ตอนที่ 1117 ระเบิดพลัง

The Legendary Mechanic

แมนิสันแสดงพลังเต็มที่ เขาสามารถสะกดข่มแบล็คสตาร์ได้อย่างสมบูรณ์
  ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของผู้ศรัทธาจักรกลทุกคนที่ดูอยู่บนผิวดาว
  “ฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า?ฉันสามารถเห็นสองเทพด้วยตาของฉันเอง”
  “รีบบันทึกมันไว้เร็ว ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิจักรกลจะทุ่มสุดตัวตอนไหน นี่คือข้อมูลมือแรก!”
  “ทำไมพวกเขาถึงสู้กัน?”
  “มันดูเหมือนการท้าทาย สถานการณ์ของแบล็คสตาร์ไม่สู้ดีเลย”
  “จักรพรรดิจักรกลก็ยังเป็นจักรพรรดิจักรกล ถือครองตำแหน่งสูงสุดมาหลายปี แบล็คสตาร์ยังเด็กเกินไป ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ เขาไม่ใช่คู่มือของจักรพรรดิจักรกล”   “แบล็คสตาร์สร้างบันทึกประวัติศาสตร์ไม่นานมานี้ ฉันคิดว่าเขาคงมาถึงระดับเดียวกันกับจักรพรรดิจักรกลแล้วซะอีก ตอนนี้มันูเหมือนเขาจะขาดอยู่”
  ผู้ชมตื่นเต้นมาก ในฐานะแฟนตัวยงของช่างกล พวกเขาพิจารณาประสบการณ์ของผู้อยู่เหนือจุดสุดยอดแต่ละคนตามมรดกอันล้ำค่า แม้พวกเขาจะไม่รู้สาเหตุของการต่อสู้ก็ตาม
  แม้อาณานิคมพวกเขาจะโดนคุกคามจากผลพวงการต่อสู้ ผู้ศรัทธาก็เต็มใจยืนดู
  ในความคิดพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเขาได้ดูการต่อสู้ของเทพจักรกลด้วยตาตัวเอง การแบกรับความเสี่ยงก็ไม่นับเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่ความจริงว่าแผ่นดินพวกเขาสูงแค่นี้ พวกเขาคงอยากเขย่งให้สูงกว่านี้
  ด้านบนสุดของวิหารผู้ศรัทธาจักรกล นักบวชหลายคนมองหน้าจอเสมือนตรงหน้า ซึ่งแสดงภาพของหานเซี่ยวและแมนิสันด้านนอกอวกาศ  ‘เทพทั้งสองได้ย้ายสนามรบแล้ว แต่อาณานิคมของเราก็ยังตกอยู่ในอันตราย ท่านนักบวชสูงสุด เราควรอพยพคนหรือไม่?”
  นักบวชสูงสุดจ้องหน้าจอเงียบๆ กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดใดไป เขาจ้องด้วยความหลงใหล ไม่แม้แต่จะหันไปมองขณะพูด”รอก่อน ให้ฉันดูอีกสักพัก”
  ข้างๆ มีใครบางคนพึมพำ”แม้ฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงสู้กัน แต่ก็ไม่ควรมีความสงสัยในผลลัพธ์ ทั้งสองฝ่ายมาด้วยกายสถิต และพวกเขาแค่สู้กันด้วยความสามารถจักรกล ในแง่นี้ แบล็คสตาร์ต้องด้อยกว่าอยู่แล้ว”
  “มันดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น”
  นักบวชคนอื่นพยักหน้า
  แต่ทว่า ไม่มีใครผิดหวัง เพราะในสายตาพวกเขา นี่เป็นเรื่องปกติ
  แต่ทว่า สถานการณ์พลันเปลี่ยนไป คลื่นพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติ  นักบวชสูงสุดผงะ
  “ความผันผวนพลังงานของแบล็คสตาร์..จู่ๆก็เพิ่มขึ้น”
  ในเวลาเดียวกัน สามอารยธรรมจักรวาลที่จับตาดูอยู่ตลอดก็เห็นหน้าจอกะพริบ
