ตอนที่ 897 สีซอให้ควายฟัง

Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น

EG บทที่ 897 สีซอให้ควายฟัง

ดรัคเคนมิลเลอร์เป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนในกองทุนควอนตั้ม และยังเป็นหนึ่งในสี่รองเจ้าหน้าที่ของโซรอส เขารีบเข้าไปในห้องทำงานของโซรอสโดยไม่เคาะประตู ในกองทุนควอนตั้ม มีเพียงรองเจ้าหน้าที่สี่คนนี้เท่านั้นที่สามารถเข้าไปในห้องทำงานของโซรอสได้โดยที่ไม่ต้องเคาะประตู

“มีเรื่องอะไรมิลเลอร์?”

“คุณโซรอสครับ ธนาคารพาณิชย์ XX แห่งประเทศไทยปล่อยกู้เงินบาทจำนวนมากจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และไม่ใช่คนของเรา”

โซรอสหัวเราะ พวกเขาเริ่มลงมือแล้วหรอ? โซรอสประทับใจต่อทักษะในตลาดการเงินของเฝิงหยู่มาก เขารู้สึกว่าเฝิงหยู่อาจจะเก่งกว่าผู้ช่วยทั้งสี่ของเขาด้วยซ้ำ

แต่น่าเสียดายที่เฝิงหยู่เป็นชาวฮ่องกงและมีฐานะร่ำรวย เขาจะไม่มีวันทำงานให้กับโซรอส แต่ถ้าจะบอกว่า เฝิงหยู่อยู่ในระดับเดียวกับโซรอส เขาไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน

เฝิงหยู่ก็แค่โชคดีเท่านั้นที่ได้ซื้อหุ้นจำนวนมากของไมโครซอฟท์ ไม่งั้นเฝิงหยู่จะแข่งกับโซรอสได้ยังไง?

“คอยจับตาดูพวกนั้นอย่างใกล้ชิด และคอยดูว่าพวกนั้นดำเนินการเหมือนกับเราหรือเปล่า” โซรอสต้องการดูว่าเฝิงหยู่สามารถทำอะไรได้บ้างหากไม่มีคำสั่งของเขา

ในช่วงบ่าย โซรอสได้รับข้อมูลว่ามีเงินทุนจำนวนมากเข้าสู่ตลาดและซื้อหุ้นของธนาคารในประเทศไทยบางส่วน

โซรอสรู้ว่าเฝิงหยู่ดำเนินการอย่างไร สิ่งที่เฝิงหยู่ทำนั้นเหมือนกับโซรอส ขั้นตอนต่อไปก็น่าจะเป็นการใช้วิธีการต่างๆ เพื่อเพิ่มหนี้ของประเทศไทย

……

เฝิงหยู่ใช้เงินที่ยืมมาเพื่อซื้อหุ้น พันธบัตร ฟิวเจอร์สและอื่นๆ เขาเพิ่มเงินกู้สูงสุดและซื้อหุ้นและพันธบัตรให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้นเขาจะจำนองพันธบัตรของเขาเพื่อให้ได้เงินกู้มากขึ้น เขาจะทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปเรื่อยๆ

ด้วยวิธีนี้ จำนวนเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐจะสามารถซื้อพันธบัตรมูลค่าสองสามแสนดอลลาร์สหรัฐได้ แล้วเงินพิเศษเพิ่มเติมมาจากไหนหรอ? ก็มาจากธนาคารและสถาบันการค้าของประเทศไทยไงล่ะ

“เฝิง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเราถึงเป็นหนี้มากมายขนาดนี้?” คิริเลนโกกำลังตื่นตระหนกเนื่องจากพวกเขาค่อยๆ มีหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“การเป็นหนี้จำนวนมากถือเป็นเรื่องดีนะครับ พี่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราขายพันธบัตรทั้งหมดในมือออกไป” เฝิงหยู่ยิ้มและถาม

“ห้ะ? ขายทุกอย่างงั้นหรอ? แบบนี้เราจะไม่เสียเงินหรอ?” คิริเลนโกตะลึง พวกเขาจะเสียเงินหากขายทุกอย่าง! เรามาที่นี่เพื่อทำเงินนะ ไม่ใช่มาเสียเงิน!

เลนนอน หัวหน้าทีมการลงทุนของคิริเลนโกทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพูดเตือนคิริเลนโก “คุณคิริเลนโกลืมไปหรือเปล่าว่าเราเคยซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจำนวนมากมาก่อนหน้านี้แล้ว? สัญญาทั้งหมดเป็นแค่สัญญาการขาย”

“การขายหรอ? เรามีสัญญาการขายมากมายด้วยหรอ?” คิริเลนโกถามอย่างตื่นเต้นและหันไปหาเฝิงหยู่ “สัญญาการขายคืออะไร?”

เฝิงหยู่และเลนนอนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เพดาน คุณไม่รู้อะไรเลยและทำไมคุณถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำว่าสัญญาการขาย

“การขายหมายความว่าเราซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและเราต้องซื้อตราสารคืนเพื่อขายให้อีกฝ่ายภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา เราต้องจ่ายเพียง 10% ของมูลค่าหรือ อาจจะเข้าใจง่ายๆ ได้ว่าเป็นการเลเวอเรจ 10 เท่า นั่นหมายความว่าเราใช้เงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐในการทำข้อตกลงมูลค่า 10 ดอลลาร์สหรัฐ”

คิริเลนโกมีสีหน้าว่างเปล่า “แล้วไง?”

“ก็เหมือนกับที่พี่พูดเมื่อกี้ เมื่อเราเริ่มขายทิ้งหุ้นและพันธบัตรของเรา ราคาหุ้นก็จะดิ่งลงและแม้แต่ดัชนีตลาดก็จะลดลงด้วย”

“แน่นอน พี่รู้เรื่องนี้ดี!” คิริเลนโกกลอกตาไปที่เฝิงหยู่

“ดัชนีตลาดลดลงและจะส่งผลให้ราคาหุ้นทั้งหมดร่วงลง จะเกิดความตื่นตระหนกและนักลงทุนทุกคนจะเริ่มขายหุ้นของตัวเองทิ้ง นักลงทุนต่างชาติจะสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยและขายทิ้งหุ้นของไทยด้วย เราต้องขายสินค้าพวกนี้ในราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อถึงเวลา แต่เราไม่มีสินค้าในมือตอนนี้ เราสามารถซื้อได้เมื่อราคาลดลงเหลือ 8 ดอลลาร์สหรัฐ วิธีนี้เราจะได้กำไรจากส่วนต่างซึ่งก็คือ 2 ดอลลาร์สหรัฐ และด้วยเลเวอเรจ 10 เท่า จะทำให้เราได้เงิน 20 ดอลลาร์สหรัฐ นี่คือวิธีที่พี่จะได้รับผลกำไรจากสัญญาการขายฟิวเจอร์ส”

“แต่เราต้องเสียเงินไปก่อน แล้วแบบนี้กำไรจะชดเชยเงินที่เราเสียไปได้หรือเปล่า?” คิริเลนโกยังจำสิ่งที่เฝิงหยู่พูดได้ สองเดือนแรกจะไม่มีผลกำไร

“อาจจะไม่ได้ชดเชยเงินที่เราเสียไปทั้งหมด แต่จำนวนเงินเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเพราะอัตราส่วนหนี้สินของเราสูงมาก และจะทำให้เราขาดทุนจากพันธบัตรและหุ้น แต่อย่าลืมว่าเรายังมีอาวุธสำคัญอยู่ ซึ่งก็คือสัญญา ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ”

คิริเลนโกกะพริบตาและเห็นเฝิงหยู่จ้องมองอย่างโกรธแค้น เขาหยุดถามและรอให้เฝิงหยู่อธิบาย

“เมื่อราคาหุ้นลดลง ดัชนีหุ้นก็จะลดลงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนจำนวนมากสูญเสียความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและสกุลเงินของประเทศไทย พี่ยังจำสิ่งที่เราทำเมื่อตอนที่เงินรูเบิลอ่อนตัวได้มั้ย?” เฝิงหยู่ถาม

“พี่เข้าใจ เราแลกเปลี่ยนเงินรูเบิลเป็นดอลลาร์สหรัฐ!” คิริเลนโกตอบอย่างตื่นเต้น

เฝิงหยู่พยักหน้าและยกนิ้วให้ คิริเลนโก “ถูกต้องครับ นักลงทุนจะแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปลอดภัยกว่า แม้ว่าผมจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับเรื่องนี้ แต่ดอลลาร์สหรัฐก็เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีการหมุนเวียนและมีความสำคัญมากที่สุดในโลก”

สีหน้าของคิริเลนโกเปลี่ยนไปและเงียบลงหลังจากที่เขาได้ยินว่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีอานุภาพมากขนาดไหน แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้เนื่องจากเงินรูเบิลไม่แข็งแกร่งเท่า

“ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็คล้ายกับตลาดหุ้นนั่นแหละครับ เมื่อสกุลเงินบางสกุลถูกขายทิ้งเป็นจำนวนมาก พี่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน?” เฝิงหยู่ถาม

คิริเลนโกตอบอย่างระมัดระวัง “อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินนั้นจะลดลงใช่มั้ย?”

