ตอนที่ 794 ฟุ่มเฟือยเกินไป

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

เมื่อได้ยินเสียงนี้ สุนัขรับใช้ของสองพี่น้องตระกูลเก๋อราวกับหนูเห็นแมวก็มิปาน พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนไหวแล้ว

แม้แต่เก๋อเหลียงก็ทำตัวดีขึ้นมาไม่น้อย และเก๋อซือก็เดินไปที่ชายวัยกลางคนผู้เย่อหยิ่งไม่ยอมใครผู้นั้นและกล่าวว่า “ท่านผู้ดูแล พวกเราศิษย์น้องหนุ่มสาวก็แค่แลกเปลี่ยนความรู้กันก็เท่านั้น ไม่มีใครต่อสู้กันเลยขอรับ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่มี! ไม่มีได้อย่างไรกัน คนทั้งกลุ่มรังแกพวกข้าสองคน ท่านผู้ดูแลจัดการอย่างยุติธรรมด้วย”

ท่านผู้ดูแลมองไปที่มู่เฉียนซี “บอกมา ตกลงมันเกิดเรื่องอันใดกันแน่ ?”

“เรื่องนี้ต้องเล่าตั้งแต่เมื่อวาน…..”

มู่เฉียนซีได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ไม่เสริมเติมแต่งแต่อย่างใด

“เก๋อเหลียง เก๋อซือ นี่พวกเจ้าทำเช่นนี้ก็ศิษย์น้องอย่างนั้นรึ ?”

“นับจากวันนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ห้ามขึ้นเขาโอสถเด็ดขาด”

“หากมีครั้งต่อไปอีก จะต้องลงโทษขั้นเด็ดขาด!”

เก๋อซือกล่าว “ท่านผู้ดูแล พวกเขาทำให้น้องชายข้าบาดเจ็บนะขอรับ!”

“ศิษย์น้องทั้งสองเพิ่งจะเข้ามาในหุบเขาหมอเทวดา พลังก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก ต่อให้ทำให้บาดเจ็บก็บาดเจ็บเพียงแค่แผลเล็กน้อยเท่านั้น ข้ารู้ว่าเจ้าปกป้องน้องชายของเจ้า แต่อย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไปนักเลย”

เก๋อเหลียงที่อาการทางกระดูกยังไม่ดีขึ้นตอนนี้สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้แล้ว “บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยอย่างนั้นเหรอ ท่านผู้ดูแล……”

เก๋อซือห้ามเก๋อเหลียงไว้ เขานั้นดูออกว่าท่านผู้ดูแลตั้งใจจะปกป้องสองคนนี้ พวกเขาพูดสิ่งใดไปก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี

ท่านผู้ดูแลเป็นคนของหัวหน้าหุบเขา เป็นอริกับท่านพ่อของพวกเขามาโดยตลอด ไม่มีทางที่จะเข้าข้างพวกเขาได้

เก๋อซือจ้องมู่เฉียนซีด้วยสายตาดุดัน “พวกเรากลับ!”

ท่านผู้ดูแลกล่าว “มู่เฉียนโม่ เฟิงเยี่ยซีใช่หรือไม่ ?”

“ขอรับ/เจ้าค่ะ!” ทั้งสองพยักหน้าพลางตอบ

“ต่อไปหากเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ส่งคนมาบอกข้าก็พอแล้ว ส่วนพวกเจ้าตั้งใจฝึกบำเพ็ญไป อย่าให้เรื่องอื่นมามีผลกระทบต่อการฝึกของพวกเจ้าอีก”

ท่านผู้ดูแลทำหน้าตาโหดเหี้ยมเมื่อครู่ ตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นผู้อาวุโสผู้อ่อนโยนแล้ว

“ขอบคุณท่านผู้ดูแลมาก!”

ทุกคนต่างก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก สองคนนี้กำเริบสืบสานใจกล้าบ้าบิ่น นึกไม่ถึงว่าจะได้รับรอยยิ้มตาหยีเช่นนี้ของท่านผู้ดูแล ช่างน่าแปลกยิ่งนัก!

ครั้นแล้วเรื่องก็จบลงเช่นนี้ สองพี่น้องตระกูลเก๋อก็ไม่ได้มาก่อเรื่องแล้ว

จวินโม่ซีกล่าว “คนของหุบเขาหมอเทวดาเป็นคนใจดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ได้ใจดี แต่เกรงว่าท่านผู้ดูแลผู้นั้นจะเป็นศัตรูกันกับหัวหน้าเก๋อ อีกอย่าง บางทีพวกเราทำอะไรที่ทำให้เป็นที่สนใจของตาเฒ่าบ้านั่นเข้า ท่านผู้ดูแลก็เลยมาทำดีกับพวกเรายังไงล่ะ”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”

ไม่มีสองพี่น้องตระกูลเก๋อนั้นมาก่อความวุ่นวาย มู่เฉียนซีก็ไปศึกษาเขาโอสถต่อ!

ยาวิญญาณขั้นปฐพีระดับสาม ระดับสี่ ระดับห้า……

และแล้วก็เอามันออกมา จนสุดท้ายเอายาระดับเก้าออกมา ทำให้ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น

“สองคนนี้คงจะไม่ใช่บุตรสาวบุตรชายแท้ ๆ ของท่านหัวหน้าหุบเขาหรอกกระมัง!”

“ยาวิญญาณขั้นปฐพีระดับเก้าก็ส่งมอบให้ภายในพริบตา ภูมิหลังของพวกเขามาจากไหนกันแน่!”

“พวกเขาไม่ธรรมดาแน่ มิเช่นนั้นก็ไม่กล้าสู้รบกับพี่น้องตระกูลเก๋อหรอก อีกอย่างท่านผู้ดูแลก็ปกป้องพวกเขาเป็นพิเศษ”

ตอนนี้ มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีได้ยืนอยู่จุดสูงสุดของเขาโอสถชั้นที่สิบแปด

หลังจากมองดูเสร็จ มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “สิ่งที่ข้าตามหา อยู่ล่างภูเขา แต่เป็นอาณาเขตของหุบเขาหมอเทวดา พวกเราไม่สามารถขุดภูเขาทั้งลูกแล้วไปหามัน มันโจ่งแจ้งเกินไป!”

จวินโม่ซีกล่าว “ไร้หนทางแล้ว รอเจ้าจัดการกับหุบเขาหมอเทวดาได้เมื่อไหร่ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าอยากจะขุดยังไงก็ขุดได้ไม่ใช่หรอกเหรอ ?”

“ที่เจ้าพูดก็ถูก ต่อไปก็ตั้งใจฝึกเถอะ!”

จวินโม่ซีกล่าว “ใช้ยาวิญญาณขั้นปฐพีระดับเก้าเม็ดหนึ่งแลกกับสถานที่ฝึกบำเพ็ญ เจ้านี่นะช่างฟุ่มเฟือยจริง ๆ”

“เจ้าเป็นถึงยอดปรมาจารย์นักปรุงยา ใช้ยังไงก็ใช้ไม่หมดไม่ใช่เหรอ ?”

ชั้นที่สิบแปด นานมากแล้วที่ได้ใช้ แต่เมื่อมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีขึ้นไปใช้ทุกวันเช่นนี้ ทั้งสองก็ได้โด่งดังในหุบเขาหมอเทวดาทันที

ต่อให้พวกเขาเป็นนักปรุงยา แต่ยาขั้นปฐพีระดับสูงเช่นนั้นก็ไม่อาจเอามาใช้ราวกับเม็ดทรายเช่นนี้!

สิ้นเปลืองเกินไปแล้ว! สิ้นเปลืองเกินไปแล้วจริง ๆ!

พวกเขาที่ยืนดูอยู่เหล่านี้ต่างช้ำใจยิ่งนัก ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนคิดอะไรอยู่

สำหรับมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีแล้ว ยาวิญญาณนั้นสามารถหลอมใหม่ได้

แต่พลังความแข็งแกร่งต้องรีบเพิ่มให้เร็วที่สุด ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็เหยียบอยู่ในฐานที่มั่นของศัตรู!

“ยาวิญญาณขั้นปฐพีระดับเก้าก็มี พวกเขาทั้งสองเป็นใครมาจากไหนกันแน่” ในส่วนลึกของหุบเขาหมอเทวดา เสียงชราเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ตรวจสอบมาแล้ว สองคนนี้เป็นตระกูลจินส่งมา เป็นคนของนักปรุงยาผู้หนึ่งที่เขาเอามาเลี้ยงและตระกูลจินรู้จัก นักปรุงยาผู้นั้นเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาระดับสูง พวกเขามียาขั้นปฐพีระดับเก้าติดตัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” ท่านผู้ดูแลรายงาน

“ในเมื่อมีอาจารย์ เหตุใดยังต้องมาที่หุบเขาหมอเทวดาอีก หนีอาจารย์อย่างนั้นเหรอ ?”