  พระสันตะปาปาเหลือบมองเออแรนเรล”ท่านผู้ปกครอง แบล็คสตาร์ดูเหมือนจะเสียเปรียบนะ”
  “ตามคาด”เออแรนเรลสงบ”เราไม่เคยหวังว่าแบล็คสตาร์จะสู้กับจักรพรรดิจักรกลได้ เขามีศักยภาพน่าทึ่งและต้องการเวลาเพื่อเพิ่มรากฐาน ต่อให้การเติบโตเขาจะเหนือความคาดหมายของเราอยู่ตลอดก็เถอะ มันยังเร็วเกินไปสำหรับเขาที่จะต่อกรกับจักรพรรดิจักรกล”
  “แต่ทว่า พวกแรกที่ปล่อยตัวปรับเสถียรมิติเวลาก็คือจักรวรรดิ มันดูเหมือนท่านจะอยากให้พวกเขาสู้กันนะ”
  “ผิดแล้ว ในเมื่อแกนไวรัสถูกจัดการ เราจึงควรยกเลิกการปิดล้อม เราไม่สามารถบังคับกายสถิตของช่ากงลได้ เราเปิดการปิดล้อมเพื่อหวังว่าจักรพรรดิจักรกลจะจากไป แต่มันดูเหมือนเขาจะอยากแสดงพลังต่อหน้าเรา”เออแรนเรลตอบ
  คำสั่งเธอให้ปิดตัวปรับเสถียรมิติเวลาไม่ใช่การตัดสินใจที่หยิ่งผยอง เออแรนเรลตระหนักดีว่าแบล็คสตาร์สามารถออกจากพื้นที่ได้ตลอดเวลาภายใต้การยับยั้งของมิติเวลา แต่ในความคิดเธอ แบล็คสตาร์ไม่ได้ทำอะไรผิด การทำลายแกนไวรัสเพื่อผลประโยชน์ของจักรวาล เขาจะหนีไปทำไม?คนที่ควรหนีก็คือแมนิสัน
  “มันเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมจักรพรรดิจักรกลถึงลงมือ”พระสันตะปาปามองบาเดอร์
  บาเดอร์จ้องหน้าจอต่อโดยไม่ตอบ
  เมื่อเห็นอย่างนี้ พระสันตะปาปาก็รู้ว่าบาเดอร์ไม่คิดจะพูดถึงจักรพรรดิจักรกล เขาจึงละสายตาและพูดต่อ”แต่ทว่า แบล็คสตาร์ยังไม่ถึงระดับของจักรพรรดิจักรกล เขาน่าจะแพ้”
  “เราไม่อยากให้แบล็คสตาร์มีความขัดแย้งกับจักรพรรดิจักรกลตอนนี้ แต่ในเมื่อพวกเขาเริ่มสู้กันแล้ว จักรวรรดิก็จะสนับสนุนแบล็คสตาร์จนถึงที่สุด ไม่จำเป็นต้องถอย”เออแรนเรลกล่าวอย่างเด็ดขาด
  ในแง่ของจุดยืน สามอารยธรรมจักรวาลยืนข้างหานเซี่ยว แต่พวกเขาไม่ปฏิเสธความจริงที่จักรพรรดิจักรกลยังทรงพลังกว่า
  นอกจากนี้ แบล็คสตาร์ยังใช้แค่กายสถิต ดังนั้นการแพ้จึงยอมรับได้ เหนือสิ่งอื่นใด อายุของแบล็คสตาร์เป็นแค่เศษเสี้ยวของแมนิสัน และศักยภาพในอนาคตของเขาก็ชัดเจน ขณะที่ทั้งสามกำลังคิด ความผิดปกติก็ปรากฏบนสนามรบ
  ค่าพลังงานของหานเซี่ยวพลันพุ่งทะยาน
  ทั้งสามสะดุ้ง
  “แบล็คสตาร์ระเบิดพลัง?เขาแผดเผาศักยภาพอีกแล้ว?”บาเดอร์ตกตะลึง  พระสันตะปาปาก็เช่นกัน
  “นี่หุนหันพลันแล่นเกินไป เขาไม่จำเป็นต้องดิ้นรนแบบนี้…”
  ความจริงที่แบล็คสตาร์มีสองโหมดไม่ใช่ความลับ โหมดปกติเขาไม่สามารถเอาชนะจักรพรรดิจักรกลได้ นี่เป็นเรื่องที่ทั้งสามรู้ดี แต่พวกเขายังเข้าใจว่าพลังของหานเซี่ยวจะถึงจุดสูงสุดก็ต่อเมื่อเขาแผดเผาศักยภาพ
  แบล็คสตาร์ได้ใช้การแผดเผาศักยภาพของเขาเพื่อทำให้ทั้งจักรวาลตกใจระหว่างศึกทวยเทพไปแล้ว
  สีหน้าของเออแรนเรลไม่สู้ดี การกระทำของแบล็คสตาร์หลุดกรอบอีกแล้ว
  เขาสามารถเลือกค่อยๆสะสมรากฐานได้ แต่เขากลับแผดเผาศักยภาพเพื่อระเบิดพลัง เธอไม่สามารถยอมรับแนวทางดังกล่าวได้
  นายแผดเผาศักยภาพไปแล้ว?แต่นายยังอยากแผดเผามันอีก?นายจะยอมเสียศักยภาพไปอีกสักแค่ไหน!   แบล็คสตาร์เป็นพันธมิตรจักรวรรดิ และเธอก็หวังกับเขาไว้สูง ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ยังสอดคล้องกับความสงบสุขของจักรวาล ตอนนี้ที่แบล็คสตาร์แผดเผาศักยภาพ มันจึงเป็นการสูญเสีย
  ด้วยการตัดสินอย่างมีเหตุผลของเธอ การเคลื่อนไหวนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการเสียเลือด แต่ในความรู้สึก เธอชื่มชมแบล็คสตาร์มาก
  ทางเลือกที่แบล็คสตาร์เลือกทำให้เธอไว้วางใจเขา ไม่ว่าเธอจะมองทางไหน แบล็คสตาร์ก็ดูน่าพึงพอใจอย่างมากในสายตาเธอ
  เกร๊ง!
  ตรีศูลตัดเปิดม่านพลังของผ้าคลุมจักรพรรดิอีกครั้ง ลาดเส้นลึกบนท้องเทพจักรกลหานเซี่ยว อะไหล่หลายชิ้นถูกขุดออก
  ทหารจักรกลรอบๆอยากเข้ามาซ่อมแซม แต่ก็ถูกขวางโดยกองทัพของแมนิสัน พวกมันไม่สามารถฝ่าวงล้อมมาได้ ประสิทธิภาพกองทัพจักรกลของแมนิสันสูงกว่าเกือบทุกด้าน ยกเว้นพลังโจมตีเขา นี่ต้องขอบคุณเทคนิคต่อสู้ในตำนาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าล้อเล่น มันแค่ว่าการโจมตีส่วนใหญ่ถูกดูดซับโดยจักรวรรดิจักรกลอมตะของแมนิสัน ซึ่งไม่กลัวการถูกทำลาย
  ตำนานของกายอมตะแพร่กระจายไปทั่วจักรวาล และเพราะแมนิสันไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะใช้กับกายสถิตของหานเซี่ยวด้วยได้ไหม การโจมตีทั้งหมดของเขาจึงมุ่งเน้นส่วนไม่สำคัญของเทพจักรกล มุ่งเน้นการทำลายจักรกลของหานเซี่ยว
  ตอนนี้เอง หานเซี่ยวพบว่ามันยากที่จะต้านทานและความคิดของเขาก็หมุนวนอย่างรวดเร็ว
  ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เทพจักรกลของฉันจะถูกทำลายทีละส่วน แมนิสันได้เปรียบ ถ้าฉันปล่อยให้เขาโจมตีต่อ มันจะเป็นการผลาญกองทัพจักรกลฉัน ฉันต้องหยุด
  สมบัติจักรวาลจำนวนมากทำให้แมนิสันได้เปรียบเขา  รากฐานของเขาเองก็ยังไม่มั่นคงพอ ถ้าเขาอยากอุดช่องว่างนี้ เขาทำได้แค่เพิ่มค่าสถานะเขา โดยเฉพาะสติปัญญา ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถสายช่างกล
  เขาเปิดหน้าต่างสถานะ เห็นค่าประสบการณ์ที่เขาสะสมเป็นจำนวนมากขณะที่งสามอารยธรรมจักรวาลเตรียมแผนการนี้ เดิมเขาอยากกักตุนมันไว้จนกว่าจะยกระดับ แต่แผนต้องเปลี่ยน
  หานเซี่ยวไม่ลังเล ทุ่มค่าประสบการณ์ทั้งหมด ใช้มันเพื่อเพิ่มระดับพิมพ์เขียวจำนวนมาก แลกกับแต้มตื่นรู้
  ค่าประสบการณ์ที่สะสมของเขาไม่พอจะได้รับแต้มตื่นรู้ร้อยแต้ม ซึ่งไม่ตรงกับเงื่อนไขได้รับพรสวรรค์พิเศษ แต่ จุดประสงค์ของหานเซี่ยวไม่ใช่การสร้างพรสวรรค์แต่เป็นการแทนแต้มตื่นรู้ด้วยแต้มสถานะฟรี เทพวกมันทั้งหมดลงสติปัญญา ในชั่วพริบตา สถานะสติปัญญาของเขาก็เพิ่มขึ้นเกือบ 8000!
  หานเซี่ยวยังสะสมแต้มสถานะไว้อีก4000 และหลังวาง 1000 ลงความทนทาน ช่วยให้ทะลุผ่านเกณฑ์ 15000 แต่ม เขาก็วางที่อีกสองพันกับสติปัญญา
  เมื่อรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน แต้มสติปัญญาที่เพิ่มเข้ามาก็มากกว่าหมื่น ทำลายผ่านเกณฑ์ 30000 และมาถึง 40000!
  นี่คือการเพิ่มที่รวดเร็วสุดในประวัติศาสตร์ของเขา!
  หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ หานเซี่ยวก็ไม่ลังเลที่จะเปิดใช้งานบัตรอัญเชิญตัวละคร
  [บัตรอัญเชิญตัวละคร จักรพรรดิจักรกล : แอนเชี่ยนวัน]!
  ผล : สติปัญญา2% ลี้ลับ 10% +2ต่อระดับทักษะทั้งหมด คงอยู่ 24 ชั่วโมง
  (บัตรอัญเชิญตัวละครเนโร่ สัมผัสจักรกลสมบูรณ์)!
  ผล : x1.4ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร เกรดของอุปกรณ์จักรกลที่ได้รับพลังจักรกลจะเพิ่มขึ้น 1-2 ระดับชั่วคราว +4 ต่อทักษะช่างกลทั้งหมด
  แต่ทว่า หานเซี่ยวไม่หยุดแค่นั้น เขายังเปิดใช้(กระแสพลังสุดขั้ว – เลือดเดือด) และพลังชีวิตของเขาก็ลดฮวบ
  ในเวลาเดียวกัน ผลเพิ่มเติมของรากฐานชีวิตขั้นสูงก็แสดงบทบาท สำหรับทุก 40% ของพลังชีวิตที่เสียไป สถานะทั้งหมดของเขาจะเพิ่มขึ้น 10%!
  ในเมื่อแมนิสันไม่โจมตีฉัน ฉันก็จะโจมตีตัวเอง!
  เขายังมีพรสวรรค์เช่นหนึ่งต้านโลก ซึ่งมอบโบนัส 11%ต่อสถานะทั้งหมด และภูมิปัญญาสนามรบซึ่งมอบโบนัส 15%ให้สติปัญญา หานเซี่ยวควักเอาทุกอย่างออกมา
  ตาแก่แมนิสันมีรากฐานมั่นคง?
  น่ากลัวมากหรือไง?
  โบนัสคลื่นนี้มาทันที และพลังมหาศาลก็พุ่งพล่านไปทั่วตัว ความผันผวนพลังงานที่หานเซี่ยวปล่อยออกมาพุ่งทะยาน  แมนิสันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงและตกใจ
  “แก…”
  ก่อนจะพูดจบ หานเซี่ยวก็เริ่มรุก กระแทกตรีศูลออกไปด้วยศอก ฟันคมดาบลงทัณฑ์ลง
  พลังงานไซโอนิคหนาแน่นวาดเป็นเส้นสีฟ้า
  หวือ!
  พลังเบื้องหลังการเฉือนนี้ทะลุขีดจำกัดที่ม่านพลังป้องกันจะสามารถรับมือได้
  คมดาบถูกยับยั้งด้วยตรีศูลก่อนจะฝังตัวมันลึกลงภายในชุดเกราะของแมนิสัน
  วินาทีต่อมา พลังงานไซโอนิคที่ห่อหุ้มง้าวก็เกิดการระเบิด!การรุกของแมนิสันถูกขัด และร่างกายส่วนใหญ่ของเทพจักรกลก็ถูกเฉอน บาดแผลขนาดใหญ่ตรงหน้าอกซ้ายเกิดขึ้น เกราะด้านนอกส่วนใหญ่ยังฉีกขาดและสึกกร่อน  นี่เป็นครั้งแรกที่แมนิสันโดนโจมตีตั้งแต่เริ่มต่อสู้
  การต่อสู้ฝ่ายเดียวพลิกกลับมาหาหานเซี่ยว!
  “รับง้าวฉันไปกินอีกสักหน่อย!”
  หานเซี่ยวกดดันต่อ ฟันออกไปถี่ยิบเพื่อยึดจังหวะการต่อสู้
  ความสามารถต่อสู้ของเทพจักรกลหานเซี่ยวได้รับการเสริมทุกด้าน ช่องว่างในความสามารถพวกเขาสั้นลง หานเซี่ยวไม่ถูกข่มอีก
  การเพิ่มขึ้นในพลังสะท้อนถึงทหารัจกรกลรอบเขา กองทัพแบล็คสตาร์ที่ได้รับพลังเพิ่มทำลายวงล้อมของกองทัพจักรพรรดิจักรกลได้สำเร็จ เข้าหาหานเซี่ยวเพื่อซ่อมความเสียหายของเทพจักรกล ในที่สุดแมนิสันก็ทรงตัวได้ ขณะสะบัดตรีศูลเขาเพื่อโต้ตอบหานเซี่ยว เขาพูดผ่านช่องทางพื้นที่กว้างด้วยความแปลกใจ
  “แกเผาผลาญศักยภาพอีกแล้ว?”   “คิดว่าแกต้องการอะไร รสชาติของง้าวนี้เป็นยังไง?”หานเซี่ยวหัวเราะ
  “..แกกำลังทำลายพรสวรรค์ของแก!”น้ำเสียงของแมนิสันเย็นชา
  เดิมเขาแค่อยากสอนบทเรียนให้หานเซี่ยว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะแผดเผาศักยภาพเพื่อโต้ตอบ
  การใช้ศักยภาพในอนาคตกับการต่อสูด้วยกายสถิตเป็นการกระทำที่โง่เขลาอย่างมาก
  เขาสับสน บางทีอุดมการณ์ของพวกเขาอาจต่างกัน แต่เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะเป็นคนโง่
  เขาไม่มีทางรู้ความคิดของหานเซี่ยว ในเมื่อเขาเต็มใจเสียศักยภาพ แมนิสันก็มีความสุขเพราะพวกเขาเป็นคู่แข่งกัน
  แต่ทว่า แม้เขาจะเย้ยหยันวิธีการของหานฌซี่ยว เขาก็ต้องยอมรับว่าพลังของหานเซี่ยวแข็งแก่งมาก  ถ้าเขาไม่ทุ่มสุดตัวจริงๆ เขาจะเดือดร้อนแน่!
  ยิ่งไปกว่านั้น แมนิสันรู้สึกว่าการเพิ่มขึ้นของพลังนี้ยังสูงกว่าตอนแรก การค้นพบนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
  อะไร?การแผดเผาศักยภาพฝึกได้?
  นอกจากนี้ กระแสพลังงานสุดขั้วแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?ทำไมฉันไม่รู้?
  อะไรคือหลักการเบื้องหลังความสามารถนี้?ผลของมันดีขนาดไหน?
  เมื่อรู้สึกถึงกลิ่นอายที่สูงขึ้นของหานเซี่ยว แมนิสันก็ทั้งประหลาดใจและสงสัย