บทที่ 213 แรงปะทะจากจิตใจ คือค้อนศึกที่แท้จริง!

 

เมื่อได้ยินเสียงเพรียกจากเด็กสาว ทุกหัวใจก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เว่ยชางและเลี่ยกูนั้นหนาวสั่นไปทั้งตัวรวมไปถึงเหงื่อแตกพลั่กๆด้วย ในขณะที่สองพี่น้องเขียวแดงต่างมองเด็กสาวด้วยความรู้สึกที่ว่าเธอน่ารัก

 

ร่างกายของชิงหยามันเริ่มไม่มั่นคงแล้ว เธอมองไปยังเด็กสาวที่ชั้นบน ร่างทั้งร่างเหมือนเสียศูนย์ มันแทบจะลมลงไป ชิงยูตงนั้นลากเย่จีจี้ไปหลบแต่ท้ายสุดก็ต้องยอมเปิดเผยตัวตนออกมาและลงมาด้านล่าง ทั้งหมดที่อยู่ด้านล่างรู้สึกไปต่อไม่ถูก ไหนจะกดดันอีก ก็ในเมื่อ 2 คนที่ซ่อนยอมเปิดเผยแล้ว พวกเขายังจำเป็นต้องซ่อนและฟังอยู่แบบนี้ต่อเหรอ?

 

เมื่อตงฮวงไป๋หลี่ได้ยินเสียงที่คุ้นหู น้ำเสียงร้อนรนก็เอ่ยเรียกออกไปในทันที “อาหลี่…”

 

“ท่านแม่~”

 

ถึงแม้ว่าอาหลี่จะอยู่กับแม่ของเธอมาตลอด แต่หลายวันที่ผ่านมานี้พวกเธอต้องไกลห่างกันมันทำให้เธอคิดถึงอ้อมกอดของแม่มากๆ

 

ทุกคนในที่นั้นมองอาหลี่ที่โผลเข้าใส่อ้อมแขนของผู้เป็นแม่พร้อมทั้งเสียงออดอ้อนตามประสาเด็ก “ท่านแม่~ อาหลี่คิดถึงท่านแม่จังเลยค่ะ”

 

เธอกอดร่างของลูกสาวเอาไว้พร้อมทั้งพูดด้วยความเป็นทุกข์ “อาหลี่ แม่ขอโทษ…”

 

“อาหลี่ไม่เป็นไร ไม่ร้องไห้นะคะท่านแม่” เด็กสาวตอบกลับด้วยเสียงหวานแล้วยกมือขึ้นพยายามปาดน้ำตาให้แม่ของเธอแต่ก็เอื้อมไม่ถึง

 

ในตอนนั้นชิงหยาก็หน้าซีดไปหมดราวกับวิญญาณของเธอมันออกจากร่างไปแล้ว ถ้าแม่ของอาหลี่ก็คือเธอคนนั้น

 

งั้นเย่ฮัวก็คือพ่อของอาหลี่!

 

ไม่ประหลาดใจเลยที่เขารีบกลับมา! ไม่ประหลาดใจด้วยที่เขาจะดูแลอาหลี่อย่างดี!

 

เพราะอาหลี่เป็นลูกของเขา!

 

หัวใจของชิงหยานั้นเหมือนโดนทำลายด้วยคำโกหกของเย่ฮัว ในตอนนี้แม้แต่ลมหายใจก็ควบคุมยาก สายตาที่มองไปยังเย่ฮัวตอนนี้มันแปลกออกไปยิ่งนัก!

 

ไม่กี่ชั่วโมงก่อน ฉันถามนายไปแล้วว่ามีอะไรโกหกอยู่ไหม แต่นายกลับบอกว่าไม่!

 

แล้วตอนนี้คืออะไร!

 

เย่ฮัว! ฉันเองก็ยังเป็นคนๆหนึ่งนะ! ฉันนับถือในตัวนาย แล้วทำไมนายถึงมาหักหลังฉันแบบนี้!

