บทที่ 229 ฉันคือคนที่รักครอบครัว!

 

กงเทียนลู่พูด “พวกเรายังไม่ได้ออกจากเขตของแดนเหนือ นี่หมายความว่าพวกมันมาดักรอเหรอ?”

 

ทั้งสามมองหน้ากัน สภาพของพวกเขาตอนนี้ดูน่าอนาถไม่น้อย ไหนแต่ละคนจะบาดเจ็บอยู่อีก ไม่มีใครพร้อมซักคน

 

และเพียงพริบตาทั้งสามก็ไปปรากฏอยู่ฝั่งตรงข้ามของพี่น้องสองสีเสียแล้ว

 

ยามที่ทั้งสองได้เห็นซุนยี่ พวกเขาต่างก็ตกตะลึง ทำไมสาวงามขนาดนี้จึงได้มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ นี่พวกเขาจะต้องฆ่าเธอจริงๆเหรอ? ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

 

“พวกนายเป็นใคร!” ซุนยี่เอ่อยถามพร้อมสูดหายใจเข้าไป ถึงแม้จะบาดเจ็บอยู่ แต่ก็ไม่อยากจะให้อีกฝ่ายรู้ เพราะงั้นเธอจะทำเป็นแข็งแกร่งไปก่อน

 

เขียวตอบอย่างสุขุม “ในเมื่อถามออกมาอย่างจริงใจ ก็จะตอบอย่างเมตตาละกัน! ฉันคือ เขียว ผู้พิทักษ์ผู้รักครอบครัว!!”

 

จบด้วยการเก๊กท่าเท่ห์ๆทิ้งท้าย

 

แดงได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกกระปี้กระเป่า เขาเก๊กท่าและตะโกนออกไป “ฉันคือ นักกฏหมายผู้รักครอบครัว แดง!”

 

ทั้งสามนั้นงุนงงมากๆ เอาจริงๆถึงฝั่งใต้จะมีพวกตระกูลชื่อแปลกๆหรือคนชื่อแปลกๆอยู่บ้างแต่นี่มันต่างออกไป ชื่อบ้าอะไรวะเนี่ย สองคนนี้…ปกติป่ะนะ

 

“ทำไมถึงเข้ามาขวางทางพวกฉัน!” ไฮ่ไต่ซี่ถามด้วยเสียงดัง

 

ทันทีที่เขียวพร้อมจะพูด ประแจที่ซ่อนไว้ภายใต้ชุดกันลมก็หลุดออกมาและร่วงลงไป แดงที่มองเห็นภาพนั้นพอดีก็ถึงกับหน้าซีดไปเลย

 

เขียวหันไปใช้สายตาสื่อสารกับผู้เป็นน้อง

 

“พี่ใหญ่ พวกเราเป็นนักฆ่า ต้องห้ามเปิดเผยอาวุธสิ!”

 

“รู้…แต่มันหลุดไปเอง”

 

“ทำไมพูดแบบนั้นเล่า!”

 

“แล้วจะให้พูดไงอ่ะ…”

 

เขียวหยิบเอาประแจที่ตกลงพื้นขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ทั้งสาม “ฉันคือ รีแพร์แมน อยากจะเช็คห้องเครื่องกันหน่อยไหมล่ะ หึ!”

 

หลังจากที่เขียวพูดจบ ท่อแป๊ปพลาสติกก็หล่นออกมมาจากเสื้อกันลมของแดง

 

เขารีบหยิบมันขึ้นมาถือไว้อย่างรวดเร็ว สีหน้านั้นดูไม่ปกติมากๆก่อนจะมาเสยผมตัวเอง “น-ในฐานะของช่างประปา คงไม่แปลกมั้งที่จะใช้ท่อแป๊ป”

 

ผุ้มาจากแดนใต้ทั้งสามแสดงสีหน้าแปลกๆออกมา นี่พวกเขากำลังมาเจอกับพวกแปลกๆแบบนี้เหรอ?

 

ประแจกับท่อพลาสติก นี่สตรีทไฟท์เตอร์เหรอ?

 

ทันใดนั้น!!

 

มีดทำครัวก็ร่วงลงมาจากเสื้อกันลมของเขียว และแน่นอนว่าเขารีบเก็บมันขึ้นมาทันที

 

“ข-เข้าใจแล้วพี่ใหญ่ นี่พี่อุตส่าห์พกมีดทำครัวมาด้วยเลยสินะ!”

 

เขียวเหลือบมองน้องชายของเขาก่อนจะอุทานให้ทั้งสามฟัง “ในความจริงแล้ว ฉันไม่ได้เป็นแค่ช่างซ่อม แต่ยังมีงานพิเศษเป็นคนลับมีดด้วย!”

 

เพื่อรักษาไว้ซึ่งความโปรเฟสชั่นแนล แม้จะต้องกลั้นน้ำตาและกลืนน้ำลายก็ต้องไม่ให้มีอะไรผิดพลาด!

