แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1102
เฉินโม่มาถึงริมบึง มองกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบที่อยู่บนหินสีดำกลางบึง

จากการคำนวณของเฉินโม่ ช้าที่สุดคือพรุ่งนี้ มันถึงจะเจริญเติบโตดีอย่างสมบูรณ์แบบ

กวาดตามองพวกนักบู๊รอบๆ แต่ละคนแววตาเป็นประกาย เฉินโม่รู้สึกว่าพรุ่งนี้ต้องมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งแน่ๆ

แต่ในบรรดานักบู๊เหล่านี้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็แค่ปรมาจารย์แดนคุ้มกาย สำหรับเฉินโม่ในตอนนี้ เป็นเรื่องที่สบายมาก

เฉินโม่นั่งขัดสมาธิริมบึง หลับตาลงพักผ่อนสายตา

คนอื่นเห็นเฉินโม่ ก็หลับตาลงพักผ่อนสายตาตามเฉินโม่ รอให้กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบเจริญเติบโตอย่างเต็มที่

พวกนักบู๊รวมตัวกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยามฟ้าสาง นักบู๊รอบๆ จาก 20 กว่าคน เพิ่มมาเป็น 40 กว่าคน

นี่ยังมืดอยู่ หลังจากฟ้าสว่าง กลัวว่าคนจะมาเยอะขึ้นอีก

แต่เฉินโม่ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไร ถึงมาเป็นหมื่นคน เขาก็จะเอากล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้นนี้

เมื่อแสงอาทิตย์สว่างขึ้นที่ขอบฟ้าทิศตะวันออก เฉินโม่ลืมตาขึ้น มองกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบกลางบึง เขาสัมผัสได้ว่าการเคลื่อนไหวของพลังทิพย์บนกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบ ยิ่งสมบูรณ์แบบขึ้น

นี่แสดงว่ากล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบ ใกล้เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว

“อย่างมากอีกสองชั่วโมง ยาวิเศษนี้จะเจริญเติบโตเต็มที่”

เฉินโม่คิดว่าเพื่อป้องกันไม่ให้โดนคนทำลาย เขาต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน

เฉินโม่ยืนขึ้นมองพวกนักบู๊ เสียงราบเรียบ แต่ได้ยินเข้าไปในหูของทุกคนอย่างชัดเจน

“กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบ ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกนายเลย พวกนายไม่ต้องมาเสียเวลาที่นี่หรอก”

ทุกคนอึ้งไป มองมาทางเฉินโม่ จู่ๆ สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที

“ไอ้หนุ่ม นายรู้จักยาวิเศษนี่เหรอ” นักบู๊หนุ่มคนหนึ่งถามอย่างสงสัย

“ไอ้หนุ่ม ทำไมพวกเราต้องเชื่อนายด้วย! ไม่แน่นายอาจต้องการเก็บยาวิเศษไว้คนเดียวก็ได้!” มีคนถามอย่างสงสัย

เฉินโม่หน้านิ่ง พูดด้วยเสียงเฉยเมยว่า “กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้นนี้ ถ้านักบู๊แดนเทพกินเข้าไป จะมีจุดจบแค่ตัวระเบิดตายเท่านั้น อีกทั้งกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้องใช้ทั้งต้น ถ้าแยกมันออกจากกันจะเป็นการทำลายยาวิเศษ”

“ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกนายเลย!”

ทุกคนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง มองเฉินโม่อย่างประเมินด้วยสายตาเย็นชา กำลังคิดว่าคำพูดของเฉินโม่เชื่อได้แค่ไหน

นักบู๊สีหน้าซีดเผือดคนหนึ่ง มองเฉินโม่ด้วยใบหน้าอึมครึม จากนั้นถามอย่างมีเลศนัยว่า “เราใช้ไม่ได้ อย่าบอกนะว่านายใช้ได้”

“ในเมื่อทุกคนใช้ไม่ได้ แล้วทำไมนายไม่ออกไปล่ะ”

“ใช่! ในเมื่อทุกคนใช้ไม่ได้ งั้นนายรออะไรอยู่ที่นี่ล่ะ”

“ไอ้เด็กนี่จะหลอกให้เราไปชัดๆ จากนั้นเก็บยาวิเศษเอาไว้คนเดียว” มีคนพูดอย่างโมโห

“ใช่ ไอ้เด็กนี่เลวทรามมาก พวกเราอย่าไปเชื่อเขา!”

สีหน้าเฉินโม่เย็นยะเยือก จากนิสัยที่ผ่านมาของเขา เมื่อถึงตอนนั้นใครกล้าแย่งเขา ฆ่าให้หมดก็จบ

แต่ยังไงที่นี่ก็เป็นสถานที่เกิดของเขา มีความรู้สึกเป็นเจ้าของอยู่ไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เฉินโม่ไม่สามารถใช้วิธีแบบที่ทำกับหมื่นเผ่าในจักรวาลได้

แต่ถ้ามีใครรนหาที่ตาย เขาก็ไม่เมตตาเหมือนกัน

ทุกคนไม่เชื่อเฉินโม่ เฉินโม่ก็ไม่ได้อธิบาย ยืนรอเงียบๆ อยู่อย่างนั้น

ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลอยขึ้นกลางฟ้า ส่องสว่างผืนดิน แสงอาทิตย์ส่องลงมาจากฟ้า ไม่มีอะไรบดบัง กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบสามารถดูดซับแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่

กลีบดอกเก้ากลีบสีสันสดใส ส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงอาทิตย์ แอบมีแสงประหลาดเก้าแสง สว่างขึ้นบนกลีบดอกด้วย แสงทับซ้อนกันไปมาอยู่กลางอากาศ ราวกับสายรุ้งปรากฏอยู่บนบึง

“นี่คือสัญญาณของการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่เหรอ” มีนักบู๊พูดด้วยความตกใจ

“น่าจะใช้ ปรากฏการณ์แปลกแบบนี้ จะมีก็แค่ตอนที่ของวิเศษปรากฏออกมา คิดว่าอีกไม่นานยาวิเศษต้นนี้ก็จะโตเต็มที่แล้ว”

“แต่ฉันได้ยินว่าทุกที่ที่มียาวิเศษเจริญเติบโตอยู่ จะมีสัตว์ทิพย์คุ้มครอง ทำไมยาวิเศษต้นนี้ไม่มีล่ะ หรือว่ายาวิเศษต้นนี้ระดับต่ำเกินไป สัตว์ทิพย์พวกนั้นจึงไม่สนใจ”

ไม่ใช่แค่นักบู๊พวกนี้ที่สงสัย เฉินโม่ก็มองดูรอบๆ เหมือนกัน ขนาดพรุนแดงสามใบในตอนนั้น ยังมีจระเข้เกล็ดทองคุ้มครองอยู่เลย กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบระดับสูงกว่าพรุนแดงสามใบมาก ไม่น่าจะไม่มี

แต่เห็นว่ากล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบใกล้โตเต็มที่แล้ว ถ้ามีสัตว์ทิพย์คุ้มครอง น่าจะออกมานานแล้ว จนถึงตอนนี้สัตว์ทิพย์ยังไม่ออกมาแล้ว งั้นแสดงว่าไม่มีสัตว์ทิพย์คุ้มครองอยู่

นี่ทำให้เฉินโม่รู้สึกแปลก แต่ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก