บทที่ 724 พวกเราไปขุดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลเซียวกันเถอะ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 724 พวกเราไปขุดสุสานบรรพบุรุษของตระกูลเซียวกันเถอะ
เปาจี้จู่แสดงสีหน้าแปลก ๆ ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกว่าช่วงสองวันนี้กู่ฉิงฉิงผิดปกติ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าสาวห้าวคนนี้หลงรักพี่เทียนเข้าแล้ว

เป็นเรื่องแปลกมาก ที่สาวห้าวจะชอบผู้ชาย

คราวนี้ในที่สุดก็ถูกตนเองจับจุดอ่อนได้แล้ว

เปาจี้จู่รู้สึกว่าตนเองได้ค้นพบความลับของกู่ฉิงฉิงแล้วยิ้มอย่างลึกลับ

กู่ฉิงฉิงเก้อเขินอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “พี่เย่ ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไปยกเลิกการแต่งงานที่ตระกูลเซียวกันเถอะ พี่ไม่รู้หรอกว่าเซียวจ้านน่ารำคาญขนาดไหน เขาน่ารำคาญกว่าเปาจี้จู่เสียอีก เป็นเพลย์บอยที่วัน ๆ รู้แค่เที่ยวสํามะเลเทเมา”

เมื่อเทียบกับเซียวจ้านแล้ว กู่ฉิงฉิงรู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนมีความเป็นผู้ชายมาก ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่ง ประเด็นสำคัญคือหน้าตาหล่อเหลาอีกด้วย

ถ้าได้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเย่เซิ่งเทียนทั้งวัน กู่ฉิงฉิงรู้สึกว่าถึงแม้ว่าตนเองจะทะเลาะกับเย่เซิ่งเทียน ก็จะไม่มีอารมณ์โกรธ

เมื่อมองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแล้ว เธอรู้สึกว่าตนเองนอนหลับก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม

แย่แล้ว แย่แล้ว ทำไมเย่เซิ่งเทียนถึงได้หล่อขนาดนี้?

หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าว

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เปาจี้จู่ตบหน้าที่แดงระรื่นของกู่ฉิงฉิงเบา ๆ ด้วยท่าทางแปลก ๆ

สาวห้าวบ้าผู้ชายแล้ว จ้องพี่เทียนจนน้ำลายเริ่มไหลออกมาแล้ว อย่าแสดงชัดเจนมากขนาดนี้ได้ไหม?

“ห๊ะ?”

กู่ฉิงฉิงตกใจแล้วจ้องไปที่เปาจี้จู่ด้วยสายตาดุดัน

“ไปกันเถอะ”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

หนิงเจ๋อฮ่าวถอนหายใจ อีนางหนูฉิงฉิงตกหลุมรักเข้าอย่างจังแล้ว ดูเหมือนว่าไม่ต้องรอให้เทียนจวินพูดอะไร หญิงสาวก็แพ้ใจตนเองแล้ว

เด็กสาวคนนี้ดีทุกอย่าง แต่ชอบคิดเพ้อเจ้อ

หนิงเจ๋อฮ่าวส่งเสียงลับไปให้เย่เซิ่งเทียนว่า “เทียนจวิน การเดินทางไปตระกูลเซียวคราวนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น จะให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งฟ้าสยบที่นั่นหรือไม่?”

เย่เซิ่งเทียนตอบว่า “ไม่ต้อง”

เขายังต้องการใช้เรื่องยกเลิกการแต่งงานคราวนี้ เพื่อสำรวจความจริงของตระกูลเซียว และดูพลังลับของตระกูลเซียว

หากตระกูลเซียวรอไม่ไหวแล้วเปิดเผยพลังลับออกมา แสดงว่าตระกูลเซียวนั้นไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง

ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนอยากจะลองดูว่าความอดทนที่คนเหล่านั้นมีกับตนเองนั้นมากเพียงใด

เนื่องจากตนเองเป็นหนูทดลองของพวกเขา ถ้าเช่นนั้นเมื่อตนเองเดินมาถึงจุดนี้แล้ว คนเหล่านั้นจะไม่ปล่อยให้ตนเองตายง่าย ๆ อย่างแน่นอน

เป้าหมายของคนเหล่านั้นคือต้องการรู้ว่าหลังจากเลือดวิเศษทั้งสองชนิดถูกปลุกตื่นแล้วจะมีผลลัพธ์อะไร ตอนนี้พวกเขาจะไม่ฆ่าตนเองแน่นอน

หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ขอเพียงแค่ตนเองค้นพบจุดอ่อนของพวกเขา ก็จะทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจโดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร

เย่เซิ่งเทียนยิ้มอย่างเย็นชา

พวกคุณคิดจะใช้ผมเป็นหนูทดลอง ถ้าเช่นนั้นผมก็จะทำให้พวกคุณสูญเสียสองอย่างในคราวเดียวกัน

ขณะที่กำลังพูดอยู่ พวกเขาก็มาถึงด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลเซียวแล้ว

“พี่เย่ ฮวงจุ้ยของตระกูลเซียวต้องดีมากใช่ไหม? สุสานบรรพบุรุษของตระกูลเซียวก็มีเทือกเขามังกรด้วยใช่ไหม? หรือว่าพวกเราจะไปขุดสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซียวก่อน?”

กู่ฉิงฉิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น

หนิงเจ๋อฮ่าวพูดไม่ออก ทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงคิดแต่เรื่องขุดสุสานบรรพบุรุษ?

เปาจี้จู่ยกนิ้วให้เธอ “ไอ้กู่ เยี่ยมมาก แกเริ่มใช้สมองแล้ว”

เย่เซิ่งเทียนส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ฮวงจุ้ยไม่สามารถแสดงอะไรได้ แค่ครอบครองโชคเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญกับความแข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเท็จ ถึงแม้ว่าบางครั้งโชคจะทำให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลหลัก ยิ่งไปกว่านั้น สุสานบรรพบุรุษของตระกูลเซียวก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย”

“เป็นเช่นนั้นเอง”

กู่ฉิงฉิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะคิดวิธีออกมา แต่มันกลับไม่มีประโยชน์ ทำให้เธอรู้สึกสติแตกเล็กน้อย

เปาจี้จู่ยืนอยู่ด้านนอกประตูใหญ่ของตระกูลกู่ แล้วตะโกนเสียงดังว่า “เฮ้ ไปแจ้งผู้นำตระกูลของพวกแก พี่เทียนมายกเลิกการแต่งงาน แล้วรีบให้ผู้นำตระกูลของพวกแกออกมาต้อนรับ? ไม่ถูก! กู่ฉิงฉิงมายกเลิกการแต่งงาน เซียวจ้านไม่คู่ควรกับกู่ฉิงฉิง ดังนั้นรีบนำทะเบียนสมรสออกมา อย่าทำเป็นหมาหวงก้าง”

คนรับใช้ของตระกูลเซียวมองเย่เซิ่งเทียนและพรรคพวกด้วยความกลัว แล้วก็มีคนไปแจ้งเซียวเจิ้นทันที

กู่ฉิงฉิงใช้เท้าเตะเปาจี้จู่ และกล่าวด้วยความโมโหว่า “แกบอกว่าใครเป็นก้าง!”

เปาจี้จู่ “……”

ทำไมถึงได้ลืมเรื่องนี้ไปได้