“หานเฟิง นายรู้จักหานเฟิงเหรอ เขาเป็นศิษย์พี่นายได้ยังไง”

หานสงใบหน้าสงสัย รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ

ลู่ฝานพูดว่า “เขาอยู่สถาบันสอนวิชาบู๊ที่เขตตงหวา ฉันก็เป็นนักเรียนที่นั่นเหมือนกัน”

เมื่อได้ยินคำว่าสถาบันสอนวิชาบู๊ หานสงพูดอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง “อ๋อ ฉันเคยได้ยินแล้ว ใช่แล้ว สถาบันสอนวิชาบู๊ เขาถูกโยนเข้าไปในสถานที่บ้าบอนั่น”

หานสงทำหน้าทำตามองลู่ฝาน แล้วพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้เป็นศิษย์พี่นาย ดูเหมือนไอ้หมอนี่อยู่ที่นั่นก็พอใช้ได้นิ”

หานสงบ่นพึมพำสองสามประโยค หลังจากนั้นทั้งตัวก็กระตุกอีกครั้ง

ปราณชี่ที่ลู่ฝานใส่เข้าไปในตัวเขา ยังสร้างความเสียหายด้วยความกำเริบเสิบสาน คนทั่วไปเจอพลังประหลาดแบบนี้ครั้งแรก ล้วนโดนโจมตีทั้งนั้น หานสงก็ไม่ต่างกัน พลังปราณในตัวเขาใกล้จะปั่นป่วนไปหมดแล้ว

ลู่ฝานยิ้มแล้วเก็บปราณชี่ของตัวเองกลับมา หานสงถอนหายใจยาว หลังจากนั้นลุกขึ้นมามองลู่ฝานตั้งแต่หัวจรดเท้า

มองอยู่ไม่กี่ที หานสงอ้าปากหนาของตัวเอง ตบพุงแล้วหัวเราะออกมา

หานสงส่ายหัวไปมาแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นศิษย์น้องของหานเฟิง ก็ถือว่ามีความสัมพันธ์กับตระกูลหานของเรา ศิษย์น้องลู่ฝาน นายเพิ่งมาถึง ยังไม่มีที่พักใช่ไหม ไปนั่งเล่นที่ตระกูลหานไหม เหล้าชั้นดี สาวน้อยชั้นดี”

หานสงพูดจนน้ำลายกระเด็น คนรอบๆ เห็นแล้วมีความดูหมิ่นเต็มใบหน้า

คำพูดหยาบคายแบบนี้ มีราศีของตระกูลวิถีบู๊ซะที่ไหนกันล่ะ จะแสดงพลานุภาพของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงออกมาได้ยังไง

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกำลังจะไปเที่ยวซ่องโสเภณี

ลู่ฝานยิ้มบางๆ เขากลับชื่นชมคนตรงไปตรงมาอย่างหานสงด้วยซ้ำ

ลู่ฝานพยักหน้าแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่หานเฟิงเคยกำชับแล้ว เมื่อมาถึงเมืองหลวง ต้องเจอเจ้าบ้านตระกูลหานสักครั้ง งั้นรบกวนพี่หานสงแนะนำด้วย”

หานสงหัวเราะเสียงดัง จู่ๆ ก็เข้ามากอดคอลู่ฝาน

ไม่เอาปลาบนพื้นแล้ว ถือค้อนใหญ่แล้วเดินไปข้างหน้า

ตอนลู่ฝานเดินผ่านหน้าพวกหยวนเลี่ย เขาชะงักฝีเท้าลงแล้วพูดว่า “ไปด้วยกันไหม”

หยวนเลี่ยกำลังจะอ้าปากพูด แต่เฝิงอิ่งกลับกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วย คุณชายลู่ฝาน เราต้องไปเจอคนคนหนึ่ง เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ”

เมื่อได้ยิน หยวนเลี่ยห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวาทันที

เซี่ยงจู้ก็เสียดายมาก ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “งั้นฉันไปก่อนนะ”

พูดจบ ลู่ฝานเดินตามหานสงออกไป

หยวนเลี่ยมองแผ่นหลังลู่ฝาน แล้วตะโกนว่า “เราจะได้เจอกันอีกไหม”

ลู่ฝานหันมายิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ได้เจออยู่แล้ว ฉันก็มาเข้าร่วมการคัดเลือกเหมือนกัน”

พวกหยวนเลี่ยหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง หานสงหันมามองอยู่นาน หลังจากนั้นพูดเบาๆ กับลู่ฝานว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นดูคิดอะไรกับนายนะ นายไม่เก็บไว้เหรอ”

ลู่ฝานมองหานสงด้วยใบหน้าดูหมิ่น เป็นคนตระกูลเดียวกันจริงๆ คนแซ่หานเป็นแบบนี้กันหมดหรือเปล่า จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าที่ตัวเองกำลังจะไป ไม่ใช่ตระกูลวิถีบู๊ที่โด่งดัง แต่เป็นรังโจรมากกว่า

เดินได้ไม่นาน จู่ๆ หานสงดึงลู่ฝานเข้าไปในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง

“ศิษย์น้องลู่ฝาน มาดื่มอย่างสะใจกับฉันสักสองสามแก้ว เราสู้กันเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ต้องดื่มให้สะใจ!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “ไหนบอกว่าจะไปตระกูลหาน”

หานสงโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “จะรีบไปทำไมล่ะ นั่งรถม้าต้องใช้เวลาหลายวัน เมืองหลวงใหญ่นะ มาดื่มเหล้ากันก่อน!”

ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ เขาลืมความยิ่งใหญ่ของเมืองหลวงไปแล้ว เขายิ้มอย่างเบิกบานใจ จากนั้นเดินเข้าไปในร้านเหล้ากับสิบสาม

พูดถึงเรื่องดื่มเหล้า ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว!

……