 

อาหลี่ยังไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นเช่นไร เธอยังคงกอดแม่ของเธอไว้และยิ้มแป้น “ท่านแม่ นี่คือคุณป้าชิงหยา คุณป้าดีกับอาหลี่มากๆ ส่วนนี่ลุงเย่ วันนี้ลุงเย่ชวนอาหลี่กินอาหารมื้อใหญ่ด้วย แล้วนั้นก็ลุงเขียวกับลุงแดง”

 

สองพี่น้องเขียวแดงค่อยๆเบียดเสียดกันออกมาหลังโดนจับได้ เด็กน้อย ไม่น่าพูดอะไรออกมาตอนนี้เลย นี่เธอมองสถานการณ์ไม่ออกหรือไงกันน่ะ ไม่เห็นเหรอว่าผู้ใหญ่เขากำลังระแวงกันอยู่?

 

“อาหลี่ พวกเราจะกลับบ้านกันนะ” ตงฮวงไป๋หลี่(ลู่)​)​ ณ ตอนนี้ไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว เธอเพียงแค่อยากจะกลับบ้านกับลูกสาวของเธอเท่านั้น การที่ได้เห็นเด็กสาวโตขึ้นเธอก็สงบจิตสงบใจลงและยอมอยู่กับเด็กสาวดีๆ

 

อาหลี่ดูจะผิดหวังเล็กน้อย เธอกระซิบ “ท่านแม่คะ อาหลี่ยังอยากเล่นกับลุงเย่อยู่”

 

“ลุงเย่น่ะเป็นคนไม่ดี ถ้าไปเล่นด้วยหนูจะถูกเขาหลอกเอานะ” การที่ได้ยินว่าลูกสาวของเธอสนิทกับเย่ฮัวนั้นมันทำให้เธอกลับเกรี้ยวกราดใหม่อีกรอบ

 

ตอนนี้เธอแทบจะระเบิดเย่ฮัวให้เป็นผงได้เลย ฝ่ามือตบลงไปบนโต๊ะ ทันใดนั้นโต๊ะทั้งใบก็กลายเป็นฝุ่นและปลิวว่อนไป “นายทำอะไรลงไป…”

 

เย่ฮัวไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เด็กก็ยังเป็นเด็ก ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรอยู่แล้ว

 

อาหลี่รีบพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าแม่ของตนเริ่มจะเกรี้ยวกราดแล้ว “อะ หวาาาา ลุงเย่ ท่านแม่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะ อ๊ะ นี่คือท่านแม่ ชื่อว่าไป่ ส่วน หลี่ เป็นนามสกุล”

 

“อาหลี่ หยุดพูด” ตงฮวงไป๋หลี่พูดขึ้น และนั่นทำให้เด็กสาวยอมพยักหน้าและเงียบปากไปด้วยความจำยอม

 

ตอนนี้เย่ฮัวรู้จักทุกคนหมดแล้ว

 

“มันก็เป็นตามที่อาหลี่พูดไม่ใช่หรือไง? เอาล่ะ เพราะงั้นในเมื่ออาหลี่เป็นลูกของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์จะพาไปไหนทั้งนั้น!” น้ำเสียงของเย่ฮัวนั้นหนักแน่น มันทำให้ทุกอย่างเงียบสงัดลงไปเลย

 

ไม่คาดฝันเลยว่าผู้ชายตรงหน้าจะเป็นพ่อของอาหลี่!

 

ตงฮวงไป๋หลี่ช็อคกับคำพูดของเขามากๆก่อนจะพูดออกไป “เย่ฮัว ถ้านายต้องการเธอคนนี้ล่ะก็ทำไมตอนนั้นถึงทำแบบนั้นเล่า! นายมีเหมาะสมที่จะเป็นพ่ออาหลี่ตรงไหน ฮะ!!”

 

“ถ้าฉันไม่เหมาะสมแล้วใครมันจะมาเหมาะ!” เย่ฮัวที่ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ หากแต่ว่าตอนนี้เสียงของเขานั้นกำลังทำให้บาร์ทั้งหลังสั่นสะเทือน มันแสดงให้เห็นว่าจิตใจเขาหนักแน่นขนาดไหนในตอนนี้

 

อาหลี่ที่อยู่ในอ้อมกอดของตงฮวงไป๋หลี่รู้สึกสับสนไปหมด เธอยังสับสนอยู่ว่าสรุปแล้วลุงเย่คือพ่อของเธอหรือ

 

“ท่านแม่ ไม่ใช่ว่าท่านพ่อตายไปแล้วเหรอคะ? เรื่องนี้มันยังไงกันแน่…” อาหลี่ถามแม่ของเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

เย่ฮัวได้ยินแบบนั้นก็แทบพุ่งเข้าไปหา “ตงฮวงไป๋หลี่! นี่เธอกล้าที่จะแช่งให้ฉันตายงั้นเหรอ!”

