ตอนที่ 1744 ของสามัญ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เห็นไหมไอ้เด็กน้อย? ปากเก่งมือต้องเก่งด้วย! หากเจ้าผ่านกระดาษจากไม้หอมควันม่วงเทวะได้ข้าจะถือว่าข้าแพ้ให้เลย!”

หลังจากกลับมามู่หยวนชุนก็มีท่าทางพึงพอใจอย่างมาก และกลับมาเย้ยหยันเย่หยวนต่อ

ด้วยพลังฝีมือของเขา เรื่องผ่านการทดสอบนั้นมันง่ายแสนง่าย

สุดท้ายแล้วการทดสอบนี้มันก็แค่ทำเรื่องราวให้เป็นทางการเท่านั้น

กงหลินพูดกับมู่หยวนชุนราวกับว่าเขานั้นเป็นศิษย์น้องไปแล้วต่อหน้าผู้คน การปฏิบัติเช่นนี้ย่อมมิใช่ทุกคนที่จะได้รับมัน

เพราะฉะนั้นตอนนี้มู่หยวนชุนจึงยิ่งผยองตัวอย่างถึงที่สุด

แน่นอนว่าไม่มีใครมองว่าเขาอวดดี ตอนนี้ทุกสายตาที่มองมานั้นมันเปี่ยมไปด้วยความนับถือเสียด้วยซ้ำ

เย่หยวนมองดูที่เขาและกล่าวขึ้น “งั้นเจ้าคงแพ้แน่”

เมื่อมู่หยวนชุนได้ยินเขาก็หัวเราะลั่นออกมา “ช่างคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เสียจริงๆ! โอหัง ลองทำตัวโอหังเช่นนี้ต่อไปเถอะ! ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะรักษาหน้านั้นไว้ได้จนจบไหม!”

ได้ยินแบบนั้นเย่หยวนก็แค่ยักไหล่ตอบกลับไปโดยไม่พูดอะไร

“ต่อไป เย่หยวน!”

สุดท้ายเย่หยวนก็ขึ้นมาบนสนามบ้าง ตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังมองมาที่เขาด้วยความสงสาร

ในโลกของนักหลอมโอสถมันมีอัจฉริยะไหม?

มี!

มู่หยวนชุนนี่แหละอัจฉริยะ!

แต่แม้จะเป็นอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ยังต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอย่างมากมาย

การที่มู่หยวนชุนมีฝีมือได้อย่างทุกวันนี้ เขานั้นย่อมไม่ได้มันมาแค่ชั่วข้ามคืน เขาต้องทำการฝึกฝนตัวมาอย่างยาวนาน

เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินว่าเรื่องเช่นนั้นมันไม่นับรวมตัวเขาไปด้วย ทุกผู้คนจึงไม่เห็นด้วยอย่างมาก

เพราะอย่างไรเสีย แม้จะเป็นมู่หยวนชุน ตอนที่เขายังอายุเท่าเย่หยวนตอนนี้นั้นเขาก็ไม่มีปัญญาจะผ่านการทดสอบกับกระดาษไม้หอมควันม่วงเทวะไปเช่นกัน

ยิ่งไม้หลิวเมฆาแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เย่หยวนค่อยๆ เดินขึ้นไปต่อหน้ากงหลิน ก่อนที่กงหลินจะบอกออกมา “เจ้าเลือก”

ภาพเมื่อสักครู่นี้กงหลินย่อมมองเห็นมันอย่างชัดเจน

คำพูดของเย่หยวนนั้น ตัวเขาเองก็ไม่เห็นด้วยอย่างมาก

“ข้าขอเลือกอย่างอื่นที่ไม่อยู่ในสามตัวเลือกนี้ได้หรือไม่?” เย่หยวนไม่คิดจะเลือกและหันไปถามกงหลินแทน

กงหลินขมวดคิ้วแน่น “มาล้อกันเล่นเรอะ! กฎของการทดสอบย่อมถูกตั้งขึ้นจากทางวิหาร จะเปลี่ยนได้อย่างไร? เจ้าคงมาที่นี่เพื่อหาเรื่องจริงๆ เสียแล้วใช่ไหม?”

เห็นแบบนั้นเหล่าผู้เข้าสอบคนอื่นเองก็ยิ้มออกมา

ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายมั่นใจแล้วว่าเย่หยวนมาเพื่อหาเรื่องผู้คนแน่ๆ

เย่หยวนตอบออกไปอย่างเย็นชา “พี่กงท่านบอกเมื่อสักครู่ว่าให้ใช้ความสามารถออกมาให้หมด ข้าเกรงว่าแค่ไม้สามประเภทนี้มันจะทำให้ข้าแสดงฝีมือออกมาได้ไม่หมดเท่านั้น”

เมื่อกงหลินได้ยินเขาก็หัวเราะขึ้นมาด้วยความโกรธ “เรอะ? งั้นต้องไม้แบบไหนเจ้าถึงจะแสดงฝีมือออกมาได้เต็มที่กัน?”

เย่หยวนหยุดคิดและบอก “พวกท่านมีกระดาษระดับสามัญหรือไม่?”

เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าว เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นมาทันที

ไม้ที่ติดไฟง่ายกว่าไม้หลิวเมฆานั้นมีมากมาย

แต่ไม้ระดับสามัญ เรื่องนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย

เจ้าหมอนี่มันมาเล่นตลกใช่ไหม?

อะไรคือของสามัญ?

มันคือของที่แม้จะโดนแค่เปลวความร้อนจากไฟศักดิ์สิทธิ์ ของสิ่งนั้นก็จะไหม้เป็นจุลได้ทันที!

การใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่เผากระดาษระดับสามัญนั้น เจ้าหมอนี่สมองยังใช้งานได้ดีอยู่รึเปล่า?

หลังจากตื่นตกใจแล้วพวกเขาทั้งหลายก็เริ่มทำการเยาะเย้ยดูถูก

กงหลินนั้นแทบทนไม่ไหวจนต้องระเบิดอารมณ์ออกมา “เจ้าโง่เง่าตาบอด กล้ามาลองดีกับวิหารนักบวชเรา!”

พูดจบกงหลินก็กำลังจะลงมือจัดการเย่หยวน แต่เย่หยวนกลับยิ้มออกมา “เรื่องที่ว่าข้าจะมาลองดีกับวิหารหรือไม่ ท่านก็น่าจะรอให้ข้าได้ทดสอบก่อนแล้วค่อยตัดสินใช่ไหม? เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้พี่กงท่านรอไม่ได้เลยหรือ?”

กงหลินยิ้มออกมาอย่างเย็นเยือก “กระดาษสามัญนั้นแม้แต่ผู้อาวุโสท่านยังทำไม่ได้ แค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าจะมีปัญญาอะไร?”

“หึๆ ข้าบอกแล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันมาก่อเรื่องชัดๆ! ศิษย์พี่กงหลิน ท่านจัดการมันลงเถอะ!” ตอนนี้มู่หยวนชุนก็พูดเสริมขึ้นมาอีก

กงหลินกำลังจะลงมือแต่จู่ๆ ผู้อาวุโสฉีหยูที่นั่งอยู่ก็กล่าวขึ้นมา

เขาบอกว่า “กงหลิน ให้เขาลอง”

กงหลินหน้าถอดสีทันทีและหันไปก้มหัวให้ “ขอรับท่านอาจารย์!”

เขาไม่เข้าใจเลย ดูอย่างไรเด็กคนนี้มันก็มาก่อเรื่องแท้ๆ ทำไมอาจารย์ของเขาถึงได้คิดให้โอกาสเย่หยวนคนนี้?

ไม่นานนัก คนรับใช้ก็ไปหากระดาษระดับสามัญแผ่นเปล่าๆ มาได้

เย่หยวนรับมันไปมองดู “สามัญชั้นเก้า อ่า…ช่างเถอะ เอาแค่นี้ก็ได้”

กงหลินหัวเราะเมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ “หรือเจ้าจะอยากได้กระดาษสามัญชั้นหนึ่ง?”

เย่หยวนยิ้ม “หากท่านหาได้ข้าก็ย่อมใช้มันได้”

กงหลินตะโกนออกมาอย่างรุนแรงในทันที “โอหัง!”

เย่หยวนตอบ “นักหลอมโอสถนั้นต้องมีจิตใจที่สงบนิ่ง พี่กงนั้นโกรธง่ายเสียเหลือเกิน แบบนี้ไม่ดีนะ”

“เจ้า! เจ้ากล้าสั่งสอนข้าเรอะ?” กงหลินตะโกนลั่นพร้อมจะออกอาละวาดอีกครั้ง

เย่หยวนบอก “มิกล้า ข้าแค่บอกความจริงเท่านั้น ข้าขอเริ่มเลยได้ไหม?”

กงหลินเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลายครั้งก่อนที่จะบอก “ข้าล่ะอยากเห็นจริงๆ ว่าเจ้าจะผ่านไปอย่างไร! เริ่ม!”

เย่หยวนยิ้มบางๆ ออกมาและโยนกระดาษขึ้นก่อนจะเอาฝ่ามือไปรองส่งไฟสีเหลืองซีดลุกโชนจนปิดบังกระดาษชิ้นนั้นไว้จนสิ้น

เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ พวกเขาต่างมองมันอย่างมึนงง

เจ้าหมอนี่มันรู้จักวิธีคุมไฟจริงๆ ไหม?

การใช้ไฟที่ใหญ่และรุนแรงปานนี้กับกระดาษสามัญ มันคงไหม้จนไม่เหลือแม้แต่เถ้าเลยใช่ไหม?

อย่างว่าแต่ของสามัญ ระดับนี้แม้แต่ไม้ไหมทองเทวะเองก็ไม่มีทางจะรองรับไว้ไหวแน่!

ตอนที่พวกเขาทั้งหลายคุมไฟนั้น พวกเขาต้องทำการอย่างระวังและช้า กลัวว่าตัวเองจะปล่อยไฟออกมาแรงจนเกินไป

แต่เย่หยวนกลับไม่สนใจเรื่องนั้นและปล่อยไฟออกมาเต็มแรง!

การคุมไฟเช่นนี้ ดูอย่างไรมันก็เอาไว้เผาศัตรูชัดๆ

หลอมโอสถ?

อย่าหวังเลย!

หากใช้ไฟเช่นนี้ไปหลอมโอสถนั้นโอสถทั้งหลายคงได้ไหม้เป็นตอตะโกไปก่อนแน่

เมื่อกงหลินเห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเย้ยออกมา “ว่าแล้ว! เจ้าโง่อวดดี เตรียมรับความพิโรธของวิหารได้เลย!”

มู่หยวนชุนเองก็หัวเราะลั่น “เด็กคนนี้…ไอ้เด็กคนนี้มันมาเล่นตลกชัดๆ และข้าก็ได้หัวเราะกับมันแล้วจริงๆ”

ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่เหล่าผู้เข้าทดสอบคนอื่นเองก็หัวเราะลั่นออกมา

ตอนนี้ทุกคนต่างมั่นใจแล้วว่าเย่หยวนมาในวันนี้เพื่อก่อเรื่องแน่ๆ

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริง แต่เป้าหมายที่ว่าได้ชื่อเสียงจากการทำเรื่องโง่ๆ ของเขาก็สำเร็จไปแล้ว

แต่ไม่มีใครเห็นดวงตาของผู้อาวุโสทั้งสามบนที่นั่งสูงเลยว่าดวงตาเหล่านั้นกำลังเบิกกว้างออกมาอย่างตกตะลึง

เพราะการที่ถูกไฟห่อหุ้มไว้ คนอื่นๆ จึงไม่มีทางมองผ่านเข้าไปเห็นสภาพของกระดาษได้

เพราะทุกๆ คนต่างเชื่อว่าป่านนี้กระดาษคงไหม้จนไม่เหลือเถ้าไปแล้ว

แต่เย่หยวนก็ยังคิดหน้าด้านทำการแสดงต่อ

กงหลินตะโกนลั่น “เอาล่ะ หยุดวางท่าได้แล้ว รับไป!”

กงหลินกำลังคิดจะโจมตีใส่เย่หยวนแต่เขากลับได้ยินเสียงของฉีหยูตะโกนออกมาก่อน “หยุด!”

ทุกคนตกตะลึง กงหลินเองก็มีใบหน้าที่แสนมึนงงสงสัย “ท่านอาจารย์ นี่…”

ฉีหยูบอก “ดูต่อไป!”

เท่านี้พวกเขาทั้งหลายก็ไม่สามารถจะหัวเราะได้อีกแล้ว

หลังจากนั้นเย่หยวนก็ดึงมือกลับไป ไฟศักดิ์สิทธิ์อันรุนแรงนั้นจากหายไปอย่างสิ้นเชิง เผยให้เห็นแผ่นกระดาษลอยตกลงมา

นั่นทำให้ทุกคนที่เห็นต้องเบิกตากว้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“ท-ทำได้จริง! กระดาษสามัญนั้นยังอยู่ครบสมบูรณ์ดี!”

“บ้าน่า! ข้าอยู่ตั้งไกลยังรู้สึกได้ถึงความร้อนของไฟ! แล้วทำไมเจ้ากระดาษแสนเปราะบางนี้มันถึงไม่เป็นอะไรเลย?”

“หรือว่าทักษะการควบคุมไฟของเขานั้นมันสูงล้ำถึงขั้นนี้? เหนือล้ำกว่ามู่หยวนชุนไปมาก!”

…………………………