บทที่ 1411 เรียกร้องความยุติธรรม / บทที่ 1412 เกี่ยวอะไรกับฉัน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1411 เรียกร้องความยุติธรรม

“พี่เฟิง เวลาพอสมควรแล้ว…พวกเราหนีกันเถอะ…” เป่ยโต่วเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น

ได้ยินแบบนั้นดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นก็มองประเมินรอบด้าน ตั้งแต่ที่นายแห่งอาชูร่าปรากฏตัว คฤหาสน์ก็ถูกกองกำลังของอาชูร่าปิดล้อม อยากจะหนีออกไปหาใช่ง่ายๆ

“ไม่ต้องห่วง มีพวกเราอยู่นะครับ” ชายผมหยักศพเผยรอยยิ้มน่าหลงใหล

เป่ยโต่วได้ยินก็ชูนิ้วโป้งให้ชายผมหยักศก “พึ่งพาได้จริงๆ!”

“นั่นแหงอยู่แล้ว พวกเราเป็นมืออาชีพ” ชายผมหยักศกยิ้มเอ่ย

ทางฝั่งเบื้องบนตระกูลเยียนหลังพูดจบก็พาผู้หญิงตระกูลเยียนที่ก่อนหน้านี้ถูกทำตาซ้ายบอดออกมา

เวลานี้ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นผ่านการพันและจัดการอย่างเฉพาะทางแล้ว แลดูดุร้ายและจนตรอก

“นายแห่งอาชูร่า…นี่เป็นผลงานของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยนังชั้นต่ำนั่น!” เบื้องบนตระกูลเยียนผู้หนึ่งเอ่ยเสียงเย็น

“ผู้นำพันธมิตรอู่เว่ย…”

ได้ยินแบบนั้นซือเยี่ยหานก็หันมองไปยังเยี่ยหวันหวั่น ในดวงตาวาบประกายแสงยากบรรยาย

ซือเยี่ยหานไม่รู้แม้แต่น้อยว่า ทำไมเยี่ยหวันหวั่นจากประเทศจีนมายังรัฐอิสระได้

ตอนที่ซือเยี่ยหานออกจากประเทศจีนก็ทิ้งผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งไว้ที่นั่นให้พวกเขาปกป้องเยี่ยหวันหวั่นในที่ลับ

อย่างเรื่องของตระกูลซือแล้วก็เรื่องของตระกูลเยี่ย ซือเยี่ยนหานย่อมล้วนรับรู้ เพียงแต่ซือเยี่ยหานหาเป็นห่วงแม้แต่น้อย ด้วยความสามารถของเยี่ยหวันหวั่น การจัดการเรื่องพวกนี้ไม่ได้ลำบากมากมายอะไร

อีกทั้งให้เยี่ยหวันหวั่นอยู่ประเทศจีนนอกจากจะรับประกันความปลอดภัยของเธอแล้ว ซือเยี่ยหานยังอยากให้เยี่ยหวันหวั่นเติบโตด้วยตัวเองเร็วๆ แม้เป็นเทพก็ยังมีจุดที่ผิดและคำนวณพลาดนับประสาอะไรกับคน

เยี่ยหวันหวั่นไม่สามารถเติบโตภายใต้ปีกของเขาได้ตลอด ไม่งั้นเมื่อไรที่ตัวเขาเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้น เยี่ยหวันหวั่นก็จะเหมือนกับแก้วที่เปราะบาง…จุดจบไม่ต้องพูดถึง

กระจกแตกได้แต่เหล็กไม่เหมือนกัน มีแต่ความแข็งแกร่งของตัวเองจึงจะสามารถเพิ่มความปลอดภัยได้

ซือเยี่ยหานเก็บสายตากลับไป เขาไม่ได้ข่าวว่าเยี่ยหวันหวั่นมาถึงรัฐอิสระแม้แต่น้อย…

แถมมองดูสภาพของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ดูไม่เหมือนว่าฟื้นคืนความทรงจำเก่าแล้วเลยสักนิด…

“ท่านผู้นำต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้พวกเราตระกูลเยียนนะครับ…” เบื้องบนตระกูลเยียรมองซือเยี่ยหาน จากนั้นก็เหยียดยิ้มเยาะมองประเมินเยี่ยหวันหวั่น

“คุณกำลังสอนทำให้อะไรงั้นเหรอ” ซือเยี่ยหานมองเบื้องบนตระกูลเยียนคนนั้นด้วยสายตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง

ได้ยินแบบนั้นเบื้องบนตระกูลเยียนก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะรีบร้อนเอ่ย “เปล่าๆๆ…ไม่ใช่แบบนั้นครับ…”

ซือเยี่ยหานเอ่ยกับลุงฝูในทันที “เหตุการณ์”

พ่อบ้านชราได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า กระซิบข้างหูซือเยี่ยหานเอ่ยปากอธิบายต้นสายปลายเหตุของเรื่องราว

