คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1070

เดนิสถอนหายใจเบา ๆ และกระซิบที่ข้างหูของยูมิว่า “เธอรู้ได้ยังไง? ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นทำอะไรให้เจ้าศักดินนาเคนนี่หลงรักจนหัวปักหัวปำ! ฉันรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าหล่อน!”

‘ฮ่าฮ่า’

เมื่อยูมิได้ยินว่าเดนิสมีความคิดที่เหมือนกันกับเธอ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “คุณพูดถูก นายหญิงเดนิส คุณต้องการกำจัดผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าคะ?”

‘กำจัดเธอเหรอ?’

นั่นเป็นสิ่งที่เดนิสเฝ้าฝันมาตลอด!

ดวงตาของเดนิสเป็นประกาย เธอกระซิบบอกยูมิเบา ๆ ว่า “ถึงแม้ว่าฉันอยากจะกำจัดหล่อนแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

เจ้าศักดินาเคนนี่รักและหวงแหนโมนิก้ามาก

เขาคงจะโกรธถ้าหากเขารู้ว่าเธอทำร้ายหล่อน

เมื่อสังเกตเห็นความกังวลบนใบหน้าของเดนิส ยูมิก็รีบกระซิบบอกเธอทันทีว่า “นายหญิง ฉันมีแผนเด็ด เราสามารถมอมเหล้าเธอได้ และเมื่อเธอกลับไปถึงที่วัง คุณเพียงแค่ต้องจัดฉากให้ผู้ชายในราชสำนักมานอนอยู่บนเตียงของหล่อน จากนั้นคุณก็สร้างพยานผู้เห็นเหตุการณ์ขึ้นมาโดยการพาเขาเข้าไปในห้องของเธอและจับเธอได้คาหนังคาเขา ดังนั้นเธอจะไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าศักดินาเคนนี่ก็จะไม่ต้องการเธอ เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนยอมรับผู้หญิงที่แปดเปื้อนได้”

ยูมิพูดพร้อมยิ้มเยาะอย่างตื่นเต้น!

‘แดร์ริล แกทำให้ฉันต้องทุกข์ทรมานเพราะโดน็อก

‘งั้นฉันก็จะทำให้ผู้หญิงของแกต้องทนทุกข์ทรมานเช่นกัน!’

“เป็นความคิดที่ดี!” ดวงตาของเดนิสเป็นประกาย เธอดูมีความสุขมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เดนิสเป็นคนชั่วร้ายพอ ๆ กับยูมิ!

ผ่านไปครู่หนึ่ง ยูมิก็เดินเข้าไปหาโมนิก้า

ยูมิแสร้งพูดว่า “นายหญิง ฉันขอโทษที่พูดจาไม่ให้เกียรติคุณก่อนหน้านี้ คุณให้โอกาสฉันได้ดื่มกับคุณเพื่อเป็นการขอโทษได้หรือเปล่า?”

ยูมิรินไวน์ให้โมนิก้าในขณะที่พูดเช่นนั้น

“ฉัน…”

โมนิก้าฝืนยิ้มอย่างลังเล “แต่ฉันดื่มไม่เก่ง”

โมนิก้าไม่ได้โกหก เธอดื่มไม่เก่งจริง ๆ เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นนายหญิงแห่งนิกายจ้าวสวรรค์และทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ เธอก็มักจะเป็นคนแรกที่ออกไปจากงานเลี้ยงเพราะอาการมึนเมาของเธอเสมอ

เดนิสที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แสดงสีหน้าไม่พอใจพร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเธอรินไวน์ให้คุณแล้ว คุณก็ควรจะให้เกียรติเธอหน่อยไม่ใช่หรือ?”

คำพูดของเธอเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน

“ตกลง”

โมนิก้าไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงรับแก้วไวน์มาและยกดื่มจนหมดแก้ว

จากนั้นยูมิก็เติมไวน์ให้โมนิก้าอีกและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายหญิง เราทั้งคู่ต่างก็มาจากทวีปจักรวาลโลกและเราก็เปรียบเสมือนพี่น้องกัน ดังนั้นเรามาดื่มอวยพรกันอีกคนละแก้วเถอะ!”

