มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 647
พอจะเดาได้ว่า หลังจากนี้อีกพักใหญ่ คงมีคนไม่พอใจที่เขาใช้กลอุบายเพื่อคว้าอันดับหนึ่งในการประลองมาได้ จากนั้นก็จะมาหาเขาเพื่อท้าประลองสินะ ?

“ฮ่า ๆ ยินดีด้วยนะหลัวซิว สำหรับตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการประลองครั้งนี้ !”

เหนือกลุ่มเมฆา เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวลุกขึ้นและหัวเราะเสียงดัง

ตามธรรมเนียมปฏิบัติในอดีต ผู้ชมในสนามจำนวนมากจะต้องปรบมือและส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี

แต่ครั้งนี้กลับเงียบจนน่าประหลาด

“ข้าไม่เห็นด้วย !”

“ใช่แล้ว พวกเราไม่เห็นด้วย !”

“เห็นได้ชัดว่าซิงหลิงกับหวูหยุนจงใจสละสิทธิ์ ทำให้เขาได้ที่หนึ่ง เจ้าหมอนี่จะต้องมีแผนการบางอย่างแน่นอน !”

มีคนจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนซิงหลินและหวูหยุนอย่างคลั่งไคล้ ต่างตะโกนและขู่ตะคอกออกมาเสียงดังด้วยความโกรธ

เมื่อหลัวซิวได้ยินคำพูดเหล่านี้ มุมปากของเขาก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ แอบพึมพำว่า พวกโง่เหล่านี้ช่างอาจหาญเสียจริง

หากเขามีความสามารถที่จะข่มขู่ให้คนอย่างกุ่ยโยว ซิงหลิง และหวูหยุนยอมสละสิทธิ์ได้ละก็ เขายังจะต้องมาร่วมการประลองครั้งนี้ เพื่อชิงสิทธิ์ในการเข้าไปฝึกตนที่แดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่างอีกหรือ ?

ในฐานะที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับนิรันดร์ทั้งสี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแสงดาว จะถูกคนข่มขู่ได้ง่ายดายเช่นนี้หรือ ?

“เจ้าพวกโง่” หลัวซิวกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย

ในเวลาเดียวกันนี้ หลัวซิวพบว่าพวกของหวูหยุน ซิงหลิง และกุ่ยโจวล้วนไม่ได้สนใจที่จะมองเขา แววตากลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง มีเพียงเทพธิดาต้าวหวูซินของสำนักดำเหลือเท่านั้น ที่หันมาพยักหน้าให้กับเขาแล้วพูดเบา ๆ ว่า : “ยินดีด้วยท่านชายหลัว”

คำยินดีของต้าวหวูซิน ทำให้พวกหวูหยุน ซิงหลิง และกุ้ยโจวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา

จะว่าไปครั้งนี้พวกเขาแอบแข่งขันกันลับ ๆ ในขณะที่แสดงความสามารถบนเวลีการประลอง ก็ได้ปกปิดความสามารถที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ในเวลาเดียวกัน จึงจงใจที่จะผลักคนคนหนึ่งออกไป ดังนั้นจึงได้เลือกหลัวซิว ประการแรกเป็นเพราะคนผู้นี้ไม่มีภูมิหลัง ส่วนอีกประการหนึ่งเพราะต้าวหวูซินยอมแพ้ด้วยตนเอง

พวกเขาคิดว่าที่ต้าวหวูซินยอมแพ้ เป็นเพราะจงใจปกปิดความสามารถที่แท้จริงของตนเอง และผลักหลัวซิวให้ขึ้นไปอยู่บนเวที กลายเป็นเป้าโจมตีของผู้คน พวกเขาจึงไปตามน้ำ ผลักดันให้หลัวซิวขึ้นไปอยู่ตรงปากเหว

ตอนนี้เมื่อเห็นต้าวหวูซินเอ่ยปากแสดงความยินดีกับหลัวซิว ทำให้พวกกุ่ยโยว หวูหยุน และซิงหลิงต่างรู้สึกงุนงง

คนที่ถูกพวกเขาหลอกใช้จนสำเร็จ มีอะไรน่าแสดงความยินดีกัน ?

ถึงแม้ในด้านชื่อเสียง หลัวซิวจะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในสายตาของพวกซิงหลิง กุ่ยโยว เขาก็เป็นแค่หมากรุกที่ดูไม่น่าเกลียดนัก ที่ถูกพวกเขาหลอกใช้ก็เท่านั้น

แน่นอนว่าต้าวหวูซินย่อมต้องอธิบายให้คนเหล่านี้เข้าใจ ที่นางยอมแพ้ต่อหน้าหลัวซิวเป็นเพราะเป็นเพราะพรสวรรค์พิเศษที่มีมาแต่กำเนิดของนาง อีกทั้งการที่นางแสดงความยินดีต่อหลัวซิว ก็เป็นการแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ เพราะทุกคนที่อยู่ในที่นี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีพลังในการข่มขู่ที่แข็งแกร่งต่อนางมากที่สุด

“พวกซิงหลิง หวูหยุน และกุ้ยโยวต่างคิดว่า ที่ท่านชายหลัวกลายเป็นผู้นำอันดับหนึ่งได้นั้น เป็นเพราะพวกเขาจงใจหลีกทางให้ แต่หากต่อสู้กันสุดชีวิตจริง ๆ ก็ใช่ว่าคนพวกนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของท่านชายหลัว”

ต้าวหวูซินคิดว่าบนร่างกายของหลัวซิว จะต้องมีความลับซ่อนอยู่อย่างแน่นอน อีกทั้งยังปิดบังกลยุทธ์ที่เป็นไพ่ไม้ตายอันแข็งแกร่งเอาไว้อีกด้วย ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะผูกมิตร

ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับคำยินดีของนาง หลัวซิวกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน และไม่สนใจสิ่งที่นางต้องการจะพูดเลยแม้แต่น้อย

สิ่งนี้ทำให้ต้าวหวูซินรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย คิดว่าตัวนางต้าวหวูซินเป็นใครกัน ? เป็นเทพธิดาคนปัจจุบันของสำนักดำเหลือง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความแข็งแกร่งในการฝึกตน เพียงแค่ฐานะ ก็เท่ากับเป็นผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แล้ว อีกทั้งการจะดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับนิรันดร์สักคน อย่างน้อยจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับจักรพรรดิยุทธ์ !