ตอนที่ 1113 เผชิญหน้าและเจรจา

The Legendary Mechanic

ในทะเลทรายดวงดาวโบราณ ดาวเมฆแม่เหล็กคือหนึ่งในพื้นที่รวมตัวของผู้ศรัทธาจักรกล พื้นมันเป็นสีเหลืองอมดำ และฐานหนักในรูปแบบผู้ศรัทธาจักรกลก็ตั้งบนพื้นผิว ก่อตัวเป็นเมืองอุตสาหกรรมรูปวงแหวน รอบมันเป็นเหมืองเปิดที่มีเครนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ถนนเมืองเชื่อมต่อกันหมด พื้นถนนเป็นสีเทาเรียบ ขบวนยานพาหนะขับผ่านคนเดินเท้าบนถนนที่สวมเกราะหนัก
  ใจกลางเมืองวงแหวนเป็นภูเขาสูง มันถูกหั่นแบนตรงกลาง ที่วิหารตั้งอยู่ ด้านบนเป็นเกาะลอยที่ปล่อยแสงประดิษฐ์อ่อนๆ
  ผู้ศรัทธาจักรกลมีผู้ติดตามและกลุ่มต่างๆมากมาย มันไม่มีกฏเข้มงวดและส่วนใหญ่ก็มีศูนย์กลางที่นักบวชสูงสุดและเหล่าบาทหลวงต่างๆ กองยานยังเดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อหาดาวอพยพไป เป้าหมายพวกเขาคือเหมืองดาวและซากจักรกลใต้ดิน สะสมพวกมันหรือขาย ดังนั้น ดาวส่วนใหญ่ที่ผู้ศรัทธาจักรกลไปเยือนจึงเป็นแค่ฐานที่มั่นชั่วคราว พวกเขาเป็นศาสนาเร่ร่อน ผู้ศรัทธาจักรกลไม่มีฐานตายตัว บางส่วนเป็นสาขาย่อยของกลุ่มต่างๆ บางส่วนเป็นการรวมกันระยะยาวและพื้นที่พักอาศัยของผู้ศรัทธาเช่นดาวเมฆแม่เหล็ก และบางส่วนก็เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ศรัทธาทุกคนยอมรับ
  ตอนนี้ กองยานติดอาวุธหนักของสามอารยธรรมจักรวาลลอยเหนือดาวเมฆแม่เหล็ก แต่ผู้ศรัทธาบนพื้นกลับไม่แปลกใจเลย พวกเขาเหลือบมองข้างบนเป็นครั้งคราวก่อนกลับไปสนใจสิ่งที่ตัวเองทำ สามอารยธรรมจักรวาลได้ติดต่อผู้ศรัทธาจักรกลแล้ว องค์กรหละหลวมแบบนี้มักจัดการได้ยาก สามอารยธรรมจักรกลมักไม่ไว้ใจความสามารถของผู้ศรัทธาจักรกลเพื่อออกคำสั่ง พวกเขาจึงส่งกองยานมาและใช้มันเป็นโหนดกับดัก
  ปัจจุบัน บนแท่นเปิดด้านบนวิหารจักรกล นักบวชสูงสุดที่สวมเกราะบิชอปมองกองยานด้านบน
  นักบวชข่างๆเห็น และถาม”ท่านนักบวชสูงสุด ท่านกังวลเกี่ยวกับกองยานของสามอารยธรรมจักรวาลหรือ?”
  นักบวชสูงสุดส่ายหัว”เราแค่องค์กรพลเรือนที่ปฏิบัติตามกฏหมาย เราไม่เคยติดต่อกับสามอารยธรรมจักรวาลมากนัก พวกเขาย่อมไม่ทำอะไรเรา ฉันดีใจเสียอีกที่สามอารยธรรมจักรวาลมาที่นี่”
  “ดีใจ?”
