ตอนที่ 547 นอนไม่หลับ + ตอนที่ 548 เราไม่ใช่คุณตงกัว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 547 นอนไม่หลับ + ตอนที่ 548 เราไม่ใช่คุณตงกัว โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 547 นอนไม่หลับ

กลางคืนจ้าวอิงหัวกลับมาจากข้างนอกได้ยินว่าพวกเหมยเหมยได้แผลงฤทธิ์ที่บ้านตระกูลเหออย่างไรแล้วนอกจากจะไม่ตำหนิพวกเขากลับยังชื่นชมเหมยเหมย

“ไม่เลว ลูกสาวของตระกูลจ้าวควรเป็นแบบนี้ ว่าแต่ลูกสาวเถอะ คราวหลังเรื่องที่ต้องใช้กำลังก็อย่าทำเลย ให้พี่ชายของลูกทำ ระวังจะเจ็บมือนะ!”

จ้าวอิงหัวจับมือเหมยเหมยมามองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นแผลถลอกตรงไหนถึงวางใจ ย้ำนักหนาว่าหลังจากนี้เธออย่าลงมือเอง จ้าวเสวียหลินที่อยู่ข้างๆ ก็พูดเชิงเห็นด้วย “ใช่ มีพี่อยู่ ไม่ต้องให้น้องสาวของพี่ต้องลงมือหรอก ให้พี่จัดการทั้งหมดเอง!”

น่าสงสารเหมยเหมยเมื่อชาติที่แล้วที่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติที่อบอุ่นในยามหนาวเหน็บเช่นนี้ ณ เวลานี้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ๆ ก็ผุดจากขั้วโลกใต้มาที่ทวีปแอฟริกา คลื่นร้อนซัดโครมหนักหน่วงให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวกระทั่งหัวใจ

เหมยเหมยน้ำตาซึม ความอบอุ่นที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดสองชาติ ในที่สุดชาตินี้เธอก็ได้มันมา

ขอบคุณพระเจ้า!

“ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณค่ะพี่!”

เหมยเหมยสูดจมูก เสียงเล็กเสียงน้อยทำเอาลูกผู้ชายสองคนอิ่มเอมใจอย่างมาก ดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ถูกพึ่งพาแบบนี้เป็นที่สุด

จ้าวอิงหัวกะพริบตาปริบ แคะหูตัวเองอย่างสงสัย เมื่อกี้เขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม ลูกสาวเรียกเขาว่าคุณพ่อ?

พอเห็นจ้าวอิงหัวทำหน้าระแวดระวังแต่ก็ไม่กล้าถามอย่างนั้น เหมยเหมยก็ใจอ่อน เปล่งเสียงให้ดังกว่าเดิม “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!”

“โถ่ ครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันหรอก คนเป็นพ่อทำเพื่อลูกสาวเป็นเรื่องปกติ จากนี้ไปถ้าเหมยเหมยมีเรื่องอะไรมาหาพ่อนะ ขอแค่ไม่ต้องการให้เด็ดดาวเด็ดดวงจันทร์บนฟ้า พ่อทำให้ลูกได้หมด!”

จ้าวอิงหัวตื้นตันใจกับคำว่าคุณพ่อไม่เหลือสภาพ ลูกผู้ชายอกสามศอกเกือบเสียน้ำตาต่อหน้าลูกสาว สิบสองปีเชียวนะ!

ในที่สุดเขาก็รอวันที่ลูกสาวเรียกเขาได้สักที!

เสียงเจ้าตัวเล็กขี้เอาใจเรียกคุณพ่อมันช่างน่าฟัง น่าฟังกว่าที่ลูกชายเรียกร้อยเท่า!

คุณรองนายกเทศบาลจ้าวอิงหัวผู้น่าเกรงขามถูกเสียงอ่อนหวานของเหมยเหมยหลอกล่อให้กลายเป็นทาสของลูกสาวที่ยอมจำนนต่อลูกสาว

แค่เสียดายที่ลูกสาวโตแล้ว หากเร็วกว่านี้อีกไม่กี่ปีเขาคงให้ลูกสาวขี่คอเขา พาลูกสาวไปดูละครเวทีที่วัดเฉิงหวง คนอื่นต้องอิจฉาเขาตายแน่ๆ!

จ้าวเสวียหลินได้ใจยิ่งกว่าพ่อของเขาเพราะน้องสาวเรียกเขาว่าพี่ชายก่อน พ่อของเขายังต้องต่อท้ายเขาด้วยซ้ำ!

วันรุ่งขึ้นต้องกลับเมืองหลวงแล้ว ตกดึกเหยียนซินหย่าร่วมเก็บของกับจ้าวอิงหนาน ขากลับจากบ้านตระกูลเหอพวกเขาไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้เหมยเหมยหลายชุด ล้วนเป็นเสื้อผ้าตัวใหม่ทั้งนั้น

ค่ำคืนบริเวณที่พักเงียบสงัด จู่ๆ คืนนี้เหมยเหมยก็นอนไม่หลับ นอนบนเตียงพลิกตัวอย่างไรก็นอนไม่หลับ เธอกังวลมาก

ไม่รู้ว่าญาติที่เมืองหลวงจะชอบเธอไหม?

และไม่รู้ว่านิสัยของพวกเขาเป็นอย่างไร?

เป็นมิตรหรือเปล่า?

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เหมยเหมยกังวลใจเหมือนถูกแขวนไว้บนเส้นด้าย ต่อให้จ้าวอิงหัวกับเหยียนซินหย่ารับปากกับเธออย่างไรก็ไร้ผล ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

อีกอย่างเธอคิดถึงเหยียนหมิงซุ่นแล้ว ไม่ได้เจอเหยียนหมิงซุ่นมาทั้งวัน พรุ่งนี้ต้องไปเมืองหลวงอย่างน้อยก็ไม่ได้เจอเขาครึ่งเดือน ความจริงนี้ทำให้เหมยเหมยรู้สึกอ้างว้างในใจ เธอไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าทำไม

นอกหน้าต่างเกิดเสียงเคลื่อนไหวที่คุ้นหู ฉิวฉิวที่นอนคว่ำตัวกำลังถูกเหมยเหมยที่นอนไม่หลับคลึงหางไปมากะพริบตาดำขลับปริบๆ ส่งเสียงเรียกหลายที พระเจ้า!

เจ้าหมอนี่มาสักทีนะ ถ้ายังไม่มาอีกหางแสนสวยของเขาใกล้จะถูกเจ้าของตัวน้อยลูบจนขนร่วงหมดแล้ว

แค่คิดว่าหางแสนสวยที่เขาถนัดเอาไปหยอกเอินกระรอกตัวเมียจะขนร่วงหมดตัวฉิวฉิวก็ปวดใจแทบตาย เสียงที่ดังขึ้นในตอนนี้ราวกับเสียงจากสรวงสวรรค์ ฉิวฉิวแวบตัวไปอย่างคล่องแคล่ว กางเล็บดึงที่ล็อกหน้าต่างขึ้นก่อนจะผลักหน้าต่างออก

…………………….

ตอนที่ 548 เราไม่ใช่คุณตงกัว

เหมยเหมยกระโดดลงจากเตียงผลักหน้าต่างออกอย่างดีใจ คนที่ยังคิดถึงอยู่เมื่อครู่ก็มาปรากฏตัวอยู่นอกหน้าต่างในพริบตา

เหยียนหมิงซุ่นกอดท่อลำเลียงน้ำโดยใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนขอบหน้าต่าง อมยิ้มให้เหมยเหมย ควันขาวถูกพ่นจากปากเป็นระยะๆ

“พี่หมิงซุ่นรีบเข้ามา!”

เหมยเหมยดึงเหยียนหมิงซุ่นเข้าห้องอย่างเป็นห่วง นี่เธออยู่ชั้นสามเชียว หากเท้าลื่นพลาดตกลงไปอาจถึงชีวิตเลยก็ได้

เธอหยิบถุงน้ำร้อนจากที่นอนยัดใส่มือเหยียนหมิงซุ่นให้ความอุ่น พลางอดบ่นไม่ได้ “พี่หมิงซุ่น คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ม้าที่วิ่งมาพันลี้ยังมีเวลาที่พลาดท่า ถ้าเกิดตกลงไป แขนหักหรือขาหักยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าโขกใส่ที่อื่นก็แย่สิ!”

คอยมองเด็กสาวบ่นงึมงำๆ เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่รู้สึกรำคาญสักนิด อุ่นใจแทนมากกว่า

บนโลกใบนี้นอกจากคุณยายกับคุณย่าที่จะคอยพร่ำบ่นเป็นห่วงสุขภาพเขาแล้ว ก็มียายเด็กนี่เป็นคนที่สาม!

“ไม่เป็นไร ปีนตึกง่ายกว่าเดินบนถนน ต่อให้ตกลงไปก็ไม่แย่ พี่เคยเรียนกังฟูมาเชียวนะ”

เหยียนหมิงซุ่นอดพูดโอ้อวดใส่เหมยเหมยอย่างห้ามไม่ได้ ต่อให้เขาเป็นคนสุขุมอย่างไรก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยสิบหกปี เป็นนิสัยติดตัวของผู้ชายทุกคนที่อยากอวดสิ่งที่ตัวเองภูมิใจต่อหน้าหญิงที่ตนชอบ เพียงแค่ยามนี้เหยียนหมิงซุ่นยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป

เหมยเหมยถึงเพิ่งนึกได้ว่าเหยียนหมิงซุ่นอนาคตเป็นถึงผู้บัญชาการที่ทำคุณประโยชน์จนเป็นที่เลื่องลือโดยไม่พึ่งแรงใคร อาศัยความสามารถตัวเองค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นไป หากไม่เก่งจริงๆ คงทำไม่ได้

“งั้นพี่ก็ต้องระวังหน่อย ต่อให้เดินบนถนนก็อาจจะล้มหัวฟาดพื้นก็ได้นะ!”

เหมยเหมยพูดเสียงอ่อน ลากเสียงท้ายยาวและสูงกว่าเดิมหลายคีย์ เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะแคะหู

เสียงของยายเด็กนี่ไพเราะจริงๆ แต่ฟังทีไรก็ชอบจั๊กจี้ที่หูตลอด!

“อืม พี่จำไว้แล้ว เงินพวกนี้ให้เธอนะ เก็บไว้ให้ดี อย่าบอกใคร”

เหยียนหมิงซุ่นล้วงเงินก้อนหนึ่งจากกระเป๋าเสื้อกันหนาวซึ่งเป็นเงินจำนวนห้าร้อยหยวนที่เหมยเหมยทิ้งไว้ที่บ้านตระกูลอู่พอดี เขาเอามันมาให้ เหมยเหมยไม่ได้รับไว้กลับย้อนถาม “พี่หมิงซุ่น เงินปีใหม่ของพี่พอใช้มั้ย? ถ้าไม่พอก็เอาเงินพวกนี้ไปใช้ ฉันยังมีเงินติดตัวอยู่ คุณแม่ให้ฉันมา”

ว่าแล้วเธอล้วงเงินอีกจำนวนหนึ่งจากกระเป๋าที่มีถึงสิบกว่าหยวน ล้วนเป็นเงินที่เหยียนซินหย่าให้เธอมา

เหยียนหมิงซุ่นยัดเงินคืนให้เหมยเหมยพลางพูดกลั้วหัวเราะ “หลายวันก่อนพี่ไปเก็บค่าเช่ามาได้หลายร้อยหยวน พอใช้ตอนวันปีใหม่แล้ว เงินพวกนี้เธอเก็บไว้ให้ดี เมืองหลวงเป็นเมืองใหญ่ มีเงินติดตัวเยอะหน่อยถึงจะสบายใจ”

เหมยเหมยพยักหน้าแล้วเก็บเงินใส่ลิ้นชัก เหยียนหมิงซุ่นถามเธออีกหลายเรื่อง เขาถามอ้อมค้อมอย่างมากทั้งที่แค่อยากรู้ว่าจ้าวอิงหัวกับเหยียนซินหย่าดีกับเธอหรือไม่ แต่พอได้ฟังคำตอบของเหมยเหมย เหยียนหมิงซุ่นถึงเบาใจลง

สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวเก่งกาจกว่าอู่เจิ้งซือและเหอปี้อวิ๋นร้อยเท่า เหมยเหมยต้องมีความสุขที่บ้านใหม่มากแน่ๆ!

“พี่หมิงซุ่น วันนี้ตอนเย็นเรา…”

เหมยเหมยอดแบ่งปันผลการต่อสู้เมื่อช่วงเย็นของเธอให้กับเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ เล่าอย่างออกรสขณะที่มีเหยียนหมิงซุ่นคอยอมยิ้มรับ สายตาฉายแววอ่อนโยนรักใคร่โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ

ยายหนูตอนนี้พลังเต็มเปี่ยม บนใบหน้าไม่ได้ดูเศร้าหมองเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว มันดีมากจริงๆ!

“พี่หมิงซุ่น พี่จะรู้สึกว่าฉันร้ายมากมั้ย?”

พูดคนเดียวไปเสียพักใหญ่ก็ไม่มีเสียงโต้ตอบจากเหยียนหมิงซุ่น เหมยเหมยใจดิ่งลงมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นอย่างกังวลใจ

ดวงตาคู่โตของเด็กสาวเปื้อนน้ำตา ความไม่สบายใจ ความกังวล ความหวาดกลัว…ทำเอาเหยียนหมิงซุ่นใจอ่อนยวบ เขาอดยื่นมือไปบีบจมูกของเหมยเหมยไม่ได้

“เหมยเหมยในตอนนี้ดีมาก เราจะไม่เป็นอย่างคุณตงกัว[1] หรอกนะ”

……………………

 [1] คุณตงกัว ชื่อบุรุษในเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง เป็นชายที่หาทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตหมาป่าโดยที่ตัวเองเกือบเป็นอันตราย เปรียบเทียบบุคคลที่เมตตาคนชั่วร้ายอย่างโง่เขลา