จากนั้นซือเยี่ยหานก็เอ่ยเสียงเย็น “ผู้นำไป๋เป็นแขกที่ฉันเชิญมา ศิษย์ตระกูลเยียนก่อปัญหาที่นี่ ฆ่าซะ”

สิ้นเสียงของซือเยี่ยหาน ชายผมแดงที่อยู่ด้านข้างไม่ลังเลก้าวไปประชิดตัวผู้หญิงคนนั้น ยังไม่รอให้คนตระกูลเยียนได้สติกลับมา คอของผู้หญิงคนนั้นก็กลับถูกชายผมแดงบีบแหลกในทันที

ฉากนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นไม่อยากเชื่อสายตา โดยเฉพาะผู้นำตระกูลเยียนกับพวกเยียนอี้

“ร้ายกาจ…สมกับเป็นสูงสุดของอาชูร่า” เป่ยโต่วจิ๊ปาก “นายแห่งอาชูร่าคนนั้นแสดงอำนาจต่อหน้าทุกคน บอกทุกคนว่าก่อเรื่องในอาณาเขตของเขา ไม่ว่าใครก็ต้องตาย…เดาว่าเดี๋ยวคงถึงตาพวกเราแล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง…

ผู้ชายคนนั้น ต้องเป็นซือเยี่ยหานไม่ผิดแน่!

การกระทำของทั้งสองชาติ เธอไม่แย่ถึงขนาดจำคนเคียงหมอนของตัวเองไม่ออก

“ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย” ทันใดนั้นซือเยี่ยหานก็มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยเสียงเย็น

เยี่ยหวันหวั่นมองชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นเยียบเล็กน้อย เอ่ยปากโดยตรง “นายแห่งอาชูร่า เรื่องส่วยพวกเราพันธมิตรอู๋เว่ยจะไม่ส่ง ก็เหมือนกับที่ฉันบอกก่อนหน้านี้ ถ้าอาชูร่าคุณส่งส่วยให้พันธมิตรอู๋เว่ยฉันทุกเดือน บางทีฉันอาจจะยังคิดดู”

“ทำไมไม่ส่ง” ซือเยี่ยหานเอ่ยถาม

เยี่ยหวันหวั่นย้อนถาม “ทำไม?”

ไม่ส่งก็คือไม่ส่ง ไหนเลยยังมีทำไม…

“พันธมิตรอู๋เว่ยฉันใกล้การเงินถดถอย ตัวเองไม่มีกำไรแล้วคุณจะให้ฉันส่งส่วยให้คุณ?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็นชาหาข้ออ้างส่งๆ

วันนี้เธอต้องลองดูว่าผู้ชายคนนี้แท้จริงคือซือเยี่ยหานหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ซือเยี่ยหาน นายแห่งอาชูร่าจะเมินเฉยท่าทีแบบนี้ของเธอได้ยังไง

——————————————————————————————

บทที่ 1412 เกี่ยวอะไรกับฉัน

ตั้งแต่ที่เยี่ยหวันหวั่นได้รับเชิญเข้าร่วมงานประชุมของนายแห่งอาชูร่าก็ไม่เคยมีความคิดส่งส่วยมาก่อน

โดยเฉพาะเมื่อเห็นนายแห่งอาชูร่าที่หน้าตาเหมือนกับซือเยี่ยหานราวกับถอดพิมพ์เดียวกันมานี้ ในใจเก็เหมือนกับผุดความโกรธที่ไม่อาจระบายออกมาได้สายหนึ่ง

ทั้งที่ก็เป็นหน้าตาของซือเยี่ยหานแท้ๆ แต่เห็นตัวเองราวกับเห็นคนแปลกหน้า เรียกได้ว่าไร้ซึ่งพิรุธสักเสี้ยว ประหนึ่งว่าไม่เคยรู้จักตัวเธอมาก่อน

“อาชูร่าคุณมีคุณธรรมมีความสามารอะไรถึงต้องได้รับส่วยจากมือพันธมิตรอู๋เว่ยฉันด้วย” เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นจ้องนายแห่งอาชูร่าพลางแค่นหัวเราะ

ได้ยินดังนั้นชายผมแดงข้างกายซือเยี่ยหานพลันมีแววเย็นเยียบวาบผ่านดวงตา แต่นายแห่งอาชูร่าไม่เอ่ยปากเขาก็ไม่กล้ากระทำอะไรทั้งนั้น

เวลานี้หัวหน้าของทุกกองกำลังในงานมองเยี่ยหวันหวั่นพลางพากันยิ้มเยาะไม่จบสิ้น มาถึงอาณาเขตของอาชูร่าแล้วผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยนี่ยังพูดจาหยิ่งผยองแบบนี้อยู่อีก เกรงว่าคงรีบไปเกิดใหม่

ฝั่งตระกูลเยียนก็ลอบยิ้มหยัน นายแห่งอาชูร่ายังไม่ลงมือกับอีกฝ่าย ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยก็กลับรนหาที่ตายเองเสียแล้ว

