มอบให้เจ้าจัดการ โดย Ink Stone_Fantasy
ตอนนี้ใจของเหยียนเทียนชงกำลังปั่นป่วน มิน่าเล่า รอยยิ้มก่อนหน้านี้จึงทำให้ขนลุกไปทั้งตัว ที่แท้คนผู้นี้ก็คืออี้อวิ๋นปลอมตัว
“อี้อวิ๋น เขาคืออี้อวิ๋น!”
เหยียนเทียนชงร้องตะโกน แค่เขามองอี้อวิ๋นก็รู้สึกกลัวแล้ว แต่เมื่อคิดว่ายังมีอาจารย์อยู่ข้างกายก็พอมั่นใจขึ้นมาบ้าง
“เหยียนเทียนชง เจ้าลูบเกล็ดข้าครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้ข้าจะขอส่งเจ้าไปนรกเอง”
อี้อวิ๋นพูดอย่างเกียจคร้าน เขาเป็นผู้กุมชะตาทุกคนในม่านพลังแห่งนี้ จัดการเหยียนเทียนชงได้ตามใจชอบ
“คิดจะฆ่าข้าหรือ จะลองดูก็ได้!”
ขณะที่เหยียนเทียนชงพูดก็ถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าวเพื่ออยู่หลังปรมาจารย์ฮว่าอสี่ ขณะเดียวกันก็บีบยันต์ส่งเสียงอย่างไร้ร่องรอย
แม้จะรู้สึกว่าปรมาจารย์ฮว่าอวี้ปกป้องเขาจากอี้อวิ๋นได้ แต่เขาก็อยากส่งข่าวนี้ให้ร้านประมูลเจ็ดดาราเพื่อให้ยอมฝีมือของพวกเขามาจับอี้อวิ๋น
อี้อวิ๋นยืนมองทุกอย่างในท่าไขว่หลังอย่างไม่สนใจ
“ส่งเสียงเสร็จแล้วหรือ?” ใบหน้าอี้อวิ๋นมีรอยยิ้ม เขตแดนวิถีแห่งการทำลายล้างของเขาตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง หากแค่ยันต์ส่งเสียงแผ่นหนึ่งของเหยียนเทียนชงก็จัดการไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็คงบรรลุกฎแห่งการทำลายล้างอย่างเปล่าประโยชน์
ใจเหยียนเทียนชงจมลงเมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของอี้อวิ๋น เขารู้ว่าวันนี้คงส่งข่าวออกไปไม่ได้แน่แล้ว วิธีเดียวที่มีคือสังหารอี้อวิ๋น
“ไม่เลวเลย! ดูท่าเจ้าคงมีโชคไม่น้อยถึงได้มีค่ายกลโบราณเช่นนี้” คุณชายหยกโลหิตมองอี้อวิ๋น ในที่สุดประกายดูถูกในสายตาเขาก็หายไป “อี้อวิ๋น ข้าเคยได้ยินเรื่องของเจ้ามาก่อน ใครๆ ก็บอกว่าเจ้ามีพรสวรรค์เป็นหนึ่งในแคว้นจงแห่งแดนสวรรค์จนวังวิถีเจ็ดดารามองเจ้าเป็นหอกข้างแคร่ ข้าอยากพบเจ้ามานานแล้ว”
มุมปากคุณชายหยกโลหิตยกขึ้น ดวงตามีประกายละโมบ “วิชาที่สำนักกระหายโลหิตของข้าฝึกจึงเป็นต้องดื่มเลือดเป็นอาหาร เลือดของหญิงงามแค่รสชาติดีเท่านั้น แต่ในแง่ของสรรพคุณแล้วกลัวเทียบเลือดของอัจฉริยะผู้เป็นเอกไม่ได้ อี้อวิ๋น ข้าต้องการเลือดเจ้า เจ้าเองก็น่าจะมีโชคกับตัว แหวนมิติของเจ้าจะตกเป็นของข้าเช่นกัน ข้าจะสืบทอดโชคของเจ้าและเขียนตำนานของเจ้าต่อ”
ขณะที่คุณชายหยกโลหิตพูดก็มีพลังปะทุขึ้นทั่วร่าง เสื้อผ้าบนร่างเขาฉีกออก ขนสีแดงเริ่มงอกออกมา ขณะเดียวกันฟันก็แหลมคมขึ้นเหมือนเขี้ยนของสัตว์ป่า
“แม้เจ้าจะเป็นอัจฉริยะแต่ก็เติบโตมาสั้นเกินไป วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ถึงระยะห่างจากเวลาและความต่างของสายเลือด!” พลังของคุณชายหยกโลหิตเพิ่มขึ้นไม่หยุดในขณะที่พูด
เผ่าปีศาจ?
เปลือกตาอี้อวิ๋นยกขึ้น โลกสวรรค์หมื่นปีศาจมีเผ่ามนุษย์ โลกสวรรค์เทพหยางจึงย่อมมีเผ่าปีศาจเช่นกัน สำนักกระหายโลหิตนี้เหมือนจะเป็นสำนักของเผ่าปีศาจ มิน่าถึงได้ชอบเลือดมนุษย์
“ที่แท้ก็ลิงแดงตัวหนึ่ง พูดไร้สาระเยอะชะมัด”
อี้อวิ๋นพูดเหยียดหยาม คุณชายแสงหยกโมโหหนักเมื่อได้ยินคำพูดของอี้อวิ๋น!
“รนหาที่ตายจริงๆ!”
คุณชายหยกโลหิตคำราม ร่างกายปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน
ฉัวะๆๆ หลังมือทั้งสองข้างมีกรงเล็บแหลมสามซี่งอกออก กรงเล็บนี้ตะปบมาที่คออี้อวิ๋นเหมือนดาบ!
โฮก!
ตอนนี้ด้านหลังคุณชายหยกโลหิตมีอสูรขนแดงตัวยักษ์ปรากฏขึ้น นี่คือพลังสายเลือดของเผ่าปีศาจ!
อี้อวิ๋นทำแค่โบกมือรับการกระตุ้นสายเลือดของคุณชายหยกโลหิต
ดาบบินเก้าร้อยเก้าสิบเล่มบินออกไปพร้อมส่งเสียงร้อง ท้องฟ้าเหมือนเกิดพายุหิมะ กรงเล็บของคุณชายหยกโลหิตปะทะเข้ากับดาบบิน!
แกร๊ง!
เสียงโลหะที่กระทบกันดังก้องจนเสียวฟัน ทั่วทั้งเขตแดนแห่งการทำลายเต็มไปด้วยลำแสงดาบและเงากรงเล็บ!
หลังจากที่คุณชายหยกโลหิตเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจครึ่งกายก็ไม่มีภาพลักษณ์สุภาพสง่าแบบก่อนหน้านี้อีกต่อไป เขาเหมือนกลายเป็นสัตว์ป่าตัวหนึ่งอย่างสมบูรณ์
ฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้ว!
ทันใดนั้นขนแดงทั่วร่างคุณชายหยกโลหิตก็พุ่งออกเหมือนหนวดนับไม่ถ้วนมาพันเข้าที่ดาบบินพันหิมะบนอากาศ
ขนแดงของคุณชายแสงหยกเป็นดังตาข่ายอันเหนียวแน่นที่จับดาบบินเหล่านี้ไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าดาบบินจะสั่นอย่างไร้ก็ไม่อาจดิ้นรน
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าจะฆ่าเจ้า”
คุณชายหยกโลหิตม้วนดาบบินหลายร้อยเล่มให้พุ่งเข้าใส่อี้อวิ๋น!
อี้อวิ๋นพลิกฝ่ามือเมื่อเผชิญกับคุณชายแสงหยกที่บ้าคลั่ง กระบี่หักที่มีสนิมขึ้นเป็นจุดๆ ปรากฏขึ้นในมือ
“คิดจะใช้กระบี่นี้ฟันข้าหรือ?”
ขนแดงบนร่างคุณชายหยกโลหิตพุ่งมาที่มือทั้งสองของอี้อวิ๋น
ทว่าในชั่วพริบตานี้เองที่กระบี่ในมืออี้อวิ๋นเหมือนกลายเป็นความมืด แสงทั้งหมดในฟ้าดินถูกกระบี่นี้กลืนกิน!
มิติและเวลาสูญเสียความหมายไปในกระบี่นี้
เผชิญกับกระบี่นี้ก็เหมือนเผชิญกับทั้งจักรวาล
กระบี่ควบคุมตามใจ หัวใจกระบี่ของอี้อวิ๋นโถมลงในกระบี่ กระบี่พุ่งผ่านยุคโบราณ พุ่งผ่านจักรวาล และพุ่งผ่านหน้าอกของคุณชายหยกโลหิต
จะเร็วเกินไปแล้ว!
ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยังไม่อาจแม้แต่จะหลบ หนึ่งกระบี่คือฟ้าดิน จะหลบอานุภาพฟ้าดินที่กดดันลงมาได้อย่างไร?
นอกเสียจากว่าระดับยุทธ์กับความเข้าใจด้านกฎจะเหนือกว่าอี้อวิ๋นจนชนะพลังเขาได้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางต้านทานกระบี่ของอี้อวิ๋นได้แน่นอน
อ่อก!
โลหิตสาดกระเซ็น ขนแดงนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่กลางอากาศถูกลำแสงกระบี่ฟันขาด ร่างกายคุณชายหยกโลหิตสั่นอย่างรุนแรง เขาลอยกระเด็นออกไปเหมือนถุงกระสอบ
ตุบ!
คุณชายหยกโลหิตชนเข้าที่ม่านพลังของเขตแดนวิถีแห่งการทำลายล้างแล้วถูกดีดกลับมาตกลงบนพื้นอย่างแรง
กระบี่นี้ไม่ใช่แค่ทะลุผ่านร่างคุณชายหยกโลหิต มันยังทำลายพลังชีวิตเขาด้วยเช่นกัน
อี้อวิ๋นถือกระบี่หักไว้ในมือ คมกระบี่ไม่เปื้อนเลือดแม้แต่หยดเดียว เขาเดินเข้ามาหาคุณชายหยกโลหิตทีละก้าวๆ “ข้าคิดว่าจะมีพลังไม่เลวเสียอีก ที่แท้ก็ไม่เท่าไร”
อี้อวิ๋นส่ายศีรษะ เขาพัฒนาจนแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
การเดินทางในโลกไม้ฟ้าพยับหมอกทำให้อี้อวิ๋นเปลี่ยนร่างเปลี่ยนกระดูก โดยเฉพาะการข้ามผ่านระดับอีกครั้งที่ทะเลทรายกลบอาทิตย์ที่ทำให้ความเข้าใจด้านวิถีกระบี่ของอี้อวิ๋นพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ตอนนี้จอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงของทะเลทรายกลบอาทิตย์ไม่มีแรงต้านทานแม้แต่น้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าอี้อวิ๋น อัจฉริยะในสำนักใหญ่ก็ยิ่งห่างชั้นจากเขาไปไกล มีเพียงผู้อาวุโสอย่างเจี้ยนอู๋เฟิงกับเจี้ยนปู๋อี้ที่พอกำราบอี้อวิ๋น แต่อี้อวิ๋นก็ห่างชั้นจากพวกเขาไม่ไกลแล้ว
“เจ้า…เจ้า…เป็นไปได้อย่างไร…”
คุณชายหยกโลหิตตัวสั่นไปทั้งร่าง เขาอยู่ระดับวังวิถี ฝึกยุทธ์มาเกือบห้าร้อยปีแต่กลับห่างชั้นจากอี้อวิ๋นที่ฝึกมาไม่ถึงหกสิบปีมากถึงเพียงนี้ เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร
ในตอนนี้เองที่อี้อวิ๋นโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
ฟิ้ว!
ลำแสงกระบี่ที่ไม่โดดเด่นสายหนึ่งไปยังกลุ่มสาวน้อยที่อยู่บนแท่นหิน มีเสียงเหมือนสายลมพัดผ่านผิวน้ำดังขึ้น จากนั้นโซ่โลหะบนแขนขาพวกซินเอ๋อร์ก็ถูกลำแสงกระบี่ฟันออก
โซ่โลหะอันแข็งแกร่งกลับกลายเป็นขี้เถ้าท่ามกลางแสงกระบี่ เหล่าสายน้อยไม่แม้แต่จะรู้สึกถึงความเจ็บบนข้อมือข้อเท้าด้วยซ้ำ วิถีกระบี่เช่นนี้ช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก
“ข้ามอบคนผู้นี้ให้พวกเจ้าจัดการ”
อี้อวิ๋นเตะคุณชายหยกโลหิตที่พิการไปใต้เท้าพวกซินเอ๋อร์เหมือนเตะสุนัขที่ตายแล้ว