เฝิงหยู่มองเพื่อให้กำลังใจคิริเลนโก “ใช่แล้วครับ อัตราแลกเปลี่ยนจะลดลง และจะลดลงจาก 24: 1 เป็น 30: 1 เนื่องจากมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงและเงินบาทจะอ่อนค่าลง”

“ถ้าเป็นแบบนี้ สัญญาเงินบาทของเราก็จะทำเงินได้ใช่มั้ย?”

“แน่นอนครับ สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศของเราจะทำเงินให้เราและการอ่อนค่าของเงินบาทจะทำให้เกิดเงินเฟ้อในประเทศไทยและเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดหุ้นไทยจะพังและราคาหุ้นจะดิ่งลงอีก สิ่งที่เราสามารถทำกำไรได้ก็คือมาจากการขายดัชนีหุ้นและเงินตราต่างประเทศ”

“เดี๋ยวนะ จากที่นายพูดมา เราก็น่าจะทำกำไรได้มาก แต่ทำไมนายถึงบอกว่าเราจะทำเงินไม่ได้ล่ะ?” คิริเลนโกรู้สึกสับสน พวกเขาใช้เลเวอเรจ 10 เท่าและจะยังทำเงินไม่ได้ได้ยังไง?

เลนนอนอธิบายต่อ “เราจะเสียเงินเมื่อขายเงินบาท”

คิริเลนโกรู้สึกหวิวๆ หลังจากฟังคำอธิบายทั้งหมด พวกเขาจะเสียเงินตั้งแต่แรก และจากนั้นค่อยทำเงินได้งั้นหรอ? เขายังไม่เข้าใจว่ามันจะได้ผลยังไง ไม่เป็นไร ตลาดการเงินซับซ้อนเกินไปและไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนเฝิงหยู่ที่เก่งไปซะทุกอย่าง ฉันต้องการทำเงินได้บางส่วนเท่านั้น ฉันจะทำตามสิ่งที่เฝิงหยู่พูด

เฝิงหยู่เห็นสีหน้าของคิริเลนโกที่ดูสับสนและก็ไม่อยากอธิบายอะไรให้เขาฟังอีกแล้ว เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะอธิบายในแง่ของคนธรรมดา แต่มันซับซ้อนเกินไป แน่นอนว่าเฝิงหยู่ได้รับความรู้มาจากงานของเขาในฐานะนายหน้าการเงินเมื่อชาติที่แล้ว เขาไม่ได้อธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้กับลูกค้าของเขาด้วย

เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ เขาอธิบายเฉพาะเงื่อนไขที่สำคัญของการลงทุนให้กับลูกค้าเท่านั้นและละเว้นรายละเอียดเอาไว้ วิธีนี้ลูกค้าของเขาจะยอมที่จะให้เขาช่วยจัดการการลงทุนให้ ถ้าเฝิงหยู่ทำให้มันฟังดูง่ายใครจะอยากจ้างนายหน้าล่ะ?

“พี่จีแค่ต้องรู้ไว้ก่อนว่าสองสามวันนี้เราจะเสียเงินและพี่ต้องใจเย็นๆ”

คิริเลนโกตอบด้วยความโกรธ “พี่เคยใจร้อนตอนไหนกัน? พี่บอกว่าพี่จะปล่อยให้นายจัดการทุกอย่าง เฝิง พี่เชื่อใจนายและจะไม่สนแม้ว่าพี่จะต้องเสียเงินก็ตาม!”

เฝิงหยู่กลอกตา ใจเย็นหรอ? ถ้าพี่ใจเย็น พี่คงไม่ดื่มกับผู้หญิงตอนนี้แทนที่จะนั่งอยู่ในสำนักงานเพื่อดูรายงานทางการเงินหรอก ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจชอบเถอะ