ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1043

ทั้งไซม่อนและลิเลียนต่างก็รู้สึกลังเล

พวกเขารู้สึกว่าการขายหุ้นทั้งหมดของแมนดี้ในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์นั้นถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตาม พวกเขาเริ่มหวาดกลัวอย่างมากหลังจากฟังคำอธิบายของแกรนต์

แกรนต์ยังคงยิ้มและพูดต่อ “คุณลุง คุณป้าครับ พวกคุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอีกเหรอครับ?”

“ถ้าพวกคุณยังลังเลอยู่ แล้วไม่รับหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ครั้งนี้ พวกคุณจะต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนโตนะครับ!”

“ผมรับประกันได้เลยว่าถึงแม้หลังจากที่คุณขายบริษัทให้กับตระกูลเยตส์แล้ว พวกเราจะยังคงอนุญาตให้แมนดี้ทำงานในบริษัทต่อไปได้”

“พวกคุณไม่มีอะไรจะเสียแล้วนะครับ!”

อย่างไรก็ตาม ไซม่อนและลิเลียนยังคงตัดสินใจไม่ได้

จู่ ๆ คุณย่าเยตส์ก็กระแอมขัดจังหวะและเปลี่ยนเรื่อง “ลิเลียน เธอคิดยังไงกับแกรนต์บ้าง?”

ลิเลียนตอบอย่างรวดเร็วว่า “เขาเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ คนหนึ่ง!”

“ถูกต้องแล้ว!” คุณย่าเยตส์หัวเราะ “แกรนต์อยู่ในธุรกิจนี้มานานหลายปีแล้วและมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน หลังจากการได้มาซึ่งหุ้นของ ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ พวกเราตระกูลเยตส์วางแผนที่จะมอบหุ้นให้กับเขาสิบเปอร์เซ็นต์ และมอบความไว้วางใจให้เขาช่วยดูแลในการดำเนินงานประจำวันต่าง ๆ ของบริษัท”

ไซม่อนและลิเลียน ทั้งสองตกอยู่ในความงุนงง พวกเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับพวกเขาอย่างไร?

คุณย่าเยตส์พูดต่อ “แกรนต์ยังบอกอีกด้วยว่าเขาเต็มใจที่จะแต่งงานกับแมนดี้”

“เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังจะสื่อหรือเปล่า?”

“เมื่อถึงเวลานั้น ตราบใดที่เธอขับไล่เจ้าลูกเขยที่ไร้ประโยชน์คนนั้นออกจากบ้านไปได้แล้วและจัดการให้แกรนต์แต่งงานกับแมนดี้ เธอและครอบครัวก็จะยังคงมีส่วนร่วมในซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์”

“สำหรับตอนนี้ หลังจากที่เราตระกูลเยตส์ซื้อหุ้นไปแล้ว พวกเราก็จะทุ่มสุดตัวและใช้เส้นสายของเราเพื่อแก้ไขวิกฤตของบริษัทครั้งนี้”

“ฉันทำสิ่งนี้ในครั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเธอ แล้วเธอล่ะจะว่าอย่างไร? โอเคไหม?”

ทั้งไซม่อนและลิเลียนรู้สึกประทับใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าคุณย่าเยตส์แสดงออกถึงความห่วงใยและยังทำเพื่อพวกเขาตั้งมากมาย

และอีกประเด็นก็คือ พวกเขายังคิดว่าฮาร์วีย์นั้นเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์มาก ๆ ไม่รู้จะเก็บไว้ทำอะไร

เขาไม่สามารถทำหรือช่วยอะไรได้เลย แกรนต์นั้นดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด!

มันคงจะดีถ้าพวกเขาสามารถเปลี่ยนลูกเขยและยังสามารถรักษาส่วนประโยชน์ของตนเองไว้ได้ อีกทั้งพวกเขาจะได้เพลิดเพลินไปกับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งที่กำลังจะมาถึงในอนาคต!

“ผมคิดว่ามันก็น่าจะโอเคนะ” ไซม่อนลังเล “แต่เราไม่ควรถามความเห็นของแมนดี้บ้างหน่อยเหรอ?”

คุณย่าเยตส์ยิ้มและพูดว่า “พวกเธอทั้งสองทำให้แมนดี้เกิดมาบนโลกใบนี้ พวกเธอสามารถตัดสินใจแทนได้! ยังมีอะไรที่จะต้องถามอีกเหรอ?”

“ถ้าพวกเธอทั้งสองเห็นด้วย ก็แค่ลงชื่อในนามของแมนดี้เท่านั้นเอง”

แกรนต์หยิบสัญญาที่เตรียมไว้นานแล้วขึ้นมาในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน

เหล่าคนรับใช้ของตระกูลเยตส์หลายคนยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เข้ามาและเปิดออก ข้างในเป็นเงินสดจำนวณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ สายตาของลิเลียนเป็นประกายด้วยความโลภ

ลิเลียนนั้นหน้าเงินมาก เธอไม่ใส่ใจในประเด็นอื่น ๆ มากนัก และใกล้ที่จะลงนามในข้อตกลงแล้ว

เหล่าตระกูลเยตส์ที่เหลือต่างยิ้มเยาะเย้ยถากถางขณะมองดูท่าทางกระหายเงินของเธอ

ในมุมมองของพวกเขา ครอบครัวของแมนดี้นั้นโง่มาก ๆ

ไซม่อนและลิเลียนเป็นคนที่โง่เขลาเป็นพิเศษจริง ๆ พวกเขาเปลี่ยนใจด้วยคำง่าย ๆ เพียงไม่กี่คำและเต็มใจที่จะขายผลผลิตจากการทำงานอย่างหนักของลูกสาวตัวเองอย่างง่ายดาย!

เมื่อเหล่าตระกูลเยตส์คิดว่าพวกเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของแมนดี้เพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จได้อย่างไรบ้าง พวกเขาก็เกือบที่จะกระโดดโลดเต้นด้วยความปิติยินดี

“เซ็นไม่ได้นะ!”

ในทันใดนั้นเอง ซีนเธียร์ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ มาสักพักแล้ว เธอตะโกนออกมาเสียงดังและฉีกสัญญานั้นออกเป็นชิ้น ๆ

เพียะ! เสียงตบดังสนั่น

“อวดดีนักนะ!”

ธัญญ่าก้าวไปข้างหน้าและตบซีนเธียร์อย่างแรงแทบจะในทันที

“ที่นี้ไม่ใช่สนามเด็กเล่นสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ! ทำไมเธอไม่อยู่เงียบ ๆ แล้วปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันล่ะ?!”