กลับมายังภูเขาฉีซืออีกครั้ง

“มีอีกอย่างนึงครับที่ผมอยากจะให้ดู”หลังจากออกจากแลปแล้ว อาเซิงก็พาโจวเหวินเข้าไปยังศูนย์ของกองทัพลั่วหยาง อาเซิงพาโจวเหวินเข้ามาที่ห้องโถง ที่นั้นมีอุปกรณ์วีอาร์(VR Visual reality แว่นความจริงเสมือน) วางไว้เต็มไปหมด

“ลองดูซิครับ”อาเซิงยื่นอุปกรณ์เครื่องนึงให้โจวเหวินก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้ม

โจวเหวินใส่แว่นนั้นด้วยความสงสัย จากนั้นก็เข้าเกมส์ ทันใดนั้นเขาก็ร้องออกมาด้วยความตกใจทันที

เกมส์นี้มันเหมือนกับเกมส์ที่หวงจี้ทำไว้มากๆ แต่หวงจี้เป็นเกมส์โทรศัพท์ แต่อันนี้มันเป็นเกมส์VRขั้นสูงเต็มรูปแบบ ภาพที่ฉายออกมานั้นเหมือนกับคุกพยัคฆ์ของจริงมากๆ แม้แต่พวกทหารเวทยังเหมือนเลย

แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องการปรับแต่งกับโหมดต่างๆยังคงเหมือนกับเวอร์ชั่นโทรศัพท์มากๆ

“เกมส์นี้มันคุ้นๆแหะ”โจวเหวินพูดหลังจากถอดแว่นออกแล้วมองอาเซิง

“เกมส์นี้ที่มีคุณเป็นหุ้นส่วนด้วยนั้นละครับ มันคือเกมส์ที่คุณหวงจี้เป็นคนสร้าง โดยท่านผู้การเป็นคนออกทุนให้หวงจี้เดินเรื่องทั้งหมด และนี้คือผลงานชิ้นล่าสุดในการฝึกทหารใหม่ครับ”อาเซิงพูด

“อย่างนี้นี่เอง นายทุนคนสำคัญที่หวงตี้พูดถึงก็คืออันเทียนโจนี้เอง”โจวเหวินไม่คิดว่าคนอย่างอันเทียนโจจะกล้ามาลงทุนอะไรกับเกมส์ที่หวงจี้ทำด้วย

โจวเหวินจำได้ว่าอันเทียนโจนั้นรังเกียจเกมส์ที่โจวเหวินเล่นด้วยซ้ำ แต่มาตอนนี้เขากลับร่วมลงทุนซะเอง

“ท่านผู้การจริงๆก็ไม่ใช่คนเลวอะไรหรอกครับ ท่านแค่เป็นคนดื้อกว่าคนอื่นนิดหน่อยเฉยๆ”อาเซิงพูด

“เขาเป็นคนยังไงมันไม่สำคัญหรอก ยังไงตาม เราก็ไม่ใช่คนแบบเดียวกันและเราก็คงไม่ได้เจอกับบ่อยๆในอนาคตแน่ๆ”โจวเหวินพูด

อาเซิงส่ายหน้าแต่ไม่พูดเรื่องนี้ต่อ โจวเหวินบอกอาเซิงเกี่ยวกับเรื่องอสูรปฐพีที่เขาอยากจะไปประมูลด้วย

“ตระกูลฉางงตั้งใจจะขายอสูรปฐพีอย่างงั้นเหรอ ข่าวนี้แน่นอนใช่ไหมครับ”อาเซิงพูดแล้วผงะ

“ก็ฉางหยูฉีเป็นคนพูดเองกับตัวอะ”โจวเหวินพูด

“ถ้าฉางหยูฉีเป็นคนพูดละก็ คงไม่น่าจะใช่เรื่องลวงแน่ๆ น่าแปลกใจจริงๆที่จู่ๆตระกูลฉางถึงเอาอสูรปฐพีมาขายแบบนี้ รอบนี้ตอนประมูล ตระกูลใหญ่ๆคงมากันหมดแน่ครับ”สีหน้าของอาเซิงเปลี่ยนไป  เขาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“นายรู้จักที่มาของอสูรปฐพีด้วยเหรอ”โจวเหวินมองอาเซิงเหมือนกับว่าจะถามอะไรบางอย่าง