  “ใช่ นับตั้งแต่ไวรัสปะทุ พวกคลั่งในศาสนาก็ยิ่งรุนแรง ไม่เพียงจะศึกษาไวรัสกบฏเสมือน แต่ยังอยากกระจายมัน นี่ขัดกับจุดยืนที่เป็นกลางของเรา ศรัทธาที่บิดเบี้ยวของพวกเขาจะนำหายนะมาสู่ศาสนาเรา ตอนนี้ที่สามอารยธรรมมา พวกเขาจึงออกคำสั่งกับพวกคลั่งเหล่านี้ได้”นักบวชสูงสุดพึมพำ
  นึกย้อนกลับไป มันยังรู้สึกหนักอึ้ง
  หลังสามอารยธรรมจักรวาลคิดค้นโปรแกรมได้ ก็มีพวกคลั่งบางคนที่พยายามพัฒนาไวรัสและถอดรหัสโปรแกรมป้องกันเพื่อให้ไวรัสระบาดต่อได้ คนบ้าเหล่านี้เชื่อว่านี่คือการปฏิวัติครั้งใหญ่
  ดังนั้น จึงไม่มีทางเลือก เขาส่งผู้พิทักษ์ศรัทธาไปขังคนเหล่านี้ แต่ทว่า ความคิดนี้ก็ยังอยู่และยังแพร่กระจายไปทั่ว”อืม บางที..”นักบวชหยุดชั่วคราว”จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมสามอารยธรรมจักรวาลถึงมาใช้พื้นที่รวมตัวเราชั่วคราว”
  “มันดูเหมือนจะเกี่ยวกับไวรัสกบฏเสมือน ฉันเองก็ไม่รู้….”เขาส่ายหัว
  ก่อนเขาจะพูดจบ เรดาห์ในเกราะเขาก็ดัง
  “ตรวจพบความผิดปกติในสนามแม่เหล็กของดาว วังวนมิติปรากฏ พิกัด..”
  นักบวชสูงุสดสะดุ้ง เขาหันไปมองสนามแม่เหล็กผันผวน
  สนามแม่เหล็กของดาบเมฆแม่เหล็กพิเศษมาก เกราะของผู้ศรัทธาจักรกลที่นี่ติดตั้งด้วยเครื่องตรวจจับสนามแม่เหล็ก ตอนนี้ พวกเขาได้ยินการแจ้งเตือนจากเรดาห์ คนบนถนนต่างหยุดและมองไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขารีบสลับเป็นวิสัยทัศน์แม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อให้เห็นการเคลื่อนไหวของสนามแม่เหล็กได้ชัด ในวิสัยทัศน์พวกเขา บนท้องฟ้า สนามแม่เหล็กไฟฟ้าดูเหมือนจะก่อตัวเป็นพายุ
  ตอนนั้นเอง บางสิ่งก็เกิดขึ้น!
  บูม!
  อุกกาบาตสว่างไสวบินออกจากกองยานของสามอารยธรรมจักรวาล มุ่งตรงมายังตำแหน่งวังวนแม่เหล็กไฟฟ้า
  แม้อุกกาบาตเหล่านี้จะมีขนาดมใหญ่นัก แต่ก็ปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา ลากเส้นประกายฟ้าไว้ด้านหลัง อุกกาบาตเหล่านั้นส่งเสียงดังสนั่นประดุจฟ้าร้องขณะขยับ ราวกับท้องฟ้ากำลังถล่ม
  “นั่นคืออะไร?”   รวมถึงนักบวชสูงสุด ผู้ศรัทธาจักรกลทั้งหมดบนดาวเมฆแม่เหล็กต่างตกใจ
  ครั้งนี้ กลุ่มอุกกาบาตชุดแรกมาถึงตำแหน่งวังวนและหยุด หลังไฟรอบพวกเขาหายไป ณูปลักษณ์ของพวกเขาแบบจักรกลก็ปรากฏ พวกเขาคือกายสถิตของช่างกลผู้อยู่เหนือ
  แมนิสันเร็วสุด เขาแหงนมอง จ้องวังวนแม่เหล็กไฟฟ้า และมันก็หยุดขยับทันที จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น คว้าไปทางมัน สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใจกลางวังวนถูกเขาคว้าจับ และมันก็เข้าไปในภาชนะสามเหลี่ยมขนาดเท่าหัวคน
  วินาทีต่อมา วังวนแม่เหล็กไฟฟ้าผิดปกติก็หายไป ลมและฝนหยุด ท้องฟ้าสว่างเหมือนเดิม พายุแม่เหล็กไฟฟ้าก่อนหน้านี้ไม่ต่างอะไรกับภาพลวงตา
  “กายสถิตของเหล่าช่างกลผู้อยู่เหนือ?”
  เมื่อเห็น แม้แต่ผู้ศรัทธาจักรกลก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต่างมีความสุขและตื่นเต้น
  ในสายตาพวกเขา ช่างกลผู้อยู่เหนือเหล่านี้ก็เหมือนเหล่าเทพเจ้าที่จุติลงมา
  แต่ทว่า ก่อนพวกเขาจะได้แปลกใจ สถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง กายสถิตของผู้อยู่เหนือคนอื่นด้านหลังแมนิสันโจมตีเขาพร้อมกัน
  บูม บูม บูม!
  การระเบิดปะทุขึ้นกลางอากาศ ส่องสว่างบนหน้าผู้ศรัทธาจักรกลนับไม่ถ้วน
  วินาทีต่อมา กายสถิตของแมนิสันก็ปลิวออกจากระเบิด ถูกล้อมด้วยคนอื่น
  เมื่อเห็นอย่างนั้น ทุกคนก็ตกใจ
  ผู้อยู่เหนือจะสู้กันที่นี่?งั้นเราก็กำลังจะเป็นพยานในศึกเทพเจ้า?
  ก่อนหน้านั้นสิบวินาที…
  ภายในกองยานสามอารยธรรมจักรวาลด้านนอกดาว กองทัพจักรกลของช่างกลต่างๆลอยอยู่ บางกองทัพล้อมกายสถิตพวกเขาไว้  ทันทีที่แกนไวรัสหลบหนีเครือข่ายควอนตัม จิตสำนึกทั้งหมดของพวกเขาก็มาถึง ดวงตาของกายสถิตพากันสว่างวาบ
  ทันทีที่หานเซี่ยวมาถึง การแจ้งเตือนเรดาห์ก็ดังในหูเขา
  พร้อมกัน เงาสีดำก็บินออกมา นั่นคือแมนิสัน มันเร่งไปหาแกนไวรัสอย่างรวดเร็ว
  ตาแก่นั่นเร็วมาก!
  ความคิดนี้แวบผ่านหัวเขา หานเซี่ยวกำลังจะใช้ความสามารถเขา แต่ก็รู้ว่าเขาไม่สามารถใช้ความสามารถเคลื่อนย้ายใดๆได้
  รูม่านตาของเขาหดลง เขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น โดยไม่กังวลใจอีก เขาบินตามแมนิสันไป ลงไปทางผิวดาว ด้านหลังเขาคืออุกกาบาตหลายลูก
  ปัง!
  พวกเขาผ่านชั้นบรรยากาศ ความเร็วสูงของพวกเขาทำให้พวกเขาลุกเป็นไฟ หานเซี่ยวจ้องเป้าหมาย วังวนแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ในสายตาของเขา
  แกนไวรัสเพิ่งหลบหนีออกเครือข่ายควอนตัมและกำลังรวบรวมพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าสร้างร่างมัน แต่ก็ตระหนักว่ากลุ่มผู้อยู่เหนือกำลังเข้าใกล้ มันล้มเลิกการสร้างร่างกาย พยายามกลับเข้าเครือข่ายควอนตัมเพื่อหนี
  แต่ทว่า วินาทีนั้น แสงไฟฟ้าหนาแน่นก็ยิงออกจากตาของแมนิสัน เขาเปิดใช้งานจ้าวแห่งเสมือน!
  พรึ่บ!
  วิญญาณเสมือนของแกนไวรัสถูกจับ ไม่สามารถหลบหนีออกจากเปลือกมันได้
  การเคลื่อนไหวของแมนิสันราบรื่นมาก เขารีบนำอุปกรณ์กักกันพิเศษออกมา ดูดแกนไวรัสเข้าไป
  อุปกรณ์นี้สร้างขึ้นเพื่อยับยั้งความสามารถของแกนไวรัสโดยเฉพาะ
  รูม่านตาของหานเซี่ยวหดลง ตาแก่แมนิสันได้ไปแล้ว!
