ตอนที่ 1109 - ปีศาจกระหายเลือด

The Divine Nine Dragon Cauldron

“ท่านผู้อาวุโสโปรดให้ข้าได้ใช้จุดเคลื่อนย้ายด้วย!”
  ซือหยูรีบพูดและเพิ่มความระแวง
  อสูรเนรมิตรที่ยืนหน้าซือหยูหลีกทางและยิ้มให้เขาอย่างแปลกประหลาด
  “โปรดอย่าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสเลย!โปรดใช้จุดเคลื่อนย้าย…หากท่านไม่มีแก้วระดับกลาง ข้าก็แบ่งให้ท่านได้!”
  ซือหยูเบิกตากว้างเขาใจดีมาก! เขาจะให้แก้วกับซือหยูฟรี ๆ หรือ?
  “เอ…”
  ซือหยูกำลังจะปฏิเสธแต่ก็ตระหนักได้ว่าเขาเพิ่งจะเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมดจากวิบัติสวรรค์และตอนนี้เขาไร้เงินทองรวมถึงแก้วพลัง! ซือหยูลังเลไม่นานและพูดด้วยความอับอาย
  “ท่านผู้อาวุโสคงจะไม่สุภาพนักหากข้าจะปฏิเสธน้ำใจท่าน บอกนามท่านให้ข้ารู้ได้หรือไม่?”
  ความถ่อมตัวของเขาทำให้อสูรเนรมิตรตกใจเขารีบตอบ
  “ท่านซือข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะอ่อนน้อมเช่นนี้! แก้วเหล่านี้มิใช่สิ่งอื่นใดนอกจากความนับถือจากข้า โปรดเอาไปเถิด! ข้านามว่ามู่เยี่ยไป๋จากทิศบูรพา เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบท่านซือ!”
  ซือหยูงุนงงกับการตอบของเขาเขาเป็นที่โด่งดังตั้งแต่เมื่อใดกัน? ต่อให้เขาจะมีชื่อเสียงมาบ้าง อสูรเนรมิตรจากแดนบูรพาก็ไม่ควรจะปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้!
  “ขอบคุณมากผู้อาวุโสมู่!”
  ซือหยูไม่รอช้าเขาไม่ปฏิเสธ
  “ท่านซือทางนี้!”
  มู่เยี่ยไป๋ผายมือให้ซือหยูไปยังประตูเคลื่อนย้าย
  เจ้าตระกูลอู๋หยางมิอาจอยู่เฉยเมื่อเห็นว่าซือหยูกำลังจะเดินทาง
  จ้าวดินแดนมีดสวรรค์หักหลังพวกเขาโดยการร่วมมือกับเผ่าผีดังนั้นจึงเกิดพันธมิตรเพื่อการสืบสวนขึ้นจากอสูรเนรมิตรต่างแดนเพื่อจับกุมคนทรยศ
  ผลสุดท้ายเมื่อจ้าวดินแดนมีดสวรรค์หายตัวไปพร้อมกับลูกน้อง คนที่เหลืออยู่จึงตกเป็นที่ต้องสงสัย
  หลังจากตั้งรกรากในเมืองมีดสวรรค์มานานหลายปีตระกูลอู๋หยางได้ฝังรากลึกและมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับหลายสำนักและหลายตระกูล ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลอู๋หยางกับผู้นำระดับบริหารของดินแดนมีดสวรรค์เองก็ใกล้ชิดกันมาก
  ดังนั้นคนตระกูลอู๋หยางจึงมีเหตุผลให้ถูกจับกุมจากพันธมิตรสืบสวน
  ในตอนนี้คนที่เหลือในตระกูลของเขากำลังถูกสงสัยว่าร่วมมือกับเผ่าผีและถูกทรมานอย่างร้ายแรง  เจ้าตระกูลเองก็ถูกจับตัวมาที่นี่เพื่อชี้ตัว‘พี่น้อง’ ของเขาโดยพันธมิตรสืบสวน!
  ตระกูลอู๋หยางไม่รู้เรื่องการทรยศของจ้าวดินแดนมีดสวรรค์เลยดังนั้นตระกูลอู๋ยางจึงเจอกับเรื่องที่ไม่เป็นธรรม
  เมื่อซือหยูเดินไปหน้าประตูเคลื่อนย้ายอสูรเนรมิตรนจากแดนบูรพาแสดงความนับถือต่อเขา ดูเหมือนว่าทุกคนจะเลื่อมใสเขามาก
  “ท่านซือโปรดช่วยคนตระกูลข้าจะได้หรือไม่?”