อาเซิงพยักหน้าแล้วพูด “เอาจริงๆ อสูรปฐพีเป็นแค่1ในอสูร5ตัวที่6ตระกูลเก็บมาได้จากสุสานแห่งปฐมจักรพรรดิ มันคือตัวแรกที่ออกมาส่วนอีก4ตัวไม่รู้หายไปไหน”

“ถ้า6วีรบุรุษเป็นคนเอาขึ้นมา ตัวที่เหลือมันก็น่าจะไปอยู่อีก4ตระกูลนั้นละครับ แต่ตระกูลที่เหลือกลับอ้างว่าไม่มี มีเพียงตระกูลฉางที่มีอสูรปฐพี ทำให้ตระกูลอื่นๆไม่พอใจมากๆ แต่จนถึงตอนนี้ความจริงก็ยังไม่ปรากฏ การที่ตระกูลฉางเอาอสูรปฐพีมาขายนั้น แสดงว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรแอบเอาไว้แน่ๆ แล้วฉางหยูฉีได้บอกอะไรไหมครับ ว่าพวกเขาจะเอาอสูรปฐพีมาขายทำไม”อาเซิงพูด

“ไม่ได้บอกหรอก”โจวเหวินส่ายหน้า

“ถ้านายน้อยสนใจ นายน้อยจะไปดูก็ได้ครับ แต่ถ้านายน้อยอยากจะได้มันมาจริงๆ ก็อาจจะยากหน่อยนะครับ การประมูลนี้อาจจะไม่ได้เป็นการประมูลปรกติด้วย”อาเซิงพูด

โจวเหวินพยักหน้า เขาสนใจมากจริงๆนั้นละ แต่เขาสนใจในพื้นที่ต่างมิติสุสานแห่งปฐมจักรพรรดิ์มากกว่า เพราะถ้าเกิดย่องเข้าไปได้ เขาจะได้ลองไปดูก็ได้ว่าข้างในมันเป็นยังไง มีรูปสลักรูปมือไหม

“ผู้กองอันครับ เทวดา6ปีกปรากฏตัวขึ้นอีกแล้วครับ” ตอนที่ทั้ง2คนคุยกันนั้นเอง ทหารก็เข้ามารายงาน

“ที่ไหน”อาเซิงถาม

“ใกล้ๆภูเขาฉีซือครับ”ทหารยื่นเอกสารประกอบ

“ใกล้ๆภูเขาฉีซือเหรอ ทำไมเธอถึงไปที่นั้นละ”อาเซิงขมวดคิ้ว

โจวเหวินเองก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน เดิมทีแล้วเทวดา6ปีกทิ้งจอห์นออกมา แต่ตอนนี้คนที่ทำสัญญาใหม่กับเทวดานั้น กลับไปที่ภูเขาฉีซือซะอย่างนั้น

“มีสถานที่ชัดเจนไหมครับ ฉันอยากเห็นด้วย”โจวเหวินถาม

“จากหน่าวยสอดแนม เราได้พบเธอหลายๆครั้งใกล้แม่น้ำฉีครับ ถ้าอยากจะไปตามหาเธอ ไปตรงนั้นก็ได้ครับ น่าจะมีโอกาสเจออยู่”อาเซิงยื่นข้อมูลให้กับโจวเหวิน

“เส้นนี้เหรอ ฉันจะได้จำไว้”โจวเหวินอ่านข้อมูลแล้วจำข้อมูลทุกอย่างที่จำได้ ก่อนที่โจวเหวินจะตัดสินใจไปตรวจสอบดูก่อน

“ผมยังมีเรื่องต้องไปทำอีกนิดหน่อย เพราะงั้นผมคงไปส่งนายน้อยไม่ได้ แต่ยังไงตรงจุดนั้น รองผู้ว่าฉินหวูฟูก็ยังอยู่ นายน้อยสามารถตรงไปหาเขาได้เลยครับ”อาเซิงพูด

หลังจากที่ออกจากค่ายทหารแล้ว โจวเหวินก็ไปที่ภูเขาฉีซือทันที

ผู้พิทักษ์ส่วนมากตอนนี้ยังไม่มีคนร่วมสัญญา และพวกมันก็ไม่ค่อยมีทางเลือกเท่าไรด้วย ถ้าเจอกันฆ่าได้ก็ฆ่า แถมมันยังเป็นแค่เทวดา6ปีกที่โจวเหวินเคยจะฆ่ามันได้มาแล้ว

ปัญหาติดอย่างเดียวคือเรื่องของจักรพรรดินี ถ้าเป็นไปได้ โจวเหวินก็ไม่อยากจะไปเจอเธอเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

จักรพรรดินีนั้นไม่น่าใช่ระดับเร้นลับปรกติทั่วๆไปแล้ว โจวเหวินคิดว่ามันน่าจะเป็นระดับมหันตภัยแหล่ะ แต่ด้วยความที่นางอยู่บนโลก ทำให้พลังของนางโดนลดลงมาเหลือแค่ระดับเร้นลับปรกติเท่านั้น

แต่ถีงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีนั้นก็แกร่งกว่าระดับเร้นลับตัวอื่นแน่ๆนอน

โจวเหวินรอบนี้พกหยาเอ๋อไปด้วย ในภูเขาฉีซือนั้นมีตัวประหลาดๆมากมาย อย่างเช่นหนอนเลือดอย่างนี้ โจวเหวินคิดว่ามันเป็นหนอนแมลง มันก็น่าจะบังคับมันได้เหมือนกัน

“หมอโจว มาแล้วเหรอครับ เรากำลังพูดถึงคุณอยู่พอดีเลย”ก่อนที่โจวเหวินจะไปถึงภูเขาฉีซือ เขาก็ได้พบกับทหารลาดตระเวนแล้ว พวกเขาก็เข้ามาทักทายโจวเหวินอย่างประหลาดใจ

ภายในค่ายทหารที่อันจิ้งฝึกอยู่นั้นเอง เธอได้เข้ามาที่ค่ายทหารภูเขาฉีซือมานานมากแล้ว ทุกครั้งที่เธอต่อสู้ เธอเอาจริงเอาจังเสมอ

แต่ไม่ว่าเธอจะทำดีแค่ไหน หรือไม่ว่าเธอจะเอาชนะการต่อสู้ได้มากเท่าไร คนอื่นๆส่วนมากก็แค่ชมเอาเปลือกหน้าเฉยๆ เพราะว่าเธอนั้นเป็นคนในตระกูล และเป็นน้องสาวของอันเทียนโจ

แต่โจวเหวินนั้นใช้เวลาอยู่ที่นี้แค่แปปเดียวเท่านั้น แต่เขากลับได้รับความเคารพจากทั้งทหารและเจ้าหน้าที่มากมาย

เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาพูดถึงโจวเหวิน พวกเขาไม่ได้พูดถึงโจวเหวินที่เป็นลูกเลี้ยงของตระกูลอัน แต่พวกเขาพูดถึงโจวเหวินที่เป็นหมอโจวด้วยความเชิดชูและนับถือ

อันจิ้งไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ที่เธอทำไปในภูเขาฉีซือนั้นไม่ได้น้อยไปกว่าโจวเหวินเลย แต่ทำไมทุกคนถึงยังทำตัวเหมือนกับว่าเธอเป็นน้องสาวของอันเทียนโจอยู่เลย

“ทำไมฉันถึงได้แพ้กันนะ”เธอฝึกอย่างหนักหน่วงมากๆ เพราะว่าเธออยากจะเอาชนะ เธอแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ตอนที่เธอฝึกนั้น จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางหน้าค่าย ตอนแรกเธอคิดว่ามีสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำ เธอเลยวิ่งออกไปดู แต่เธอก็พบว่าเหล่าทหารนั้นกำลังห้อมล้อมชายคนนึงอยู่ คนๆนั้นคือโจวเหวิน ชายที่เธออยากจะเอาชนะให้ได้มากที่สุด

อันจิ้งกำหมัดแน่น แต่เธอรีบผ่อนคลายทันที “มันถึงเวลาแล้วซินะ มันถึงเวลาจบเรื่องนี้กันซักที”