ตอนที่ 1106 - ฟ้าประทานพรหรือภัยพิบัต

The Divine Nine Dragon Cauldron

“เทพอย่างเจ้าถูกเรียกว่ากึ่งเทพคือสภาวะที่มีแหล่งพลังเทพให้บ่มเพาะพลังเทพ! เทพมังกรที่เจ้าได้บ่มเพาะโลหิตไปเองก็เป็นกึ่งเทพ…เกือบจะเหมือนกับเจ้า”
  หรือพูดอีกอย่างก็คือซือหยูมีฐานะเป็นเทพ แต่มิได้แข็งแกร่งเท่ากับผู้ที่ถูกเรียกว่าเทพ
  ซือหยูตกใจและเงียบกริบเขาเงียบไปก่อนจะพูด
  “เช่นนั้นก็แสดงว่าข้าไม่ได้อะไรเลยสินะ?”
  เทพปีศาจถอนหายใจ
  “ข้าก็คิดเช่นนั้น!หรือข้าจะให้ข้าพูดว่ามันเลวร้ายกว่าเดิมดีล่ะ!”
  “ทำไมกัน?”
  ซือหยูใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนกับคนจมน้ำ
  เทพปีศาจพูดอย่างเคร่งเครียด  “ในร่างกึ่งเทพมังกรหยดโลหิตหยดเดียวที่มีพลังเทพมังกรยังหลงเหลืออยู่ได้ ไม่มีผู้ใดสนใจ แต่แหล่งพลังเทพกลับหายไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไม?”
  “เพราะมันถูกขโมยไปยังไงล่ะ!”
  เทพปีศาจเผยเรื่องน่าเศร้า
  “มันถูกขโมยได้ด้วยรึ?”
  ซือหยูสีหน้าไม่สู้ดีนัก
  “ถูกแล้วเหล่าเทพที่มีแหล่งพลังเทพได้หลอมรวมมันเข้ากับร่างกายไปแล้ว ส่วนแหล่งพลังเทพของกึ่งเทพไม่มีความมั่นคงอยู่เลย มันจะถูกใครชิงไปก็ได้!”
  ซือหยูตกใจ
  “มันเกิดขึ้นบ่อยรึ?”
  “บ่อยมาก!ถ้าหากข้าได้เจอกึ่งเทพ ข้าก็จะชิงแหล่งพลังเทพของมันมาโดยไม่ลังเลเหมือนกัน!”
  “เจ้าเป็นเทพไปแล้วเจ้าจะเอาแหล่งพลังเทพของคนอื่นไปอีกทำไม?”   ซือหยูเริ่มรู้ถึงภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว
  เทพปีศาจตอบ
  “ประการแรกข้าสามารถใช้มันปรับแหล่งพลังของตัวเองได้ มันจะทำให้ข้าได้ประโยชน์ไม่สิ้นสุด! ประการที่สอง ถ้าข้าไม่ใช้มันเพิ่มพลังตัวเอง มันก็ใช้สร้างเทพเทียมได้!”
  เทพเทียมรึ?ซือหยูตกตะลึงอีกครั้ง
  “หากให้แหล่งพลังเทพกับเซียนเซียนเหล่านั้นจะทำให้แหล่งพลังมั่นคง และเทพเทียมจะถือกำเนิดขึ้น ถึงเทพเหล่านี้จะต่ำต้อยกว่าเทพของจริง พวกมันก็ยังเป็นเทพที่เหนือกว่าผู้ใด! ไม่ว่าใครก็ล้วนต้องการแหล่งกำเนิดพลังของกึ่งเทพ ทุกคนย่อมยอมแลกกับทุกสิ่ง!”
  เทพปีศาจเหลือบมองซือหยู
  “เจ้าเข้าใจรึยัง?เจ้าเป็นแค่ภูติน้อยที่มีแหล่งพลังเทพจากเบื้องบนในครอบครอง! ในสายตาของคนอื่น เจ้าไม่ต่างกับอาหารโอชะมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่คิดชิงแหล่งพลังเทพของเจ้า!!”
  นี่มัน…ซือหยูไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่เขาได้มาหลังจากเสียสละทุกสิ่งเพื่อเผชิญหน้ากับวิบัตินับไม่ถ้วนสุดท้ายจะไม่ได้แค่สิ่งไร้ค่ากลับคืน แต่รังจะทำให้ชีวิตของเขามีภัยด้วย!
  ซือหยูอยากจะตะโกนให้ดัง
  ถึงอย่างนั้นเขาก็มีชีวิตที่ยากลำบากอยู่แล้ว เขามิเพียงแต่ต้องเผชิญขวากหนามในเรื่องความรัก แต่ยังมีการเบิกเนตรอสูรกลืนสวรรค์เข้ามา และในเวลานี้ เขายังมีแหล่งพลังเทพที่เป็นภัยต่อชีวิตของเขาอีก
  ซือหยูถอนหายใจกำหมัดเมื่อความโกรธไม่ดับลงเขายังไม่ยอมรับโชคชะตา
  “ไม่มีทางที่ข้าจะได้พลังเซียนมาเลยหรือ?”
  เทพปีศาจส่ายหน้า
  “ไม่มีหรอกเจ้าต้องบ่มเพาะพลังเทพด้วยตัวเอง ด้วยพลังเทพเท่านั้น!”   เทพปีศาจอดสงสารเขาไม่ได้ซือหยูโชคร้ายเกินไปจริง ๆ วิบัติสวรรค์อันรุนแรงตกลงสู่เขา และเขาก็ต้านทานมันได้ และเมื่อเขารอดชีวิตได้ เขาก็ถูกวางค่าหัวกับตัวเองอีก เป็นค่าหัวที่อันตรายเสียยิ่งกว่าการเบิกเนตรอสูรกลืนสวรรค์!
  หากมีใครพบว่าซือหยูมีแหล่งพลังเทพที่ไม่มั่นคงอยู่กับตัวคนเหล่านั้นจะต้องออกล่าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะบรรดาเซียน!
  แต่ซือหยูก็ชักสีหน้าเขาคิด
  “บ่มเพาะพลังเทพรึ?ไม่รู้ว่าข้าจะบ่มเพาะพลังเทพได้ยังไง แต่โลหิตเทพในหม้อเก้ามังกร…”
  เทพมังกรนั้นเป็นกึ่งเทพในโลหิตของเทพมังกรจะต้องมีพลังเทพของเทพมังกรอยู่แน่!
  แม้โลหิตเทพจะเจือจางตามทฤษฎีก็น่าจะยังมีพลังอยู่ แม้จะเหลือน้อยมากก็ตาม  เมื่อคิดได้เช่นนี้ในใจซือหยูสงบลง เขาเริ่มปล่อยพลังมังกรไปทั่วร่างเพื่อทำให้มันเข้าสู่แหล่งพลังเทพในจุดกำเนิดพลังของเขา
  ในครั้งแรกแหล่งพลังเทพไม่ตอบสนอง พลังมังกรดูเหมือนจะเป็นพลังทั่วไป
  แต่เมื่อซือหยูอัดพลังมังกรทั้งหมดลงในแหล่งพลังเทพจู่ ๆ จักรวาลภายในแหล่งพลังเทพก็เร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย!
  มันขยับเพียงเล็กน้อยจริงๆ! ถ้าหากซือหยูไม่ใช่เจ้าของแหล่งพลังเทพ เขาคงจะไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้
  ในเวลาเดียวกันพลังใหม่ได้ถือกำเนิดในแหล่งพลังเทพ!
  มันคือพลังที่ทำให้ทั้งจิวโจวสั่นสะเทือน…โทสะแห่งพระเจ้า!
  ก่อนที่ซือหยูจะควบคุมพลังใหม่นี้ได้พลังเทพใหม่ก็ได้หลุดจากการควบคุม มันทะลวงแหล่งพลังเทพระเบิดออกจากร่างกายซือหยู มันขึ้นสู่กะโหลกของเขา พุ่งตรงไปยังท้องนภาไกลโพ้น
  ตู้ม!ตู้ม!
  สวรรค์สั่นสะเทือนเลือนลั่นในพริบตา!