 

“วินาทีที่นายทิ้งฉันไป นายก็ตายจากฉันไปแล้ว!!”

 

“เย้ กอด~ ” อาหลี่นั้นน่าจะเป็นอะไรที่หลุดจากสถานการณ์ตอนนี้ที่สุดแล้ว เธอไม่ได้เครียดหรือเศร้าเลย กลับกันเธอกำลังรู้สึกมีความสุขมากๆด้วยซ้ำ นั่นเพราะเธอชอบลุงเย่มากๆ ซึ่งการที่เด็กสาวพยายามจะเข้ามากอดนั้นทำเอาเย่ฮัวเองถึงกับเลิ่กลั่กเหมือนกัน ปกติแล้วก็เป็นแค่รักตัวเองอย่างเดียวแท้ๆ ตอนนี้เริ่มอยากจะรู้สึกอย่างนี้ไปจนกว่าจะตายเลย

 

อย่างไรก็ตาม ภาพตรงหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตงฮวงไป๋หลี่รู้สึกดีนัก เธอพูดด้วยเสียงเบาว่า “อาหลี่ ฟังคำแม่นะ ไปจากที่นี่กันเถอะ เดี๋ยวแม่จะอยู่กับหนูเอง ไม่ดีเหรอ?”

 

“ก็ดี…แต่อาหลี่อยากอยู่กับทุกคนนี่คะ” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เธอก็รู้สึกอึดอัดอยู่ภายในใจ ตงฮวงไป๋หลี่กระวนกระวายเป็นที่สุด แม้ว่าเธอจะยังกอดลูกสาวของเธอไว้ หากแต่มือของเด็กสาวนั้นกลับไขว่คว้าหาเย่ฮัว

 

พลังของสายเลือดนี่มันช่างแข็งแกร่งจริงๆ…

 

ฉันยืนด้วยลำแข้งตัวเองมากว่า 3 ปี เลี้ยงเธอมาด้วยความเหน็จเหนื่อย แต่นั่นกลับเทียบไม่ได้กับเย่ฮัวที่เพิ่งโผล่มาเพียงไม่กี่วัน! ไม่อยากจะคิดถึงเวลาที่อาหลี่ไม่เชื่อฟังเธอเลย

 

เธอยกมือขึ้นและตีไปที่ก้นเล็กๆของอาหลี่ด้วยความผิดหวัง

 

และนั่นทำให้เด็กสาวตัวเล็กร้องไห้ออกมาทันที

 

เย่ฮัวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา ณ ตอนนั้น นี่เธอกล้าทำร้ายลูกของเทวทูตงั้นเหรอ! ไม่เต็มใจสู้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สู้นะเฟ้ย!

 

สายตาที่โกรธเกรี้ยวของเขาจ้องมองไปยังตงฮวงไป๋หลี่ สีหน้าของเธอเปลี่ยนทันควัน มือหนึ่งยกขึ้นและสร้างบาเรียร์สีทองขึ้นมาขวางระหว่างเธอและเขาไว้

 

เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็ว และเมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กสาวก็หายไปจากอ้อมกอดของเธอแล้ว

 

กว่าจะรู้ตัวอีกทีลูกสาวของเธอก็อยู่ในอ้อมกอดของเย่ฮัวแล้ว

 

ทำอะไรไม่ถูกเลยแฮะ…

 

บาร์เรียร์ทองคำของเธอนั้นแทบจะต้านเย่ฮัวไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เขาหายใจมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำลายทุกอย่างให้ราบคาบในไม่กี่นาที

 

ตงฮวงไป๋หลี่ตื่นตระหนกมากๆ เธอไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะทรงพลังขนาดนี้

 

เย่ฮัวยกมือขึ้นอีกครั้ง และ…

 

ตู้ม!

