บทที่ 1967 – สังหารตาเฒ่าปีศาจอู๋ ปลดปล่อยกระบวนท่าต่อเนื่อง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

และแล้วฝ่ามือพุทธองค์ทองคำลำดับที่ 7 ก็เข้ามาถึงประชิดตัว!!
  ตอนนี้ตาเฒ่าปีศาจอู๋จ้องหน้าชิงสุ่ยด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว ตัวของเขาเองไม่รู้ว่าฝ่ามือพุทธองค์ทองคำลำดับที่ 7 จะทำให้เขาเกิดบาดแผลได้หรือไม่ แต่ที่เขารู้อย่างชัดเจนคือเขาไม่มีเวลาให้หลบอีกแล้ว
  ตาเฒ่าปีศาจอู๋ฝ่ามือทั้งสองข้างสร้างพลังพุ่งเข้าใส่ฝ่ามือพุทธองค์ทองคำลำดับที่ 7
  ปังงง!!
  ฝ่ามือพุทธองค์ทองคำลำดับที่ 7 แตกสลายเป็นส่วนๆ ทางฝั่งของร่างตาเฒ่าปีศาจอู๋เองก็ถูกแรงอัดกระแทกผลักให้ต้องถอยหลังกลับ หลังจากนั้นเขาก็พยายามหลบหลีกฝ่ามือลำดับที่ 8 และลำดับที่ 9
  ใบหน้าของชิงสุ่ยยังคงดูเป็นธรรมชาติเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะทำลายศัตรูได้โดยอาศัยเพียงแค่ฝ่ามือพุทธองค์ทองคำ อย่างไรก็ตามเขาเองก็ได้ทดสอบความแข็งแกร่งของศัตรูแล้ว และดูเหมือนว่าการจะรับมือตาเฒ่าปีศาจอู๋ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเกินไปสำหรับเขาเลย
  “ไอ้เด็กบัดซบ ดูเหมือนเจ้าเองก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่คิดนัก แต่วันนี้อย่างไรก็ตามมันจะเป็นวันตายของเจ้า”ตาเฒ่าปีศาจอู๋ถูกบีบให้จนมุมจนรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้อยู่เล็กน้อย มันจึงทำให้เขายิ่งโกรธ
  “เฮ้อ ใบหน้าของเจ้าช่างดูน่าสงสารยิ่งนัก อย่าทำหน้าแบบนั้นเลย นอกจากจะน่าเกลียดแล้วเจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากมูลอุจจาระกองหนึ่ง”ชิงสุ่ยใช้ทุกโอกาส ไม่พลาดที่จะดูถูกสร้างความเกลียดชังกับศัตรู เพราะสายตาของเขาแล้วกูก็ยังคงเป็นสิ่งที่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
  ย๊ากกก!!
  ตาเฒ่าปีศาจอู๋โกรธจัดจนระเบิดเสียงตะโกน หลังจากสิ้นเสียงกรีดร้องร่างของเขาก็ยาวขึ้น ตอนแรกร่างของตาเฒ่าปีศาจอู๋เป็นเพียงร่างเล็กๆและเปราะบาง ตอนนี้มันขยายยาวไปถึง 3 เมตร แขนทั้งสองข้างยาวเพิ่มขึ้นอีก 2 เมตร ส่วนขายาวและหนาเหมือนเสาไฟ
  ร่างกายของตาเฒ่าปีศาจอู๋ ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงคล้ายกับลิงที่มีส่วนล่างเหมือนช้าง
  ครึ้นนนน ครี้นนน
  ตาเฒ่าปีศาจอู๋พุ่งเข้าโจมตีชิงสุ่ยแทบจะทันที แขนทั้งสองข้างของเขาเหมือนงูยักษ์ 2 ตัวที่พยายามบีบคอชิงสุ่ย การเคลื่อนไหวของแขนบดบังทัศนวิสัยชิงสุ่ยจนเหมือนว่าท้องฟ้าทั้งโลกถูกปกคลุมไปด้วยแขน
  ความแข็งแกร่งของแต่ละข้างเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล!!
  ชิงสุ่ยไม่ได้มีทีท่าจะถอยเลย เขาเดินหน้าต่อและเผชิญหน้ากับแรงโจมตีจากแขนมหาศาล พร้อมกับเสียงกระแทกที่แสนน่าหดหู่ อย่างไรก็ตามพลังป้องกันตัวของชิงสุ่ยนั้นสูงส่งมากพอจะต้านทานมัน แม้ว่าเขาจะถูกโจมตีโดยตรง แต่ก็ไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บให้เห็น
  แม้ว่าศัตรูจะมีความว่องไว แต่เพื่อรักษาความเร็วในการโจมตีศัตรูเองก็ต้องใช้พลังจำนวนมาก ชิงสุ่ยกำหมัดแน่น ดูเหมือนเขาจะเจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ มันทำให้เขาเกิดที่ว่า นี่คือโอกาสดีที่จะได้ทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเอง ดังนั้น ชิงสุ่ยจึงเลือกที่จะไม่ใช้การลดพลังศัตรูอย่างพลังปราณจักรพรรดิ หรือใช้ภูเขา 9 เทวาในการโจมตี
  ย่างก้าว 9 เทวา!!
  ร่างของชิงสุ่ยเคลื่อนไหวพริบตากลับไปกลับมาอยู่ภายในอาณาเขตของตาเฒ่าปีศาจอู๋ บางครั้งเขาก็ไปปรากฏตัวอยู่ในระยะประชิด และทุกครั้งที่เข้าใกล้เขาก็จะปลดปล่อยหมัดโจมตีศัตรู
  ความแข็งแกร่งและทรงพลังของตาเฒ่าปีศาจอู๋เป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ 8 ร่างกายของเขากับมีท่อนล่างที่มั่นคง โชคดีที่เขามีแขนยาวจึงสามารถปกป้องร่างกายได้ทั้งตัวจนทำให้การผนึกร่างกายเรียกว่าสมบูรณ์แบบ ทุกครั้งที่เขาปลดปล่อยความแข็งแกร่ง ร่างกายจะปลดปล่อยกลิ่นอายของงู ซึ่งเป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยสัมผัสได้จากการโจมตีในกระบวนท่าชุดแรก
  ชิงสุ่ยรู้ดีว่าตาเฒ่าปีศาจอู๋สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้ทุกกระบวนท่า แต่ทุกครั้งที่เขาโจมตีออกไปมันไม่ใช่เป้าหมายที่เขาต้องการ
  ก้าวพสุธาเอราวัณ!!
  ชิงสุ่ยกระทืบผืนและพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
  ฝ่ามือเมฆา!!
  ชิงสุ่ยปลดปล่อยฝ่ามือออกมา
  ในขณะที่ชิงสุ่ยเข้าใกล้ตาเฒ่าปีศาจอู๋ ฝ่ามือของเขาก็หมุนวนเปลี่ยนทิศทาง
  ปังงง!!
  เสียงดังกึกก้อง พร้อมกับร่างของชิงสุ่ยที่หมุนวนเหมือนใบพัด ไปปรากฏตัวอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวตาเฒ่าปีศาจอู๋ และปลดปล่อยทักษะเพลงหมัดตันเปียน
  มันเป็นการโจมตีที่เร็ว และเร็วขึ้น
  เสียงกระแทกดังกึกก้องสั่นสะเทือน
  ในการโจมตีครั้งนี้ชิงสุ่ยไม่ได้ทุ่มเทพลังจำนวนมาก แต่มันก็สามารถสั่นสะเทือนร่างของตาเฒ่าปีศาจอู๋ แม้ว่าการสั่นสะเทือนใจแทบมองไม่เห็น แต่มันก็สั่นสะเทือน
  เพื่อแก้ปัญหา บางครั้งการใช้กำลังทั้งหมดก็ไม่จำเป็น!!
  ร่างของตาเฒ่าปีศาจอู๋เริ่มสั่นสะเทือนอีกเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวจุดเล็กๆแต่ก็เพียงพอสำหรับชิงสุ่ย
  ครึ้นนนน!!
  ชิงสุ่ยพุ่งเข้าปะทะตาเฒ่าปีศาจอู๋และกระจายตัวกลายเป็นร่างเอารอบด้านโจมตีตาเฒ่าปีศาจอู๋
  ปังงงง!!
  เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหว!! และในครั้งนี้ตาเฒ่าปีศาจอู๋ถึงกับต้องก้าวถอยหลังชิงสุ่ยรู้ดีว่าปัจจัยในการเอาชนะตาเฒ่าปีศาจอู๋คือการทำลายช่วงล่างที่มั่นคง เพราะเมื่อร่างกายไม่อาจหยัดยืน ความแข็งแกร่งก็จะลดลงทันที
  ก้าวเงามายาวายุ!!
  หมัดดัชนี!!
  ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวจนกลายเป็นเงาตามตัวตาเฒ่าปีศาจอู๋และใช้นิ้วมือของเขาสกัดจุดเฉินจงที่อยู่บนหน้าอก
  สีหน้าของตาเฒ่าปีศาจอู๋ก็เริ่มเปลี่ยนไป กลิ่นอายที่เคยอัดแน่นรอบร่างกายค่อยๆกระจัดกระจาย บีบบังคับให้เขาต้องถอยหลังอีก 3 ก้าว แน่นอนว่าชิงสุ่ยไม่มีทางยอมหยุดให้ศัตรูได้พักตัว
  เทียนกวน หลงตู่ จูเหวิน……
  ชิงสุ่ยใช้ทั้งฝ่ามือ นิ้วมือ หมัด ข้อศอก ผนึกจุดชีพจรบนร่างกายตาเฒ่าปีศาจอู๋อย่างไม่หยุดหย่อน
  ตัวของตาเฒ่าปีศาจอู๋จึงเป็นดั่งต้นหลิวที่ถูกแรงกระแทกของสายลมบีบให้โซซัดโซเซ การโจมตีของชิงสุ่ยรวดเร็วยิ่งกว่าพายุ แต่ละหมัดของเขารวดเร็วและต่อเนื่อง
  แน่นอนว่าการโจมตีก็ยังคงไม่หยุดหย่อน ชิงสุ่ยปลดปล่อยหมัดโจมตีบนร่างกายตาเฒ่าปีศาจอู๋อย่างแม่นยำ จนกระทั่งการโจมตีของเขาเริ่มสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงอวัยวะภายใน
  ปังงงง!!
  ชิงสุ่ยปลดปล่อยลูกเตะเข้าใส่กลางลำคอตาเฒ่าปีศาจอู๋อย่างจัง ตาเฒ่าปีศาจอู๋ร่างกายอ่อนระทวยร่วงหล่นลงไปนอนกองกับพื้น การโจมตีทีละเล็กทีละน้อยของชิงสุ่ยในที่สุดก็เห็นผล ตาเฒ่าปีศาจอู๋ค่อยๆถมเลือดคำโตออกมาก่อนที่อวัยวะภายในจะถูกทำลาย
  บรรยากาศโดยรอบแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบสงัด ชิงสุ่ยเอาชนะตาเฒ่าปีศาจอู๋โดยอาศัยเพียงแค่หมัด และใช้ความเร็วที่มากกว่าศัตรูโดยไม่ปล่อยโอกาสให้ศัตรูได้ตอบโต้เลยแม้แต่เสี้ยววินาที……  ผู้คนในตระกูลเฉิงต่างก็แสดงสีหน้าตกใจ…..นี่มันเรื่องจริงหรือ? ตาเฒ่าปีศาจอู๋คือผู้ที่บีบบังคับให้ตระกูลเฉิงต้องลี้ภัย ทำไมเมื่อเผชิญหน้ากับชิงสุ่ยแล้ว ตาเฒ่าปีศาจอู๋ถึงกับถูกสังหารได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ชิงสุ่ยแข็งแกร่งเพียงใดกัน? เขาไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเลย….อาศัยเพียงแค่การโจมตีต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  บางคนก็มองไม่ทัน แต่บางคนก็มีสายตาที่ดี อย่างเช่นเฉิงหยวนที่เห็นการโจมตีทุกอย่าง มันคือการโจมตีแบบส่งผลต่อเนื่อง ทุกเพลงหมัดจะปลดปล่อยพลังปราณเข้าไปตราตรึงอยู่ภายในตัวของคู่ต่อสู้ เฉิงหยวนเคยได้ยินวิธีการต่อสู้แบบนี้มาก่อนแต่ไม่เคยมีใครทำได้ เพราะนอกจากจะต้องใช้ความพยายามที่สูงแล้ว ความสามารถของผู้ใช้จะต้องสูงมากและแม่นยำสูงที่สุด มันจึงไม่ใช่ทักษะที่จะสามารถเรียนรู้กันได้ง่ายๆ
  การโจมตีของชิงสุ่ยเลียนแบบมาจากการฝังเข็ม ถ้าหากโจมตีเข้าสู่จุดตายของศัตรูได้สำเร็จ ศัตรูกลายเป็นเพียงแค่หนอนรอความตาย
  หลังจากเงียบไปสักครู่ใหญ่ ผู้คนจากตระกูลอู๋ก็ก้าวเดินออกมาข้างหน้า ชายวัยกลางคนสีหน้าเศร้าหมองกล่าวว่า “ฆ่าพวกมันให้หมด ถล่มที่มีให้ราบคาบ อย่าให้ใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว”
  คนของตระกูลอู๋ที่ส่งมาที่นี่ในวันนี้ล้วนเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง มีอยู่หลายคนเลยที่มีพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสเฉิง คำพูดได้สร้างแรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตระกูลเฉิง ส่งผลให้ทุกคนในตระกูลเฉิงพร้อมทำสงคราม
  “พวกไก่งวงอย่างพวกเจ้า ไม่ต่างอะไรจากหมาขี้เรือน จริงๆว่าพวกเจ้าจะมีปัญญากำจัดข้า?”ชิงสุ่ยเงยหน้ามองดูกลุ่มคนที่กล่าววาจาหยิ่งยโสออกมาเมื่อครู่