“ไม่ได้เป็นเช่นนั้นขอรับ อาจารย์ของพวกเขาได้สิ้นอายุขัยไปแล้ว สองคนนี้ยังเด็กนัก ไม่ได้เรียนรู้วิชาจากอาจารย์ตนเองหมดแต่พวกเขากลับหลงใหลในการปรุงยา ได้ยินมาว่าหุบเขาหมอเทวดาของพวกเราเป็นสำนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ จึงได้ขอหนังสือแนะนำจากตระกูลจิน เมื่อทำการทดสอบ คะแนนของพวกเขาก็เยี่ยมยอดอย่างไร้ที่เปรียบ ตอนที่อยู่ในหุบเขาส่วนนอก พวกเขาก็โดดเด่นมาก”

“เอาหล่ะพอแล้ว จับตาดูต่อไป!”

ผู้นำตระกูลจินเป็นผู้นำกองกำลังระดับสอง การปลอมตัวตนเช่นนี้แน่นอนว่าทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ทำให้หุบเขาหมอเทวดาสงสัยแต่อย่างใดเลย

การฝึกบำเพ็ญ การฝึกหลอมยา ได้กลายเป็นวิชาบังคับของมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีในหลายวันนี้ พวกเขาไม่รีบร้อนใจ กองกำลังระดับสองที่มีมานับพันปี ใช่ว่าจะทำลายกันง่าย ๆ เช่นนั้น

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าหาทางทำลายได้แล้ว”

จวินโม่ซีถามด้วยความแปลกใจว่า “ทางทำลาย ?”

“ความวุ่นวายภายใน! ทำให้พวกมันตีกันเอง จะทำให้พวกมันสูญเสียพลังไปไม่น้อย”

พวกเขาอยู่ที่หุบเขาหมอเทวดา นอกจากการฝึกบำเพ็ญแล้วก็ยังต้องสืบข่าว ที่นี่มีศิษย์มากมาย และรู้เรื่องราวไม่น้อยเลย

ทั้งหุบเขาหมอเทวดาได้แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือหัวหน้าเก๋อ อีกฝ่ายหนึ่งก็คือหัวหน้าซือคงที่ถูกจิ่วเยี่ยโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนตอนนี้อาการก็ยังไม่หายดี

คนนอกไม่รู้สึกอันใด แต่ศิษย์ภายในนั้นล้วนแต่รู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายได้เปรียบเสมือนน้ำกับไฟไปแล้ว

ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาใจจดใจจ่ออยู่กับการบำเพ็ญและศึกษาการหลอมยา เพราะอายุขัยของตาเฒ่าผู้นี้เหลือไม่มากแล้ว

หากไม่สามารถหาทางเพิ่มอายุขัยได้ นั่นก็ยากที่จะหนีความตาย

ทว่า ตาเฒ่าผู้นี้ยังคงมีผลของการรักษาสมดุล มีเขาอยู่ ทั้งสองฝ่ายไม่กล้าลงมือตามอำเภอใจเด็ดขาด

“ฮิฮิฮิ! หากทำให้หมามันกัดกันเองได้ก็เยี่ยมไปเลย!” จวินโม่ซีหัวเราะชอบใจ

“ตอนนี้พลังทางฝ่ายหัวหน้าหุบเขาค่อนข้างอ่อนแอ พลังนั้นห่างชั้นกันมากเกินไปก็ไม่มีทางที่จะบอบช้ำไปทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นข้าวางแผนจะทำให้หัวหน้าซือคงฟื้นตัวขึ้น” มู่เฉียนซีกล่าว

“คนของเจ้าได้ทำให้เขาตายทั้งเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังคิดจะช่วยเขาอีกเหรอ หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้น่าจะให้เขาไม่ต้องลงมือโหดเช่นนั้น ลงมือเบากว่านี้สักหน่อยก็แล้วไป” จิวนโม่ซีบ่นพึมพำ

“ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่เสียเวลาสักหน่อยแล้วล่ะ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา

อาการบาดเจ็บที่จิ่วเยี่ยเป็นคนทำนั้น ไม่ได้รักษาง่าย ๆ เลย!

ณ คุกโลหิตแห่งแดนนรก “เยี่ย ฮือฮือฮือ! ข้าไม่อยากจากเจ้าไป! ข้าไม่อยาก!” ภายในวังคุกโลหิต มีเสียงร้องห่มร้องไห้อันโศกเศร้าใจอย่างไร้ที่เปรียบดังขึ้น