บทที่ 1954 - แก้วตาดวงใจ เจ้ามังกรทองเปลี่ยนเจ้าของ

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

ทางด้านของชิงซุนและเด็กๆคนอื่นๆตอนนี้บรรลุอยู่ในระดับพลังปราณจักรพรรดิและมีทีท่าว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่คนที่โดดเด่นมากที่สุดคือชิงหมิง เขาคือเด็กที่แข็งแกร่งที่สุดและมีระดับพลังอยู่ในระดับสุดท้ายของพลังปราณจักรพรรดิ เขามีความสามารถในการสังหารเหมือนธรรมชาติสั่งสอน กลายเป็นเทพแห่งการสังหาร ราชาแห่งเงามืด
  ส่วนทักษะของชิงหยินนึกว่าเรียนรู้ได้จากทุกที่ที่เธอผ่านพบเธอรู้ในหลายสิ่งหลายอย่างและกลายเป็นยอดผู้เชี่ยวชาญทักษะย่างก้าว 9 เทวา เพลงหมัดไทเก๊ก เสียงบรรเลง ชิงสุ่ยเป็นคนลงมือแนะนำเส้นทางเดินให้กับเธอด้วยตัวเอง และช่วยจัดหาสิ่งที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นยาเพื่อเพิ่มความสามารถ และอุปกรณ์ในการเรียนรู้ ถ้าหากเธอรู้สึกใฝ่รู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เธอก็จะฝึกฝนมันอย่างหนัก
  ”หยินเอ๋อหมัดไทเก๊กต้องใช้ความตั้งใจและการเคลื่อนไหวร่างกายที่เหมาะสม เมื่อเจ้าใช้หมัดไทเก๊ก กุญแจสำคัญที่ใช้เอาชนะศัตรูคือการเอาความอ่อนเข้าชนะความแข็ง”ชิงสุ่ยยิ้ม
  ”ขอบคุณมากท่านพ่อ!!”ชิงหยินกล่าวอย่างมีความสุข
  ”เมื่อนึกถึงวันเก่าๆแล้วตอนนี้ลูกพ่อโตขึ้นมาก”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  ”ไม่จริงสักหน่อย!!”ชิงหยินเกาะแขนชิงสุ่ย
  ”ลูกสาวคนนี้คิดถึงท่านมากแต่ไม่ว่าลูกจะคิดถึงท่านมากเท่าไหร่ ลูกก็ไม่อาจไปหาท่านได้”ชิงหยินทำหน้ามุ่ย มันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้เห็นเธอแสดงสีหน้าแบบนี้ให้คนอื่นได้เห็น
  ชิงสุ่ยรู้สึกผิดเขาค่อยๆลูบหัวเธอ” ลูกสาวของพ่อโตแล้วก็ควรจะกางปีกบินด้วยตัวเอง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ลูกจะต้องทำตัวให้แข็งแกร่ง ตระกูลจะช่วยสนับสนุนลูกๆ”
  ”ท่านพ่อเปรียบเสมือนต้นไม้ร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกเราจากใจจริงแล้ว ข้าไม่ได้อยากฝึกฝนวรยุทธเลย ข้าอยากจะเรียนรู้แค่ดนตรีและวาดภาพมากกว่า”ชิงหยินยิ้ม ดวงตาของเธอคล้ายคลึงกับชางห่ายหมิงเยวี่ยมาก
  ”พ่อไม่ได้ต้องการให้เจ้าเรียนรู้อะไรให้มากมายนักเพียงแต่อย่างน้อย เจ้าก็ไม่ควรละทิ้งวิชาไทเก๊ก ความแข็งแกร่งคือรากฐานของมนุษย์ ในเมื่อเจ้าฝึกฝนรากฐานแข็งแกร่ง การที่เจ้าเรียนรู้ดนตรีเพลงแค่ปีเดียว ก็อาจเทียบเท่ากับผู้อื่นที่เรียนรู้มาเป็นร้อยปี”ชิงสุ่ยรู้ดีว่าการฝึกฝนจะทำให้เข้าถึงพลังจิตที่เหนือสวรรค์ ฉะนั้นมันจึงทำให้การเข้าใจง่ายขึ้น จนบรรลุความสามารถเหนือสวรรค์ชั้นฟ้าได้อย่างง่ายดาย
  ”ข้ารู้แล้วว่าสิ่งที่ท่านพ่อต้องการให้ข้าเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด”
  ”ในวันถัดไปเจ้าจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆอีกมากมาย และเจ้าจะรู้เองว่า การจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราต้องการมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”ชิงสุ่ยยิ้มและยังคงสั่งสอนลูกชายลูกสาวของเขาอย่างอ่อนโยน แต่ก็มีบางเรื่องที่เขาจำเป็นต้องเข้มงวด
  มีคำกล่าวบอกกันว่าการเลี้ยงลูกชายต้องเลี้ยงบนสภาวะกดดันส่วนลูกสาวให้เลี้ยงบนสภาวะที่อุดมสมบูรณ์ ชิงสุ่ยจึงให้ความเข้มงวดกับลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่ก็ไม่ใช่การกักขังอิสรภาพ ไม่ว่าลูกชายหรือลูกสาวของเขาจะทำผิดพลาดสิ่งใด เขาก็พร้อมจะให้อภัยเพื่อไม่ให้แต่ความตึงเครียด และยังใช้ยาต่างๆเพื่อบรรเทาและเพิ่มพูนความสามารถของพวกเขาอย่างเป็นที่
  ชิงเหยียนลูกสาวที่เกิดขึ้นกับสือชิงฉวง เติบโตไปไกลมาก
  เธอไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธเหมือนกับคนอื่นๆและพรสวรรค์ของเธอก็ไม่อาจเทียบเคียงชิงหยินหรือคนอื่นได้ มันทำให้เธอเป็นเหมือนกับอวี้ฉาง แม้ว่าภายในตระกูลชิง เธอจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในรุ่นใหญ่ แต่ด้วยความช่วยเหลือของชายผู้เป็นพ่ออย่างชิงสุ่ย หากเธอก้าวออกจากบ้าน เธอก็ไม่ต่างจากอัจฉริยะที่อยู่เหนือกว่าทุกๆตระกูล
  ยิ่งวันเวลาผ่านไปความแตกต่างของเธอกับเด็กคนอื่นยิ่งเพิ่มมากขึ้น
  ”เหยียนเอ๋อมานี่เร็ว บอกพ่อสิ ว่าเจ้ากำลังวุ่นอยู่กับอะไร”ชิงสุ่ยลูบหัวเด็กสาวที่อยู่ข้างๆเขา
  ชิงเหยียนยิ้มและรีบนั่งลงข้างชิงสุ่ยแววตาของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่เห็นพ่อของเธอกลับมา
  ”ข้ากำลังเรียนรู้การทำการค้ากับท่านแม่อยู่”ชิงเหยียนกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม
  แต่ชิงสุ่ยก็ยังเห็นร่องรอยความผิดหวังในสายตาชิงเหยียนทั้งๆที่เธอกำลังยิ้ม
  ลูกสาวของเขาเติบใหญ่และรู้ด้อยกว่าเธอได้กว่าผู้อื่นเธอจึงพยายามซ่อนความรู้สึกของตนเอง
  ”แล้วการฝึกฝนล่ะ?”ชิงสุ่ยจับมือลูกสาวของเขา
  ”เอ๋อข้าฝึกฝนทุกครั้งที่ข้ามีเวลา ลูกสาวของฉันคนนี้เป็นคนโง่ การฝึกฝนจึงไม่ค่อยคืบหน้า แต่อย่างน้อยข้าก็ใช้มันฝึกฝนจนร่างกายของข้าแข็งแรงและมีสุขภาพดี”
  ชิงสุ่ยรู้สึกถึงความเศร้าถาโถมเขารู้ดีว่าความสามารถของเขานั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสวรรค์ชั้นฟ้าเลย โดยเฉพาะทักษะการแพทย์ที่ทรงพลัง แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้คนได้ แม้ว่าเขาจะทำให้ความสามารถและพรสวรรค์ของผู้คนเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งมันก็เพียงเล็กน้อย
  ”ใครบอกว่าลูกสาวของข้าโง่?เจ้าไม้ได้โง่คนอื่นเลย”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
  ”ข้าคือลูกสาวของท่านพ่อฉะนั้นข้ารู้ดี”
  ”สาวน้อยเจ้าสามารถเรียนรู้การสร้างค่ายคนจากพ่อได้ พรุ่งนี้เจ้าจะต้องฝึกฝนย่างก้าว 9 เทวาให้มาก และเจ้าจะต้องเริ่มเรียนรู้การฝังเข็มชำระล้างเส้นลมปราณจากหยินเอ๋อ ลูกสาวของพ่อไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่บางสิ่งบางอย่างมันไม่เหมาะสมกับเจ้า”ชิงสุ่ยจ้องมองชิงเหยียน
  ”ท่านพ่อข้าจะเปลี่ยนแปลงได้จริงๆหรือ?”