 

ไม่มีใครต้านทานเขาได้

 

ผู้คนในบริเวณนั้นกระเด็นกระดอนกันออกไป แถมยังทำบาร์เป็นรอยลึกลงไปอีก

 

พวกเขาเหมือนถูกข่มด้วยพลังที่มหาศาล ณ ตอนนั้นเลย

 

ตัวเย่ฮัวเองยังถือคติไม่ทำร้ายผู้หญิง เพราะงั้นพลังแค่นี้ก็แค่เด็กเล่น! ถ้าขืนจริงจังไปได้อนาคตมืดมนกันหมดแน่

 

“ช่างเป็นคนที่กล้าดีอะไรแบบนี้นะ ฉันเองยังไม่อยากหือกับเมียเลย” สายตามองมานั้นค่อนข้างจะนับถือเย่ฮัวอยู่พอตัวเลย ในอนาคตพวกเขาเองก็อยากจะเรียนรู้เคล็ดลับพ่อบ้านใจกล้าไม่กลัวเมียแบบนี้บ้างแล้ว เราจะได้ขัดขืนอะไรได้บ้าง!

 

พี่ใหญ่เขียวกระซิบ “ใช่แล้ว ผู้ชายในหมู่บ้านของเราต่างก็กลัวเมียกันทั้งนั้น บอสนี่เจ๋งจริงๆ! นับถือเป็นไอดอลเลย”

 

“ใช่แล้วพี่ใหญ่! ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะติดตามบอสไปเรื่อยๆ และในอนาคตฉันจะต้องปราบเมียของฉันให้ได้!”

 

“ดีมาก นายเข้าใจได้เร็วดีนี่!” พี่ใหญ่ตบไหล่น้องเขาไป 1 ที

 

ชิงยูตงและเย่จีจี้ที่อยู่ด้านข้างเองก็ตกใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะชิงยูตง มือทั้งสองข้างของเธอปิดปากตนเองเอาไว้ “นี่พี่เขยของฉันกล้าที่จะลงไม้ลงมือกับเมียงั้นเหรอ…น่ากลัวเกินไปแล้ว…”

 

“พี่ชายนี่ไม่มีอ่อนโยนเลยแฮะ…”

 

เย่ฮัวมองไปยังอาหลี่ก่อนจะรู้สึกเบาใจเมื่อเธอยังอยู่ในอ้อมกอด “อาหลี่ ไม่ต้องร้องไห้นะ”

 

“ไม่นะ อย่าทะเลาะกันนะ!~”

 

แรงปะทะจากภายในใจนั้นเปรียบเสมือนค้อนศึกที่ฟาดเข้ามา มันเจ็บปวดเป็นที่สุด!

 

มองไปยังเด็กน้อยที่เศร้าหงอย เย่ฮัวจึงรีบพูดขึ้น “โอเคๆ ไม่ทะเลาะกันแล้ว เธอก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว”

 

ตงฮวงไป๋หลี่นั้นรู้สึกเศร้าสุดๆและค่อยๆปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมาช้าๆ เธอไม่มีอะไรให้ทำอีกต่อไป เหมือนฝุ่นที่ไม่มีค่าอะไรกับที่แห่งนั้น

 

ในความจริงแล้ว คำพูดของเย่ฮัวก็ค่อนข้างจะมั่นคงอยู่แล้ว มันให้บทเรียนเธออยู่ไม่น้อย ถ้ายอมฟังดีๆล่ะก็มันคงจะจบง่ายๆไปแล้ว

 

“ส่งลูกสาวคืนมาให้ฉัน!!” เธอตะโกนเสียงอ่อนแต่กลับกัน มันก็ทำให้เธอดูเยือกเย็นมากขึ้น สายตาที่เปี่ยมด้วยความเกลียดชังเข้าปะทะกับเย่ฮัว ออร่าแห่งความเกรียงไกรพวยพุ่งขึ้นมาห่อหุ้มร่างของเธอไว้ นั่นทำให้เคลียร์บาร์เกิดการสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง