ตอนที่ 2765 มรดกผู้สังหารเทพ

หลังจากความเงียบสงัดไปชั่วครู่ในบริเวณโพรงน้ำแข็ง เสียงที่ลึกลับและเต็มไปด้วยอารมณ์ก็ดังเข้ามาที่หูของซือเฟิง

“คุณไม่ควรจะถามหรือพยายามคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และรวมไปถึงสิ่งที่ทำให้เกิดการตายของเหล่าตัวตันที่ทรงพลัง และทวยเทพพวกนี้ พูดกันตามตรงก็คือคุณไม่ควรจะแส่เข้าไปคิดถึงปัญหาของเรื่องนี้”

“ผลที่ตามมาของการทำแบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่บุคคลที่ได้รับพรจากสวรรค์เช่นตัวคุณเองจะสามารถทนได้ ผลที่ตามมามันอาจจะทำให้คุณเสียสติได้เลย” ชายชรากล่าวเตือน เมื่อเขาเห็นความอยากรู้อยากเห็นปรากฎขึ้นบนใบหน้าของซือเฟิงและคนอื่นๆ

แม้ว่าเสียงของชายชราจะไม่ได้มีแรงกดดันทางจิต และไม่ได้มีการบีบบังคับใดๆ แต่ความมั่นใจที่แฝงมากับน้ำเสียงของเขา มันก็ทำให้ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

สำหรับไลฟ์เลสธอร์น โซริทารี่ไนน์ หยานย่า และคลีนซิ่งวิสเซิล แม้ว่าพวกเขาจะหวาดกลัวกับคำเตือนของชายชรา แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันก็ยังคงปรากฎอยู่บนใบหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจน ซึ่งมันแสดงให้เห็นเลยว่าพวกเขาไม่ได้ปฎิบัติต่อคำเตือนของชายชราอย่างจริงจัง

ท้ายที่สุดแล้วนี่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหล่าทวยเทพ

ผู้เล่นที่ยังค่อนข้างใหม่กับ God domain นั้นถือว่าคำว่า “พระเจ้า” และ “เทพ” เป็นคำนามที่ดีที่สุดเท่านั้น และอย่างมากที่สุดเทพนั้นก็หมายถึงมอนสเตอร์ประเภทที่ทรงพลังมากๆสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามผู้ที่ผจญภัยอยู่ใน God domain อย่างแท้จริง และศึกษาประวัติศาสตร์ของเกมในห้องสมุดของอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆมาจะล้วนตระหนักดีว่าเทพนั้นไม่ได้เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง เพราะในขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นตัวแทนของความสุดโต่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่จุดสูงสุดของ God domain

ดังนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเหล่าทวยเทพจึงนับเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้เล่น

นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นขั้นสาม เช่นตัวพวกเขาเอง พวกเขาค่อนข้างตระหนักดีว่าพวกเขาไม่สามารถจะก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเองได้อีกต่อไป และหากพวกเขาต้องการจะก้าวสู่ขั้นต่อไป พวกเขาจำเป็นจะต้องเดินตามรอยเท้าของผู้คนรุ่นก่อนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งการก้าวตามรอยเท้าของเหล่าทวยเทพโบราณ มันก็น่าจะจัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“มันไม่มีใครในหมู่พวกคุณควรมองลึกลงไปที่เรื่องนี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ….” ซือเฟิงพูดกับไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆ

เขารู้ดีว่าเรื่องราวของเหล่าทวยเทพนั้นน่าดึงดูดเพียงใดสำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม พวกเขาจะไม่ลังเลที่จะพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทวยเทพ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงใหญ่หลวงก็ตาม เพราะท้ายที่สุดหนทางที่จะทำให้พวกเขาเข้าสู่ขั้นต่อไปได้ มันยากเกินไป

และโดยปกติผู้เล่นก็จะสามารถปรับปรุงตัวเองได้อย่างมากแล้วจากซากปรักหักพังโบราณที่เหลือรอดมาถึงตอนนี้ของสิ่งมีชีวิตขั้นห้า ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงพวกสิ่งมีชีวิตขั้นหกเลย

อย่างไรก็ตามในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง การหายตัวไปของผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด ผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดหรือเก่งกาจกว่านั้นทั้งในโลกแห่งความเป็นจริง กับโลกแห่งเกม มักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพขั้นหก ดังนั้นใครก็ตามที่พยายามจะเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเทพขั้นหก ในตอนที่ตัวเองยังเป็นเพียงผู้เล่นขั้นสาม หรือขั้นสี่ จะต้องตายแน่นอน หากพวกเขาโชคร้าย พวกเขาก็อาจหายตัวไปเหมือนเหล่าผู้เชี่ยวชาญในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง แต่หากพวกเขาโชคดี ไอดีของพวกเขาก็อาจจะแค่ถูกทำลาย และพวกเขาก็จะถูกบังคับให้ต้องไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเท่านั้น

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆก็มองมายังซือเฟิงอย่างสงสัย พวกเขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะหยุดไม่ให้พวกเขามองลึกลงไปที่เรื่องนี้ต่อ

“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้ขีดจำกัดของตัวเองนะเด็กๆ ….” ชายชรากล่าวพลางจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความชื่นชม “ใช่แล้ว มีเพียงแต่คนที่รู้ถึงขีดจำกัดความแข็งแกร่งและความสามารถของตัวเองเท่านั้นที่จะมีชีวิตยืนยาวได้ และแม้แต่ผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์ก็ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดล่าสุดของชายชรา ไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆก็ตื่นขึ้นมาจากความโลภทันที

“ขอบคุณ ผู้บัญชาการ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะถูกล่อลวงด้วยผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้าของฉัน ….” ไลฟ์เลสธอร์นกล่าวด้วยความขอบคุณ แต่น้ำเสียงของเขาก็แฝงความกลัวเข้ามาด้วย

God domain นั้นเป็นเกมที่เน้นความสมดุลเสมอ ผลกำไรมหาศาลมักมาพร้อมกับสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนอย่างมหาศาล หากคนๆหนึ่งพยายามจะแสวงหาโอกาสและผลกำไร โดยยังไม่มีความแข็งแกร่งที่มากเพียงพอ คนๆหนึ่งนี้ก็จะตายแน่นอน ซึ่งมันตรงกับพวกเขาในตอนนี้เลย พวกเขายังไปไม่ถึงขั้นสี่ด้วยซ้ำ แต่พวกเขากับกำลังคิดจะมองหาความลับของขั้นหก นี่มันจัดเป็นการฆ่าตัวตายดีๆนี่เอง

“นี่มันเป็นเรื่องปกติแหละ และท้ายที่สุดแล้วมันก็มีแค่ไม่คนเท่านั้นใน God domain ที่จะสามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเหล่าทวยเทพ” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว ถ้าเขาไม่ได้มีประสบการณ์จากชีวิตที่ผ่านมาของเขา เขาก็คงจะมีปฎิกิริยาที่ไม่แตกต่างไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆ และเผลอๆเขาอาจจะบ้าคลั่งมากกว่าด้วย

ในยุคปัจจุบันที่เหล่าทวยเทพถอนตัวออกไปจากโลกที่เป็นทวีปหลักแล้วนั้น แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาถึงข้อมูลและเบาะแสของเทพขั้นหก ในความเป็นจริงแม้แต่ NPC ขั้นห้าก็ยังจะต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อเรื่องนี้

“เอาล่ะ คุยกันพอแล้ว …” หลังจากเห็นว่าซือเฟิงและคนอื่นๆสงบลงแล้ว ชายชราก็กวักมือเรียกพวกเขาไป และพูดต่อว่า “มาตรงนี้ ต่อจากนี้มันคือช่วงเวลาที่คุณรอคอย และมันก็เป็นช่วงเวลาสุดท้ายด้วย ความมั่งคั่งและสมบัติที่คนๆนั้นทิ้งไว้ให้กับคนแบบคุณ ผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์”

สมบัติที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้สังหารเทพงั้นหรอ ? ซือเฟิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา

ผู้สังหารเทพนั้นเป็นตัวตนในตำนานของ God domain แม้ว่าจะไม่มีใครแน่ใจว่าผู้สังหารเทพได้กลายเป็นเทพหรือไม่ แต่มันก็มั่นใจได้จุดหนึ่งเลยคือจุดกำเนิดแรกเริ่มนั้นเขาเป็นมนุษย์ ในขณะเดียวกันผู้สังหารเทพนั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่แม้แต่เทพยังเกรงกลัว มันมีเทพมากกว่าสิบองค์ที่ถูกผู้สังหารเทพจัดการไป อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ อยู่ๆผู้สังหารเทพก็ได้หายตัวออกไปจากประวัติศาสตร์ของ God domain อย่างกระทันหัน โดยทิ้งร่องรอย และเบาะแสไว้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวตนของเขาเท่านั้น

โดยปกติร่องรอยและเบาะแสพวกนี้จะได้มาจากซากปรักหักพังโบราณ และมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาบันทึกใดๆที่เกี่ยวข้องกับผู้สังหารเทพ ในห้องสมุดของอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆ มันราวกับว่าตัวตนของผู้สังหารเทพได้ถูกลบล้างออกไปจากประวัติศาสตร์ และคนรุ่นหลังก็ไม่สามารถจะตรวจสอบตัวตน และการดำรงอยู่จริงๆของผู้สังหารเทพได้ แม้ว่าพวกเขาจะต้องการก็ตาม

อย่างไรก็ตามมันก็มีความคิดเห็นเชิงลบมากมายเกี่ยวกับผู้สังหารเทพเช่นกัน บางคนกล่าวว่าผู้สังหารเทพเป็นคนบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ God domain ขณะที่บางคนก็กล่าวว่าผู้สังหารเทพนั้นเป็นผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เกิดสงครามการทำลายล้างครั้งใหญ่ และทำให้ยุคของเทพสิ้นสุดลง

หลังจากนั้นไม่นานชายราก็พากลุ่มของซือเฟิงทั้งห้าคนไปยังใจกลางโพรงน้ำแข็ง ซึ่งมีเหล่าเทพที่ถูกแช่แข็งนับโหลยืนอยู่

เมื่อมาถึงบริเวณนี้ ซือเฟิงและคนอื่นๆก็สังเกตเห็นรอยแยกมิติที่มีขนาดเล็ก และไม่สามารถจะตรวจจับได้จากระยะไกล และหลังจากเคลื่อนที่เข้ามาอยู่ใกล้มันในระยะราวสามสิบหลาแล้วเท่านั้น พวกเขาจึงเริ่มสังเกตเห็นถึงการมีอยู่ของมัน

ภายใต้รอยแยกมิตินี้มันก็มีวงเวทย์ที่ซับซ้อนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อยู่ มันซับซ้อนมากจนแม้แต่ซือเฟิงก็ยังรู้สึกเวียนหัวจากการมองมันเพียงครั้งเดียว นี่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยว่า เขาไม่สามารถแม้แต่จะถอดรหัสวงเวทย์นี้ได้ ….

“นี่คือสมบัติงั้นหรอ ?” โซริทารี่ไนน์ประหลาดใจ เมื่อเขาเห็นรอยแยกมิติขนาดเล็กนี้ ชั่วขณะหนึ่งเขาเริ่มรู้สึกว่าชายชรากำลังหลอกเขา

มันมีสิ่งใดที่พวกเขาจะสามารถทำได้กับรอยแยกมิติขนาดเล็กกัน ?

แม้ว่ารอยแยกมิติขนาดเล็กนี้จะนำไปสู่สถานที่บางแห่งที่พิเศษ แต่มันก็มีขนาดเล็กจนเกิดจนผู้เล่นไม่สามารถจะเข้าไปในรอยแยกมิติได้

“ถูกต้อง นี่คือสมบัติ ….” ชายชรากล่าวพลางหัวเราะเบา “คุณอาจจะคิดว่ารอยแยกมิติขนาดเล็กนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ถ้าฉันบอกว่ามันเชื่อมต่อกับอดีตล่ะ ?” โซริทารี่ไนน์ตกตะลึงขึ้นมา ….

การข้ามผ่านไทม์ไลน์นั้นยังคงเป็นไปไม่ได้เลย แม้แต่ในโลกเกมเสมือนจริงอย่าง God domain

“ท่านผู้อาวุโสที่เคารพ ที่คุณบอกกับเรานั่นหมายถึงว่ารอยแยกมิตินี้สามารถพาเราเดินทางไปยังโลกอื่นๆได้ใช่ไหม ?” ไลฟ์เลสธอร์นกล่าวถามโดยคิดว่าชายชราไม่ได้เข้าใจคำที่เขาพูดว่า “เชื่อมต่อกับอดีต” ว่ามันหมายถึงอะไร

ในความเป็นจริงแม้แต่ตัวซือเฟิงเองก็ยังสงสัยในสิ่งที่ชายชราหมายถึง เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอยแยกมิตินี้มันเชื่อมต่อกับอดีตจริงๆ

“ไม่ใช่ มันเชื่อมต่อกับอดีตจริงๆ มันไม่ได้เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นหรือโลกอื่น” ชายชรากล่าวพลางส่ายหัว เขาพอจะเดาสิ่งที่ซือเฟิงและคนอื่นๆคิดอยู่ออกในทันที ก่อนที่เขาจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจว่า “ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่เชื่อฉัน และมันก็ไม่มีทางที่คุณจะเชื่อฉัน เพราะการเดินทางข้ามเวลา มันเป็นสิ่งที่แม้แต่เทพโบราณก็ยังไม่สามารถจะบรรลุได้ อย่างไรก็ตามนี่มันเป็นความจริง”

“ยิ่งไปกว่านั้นรอยแยกมิตินี้ยังเชื่อมต่อกับอดีตที่เป็นยุคโบราณของ God domain !!”

คำพูดของชายชรานั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง

เชื่อมต่อกับยุคโบราณของ God domain งั้นหรอ ? ซือเฟิงรู้สึกว่าโลกทัศน์ของเขาได้พังทลายลง และเขาก็รู้สึกตกตะลึงเกินกว่าที่จะบรรยายได้ นี่มันคือความลับที่แท้จริงของดินแดนลับเอิร์ธฟอลงั้นหรอ ?

ยุคโบราณของ God domain นั้นเป็นยุคแห่งความอัศจรรย์ อารยธรรมต่างๆนั้นมีความยิ่งใหญ่มากๆ และมันก็ยังคงเชื่อมโยงกับเหล่าเทพอยู่ ซึ่งมันเป็นยุคที่เหล่าเทพได้ท่องไปทั่วทุกที่ และเนื่องจากมันยังไม่เกิดสงครามการทำลายล้างครั้งใหญ่ God domain ยุคนั้นมันจึงอุดมไปด้วยทรัพยากรมีค่าจำนวนมหาศาล ซึ่งยุคปัจจุบันไม่สามารถเทียบกับยุคโบราณของ God domain ได้เลยในเรื่องนี้

“ฉันจะไม่กล่าวอะไรเพิ่มเติมแล้วล่ะ …. เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกของพวกคุณ ดังนั้นพวกคุณจึงจะได้เข้าไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อย่างไรก็ตามคุณมีเวลาจำกัดที่จะอยู่ภายในนั้น ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งคุณแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อยุคโบราณมากเท่านั้น และนี่มันก็จะทำให้โลกยุคโบราณสังเกตเห็นการปรากฎตัวของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น โลกยุคโบราณก็จะปฎิเสธตัวตนของคุณและขับไล่คุณออกมา เมื่อไปที่นั่น คุณจะสามารถเก็บเกี่ยวได้มากแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ….” ชายชรากล่าวอย่างช้าๆ “อย่างไรก็ตามฉันต้องเตือนคุณอย่างหนึ่งว่ายุคโบราณนั้นไม่ใช่สวรรค์บบที่คุณคิด !!! และคุณอาจจะตายถาวรได้เลยถ้าคุณไม่ระวัง !!!”

ก่อนที่ซือเฟิงและพรรคพวกของเขาจะทันได้ถามคำถามใดๆเพิ่มเติม ชายชราก็โบกมือเปลี่ยนซือเฟิงและอีกสี่คนให้กลายเป็นริ้วแสงพุ่งเข้าสู่รอยแยกมิติขนาดเล็กนี้ไปทันที