  มิติบนจิวโจวปั่นปวน!
  ทุกพื้นที่ในเก้าเขตเกิดมิติที่แตกสลายด้วยพลังมหาศาลพลังนั้นรบกวนทุกสิ่งมีชีวิตบนจิวโจว!
  ตั้งแต่ผู้ต่ำต้อยจนถึงเซียนทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงโทสะแห่งพระเจ้า!
  พลังของเซียนทั้งสิบพุ่งไปยังท้องนภาจากทุกมุมของทวีปมันเข้าใกล้พลังโทสะแห่งพระเจ้า
  ในเวลาเดียวกันมนุษย์และเหล่าสิ่งมีชีวิตต่างคุกเข่าเคารพการมาของเทพ
  ณเมืองหลวง อสูรที่มีกลิ่นโลหิตท่วมกายรีบเงยหน้าด้วยความตกใจ
  “โทสะแห่งพระเจ้า!มีเทพมาที่นี่รึ?”
  สีหน้าของทุกคนแสดงความกังวลใจ  จ้าวผาบั่นภูติที่กำลังต่อสู้กับราชาเขตกลางต่างหยุดมองพลังเทพที่ทะลวงท้องนภาขึ้นไป
  “เทพรึ?”
  จ้าวผาทั้งกังวลและหวาดกลัว
  ราชาเขตกลางมีสายตาริษยาและโหยหาพลังเทพนี้สามารถทำให้มิติทั้งเก้าเขตปั่นป่วนได้ นี่คือพลังแห่งเทพ พลังสูงสุดที่เขาตามหามาโดยตลอด!
  บางแห่งในแผ่นดินใหญ่เสียงอันอ่อนโยนกล่าวขึ้น
  “เทพหรือ?ใครจะไปคิดเล่าว่าจะยังมีเทพซ่อนอยู่หลังจากการแตกดับมาหลายปีของเทพกิเลน? วารีในจิวโจวช่างล้ำลึกยิ่งนัก…”
  หลายล้านลี้ไกลออกไปจากตำหนักโลหิตสตรีในชุดขาวตกตะลึงและมิอาจใจเย็นได้อีกต่อไป
  “เขากลายเป็นเทพแล้ว!!”
  ภูติสู่เทพ!แม้จะได้เห็นกับตา นางก็มิอาจเชื่อได้ลง
  ณทวีปบูรพา ยอดฝีมือจากสองเขตหลักมองไปทางเขตกลางพร้อมกันด้วยความตกใจบนใบหน้า
  “มีเทพมาเยือนจิวโจว!”
  “มีเทพฝั่งมนุษย์พบเทพอสูรมณีรึ?พวกเขาจะมากำราบนางรึ?”
  เสียงความตื่นเต้นดังไปทั่วทวีปบูรพา
  ในแดนเหนือเหล่าคนสำนักอสูรสวรรค์หันมองเขตกลาง
  “เทพหรือ?เทพองค์ใดกัน? เขาจะทำอะไรในยามที่จิวโจวแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้?”
  ณซากตำหนักโลหิต ซือหยูมองมิติที่แตกสลายไปทั้งเก้าเขต เขาได้แต่กัดลิ้น นี่คือโทสะของพลังเทพรึ?
  ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นเพียงพลังเทพเล็กน้อยเท่านั้น ในการระเบิดที่มิอาจควบคุม มันได้แล่นไปทั่วทั้งพื้นที่ของจิวโจวเลยหรือ?   “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!”
  เทพปีศาจเริ่มตัวสั่น
  “จะ…เจ้ามีพลังเทพได้ยังไง?”
  ถ้าซือหยูบ่มเพาะพลังเทพได้จริงมิใช่ว่าเขาได้กลายเป็นเทพในก้าวนี้ก้าวเดียวหรอกหรือ?
  วิปริตเกินไปแล้ว!
  เทพอสูรได้พบกับเรื่องต่าตื่นตามามากมายในตลอดชีวิตนี้แต่เรื่องราวเหล่านั้นไม่มีค่าใดเลยหากจะเทียบกับสิ่งที่เกิดต่อหน้าต่อตามันณ ตอนนี้