  แต่ทว่า วินาทีถัดมา กายสถิตของคนอื่นก็โจมตีพร้อมกัน ระเบิดใส่แผ่นหลังของแมนิสัน
  บูม!
  แมนิสันคาดไว้แล้ว ชั้นพลังงานปรากฏ ขวางพลังงานเหล่านั้น ทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง
  ด้วยการใช้พลังนี้ เขารีบหนีออกจากคนอื่น ในเวลาเดียวกันก็หันไปหาพวกเขา พร้อมภาชนะในมือ
  คนอื่นล้อมแมนิสันไว้
  “ระวังด้วย ถ้าทำลายภาชนะ ความพยายามของเราจะสูญเปล่า”
  แมนิสันไม่โกรธเลยและพูดอย่างสงบ
  สมาชิกสายตรงของสหพันธ์ ผู้ปกป้องโรโม่พูด”แมนิสัน ส่งแกนไวรัสมา นายก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่สามารถตกอยู่ในมือคนอื่นได้”
  ภาพฉายของเหล่าผู้ตรวจการปรากฏ ซิดรีนูดขึ้น”ถูกต้อง ท่านจักรพรรดิจักรกล ท่านเป็นคนฉลาด สามอารยธรรมจักรวาลจะต้องตบรางวัลให้ท่านอย่างงามสำหรับการจับแกนไวรัส แต่สิ่งนี้ไม่สามารถอยู่ในมือคนอื่นได้”
  “ฮี่ๆ ไม่ต้องกังวล หลังฉันศึกษามันเสร็จ ไม่เพียงฉันจะส่งไวรัสนี้ให้ ฉันจะแบ่งปันเทคโนโลยีที่ฉันคิดค้นขึ้นมาด้วย.”
  แมนิสันไม่ตื่นตระหนกเลย
  หานเซี่ยวไม่พูด เขามองและลอบพยักหน้า นี่อยู่ภายในการคาดเดาของเขา
  ในชีวิตก่อนหน้าเขา คนที่ได้รับแกนไวรัสน่าจะเก็บมันไว้ลับๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์ต่างออกไป แกนไวรัสเป็นมันฝรั่งร้อน ไม่ว่าใครจะครอบครองมัน พวกเขาก็จะตกเป็นเป้าของคนอื่น ในเวลาเดียวกัน สามอารยธรรมจักรวาลย่อมไม่อยู่เฉย
  ยานรบไม่มีส่วนช่วยในการจับแกนไวรัส ทำไมสามอารยธรรมต้องส่งกองยานมา?มันชัดเจนแล้วว่าพวกเขาไม่ได้มาเพื่อจัดการกับแกนไวรัส แต่มาจัดการกับพวกเขา!   กายสถิตของทุกคนมีความสามารถไฮเปอร์ไดรฟ์ระยะสั้น หานฌซี่ยวเองก็มี แต่ไม่มีใครใช้มันได้เพราะกองยานได้เปิดใช้ตัวปรับเสถียรมิติเวลาแล้ว
  และนี่คือเหตุผลจริงที่แมนิสันอยู่เพื่อคุย
  ทางเดียวที่จะพาแกนไวรัสไปได้คือ..ต่อสู้!
  แต่ทว่า แม้สามอารยธรรมจักรวาลกับช่างกลคนอื่นจะอยากเอาแกนไวรัสนี้ไป พวกเขาก็กังวลเกี่ยวกับการเผลอทำลายภาชนะ
  สามอารยธรรมจักรวาลหวังได้รับแกนไวรัสกลับจากแมนิสันผ่านการเจรจา
  “จักรพรรดิจักรกล ไวรัสกบฏเสมือนเป็นอาวุธกลยุทธ์ที่สามารถคุกคามทั้งจักรวาลได้ มันจะปลอดภัยกว่าในมือเรา เราจะไม่ยอมให้ความเสี่ยงหลุดออกไป ไม่ว่ายังไง เราต้องได้รับแกนไวรัส คุณควรรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้“
  ผู้ตรวจการศาสนจักรพูดขึ้น  แมนิสันไม่ตอบสนองทันทีแต่มองกายสถิตของช่างกลคนอื่น จากนั้นก็พูด”เห็นไหม?ทุกคนที่ได้รับแกนไวรัสต้องเจอกับเรื่องนี้ พวกนายยังวางแผนสู้แย่งมันไหม?”