“ต่อ” ซือเยี่ยหานจ้องเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยเสียงเบาราวกับไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย

“ครั้งนั้นพันธมิตรอู๋เว่ยฉันกับอาชูร่าคุณสู้กันอย่างเปิดเผย และคุณก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้พันธมิตรอู๋เว่ย ผู้แพ้อย่างคุณยังเพ้อเจ้ออยากได้ผลประโยชน์จากพันธมิตรอู๋เว่ย? ใครให้ความกล้าอาชูร่าคุณกัน” เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อด้วยสีหน้าเปี่ยมความดูแคลน

ทันทีที่พูดคำพูดนี้ออกไป ทุกคนในที่นั้นต่างสบตากัน

ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยหน้าหลอมทองคำของแท้ หลายปีก่อนกองกำลังมากมายของรัฐอิสระร่วมมือกันโจมตีอาชูร่า ไม่ใช่พันธมิตรอู๋เว่ยเธอกองกำลังเดียวสักหน่อย มิหนำซ้ำอาชูร่าก็ไม่เคยแพ้ย่อยยับมาก่อน

และจากคำพูดนี้ของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ก็เหมือนกับว่าพันธมิตรอู๋เว่ยดวลเดี่ยวกับอาชูร่าและเอาชนะอาชูร่าได้ไม่ปาน เห็นชัดว่าคิดจงใจยั่วโมโหนายแห่งอาชูร่า…

“นายแห่งอาชูร่า…ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยไม่เจียมตัว พล่ามเหลวไหลแบบนี้ วันนี้ถ้าปล่อยเธอไปต้องเป็นการปล่อยเสือเข้าภูเขาแน่ จะเก็บเธอไว้ได้ยังไงกัน!” เยียนอวิ๋นจากตระกูลเยียนขึ้นหน้าหนึ่งก้าวพลางมองซือเยี่ยหานและรีบร้อนเอ่ยปาก

ได้ยินแบบนั้น สายตาเย็นชาสุดขั้วกระดูกของซือเยี่ยหานก็ตกลงบนตัวเยียนอวิ๋นช้าๆ เขาเอ่ยเสียงราบเรียบ “ที่นี่ ใช่ที่ที่คุณพูดได้เหรอ”

เมื่อซือเยี่ยหานเอ่ยคำพูดนี้ เยียนอวิ๋นก็ชะงักเล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมความไม่อยากเชื่อ

คุณพ่อเคยพูดไม่ใช่เหรอว่า…นายแห่งอาชูร่าจะแต่งงานกับเธอ…อีกทั้งช่วงปีที่นายแห่งอาชูร่าจากไป เธอก็คุยโวว่าคุณนายของนายแห่งอาชูร่าก็สามารถโยกย้ายกองกำลังอาชูร่าบางส่วนได้…

ผู้นำตระกูลเยียนขึ้นหน้ามาทันทีแล้วยิ้มเอ่ย “นายแห่งอาชูร่า…ท่านผู้นำลืมแล้วเหรอ…นี่ลูกสาวผม เยียนอวิ๋น…”

ได้ยินดังนั้นซือเยี่ยหานก็ชำเลืองมองผู้นำตระกูลเยียนหนึ่งที “ลูกสาวคุณเกี่ยวอะไรกับฉัน”

เมื่อสิ้นเสียงของซือเยี่ยหาน ทั่วทั้งงานก็ฮือฮา

แต่ไหนแต่ไรผู้นำตระกูลเยียนนี้พูดเสมอว่าพวกเขากับนายแห่งอาชูร่าเป็นญาติเกี่ยวดองกันไม่ใช่เหรอ…แต่นายแห่งอาชูร่า…

“นายแห่งอาชูร่า…ปีนั้นคุณพ่อผมผู้นำตระกูลคนก่อน…ตกลงกับผู้นำว่าจะให้ผู้นำแต่งงานกับเยียนอวิ๋นไม่ใช่เหรอ…จากนั้นไม่นานผู้นำก็จากไป…ตอนนี้กลับมาแล้ว…เรื่องแต่งงาน…” ผู้นำตระกูลเยียนเอ่ยปาก

แต่ผู้นำตระกูลเยียนยังไม่ทันพูดจบก็กลับถูกซือเยี่ยหานโบกมือตัดจบและเอ่ยเสียงเย็น “คุณบอกว่าพ่อคุณเคยคุยกับฉัน”

“ใช่ครับ…” ผู้นำตระกูลเยียนพยักหน้า

“งั้นให้พ่อคุณมาคุยกับฉัน” ซือเยี่ยหานเอ่ย

“อา…” ผู้นำตระกูลเยียนและคนตระกูลเยียนพลันชะงักอยู่กับที่ ผู้นำตระกูลคนก่อนลาโลกไปหลายปีก่อนแล้ว ตอนนี้ไหนเลยจะมาพูดคุยกับนายแห่งอาชูร่าได้…