 

“ก-กรรไกรรรรรรรรรร อู้ววววววว ม-มีดดดดดดดด~~”

 

หางเสียงที่ลากยาวของเขียวนั้นพยายามจะโน้มน้าวใจพวกเขา

 

สมเป็นพี่ใหญ่จริงๆ มีเสียงที่ทรงพลังสุดๆ แต่ฉันคงไม่ขอเรียนรู้ทักษะนี้หรอกนะ

 

ทั้งสามที่เฝ้าดูอยู่นานนั้นไม่ใจเย็นอีกต่อไป แน่นอนว่าพวกเขาโกรธมากๆ ดูท่าคงจะต้องจัดการทั้ง 2 นี่ก่อนถึงจะไปได้สินะ!

 

“ฉันคือเจ้าสำนักเมฆา! และตอนนี้ฉันกำลังรีบที่จะออกจากที่นี่!”

 

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายประกาศชื่อสองพี่น้องก็รู้สึกตกใจไม่น้อยเลย

 

“พี่ใหญ่! สำนักเมฆา! สำนักที่โคตรแข็งแกร่งในนิยาย!”

 

เขียวสัมผัสแก้มตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ “ได้ยินมาว่าตัวเอกส่วนใหญ่จะไปแก้แค้นสำนักเมฆากัน”

 

“ใช่! นี่มันนิยายน้ำเน่ามากๆเลย ปัญหาครอบครัวแล้วก็กลโกงต่างๆ แต่ส่วนใหญ่พวกเจ้าสำนักก็ถูกโค่นโดยตัวเอกหมด”

 

“บางทีก็เป็นตัวเอกไปเล่นกับไม้ขีดไฟในห้องเก็บฟืนของสำนัก”

 

“บางทีก็ถูกป้ายความผิดโดยเจ้าสำนัก นี่มันเชยไปหรือยังน่ะ?”

 

“หรือบางทีก็ไปแก้แค้นกันในห้องของน้องสาว ฮี่ๆ~”

 

ทั้งสองมองตากันแล้วก็พากันหัวเราะ

 

เมื่อซุนยี่ได้ยินว่าทั้งสองกำลังเหยียดหยามสำนักของเธออยู่ มันก็ทำให้เธอโกรธมากๆ เรื่องจริงที่ว่าสำนักเมฆานั้นมีลูกศิษย์ที่มีทักษะโดดเด่นอยู่ และตอนนี้ก็กำลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว!

 

“เป็นไอ้พวกบ้าที่ใจกล้ามากเลยนะที่พูดถึงสำนักเมฆาต่อหน้าฉัน งั้นเจอนี่หน่อย!”

 

ซุนยี่เรียกดาบขึ้นมาพร้อมทั้งเข้าโจมตีทั้งสองอย่างดุร้าย

 

กระบวนดาบจากฝั่งตรงข้ามทำให้สองพี่น้องเห็นความตายของตนอยู่ร่ำไร โดยเฉพาะผู้เป็นน้อง เขาหลับตาลงยืดมือไปสุดแขนตามสัญชาติญาณ

 

อย่าทำฉันเลยยยย~~~

 

แกร๊ก~!

 

เสียงแปลกๆลอยเข้าหูของแดง ความรู้สึกคันๆที่ฝ่ามือนั้นมันทำให้เขาต้องค่อยๆลืมตาช้าๆ

 

ภาพตรงหน้าคือปลายดาบที่แทงเข้ามานั้นมันถูกหยุดไว้ที่ฝ่ามือ เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ดาบปลอมเหรอ?

 

เขาดีดปลายดาบกลับไป

 

แกร๊ก!

 

เสียงของความแตกร้าวดังขึ้นมันทำให้เขาสะดุ้งโหยง ใบดาบนั้นเกิดรอยร้าวจากปลายดาบที่เขาดีดก่อนจะลามลงไปยันด้ามจับในมือของซุนยี่

 

ทุกๆคนต่างเงียบสะงัดรวมไปถึงพี่ใหญ่เขียวด้วย

 

“ไอ้น้อง! ทำได้ไงวะ!” เขาถามน้องเล็กหลังจากที่ตกตะลึงไปพักใหญ่

 

“ฉันไม่รู้! ฉันแค่จับมันเอง“

 

“ได้! งั้นเดี๋ยวฉันลองมั่ง!!”

 

พูดไปคงไม่ได้อะไร เห็นทีเขาคงต้องลองเองด้วยการสัมผัสโดยตรงกับซุนยี่!

 

แดงที่เห็นท่าทีของพี่ชายของเขาเองก็รีบตะโกนออกมา “ฉันแค่จับดาบ พี่จะจับเธอเลยงั้นเหรอ!!”

 

ซุนยี่เรียกสติกลับมาจากความตะลึง เธอจ้องเขม็งไปยังเขียวก่อนจะปล่อยออร่าออกมาจากมือซ้ายจนเห็นได้ชัด

 

ฝั่งหนึ่งมือเล็กส่วนอีกฝั่งมือใหญ่ และเมื่อทั้งสองฝ่ามือได้ประกบเข้าหากัน

 

ตู้ม!!

 

ซุนยี่กระเด็นลอยออกไปไกลพร้อมทั้งสำรอกเป็นเลือดออกมาจากปากด้วย ใบหน้าสวยนั้นดูราวกับผีในหนังสยองขวัญไปแล้ว

 

ทั้งไฮ่ไต่ซี่และกงเทียนลู่ต่างทำอะไรไม่ถูกกับคนตรงหน้าทั้งสอง หัวแดงก็จับดาบแล้วแตก ส่วนหัวเขียวที่ดูจะไม่มีพลังอะไรกลับทำให้ซุนยี่กระเด็นราวกับกระสุนได้ซะงั้น!

 

“พี่ใหญ่! พี่ได้เป็นโสดตลอดชีวิตแน่ๆเลย!” แดงกรีดร้องออกมาหลังจากที่เห็นพี่ของเขาทำร้ายผู้หญิง

 

เขียวเองก็ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมีพลังถึงเพียงนี้ ใบหน้าตกตะลึงแสยะยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรหรอกน่า เพราะฉันมีนายก็พอแล้ว!”

 

“พี่ใหญ่ พอเถอะ ฉันรู้สึกไม่ดีกับคำพูดพี่เลย…”

 

กงเทียนลู่ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาหยิบการ์ดขึ้นมา 3 ใบ “ฮึก!”

 

แดงที่มองทันก็รีบอุทานออกมาเลย “ไพ่!”

 

ร่างของเขาหายไปในทันทีและกลับมาอีกพร้อมกับการ์ด 3 ใบในมือ

 

“พี่ใหญ่ ชอบเล่นไพ่ไม่ใช่เหรอ? ไหนมาเดาซิว่า 3 ใบนี้คืออะไร? จะเป็นโจ๊กเกอร์หรือเปล่านา~”

 

เขียวยกมือขึ้นและเคาะกะโหลกน้องชายเขาไปทีนึง “ทำอะไรน่ะ! เรามาฆ่าคนนะ! คนอื่นกำลังจะโจมตีเรา นายห้ามไปขโมยอาวุธคนอื่นรู้มั้ย! เอาไปคืนเดี๋ยวนี้เลย! ห้ามขโมยอีก!”

 

น้องเล็กลูบหัวตัวเองก่อนจะพูดอย่างเสียใจ “ก็แค่อยากรู้อยากเห็นว่าการ์ดพวกนี้ทำอะไรได้บ้างเอง”

 

กงเทียนลู่และไฮ่ไต่ซี่ช็อคไปอีกรอบ ครั้งนี้โดยเฉพาะกงเทียนลู่ เพราะการ์ดของเขาโดนใครก็ไม่รู้หยิบเอาไปหมดเลย! เป็นไปไม่ได้!

 

แม้แต่เสี่ยวยี่ยังไม่กล้าที่จะเอาการ์ดของเขาไปเช่นนี้ แต่นี่ไอ้หัวแดงกลับทำได้!

 

เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ! นี่มันต้องมีกลโกงอะไรซ่อนอยู่!

 

พั่ฟ! พั่ฟ! พั่ฟ!

 

ลูกตาของกงเทียนลู่แทบจะหลุดออกจากเบ้าและกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆก้มลงมองก็พบว่าการ์ดทั้ง 3 ใบของเขานั้นปักอยู่ที่ท้องของเขาเองแล้ว “ พี่ใหญ่! ฉันไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นนะ ฉันก็แค่จะคืนเขาไป…” แดงตกใจมากๆจนเสียสติไปเลย

 

เขียวไม่รอช้าที่จะเข้าไปปลอบน้องชายของเขา “ไม่มีใครว่านายนี่นา คนๆนั้นไม่หลบเอง ไม่ใช่ความผิดนายหรอก”

 

“จริงนะ?”

 

“จริงสิ”

 

“ถ้างั้นฉันก็โล่งใจหน่อย” แดงลูบอกตัวเองเบาๆเพื่อให้ผ่อนคลาย

 

เลือดสีแดงพุ่งออกจากปากของกงเทียนลู่ ดูท่าเขาจะไม่สามารถไปต่อได้แล้ว เวลาแบบนี้คงต้องทำอะไรซักอย่าง

 

ไฮ่ไต่ซี่ที่มองสถานการณ์ตอนนี้มันเริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆแล้ว พวกเขากำลังถูกเจ้าสองคนนี้ทรมาณ เพราะงั้นต้องรีบหนีออกไปก่อน!

 

“พี่ใหญ่ เจ้าคนแขนเดียวหนีไปแล้ว!” แดงตะโกน

 

เขียวหยิบเอาไม้พายออกมาจากเสื้อกันลมของเขา

 

“พี่ใหญ่เอาไม้พายมาด้วยเหรอ สมเป็นพี่จริงๆ” น้องชายเอ่ยอย่างชื่นชม