูดไร้สาระของผู้หญิง
ก่อนหน้านี้เธอยังคงรักเขาจะเป็นจะตาย และไม่เต็มใจที่จะหย่าร้าง
ตอนนี้ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนที่หย่ากัน เธอก็มาระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่น ทานอาหารเย็นกัน แล้วก็ไปส่งที่บ้าน
ผู้หญิงที่จริงเปลี่ยนง่ายมาก
แลถความรักจากปากของผู้หญิงก็ไม่มีค่าควรแก่การเชื่อเลย!
เมื่อมองไปที่ฉากนั้น เขาก็มีเพียงความรู้สึกเย้ยหยันในหัวใจ
ไม่มีอารมณ์จะกิน อาคิระลุกขึ้น
เพื่อนที่นั่งตรงข้ามก็ผงะไป “เป็นอะไรไป”
“เข้าห้องน้ำ”
“โอเคๆ รีบไปรีบมา รออยู่”
อาคิระเดินไปข้างหลังทั้งสองคน หยุด และแสร้งทำเป็นแตะต้นไม้สีเขียวโดยไม่ได้ตั้งใจ
พนาวันยังคงไม่ได้สังเกต
ตรีพูด “แบบร่างตอนนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณสนใจที่จะไปที่สำนักงานใหญ่ไหม ด้วยระดับของคุณ จะต้องมีการพัฒนาที่ดีขึ้นแน่”
พนาวันส่ายหัว “ไม่ ฉันคิดว่าบริษัทนี้ดีแล้ว คุณปราณีก็ดี ฉันจะอยู่ที่นี่ตลอดไป”
ใบหน้าของอาคิระมืดลง
ไม่ได้จะไปอเมริกาเหรอ
ที่จริงเธอก็โกหกอีกแล้ว!
เธอไม่มีแผนจะไปอเมริกาเลย