ตอนที่ 687: หมัด
เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะถูกจู่โจมด้วยลูกธนูที่มองไม่เห็น จินเทียนก็ไม่ได้วิ่งต่อ เขาหยุดทันทีและพลังเซียนในตัวเขาก็หลั่งไหลออกมาดั่งสายน้ำ ไหลไปสู่ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของเขา มันทำให้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่เป็นรูปทรงกระบี่ในมือของเขาเปล่งประกาย ซึ่งแม้แต่แสงแดดที่แผดเผาอยู่ยังดูจางลง พลังมหาศาลนั้นทำให้โลกสะเทือนและบรรยากาศรอบ ๆ ก็เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เพราะพยายามจะกักเก็บพลังงานที่มหาศาลนั้นไว้
“ฮ่า ! ” จินเทียนร้องออกมาเสียงดังและยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎในมือของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นลำแสงสีเงิน มันส่องแสงเหมือนสายฟ้าเมื่อเขาเหวี่ยงมัน และทำให้เกิดรอยแยกขนาด 3 เมตรขึ้น รอยแยกสีดำเกิดขึ้นในอากาศตรงหน้าเขา
ปัง ! ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎและลูกธนูที่มองไม่เห็นที่สร้างจากพลังงานของโลกปะทะกัน และเกิดเสียงดังสนั่น พลังงานที่รุนแรงพุ่งกระเพื่อมทั่วบริเวณ ทำให้มิติในรัศมีหลายร้อยเมตรบิดเบี้ยว
หลังจากการจู่โจมนั้น ใบหน้าของจินเทียนก็เริ่มที่จะซีดขึ้น เสียงที่ได้ยินไม่ชัดออกมาจากลำคอของเขาด้วยความยากลำบาก จินเทียนได้รับบาดเจ็บที่ภายในร่างกายของเขา
แม้ว่าเขาและหวงเทียนป้าทั้งคู่จะมียุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ แต่ว่ามันก็ไม่พียงพอที่จะอุดช่องว่างอันยิ่งใหญ่ของความแตกต่างในพลังของพวกเขา ธนูที่ถูกยิงออกมาจากหวงเทียนป้าก็ทำมาจากพลังงานของโลก ซึ่งเป็นพลังที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับพลังเซียนได้เลย ดังนั้นผลลัพธ์เมื่อมันปะทะกันจึงทำให้จินเทียนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จินเทียนพุ่งขึ้นไปบนฟ้าเหมือนดาวหาง และบินถอยกลับไปหลายกิโลเมตรก่อนที่จะรักษาระดับของตัวเองไว้ เขามองไปยังหวงเทียนป้าที่กำลังไล่ตามมาด้วยท่าทีที่โกรธเกรี้ยว ไฟในตาของเขาสั่นไหว เขาบ่นในใจ “พวกเราทั้ง 2 คนไม่ใช่คู่มือของหวงเทียนป้าและพวกนั้นอีก 2 คน ถ้าเรายังดันทุรังต่อไป คงจะมีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ อย่างไรก็ตามถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ยังพอจะมีหวัง เพราะฉะนั้นการรักษาชีวิตไว้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าตระกูลหวงฟู่จะล่มสลาย แต่ข้าก็สามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้” จินเทียนไม่ได้สนใจในการต่อสู้และคิดที่จะถอย
อย่างไรก็ตาม เมื่อจินเทียนตัดสินใจได้แล้วที่จะหนีด้วยกำลังทั้งหมดที่เขามีโดยไม่สนใจสิ่งใดใด มิติข้างหน้าเขาก็เริ่มผันผวน เขาเห็นเจี้ยนเฉินที่ใช้พลังมิติตามเขามาทันแล้ว และเหวี่ยงหมัดตรงมาที่หัวของเขา
หมัดของเจี้ยนเฉินนั้นดูธรรมดา มันไม่ได้แสดงถึงพลังใด ๆ และดูเหมือนจะเป็นหมัดที่ไร้กำลัง อย่างไรก็ตาม หมัดที่ดูธรรมดานี้ทำให้จินเทียนรู้สึกเครียดและไม่ได้ประมาทหมัดนี้เลยแม้แต่น้อย นี้เป็นเพราะว่าเขาสัมผัสได้ถึงมิติที่หมัดของเจี้ยนเฉินพุ่งผ่านนั้นเหมือนจะถูกบีบไปด้วยพลังที่มหาศาล
จินเทียนไม่กล้าที่จะไม่สนใจมัน พลังเซียนรวมอยู่ที่มือของเขาเหมือนสายน้ำที่ไหลแรงและเขาก็เหวี่ยงมันไปที่เจี้ยนเฉิน เขาไม่ได้ผ่อนแรงในการจู่โจมและใช้กำลังสูงสุดของเขา
เมื่อหมัดทั้งสองกระทบกัน เกิดเสียงระเบิดอื้ออึง เหมือนกับเสียงของฟ้าร้อง พลังที่รุนแรงกระเพื่อมขึ้นตรงที่ที่หมัดทั้ง 2 กระทบกัน และพลังนั้นพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง มันเหมือนว่าพลังนั้นได้สร้างสายลมที่พัดรุนแรงที่สามารถขึ้นไปถึงแผ่นดินบนสวรรค์ชั้น 9
แกรก ! กระดูกที่แขนข้างซ้ายของจินเทียนทั้งหมดแตกหัก และมือของเขาก็ตกลงอย่างไร้ซึ่งกำลัง
“มันเป็นไปได้อย่างไร? พลังนี้คืออะไร ? มันแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ ? ” จินเทียนจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉิน ด้วยความประหลาดใจและใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าในหมัดของเจี้ยนเฉิน นั้นมีความแข็งแกร่งและมีพลังลึกลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ พลังที่เหนือกว่าพลังเซียนที่เขาใช้ เมื่อหมัดทั้งสองได้มากระทบกัน พลังเซียนที่คลุมแขนซ้ายทั้งหมดของเขาไว้ได้แตกกระจายออกไปด้วยพลังที่ลึกลับแต่ทรงพลังนั้น
เจี้ยนเฉินยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชาและพูด “สำหรับคนที่กำลังจะตาย มันก็ไม่มีอะไรเสียหายที่จะบอกเจ้า อย่างน้อยเจ้าก็จะได้ตายโดยที่ได้รู้ข้อมูลนี้ พลังแบบนี้เรียกว่า พลังบรรพกาล ! “
“พลังบรรพกาล ? ” จินเทียนบ่นพึมพำเบา ๆ ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยความสงสัย มันแน่นอนว่าเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพลังบรรพกาล
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่ได้ให้เวลาเขาได้ตั้งตัว พลังบรรพกาลไหลผ่านไปทั่วทุกมุมบนร่างกายของเขา ซึ่งทำให้พลังการป้องกันที่บ้าคลั่งของพลังบรรพกาลพุ่งไปถึงขีดสุด หลังจากนั้น เขาก็โจมตีไปที่จินเทียนอีกครั้ง
จินเทียนกลับมาได้สติอย่างรวดเร็วและถอยออกไปทันที ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่มือขวาของเขาเปล่งประกายสว่างจ้าเหมือนกับแสงแดดที่สาดส่องมายังโลก หลังจากนั้นเขาก็ฟันไปที่หมัดของเจี้ยนเฉินดังสายฟ้าฟาด