ข้ารอเจ้าอยู่

“จะไปลองดูดีไหมนะ รหัสลับนั้นจะสามารถเปิดตู้ได้จริงๆงั้นเหรอ”โจวเหวินอดคิดไมได้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ โจวเหวินคงไม่มีทางได้เข้าใกล้กล่องโลหะนั้นแน่ๆ แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว เพราะว่าเขามีผ้าคลุมล่องหนอยู่ในมือ ทำให้เขาสามารถหลบหลีกกล้องและคนในร้านได้อย่างง่ายดาย

โจวเหวินนั้นก็รอบคอบมากพอ ตอนที่เขาไปเห็นกล่องนั้นครั้งล่าสุด เขารู้สึกได้ว่าฉินซือหยวนทำตัวแปลกๆ เขาเลยแสดงตัวไม่ให้ฉินซือหยวนรู้ว่าเขาเองก็สนใจกล่องนั้นอยู่เหมือนกัน

และสุดท้าย อันหลานหยางก็ไม่ได้เอาหยาเอ๋อไปด้วย แล้วก็กลับไปแบบแอบๆฉุน

โจวเหวินคิดแล้วคิดอีกก่อนจะตัดสินใจไปลองดูที่ร้านของฉินซือหยวน   ตอนนี้การสืบของอันหลานหยางไปจนถึงทางตันแล้วโจวเหวินคาดการณ์ว่าคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ค่อยได้เท่าไร บางทีกล่องโลหะนั้นอาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โจวเหวินรู้เรื่องราวทุกอย่างมากกว่านี้ก็ได้

หลังจากที่จัดการเก็บของและให้อาหารสัตว์เลี้ยงของเขาแล้ว โจวเหวินก็เริ่มรู้สึกได้ว่าตอนนี้ธิดาปีศาจก็กำลังจะพัฒนาร่างอีกครั้งหลังจากกินผลไม้แห่งความเยาว์วัยไป

“รอบนี้น่าจะขึ้นไปถึงระดับมหากาพย์แล้วซินะ”โจวเหวินดีใจมาก ที่ธิดาปีศาจจะก้าวไปอีกขั้น เข้าใกล้ระดับเร้นลับขึ้นไปทุกที

แต่พอมองดูผลไม้แห่งความเยาว์วัยที่มีแล้ว เขาก็รู้สึกว่าผลไม้แห่งความเยาว์วัยนั้นเหมือนกับว่าจะมีไม่พอที่จะให้ธิดาปีศาจได้พัฒนาร่างอีกรอบ

“โชคดีนะเนี่ยที่เก็บปีศาจสังหารไว้เป็นอาหารสำรองด้วย ถ้าเกิดไม่พอจริงๆแล้วขาดอีกนิดเดียว ก็ให้ธิดาปีศาจกินปีศาจสังหารซะเลย”โจวเหวินเก็บธิดาปีศาจที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาร่างเข้าไปในห้วงมิติ

ต้นกล้วยเซียนที่พัฒนาร่างมานานมากแล้ว คำนวณจากเวลาแล้ว โจวเหวินเลยคิดว่ารอบนี้มันน่าจะพัฒนาร่างเป็นระดับเร้นลับได้ซักที

หลังจากที่เสร็จกิจทุกอย่างแล้ว โจวเหวินเลยออกเดินทางไปที่ร้านของฉินซือหยวน

แต่แทนที่จะเข้าร้านของฉินซือหยวน  ตรงๆ โจวเหวินแวะเข้ามาที่ร้านกาแฟข้างๆร้านของฉินซือหยวน เพื่อสั่งกาแฟ ก่อนที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อใช้สดับวานรฟังเสียงภายในร้านของฉินซือหยวน

ร้านกาแฟนี้อยู่ใกล้ๆกับตำแหน่งของร้านฉินซือหยวนมากๆ  แค่นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง โจวเหวินก็สามารถใช้สดับวานรแสกนฟังเสียงทุกอย่างภายในร้านจนเกิดเป็นแผนที่ร้านขนาดย่อมเข้ามาในหัวของโจวเหวิน

“นี้ครับ กาแฟ”พนักงานมาเสริฟกาแฟแล้ววางกาแฟตรงหน้าของโจวเหวิน

“ขอบคุณครับ”โจวเหวินตั้งสมาธิกับร้านของฉินซือหยวนอยู่อยู่ทำให้เขาไม่ได้สนใจพนักงานเสริฟ เขาก็แค่คิดว่าเสียงของพนักงานคุ้นๆ แต่พอมองไปดูแล้วเขาก็ตกใจทันที เพราะคนที่เอากาแฟมาเสริฟนั้น คือกู๋เตียนนั้นเอง

โจวเหวินมองไปรอบๆ แล้วก็อย่างที่คิดไว้ ร้านทั้งร้านนั้นเงียบเหงา และแทบไม่มีคนเข้าร้านเลย

“ไอ้เจ้าของร้านนี้มันมีเงินเหลือหรือไงวะเนี่ยขนาดจ้างกู๋เตียนมาเป็นพนักงานเสริฟได้เนี่ย”โจวเหวินไม่รู้เลยว่าเจ้าของร้านกาแฟคิดอะไรอยู่

“กู๋เตียน มาทำอะไรที่นี่เนี่ย”โจวเหวินถามด้วยความสงสัยจริงๆ

“ทำงาน หาเงิน”กู๋เตียนตอบ

“ทำงานที่นี่มันหาเงินได้ดีกว่าการไปล่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติแล้วเอาไข่สัตว์อสูรมาขายอีกเหรอโจวเหวินงง

กู๋เตียนนั้นเรียกได้ว่าเป็น1ในระดับสุดยอดของมหาลัยซีหยาง แค่เขาเอาไข่สัตว์อสูรที่หามาได้ไปขาย รายได้ของเราก็สูงกว่าคนปรกติหลายเท่าแล้ว อย่าว่าแต่จะมาเป็นพนักงานร้านกาแฟนที่เงินเดือนต๊อกต๊อยเลย

 

“เยอะ”ไม่มีแขกเข้าร้าน กู๋เตียนเลยมายืนคุยกับโจวเหวินได้

“จริงเหรอ ร้านกาแฟนี้ให้เงินเดือนนายสูงขนาดนั้นเลยเหรอ”โจวเหวินยังไม่อยากเชื่อว่าทำงานในร้านกาแฟจะได้เงินเดือนสูงกว่าไปล่าสัตว์อสูร

แถมยิ่งเป็นร้านกาแฟที่แทบจะไม่มีคนเข้าร้านเลยด้วย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ค่าจ้างจะสูงตาม

“เดือนละ แสน5”กู๋เตียนตอบ

“พรู๊ต!!!!”กาแฟที่อยู่ในปากของโจวเหวินพุ่งพรวดออกมาหมดทันที ก่อนจะมองไปที่กู๋เตียน “เจ้าของร้านให้เงินเดือนนายแสนห้าเลยเหรอ”

โจวเหวินรู้สึกได้ว่าเจ้าของร้านต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือไม่เขาก็ต้องมีแผนการอะไรซักอย่าง ไม่งั้นเขาคงจะไม่จ่ายเงินเดือนให้กู๋เตียนสูงขนาดนี้แน่ๆ

กู๋เตียนพยักหน้า ทันใดนั้น ก็มีแขกเดินเข้ามาในร้าน กู๋เตียนเลยพูด “ไปทำงานละ”

โจวเหวินมองกู๋เตียนเดินเข้าไปต้อนรับแล้วพูดอย่างสุภาพ “ยินดีต้อนรับครับ”

ทันทีที่เห็นหน้าของกู๋เตียน คู่แฟนหนุ่มสาวก็ตกใจกลัวในทันที ก่อนที่พวกเขาจะผงะถอยหลังไป2ก้าวแล้วหันหลังเดินออกไปทันที

“ถ้าไม่มีกู๋เตียน ธุรกิจคงจะขายดีกว่านี้แน่ๆเลยโจวเหวินคิดแบบนั้น แล้วก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าของร้านถึงได้จ้างกู๋เตียนมาทำงานที่นี้

หลังจากที่ซดกาแฟไปแล้ว โจวเหวินก็รู้สึกได้เลยว่ากาแฟที่นี้รสชาติดีมาก เหมือนกับว่าเป็นกาแฟทำมือคุณภาพดีเลย

จากนั้นโจวเหวินก็ใช้พลังของสดับวานรนั้นค่อยๆขยายคลื่นเสียงที่ครอบคลุมมาจากร้านของฉินซือหยวนไปทีละชั้นจนกระทั้งโจวเหวินสามารถมองเห็นทะลุทุกอย่างได้ทุกซอกทุกมุมของร้าน

ที่น่าตกใจเล็กน้อย คือที่ชั้นใต้ดินที่4นั้น เป็นชั้นที่กักเก็บกล่องเหล็กเอาไว้ เหมือนกับว่ามันมีพลังงานประหลาด เหมือนม่านหมอกปิดบังภาพข้างในนั้นเอาไว้

โจวเหวินเลยใช้พลังของสดับวานรจนถึงขีดสุด ทำให้ฟังทะลุม่านหมอกนั้นเข้าไปจนกระทั้งโจวเหวินสามารถมองเห็นได้กระจ่าง

แต่ทันทีที่โจวแหวินมองไปทางสัตว์อสูรผมเงินในกล่องนั้นนั้นเอง จู่ๆมันก็โงหัวขึ้นแล้วหันมามองทางโจวเหวิน เหมือนกับว่ากำลังจ้องมองโจวเหวินอยู่ทั้งๆที่โจวเหวินนั่งอยู่ในร้านกาแฟทำให้โจวเหวินตกใจมากๆ

“อะไรวะ เห็นฉันเหรอ? บังเอิญรึเปล่า”โจวเหวินขมวดคิ้ว

ทันใดนั้นเองสัตว์อสูรผมเงินในกล่องนั้นนั้นก็หัวเราะยิ้มเยาะเขา แล้วเปิดปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีเสียงอะไรแต่ดูจากปากแล้ว มันกำลังพูดว่า “ข้ารอเจ้าอยู่นะ”

“โอเคชัดเลย มันเห็นฉันแน่ๆ”โจวเหวินตกใจ

หลังจากที่สดับวานรนั้นเป็นระดับเร้นลับแล้ว ความสามารถในการได้ยินก็แข็งแกร่งมาก โจวเหวินสามารถได้ยินได้เหมือนกับที่ตามองเห็น แต่การที่เหมือนตามองเห็นแบบนั้น ถ้าเกิดจ้องมองไปละก็ มันก็ไม่แปลกใจที่จะมีบางคนที่มีจิตสัมผัสจับได้บ้างแหล่ะ

ถึงพลังของสดับวานรมันจะไม่มีรูปร่างหรือตัวตนแต่ข้อมูลที่ออกมานั้นมันก็เป็นรูปธรรมมากพอที่จะทำให้สัตว์อสูรผมเงินในกล่องนั้นนั้นหาตัวเขาเจอ ความสามารถของมันนั้นเหลือล้นจริงๆ

“สัตว์อสูรผมเงินในกล่องนั้นนั้นมันเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย”โจวเหวินสงสัย และเริ่มลังเลที่จะเข้าไป

ตอนนี้โจวเหวินเริ่มกังวลแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าโจวเหวินกดรหัสลงไปในนั้นมันจะเป็นการปลดผนึกทุกอย่างของสัตว์อสูรตัวนั้นเหมือนกับการปล่อยเสือกับเข้าป่ารึเปล่า

“ที่มันบอกว่า รออยู่นี่ หรือว่ามันรู้อยู่แล้ววะว่าฉันจะมา”โจวเหวินสงสัย ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆเข้าไปทุกที

ผอ.เก่านั้นให้รหัสผ่านกับเขามา ทำให้โจวเหวินรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ และอาจจะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเลยด้วย เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันห่างไกลเกินกว่าสิ่งเป็นอยู่ตรงหน้ามากๆแล้ว

อย่างน้อยโจวเหวินก็รู้ได้แล้วว่าสัตว์อสูรผมเงินนั้นเป็นตัวตนที่น่ากลัวมาก ถ้ามันเป็นสัตว์อสูรที่ผอ.เก่าเก็บมาได้จริงแล้วผอ.เก่าไปเอามันกลับมาได้ยังไงกันละ