  ชิงเหยียนกลัวความผิดหวังแต่เธอก็ไม่อยากทำให้พ่อของเธอชิงสุ่ยผิดหวังในตัวเธอ
  ชิงสุ่ยใช้ชีวิตบนโลกใบเก่าและโลกใบใหม่ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็มีประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน เขาจึงบอกได้ทันทีว่าสายตาของเธอกำลังลังเล “สาวน้อย เจ้าคือแก้วตาดวงใจของพ่อ เจ้าคือความภูมิใจและเจ้าจะเป็นเช่นนั้นไปตลอดกาล”
  ชิงเหยียนยิ้มอย่างมีความสุขหัวใจของเธอดูสดใสกว่าเมื่อก่อน
  ชิงสุ่ยต้องการสอนทักษะค่ายกลให้กับชิงเหยียนเพราะรู้ดีว่าลูกสาวของเขาคนนี้เป็นคนที่มีเหตุมีผล และการที่เธอได้เรียนรู้อีกเล็กน้อยก็จะทำให้เธอก้าวหน้าไปมากขึ้น
  ย่างก้าว9 เทวาคือปัจจัยหลักที่สำคัญต้องใช้พร้อมกับการสร้างค่ายกล
  ”ข้าจะเป็นแก้วตาดวงใจของท่านพ่อไปตลอดกาล”ชิงเหยียนหัวเราะและกอดแขนชิงสุ่ยไม่ยอมปล่อย
  ”เหยียนเอ๋อพ่อมีของขวัญให้เจ้า”ชิงสุ่ยคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าว
  ชิงสุ่ยเลือดมังกรทองคำออกมาตอนนี้มันยังไม่โตเต็มวัยแต่ก็ใกล้กำหนด
  ชิงสุ่ยไม่เคยปล่อยให้เจ้าทองคำตัวน้อยเข้าร่วมสงครามใดใดทั้งสิ้นมันจึงไม่เคยได้ปรากฏตัว
  ไม่มีอะไรสำคัญกว่าลูกสาวของเขามังกรทองคำคือสัตว์อสูรตัวล่าสุดที่ชิงสุ่ยได้รับ มันยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กับมนุษย์คนใดนอกจากเขา
  ทันทีที่มังกรทองคำปรากฏทุกคนในตระกูลจ้องมองมันด้วยความประหลาดใจ กลิ่นอายของมันน่ากลัวอย่างมาก แต่ดูเหมือนชิงเหยียนจะไม่ต้องการมัน “ท่านพ่อ ลูกเข้าใจสิ่งที่ท่านคิด แต่ลูกคิดว่ามันไม่จำเป็น”
  ชิงสุ่ยยิ้ม”เจ้ากลัวว่าถ้าพ่อไม่มีเจ้ามังกรทองคำตัวนี้ แล้วพ่อจะถูกคนภายนอกกลั่นแกล้งหรือ”
  ”ท่านพ่อต้องการมันมากกว่าข้าแล้วตัวข้าคงไม่ได้ใช้มันมาก”ชิงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงธรรมชาติ
  ”เจ้ามังกรทองคำตัวนี้อ่อนแอเกินไปและพ่อก็ไม่ได้ปล่อยมันออกมาเลย เจ้าเด็กน้อย เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าพ่อของเจ้าครอบครองสัตว์อสูรมากเพียงใด? ตัวพ่อแข็งแกร่งกว่าเจ้ามังกรตัวนี้เสียอีก ฉะนั้นมันจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า และช่วยให้เจ้าเรียนรู้วิธีการสร้างค่ายกลได้ดีในอนาคต”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
  ชิงเหยียนยังคงลังเลแต่ชิงสุ่ยก็จับมือของเธอกรีดเลือดที่ปลายนิ้วหยดลงบนหัวของเจ้ามังกรทองคำ ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างตราประทับเพื่อทำให้เจ้ามังกรทองคำจงรักภักดีและคอยปกป้องชิงเหยียนเตรียมตัวตาย
  แม่ของเธอสือฉิงจวงพ่อบอกภาพที่เกิดขึ้นจากด้านข้างด้วยรอยยิ้มอันแสนภาคภูมิใจ ชายผู้เป็นสามีของเธอจนโลกกว้างดิ้นรนสุดชีวิต เพื่อครอบครองพลัง และมอบของขวัญสำคัญให้กับลูกสาวของเธอ