พวกหนอนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว

ทันใดนั้น นักบู๊ทั้งหมดก็พบว่า รังไหมจำนวนมากมายที่อยู่ด้านหลังได้เกิดการระเบิดขึ้น

ครั้งนี้ แทนที่จะระเบิดขึ้นที่หนอนทีละตัว แต่กลับระเบิดเป็นแสงสีแดงไปทั่วทั้งแถบบริเวณ ราวกับแสงตะวันลับขอบฟ้า ส่องสะท้อนขึ้นในสายตา

เท้าของลู่ฝานเหยียบย่ำลงไปบนอุโมงค์ข้ามมิติอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง และเขาก็พุ่งกระโจนเข้าไป หักหนวดเส้นนั้น เก็บใส่ไว้ในเข็มขัด

แล้วก็กวาดสายตามองไปโดยรอบ พบว่าพวกหนอนทั้งหมดเริ่มหลบหนีกันอย่างกระจัดกระจาย

“ชนะแล้ว! คุณชายลู่ฝานชนะแล้ว! ”

ทุกคนส่งเสียงหัวเราะกันอย่างกึกก้อง ขณะเดียวกันก็ไล่ล่าสังหารพวกหนอนเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อไม่มีพญาหนอน พวกหนอนเหล่านี้ก็เป็นแค่พวกหนอนที่ไร้ระเบียบไร้ความสามารถ ลงมือจัดการได้โดยง่าย ส่วนรังไหมทั้งหมดก็ระเบิดสลายเป็นผุยผง กระจัดกระจายไปทั่วในอุโมงค์ข้ามมิติ

ลู่ฝานยิ้มเล็กน้อย แล้วก็กำลังจะหันหลังกลับไป

ในขณะนั้นเอง เขาก็พลันเห็นว่าหลุมดำนั้นได้สูญหายไปแล้ว

โดยในขณะที่หลุมดำหายไปนั้น เหมือนจะมีหนอนเล็กตัวหนึ่งมุดตัวเข้าไปด้านในด้วย

ลู่ฝานก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หันหลังและกระโดดกลับขึ้นไปที่เรือหัวใจมังกร

เวลานี้ ภายในเรือหัวใจมังกร นักบู๊ทุกคนก็ตื่นเต้นดีใจเมื่อพบเห็นลู่ฝาน

“คุณชายลู่ฝาน ท่านเก่งกาจมากจริง ๆ เมื่อสักครูท่านใช้วิชาอะไรเหรอ มันช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก”

“คุณชายลู่ฝาน ท่านรับฉันเป็นลูกศิษย์เถอะ ฉันจะปรนนิบัติรับใช้ท่านอย่างดีเลย”

“คุณชายลู่ฝาน ท่านแต่งงานหรือยัง? ครอบครัวของฉันยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคน……”

เสียงวิพากษณ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ดังเข้ามาในหูของลู่ฝาน

ลู่ฝานเพียงแค่ยิ้มแล้วก็หยิบยาขวดหนึ่งออกมาแล้วกินเข้าไป จากนั้นก็หันหน้ามองไปที่สิบสามและพูดว่า: “นายเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? ”

สิบสามมองไปที่บาดแผลบนท่อนแขนและช่วงหน้าอกของตนเองอย่างผ่าน ๆ จากนั้นก็ส่ายศีรษะ

ลู่ฝานนำยาขวดหนึ่งออกมา แล้วยัดไปให้เขา สิบสามรับยามา พร้อมกับสายตาที่เป็นประกาย

เขาไม่ได้กินยานั้น แต่ได้นำยานั้น เก็บยัดใส่ไว้ในทรวงอกอย่างเคารพ

ลู่ฝานโบกมือ และพูดว่า: “กลับกันได้แล้ว! ”

กลุ่มนักบู๊หัวเราะเฮฮา และหันหลังโบกมือให้กับขบวนเรือ

ไอ้พวกหนอนที่สมควรตาย ในที่สุดวันนี้ก็ถูกพวกเขาสังหารลงแล้ว!

อีกฝั่งหนึ่ง ลุงชางเองก็กลับมายืนอยู่ที่บนหัวเรือ

ลุงชางยืนเอามือไขว้หลัง มองไปยังถูซางที่อยู่ด้านข้างและพูดว่า: “เจ้าลู่ฝานนี้เก่งกาจมากกว่าที่ฉันคาดคิดเอาไว้เสียอีก กระบวนท่าสุดท้ายของเขานั้น จะต้องเป็นวิชาบู๊ระดับดินขั้นสูงสุดแน่นอน และไม่แน่อาจจะเป็นวิชาบู๊ระดับฟ้าก็เป็นได้ ช่างเป็นเด็กหนุ่มอัจฉริยะ เด็กหนุ่มวีรบุรุษจริง ๆ! ”

ถูซางหัวเราะเหอะเหอะและพูดว่า: “ต่อไปฉันก็มีเรื่องราวที่ไว้คุยโวโอ้อวดอีกแล้ว”

ลุงชางหันหน้ามองไปยังปู้เฟยราชากระบี่ใต้ที่ถูกโยนทิ้งเอาไว้ด้านข้างอย่างกับขยะนั่นอีกครั้ง

ลุงชางแสดงสีหน้าเหยียดหยาม และพูดขึ้นว่า: “ปู้เฟย แม้ว่านายก็เป็นนักบู๊แดนปราณดิน แต่รากฐานยังไม่มั่นคง พลังปราณไม่เสถียร เมื่อนายเปรียบเทียบกับลู่ฝานแล้วก็ยังห่างชั้นกันยิ่งนัก หากนายสำนึกสักหน่อย อีกสักครู่ก็อ้อนวอนต่อลู่ฝาน และอ้อนวอนต่อทุกคน ไม่แน่ ฉันอาจจะไว้ชีวิตนายเอาไว้ก็เป็นได้”

ด้านข้าง นักบู๊หลายคนที่กำลังกดทับตัวของราชากระบี่ใต้อยู่นั้นก็พูดขึ้นว่า: “ลุงชาง จะพูดไร้สาระอะไรกับเขาอีกทำไม ลงมือสังหารเขาไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย”

ลุงชางยิ้มและพูดว่า: “นายไม่เข้าใจ หากคิดจะจัดการกับคนประเภทนี้ การทำให้เขาสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไปนั้น ยังจะมีผลมากกว่าฆ่าเขาทิ้งเลยเสียอีก ฉันยังคิดที่จะนำตัวเขากลับไปประจานต่อสาธารณะด้วย! ”

เมื่อได้ยินคำว่าประจานต่อสาธารณะแล้ว ร่างกายของราชากระบี่ใต้ก็สั่นเทาขึ้นอย่างรุนแรง จากนั้นก็ราวกับว่าตนเป็นผู้พ่ายแพ้ ยอมก้มหัวลงอย่างสิ้นเชิง

ลุงชางยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็หันมองไปยังลู่ฝานที่กำลังขับเคลื่อนเรือหัวใจมังกรกลับมา พร้อมกับตบมือเบา ๆ ไปด้วย