  “พูดตรงๆ ฉันไม่ได้สนใจแกนไวรัสมากนัก เหนือสิ่งอื่นใด ฉันไม่ใช่ช่างกลเสมือน…แต่ ฉันก็ไม่ว่าอะไรถ้าได้มัน”กันต์หัวเราะ
  “อย่ามองฉัน ขอแค่ฉันได้รับแกนไวรัส ฉันก็จะได้รับอิสรภาพคืน ฉันอยู่ข้างศาสนจักรอยู่แล้ว”ฟรานซิสโก้พูด
  “ฉันจะสู้เพื่อบางอย่างด้วยทุกอย่างที่มีถ้ามีโอกาส…อาจารย์สอนฉันเอง”มอร์นิซ่าพูด
  ทุกคนแสดงท่าที เหตุผลพวกเขาต่างกัน แต่ก็มีความตั้งใจเหมือนกัน
  สุดท้าย สายตาของแมนิสันก็หยุดที่หานเซี่ยว
  “แบล็คสตาร์ แล้วนายละ?”
  หานเซี่ยวไม่ตอบตรงๆแต่พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน”นายถามเพื่อคุยเล่น?นายกำลังถ่วงเวลาหรือพยายามหาพันธมิตรชั่วคราว?”
  เมื่อได้ยิน แมนิสันก็ยิ้ม”แบล็คสตาร์ นายรู้จักฉันดี..ถูกต้อง ฉันต้องการพันธมิตรเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ด้วยกัน นายและฉันต่างรู้ถึงสถานการณ์ของผู้อยู่เหนือ เราอยู่ข้างเดียวกัน ฉันวางแผนศึกษาไวรัสกบฏเสมือนไม่ใช่เพื่อเทคโนโลยีมัน แต่เพื่อเป็นหลักประกันให้เรา ถ้านายเต็มใจช่วยฉัน ฉันก้ไม่ว่าอะไรที่ต้องศึกษามันกับนาย”ทุกคนมองหานเซี่ยวด้วยอารมณ์ต่างๆ
  หานเซี่ยวไม่เชื่อเลย”ฟังดูดี แต่ฉันมีความรู้สึกว่านายจะกลับคำพูด”
  “ฮี่ๆ นายอาจไม่เชื่อ แต่ฉันต้องการคนมาร่วมเสี่ยง ฉันจะรักษาคำพูดของฉัน”
  “จิ๊ ก็แค่คำพูด ไม่ว่าจะฟังดูดีแค่ไหนก็ตาม”
  “งั้นนายอยากให้ฉันพิสูจน์ยังไง?”
  หานเซี่ยวชี้ภาชนะในมือแมนิสัน”ในเมื่อนายเต็มใจศึกษามันกับฉัน งั้นใครที่ถือแกนไวรัสก็คงไม่ต่าง ส่งมันให้ฉัน ฉันจะรับความเสี่ยงไว้เอง และนายจะช่วยฉัน แบบนี้ ฉันถึงเชื่อ”
  “ฉันตกลง แต่นายจะเต็มใจศึกษามันกับฉันงั้นเหรอ?ฉันจะมั่นใจได้ไงว่านายไม่คิดกลับคำพูด?”แมนิสันถามกลับ
  “อย่างที่นายพูด ฉันต้องการคนมาแบ่งเบาแรงกดดัน”หานเซี่ยวยักไหล่
  แมนิสันเงียบไป บรรยากาศยิ่งหนักอึ้ง ในที่สุดเขาก็ค่อยๆพูด ทำให้ทุกคนตกใจ
  “ในเมื่อเป็นแบบนั้น..งั้นก็เอาสิ?”