เธอควรจะดื่มอีกแก้วดีหรือไม่?

แต่เธอจะเมาถ้าหากเธอดื่ม

โมนิก้าลังเลใจแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธยูมิได้

โมนิก้าหันมองอีเวตต์และพยายามขอความช่วยเหลือจากเธอ

แต่อีเว็ตต์กลับมีท่าทางที่เหม่อลอยและใบหน้าที่บึ้งตึงเพราะซอว์เยอร์ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เห็นสายตาของโมนิก้าที่กำลังจ้องมองเธออยู่

แผนของยูมิดำเนินไปอย่างราบรื่น โมนิก้าดื่มหนักจนในไม่ช้าเธอก็รู้สึกมึนเมา

“ทำไมเธอถึงดื่มเยอะแบบนั้น?”

อีเวตต์กลับมามีสติ จากนั้นเธอก็ได้เห็นว่าโมนิก้าอยู่ในอาการมึนเมา เธอจึงเอ่ยถามคนรอบข้างว่าเกิดอะไรขึ้น

“เจ้าหญิง วันนี้เธออาจจะอารมณ์ดี เธอก็เลยดื่มไปเยอะหน่อยน่ะ” เดนิสตอบอย่างรวดเร็ว

เดนิสและยูมิเหลือบมองหน้ากันอย่างมีเลศนัย

อ้อ!

‘หรือเป็นเพราะเธอรู้ว่าแดร์ริลยังไม่ตาย เธอก็เลยมีความสุขจนดื่มเข้าไปเยอะ?’

อีเวตต์พยักหน้าโดยไม่ได้สงสัยอะไร เธอกวักมือเรียกสาวใช้และพูดว่า “พาเธอกลับไปพักผ่อนที่วัง”

เดนิสเองก็กวักมือเรียกสาวใช้ของเธอและพูดว่า “มาช่วยกันพานายหญิงกลับวังสิ!”

สาวใช้หลายคนรีบเข้ามาช่วยกันพาโมนิก้ากลับไปที่พระราชวังกวนเป๋ง

เมื่อกลับมาถึงที่วัง เดนิสก็แอบย่องเข้าไปในห้องของโมนิก้าและนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องโถงก่อนจะพูดกับสาวใช้ข้าง ๆ เธอว่า “ไปตามหาเจ้าบ่าวของเธอมาให้ฉัน!”

สาวใช้ผู้นั้นเป็นคนสนิทของเดนิส! ดังนั้นเธอจึงตระหนักได้ทันทีที่ได้ยินคำสั่งจากนายหญิงของเธอ เธอรีบออกจากห้องไปทันที

ภายในห้อง โมนิก้าเมาและหลับไปอย่างรวดเร็ว

เดนิสยืนอยู่ข้างเตียงและมองดูเธอด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย

‘แกแย่งความรักทั้งหมดของเจ้าศักดินาเคนนี่ไปจากฉัน คืนนี้ฉันจะเอาคืนให้สาสม!’

ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก จากนั้นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางก็ถูกพาเข้ามาภายในห้องของโมนิก้า เขาดูเหมือนผู้ชายขี้อาย

เขามีชื่อว่าเอียน แม็กซ์เวลล์

เอียนเป็นคนขี้อายและอ่อนแอ เขาเป็นผู้ดูแลม้าทั้งหมดของเจ้าศักดินาเคนนี่เบรดและทำงานอย่างขยันขันแข็งมานานกว่าสิบปี

เดนิสโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้สาวใช้ทุกคนในห้องโถงออกไป จากนั้นเธอก็มองไปที่เอียนด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้ายและพูดขึ้นว่า “เอียน นายอยู่ในวังมาหลายปีและนายก็ทำงานหนักมามากแล้ว นายยังไม่ได้แต่งงานและมีลูกเป็นของตัวเอง ดังนั้นวันนี้ ฉันจะตอบแทนนายด้วยการให้นายได้สัมผัสกับความสุขของการเป็นผู้ชาย!”