  เจ้าตระกูลอู๋หยางพูดด้วยความเศร้าและละอายเขาก้มหน้า เขาถึงกับเรียกซือหยูว่า ‘ท่าน’ แทน ‘อาจารย์’ ในตอนนี้
  ซือหยูกลอกตาคนที่เคยขายเขามาก่อนกล้ามาขอความเมตตาจากเขาในเวลานี้ได้ยังไง?
  “ข้าเป็นคนขายท่านแต่คนตระกูลข้าบริสุทธิ์! พวกเขาไม่ได้ล่วงเกินหรือสมคบคิดกับเผ่าผี!”
  เมื่อได้ฟังมู่เยี่ยไป๋หันมองซือหยูและถามอย่างไม่แน่ใจ
  “ท่านซือคนเหล่านี้คือสหายท่านหรือ?”
  ที่จริงพันธมิตรสืบสวนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าผู้นำระดับบริหารของดินแดนมีดสวรรค์ได้หนีไปแล้ว คนที่ถูกจับอยู่ที่นี่คือพวกแมลงใช้ไม่ได้หรือตระกูลที่ไร้พลัง
  ตระกูลอู๋หยางถูกสืบสวนคนในตระกูลเองก็บอกว่าไม่รู้เรื่องการทรยศและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย
  ที่พวกเขาทำการสืบสวนต่อไปก็เพราะว่าไม่อยากจะเสียหน้า
  คงจะน่าละอายหากยอดฝีมือจากแดนอื่นล้มเหลวในการหาคนทรยศเมื่อได้เข้าร่วมการสืบสวนพวกเขาจึงดำเนินการสืบสวนต่อไปเพื่อทำหน้าที่ให้เสร็จ
  พวกเขาจะปล่อยตระกูลอู๋หยางไปก็ได้ถ้าหากว่าพวกเขารู้จักซือหยูในตำนานเจ้าตระกูลอู๋หยางอาจจะติดหนี้บุญคุณพวกเขาก็ได้!
  และเมื่อเจ้าตระกูลอู๋หยางกำลังอ้อนวอนซือหยูเขาจึงเห็นเป็นโอกาสดี
  แม้ซือหยูจะรำคาญเจ้าตระกูลอู๋หยางเขาก็ไม่ได้ชิงชังตระกูลของเขา ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างไม่แยแส
  “ใช่เจ้าจะว่าอย่างนั้นก็ได้!”
  ซือหยูไม่อยากกำจัดพวกเขาและเขาก็ไมอ่ยากให้ยอดฝีมือเหล่านี้เสียเวลาที่นี่ด้วย เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอสูรเนรมิตรเหล่านี้จะได้ออกแรงในวิกฤติที่กำลังจะมาถึง
  “ข้ามีบางอย่างจะบอกท่านผู้อาวุโสทั้งหลายโปรดบอกดินแดนของท่านเองเพื่อให้เร่งเตรียมพร้อมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!”
  ซือหยูพูด
  มู่เยี่ยไป๋ถามด้วยรอยยิ้ม
  “เรื่องอันใดหรือท่านซือ?”
  “เผ่าผีกลับมาแล้วกองทัพของพวกมันก็มาถึงแล้วด้วย! บอกผู้บังคับบัญชาของพวกท่านเดี๋ยวนี้!”
  ซือหยูพูดอย่างจริงจัง
  แม้เขาจะขอให้เสี่ยวฮั่นบอกดินแดนอื่นไม่แล้วซือหยูก็ไม่อยากจะบอกแค่ตำหนักโลหิตในดินแดนเดียวกับเขา ดินแดนอื่นที่ห่างไกลออกไปควรจะต้องรู้เรื่องนี้โดยเร็วเช่นกัน
  หลายคนนอกดินแดนพรสวรรค์ยังไม่ทันได้รู้ข่าว
  ซือหยูจึงคิดถือโอกาสนี้ส่งข่าวแก่ยอดฝีมือทั่วทั้งจิวโจวคนที่ถูกส่งมาที่นี่จะต้องมีวิธีส่งข่าวกลับที่มีประสิทธิภาพแน่นอน
  ผ่านไปไม่นานรอยยิ้มบนใบหน้ามู่เยี่ยไป๋หายไป เขาถามด้วยความเคร่งเครียด
  “ท่านซือมีหลักฐานที่จับต้องได้หรือไม่?”
  ซือหยูพยักหน้า
  “เรื่องนี้สำคัญมากข้าไม่กล้าปิดบังทุกสิ่งจากท่าน ข้าหวังว่าท่านจะส่งคนไปตรวจสอบที่ดินแดนพรสวรรค์ดูสักหน่อย แล้วก็จากเส้นทางของกองทัพพวกมัน เขตกลางอาจเป็นเป้าหมาย ข้าหวังว่าพวกท่านจะส่งข่าวให้คนของพวกท่านในทุกส่วนของทวีปได้รู้ล่วงหน้าเดี๋ยวนี้!”
  อสูรเนรมิตรทุกคนตกตะลึง
  เผ่าผี…พวกเขาเพิ่งจะได้ข่าวเรื่องเผ่าผีแต่พวกเขาไม่คิดเลยว่ากองทัพของพวกมันจะกลับมายังจิวโจวแล้ว!
  การจู่โจมโดยพลันของพวกมันทำให้พวกเขาไม่ทันรู้ตัว
  หากอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไร้ความหมายพวกเขาต้องกลับไปตรวจสอบว่าคำพูดของซือหยูถูกต้องหรือไม่ก่อนที่จะเตือนดินแดนของตัวเอง
  อสูรเนรมิตรเหล่านี้ตัวสั่นเมื่อคิดถึงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และภูติผีเมื่อร้อยปีก่อน
  มันคือสงครามที่เกือบนำไปสู่การสูญพันธุ์ของมนุษย์!
  หลังจากร้อยปีวิกฤติได้กลับมายังจิวโจวอีกครา!
  “ท่านซือขอบคุณที่ส่งข่าวให้พวกเรา!เราจะไปรวบรวมหลักฐานและเตือนคนของเราเดี๋ยวนี้! ลาก่อนท่านซือ!”
  มู่เยี่ยไป๋พูดอย่างจริงจังก่อนจะโบกมือให้ซือหยูอสูรเนรมิตรอื่น ๆ จากแดนบูรพาเองก็เดินตามมู่เยี่ยไป๋ไป
  ไม่นานอสูรเนรมิตรที่เหลือในเมืองก็จากไป ราวกับว่าพวกเขาได้รับคำสั่งมาพร้อมกัน
  ไม่นานเหล่าคนที่ถูกจับในเมืองได้วิ่งหนีออกไปคนละทิศคนละทางหลังจากยืนยันได้แล้วว่าอสูรเนรมิตรจะไม่กลับมา
  เจ้าตระกูลอู๋หยางยังไม่ทันไปไหนเขาโค้งคำนับอย่างกระอักกระอ่วน
  “ข้าขอเป็นตัวแทนตระกูลแสดงความขอบคุณต่อท่านซือ!”
  ซือหยูมองเขาแต่ไม่พูดอะไรจากนั้นจึงวางแก้วพลังลงบนประตูเคลื่อนย้ายและเตรียมจะเดินทาง
  เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าตระกูลอู๋หยางรีบถาม
  “ท่านซือจะไปที่เมืองเขตกลางหรือ?”   จุดหมายเดียวของจุดเคลื่อนย้ายแห่งนี้คือเขตกลางที่อยู่ใกล้เคียง
  “ใช่!เจ้าจะถามปลายทางของข้าทำไม?”
  ซือหยูแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าเจ้าตระกูลอู๋หยาง
  เขายิ่งแปลกใจกว่าเดิมเมื่อเจ้าตระกูลอู๋หยางพูด
  “อย่าไปเมืองเขตกลางนะ!ที่นั่นกลายเป็นที่ที่อันตรายเกินกว่ามนุษย์จะอยู่ได้แล้ว!”
  ซือหยูตกใจกับคำตอบของเขาหมายความว่ากองทัพผีไปถึงเมืองเขตกลางแล้วหรือ?
  ถ้าหากเป็นเรื่องจริงแล้วเขารู้สิ่งที่เหล่าอสูรเนรมิตรจากแดนอื่นไม่รู้ได้อย่างไร?
  “อย่าไปที่นั่นเลย!ยอดฝีมือที่หนีจากที่นี่ไปถึงเขตกลางบอกว่ามีปีศาจกระหายเลือดปรากฏตัวที่นั่น มันกลืนกินดวงวิญญาณและหัวใจของเหล่ายอดฝีมืออย่างอุกอาจ มันจะกลืนกินทุกคนที่ปรากฏตัวต่อหน้ามัน! อสูรเนรมิตรคนหนึ่งจากบูรพาถูกส่งตัวไปสืบเรื่อง แต่พอผ่านไปสองชั่วยาม เราก็ไม่ได้ข่าวอะไรจากเขาเลย!”
  ปีศาจกระหายเลือดหรือ?หรือว่าจะเป็นเซียนมณี?
  “ข้าไม่คิดเลยว่านางจะซ่อนตัวอยู่ในเมืองเขตกลาง!”
  ซือหยูคิด
  “เป็นไปไม่ได้!ทำไมนางถึงเลือกกินคนที่เขตกลางแทนที่จะเก็บตัวเล่า?”