ตอนที่ 96 การพบปะของจอมยุทธ

ในห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำ เฉินโจวอี้สามารถใช้น้ำอุ่นได้แค่ที่อ่างล้างหน้าเท่านั้น

เขาถอดชุดของเด็กหญิงเปลือกหอยออกแล้วโยนเสื้อผ้าเหล่านั้นลงถังขยะ

” เสื้อผ้าของฉัน!” เด็กหญิงเปลือกหอยพูดใบหน้าที่เศร้าสลด

ครั้งหน้าฉันค่อยซื้อให้เธอใหม่ เฉินโจวอี้กล่าว

” ถ้างั้นฉันก็อยากจะสวยแบบคนนี้!” เด็กหญิงเปลือกเอ่ยปากบอกความต้องการ

“ได้สิ!”

เมื่อเห็นเฉินโจวอี้รับปากสัญญา เธอก็ไม่รอให้เฉินโจวอี้เร่งเธอ เธอไปที่ขอบอ่างล้างหน้าและนั่งลง ทันทีที่เธอนั่งลงเธอก็ไถลไปตามอ่างล้างหน้าเซรามิค จนน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นละอองน้ำ

เธอกระโดดลงไปในน้ำ ดำน้ำไปสิบกว่าวินาทีก็โผล่ขึ้นมาและพ่นน้ำไปทางเฉินโจวอี้

เธอว่ายน้ำไปรอบ ๆ อ่างล้างหน้าและไม่หยุดตีน้ำ บางครั้งเธอก็ว่ายน้ำท่าสุนัขด้วย

อย่างไรก็ตามเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนชายหาดและเธอจะกลัวน้ำได้อย่างไรกัน

เมื่อมองดูรูปร่างที่เล็กที่ดูมีทรวดทรงนั่น แต่ไม่ได้ทำให้ใจของเฉินโจวอี้พองโตเลยสักนิด

จุดเด่นของสิ่งเหล่านี้ใช้ทำอะไรได้หล่ะ?

” ฉันต้องการฟองสบู่หอมๆ!” ผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็ร้องออกมา

เขาก็เลยต้องเอาเจลอาบน้ำมาซองหนึ่ง เขาฉีกซองแล้วเทลงในอ่างล้างหน้า อย่าเล่นมากนักเลย รีบอาบเร็วเข้า!

….

สิบนาทีต่อมาเฉินโจวอี้เช็ดตัวให้เด็กหญิงเปลือกหอยและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ

จากนั้นเปิดการ์ตูนและไม่ได้รบกวนเธอต่อ

และเขาก็เหมือนถูกบังคับให้เริ่มทำความสะอาดกระเป๋าเอกสารด้วยความระมัดระวัง

เขารู้สึกเหมือนเด็กหญิงเปลือกหอยนี่เป็นเหมือนลูกสาว

….

โรงแรมเหอตง

เป็นโรงแรมห้าดาวที่มีชื่อเสียงในเมืองเหอตง

วันนี้การประชุมของจอมยุทธจะจัดขึ้นที่นี่

ยินดีต้อนรับ! พนักงานยินดีต้อนรับผู้หญิงสองคนสวมชุดกี่เพ้า พูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ชวนฟัง

เฉินโจวอี้เดินเข้าประตูเข้ามาโดยที่ไม่ได้เหบ่มองไปทางอื่น อาจจะเป็นเพราะว่าเขาแต่งตัวอย่างเป็นทางการ เขาตั้งใจซื้อชุดสูท ซึ่งพอใส่แล้วทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

เขากดลิฟต์และมาถึงล็อบบี้บนชั้นห้า ภายในงานค่อนข้างสนุกครึกครื้น

ตัวแทนของเมืองในมณฑลเจียงหนานได้วางป้ายชื่อไว้ข้างๆ

นอกจากนี้ยังจำนวนผู้สัมภาษณ์จอมยุทธอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ในนี้ก็เลยเหมือนกลายเป็นตลาดประกาศรับสมัครงานเลย

เฉินโจวอี้เห็นกลุ่มตัวแทนของเมืองตงหนิง

“มาแล้วเหรอ!”

“ใช่ครับ!”

ทักทายจอมยุทธที่มาจากเมืองเดียวกัน ทั้งสองพูดคุยกันหนึ่งประโยคแล้วก็จากกันไป และตามหาเป้าหมายใหม่

เฉินโจวอี้สังเกตเห็นว่า การประชุมครั้งนี้มันไม่ได้มีแค่กลุ่มของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอื่นๆอีกที่จะเข้าร่วมการประชุมประมาณ 20 ถึง 30 คน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับตัวแทนของแต่ละมณฑลและเมืองนี่มีเกือบห้าสิบถึงหกสิบคน เห็นได้ชัดว่านี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

หนึ่งในหมู่ตัวแทนของเมืองระดับเขตเห็นว่าไม่มีใครสนใจมานานแล้ว เขาจึงยืนขึ้นและตะโกน

” ทุกคนเลือกเมืองลั่วฮว่าของพวกเราซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าในเมืองลั่วฮว่าจะไม่ได้พัฒนาเหมือนเมืองเหอตงและหนิงโจว แต่จอมยุทธของเราก็มีคุณภาพไม่ต่างกันเลย ถ้าหากมาร่วมกับเมืองลั่วฮว่า จะได้รับเงินเงินช่วยเหลือครอบครัวห้าล้านและบ้านพักตากอากาศให้….

เมื่อเห็นเมืองลั่วฮว่าใจกล้าหน้าด้านขนาดนี้ ตัวแทนของแต่ละเขตเมืองถัดไปก็เริ่มที่จะตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง พวกเราเมื่องลั่วซาน พวกเราเอาข้อเสนอดีๆมาฝาก ทุกข้อเสนอดีจนตัดทิ้งไม่ลงเลย หากมาเข้าร่วมเป็นจอมยุทธกับเมืองเรา ลืมห้าล้านนั่นไปได้เลย เราให้หกล้านและมีบ้านพักตากอากาศให้เช่นกัน ถ้าหากต้องการที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองลั่วซาน ข้อเสนอทั้งหมดสามารถมาคุยกันได้”

พวกเราอยู่ในเมืองผิงชิว และเราก็ให้หกล้านและข้อเสนออื่นๆก็เหมือนกัน …

เมื่อเฉินโจวอี้ได้ยินก็เกิดสงสัยในใจของเขา

ผู้อำนวยการไม่ได้บอกเหรอว่าเงินช่วยเหลือครอบครัวของเมืองเหอตงสูงที่สุด ยังไงก็ไม่เกินสามล้าน แต่ทำไมผู้นำแต่ละเขตถึงบอกว่าจะได้เงินช่วยเหลือครอบครัวหกล้านหล่ะ แม้กระทั่งถ้าหากสมัครใจก็สามารถคุยกันได้อีก เงินช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถเปลี่ยนไปสูงได้ขนาดนี้เลยเหรอ

อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงความวุ่นวายในเมืองตงหนิง ความสงสัยในหัวใจของเฉินโจวอี้ก็หายไปทันที

การบุกรุกของกองกำลังลึกลับของโลกที่แตกต่างกันทำให้ดาวเทียมสูญเสียการติดต่อ สัญญาณโทรศัพท์มือถือถูกตัดออกและการสื่อสารเกือบจะถูกตัดออกหมด ยกเว้นโทรศัพท์ที่ติดตั้งไว้ เกือบจะทุกมณฑลและเมืองส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะไฟฟ้าดับและการตรวจสอบของแต่ละพื้นที่ก็ยังไม่ได้ประสิทธิภาพ

ความสามารถในการป้องกันของมณฑลและเมืองต่าง ๆ ในโลกลดลงและการบุกรุกของคนเถื่อนหลายคนก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดการสูญเสียอย่างรุนแรง

เมื่อเกิดการโกลาหลอลหม่าน

บทบาทของจอมยุทธจะชัดเจนออกมาทันที

….

นิทรรศการสองอันสุดท้ายเป็นของจอมยุทธสองแห่ง

หนึ่งคือสำนักงานสืบสวนประเภทที่สาม แผนกนี้เคยปรากฏในเหตุการณ์แรกของพิธีกรรมลัทธินอกรีต

หนึ่งคือทนายความศิลปะการต่อสู้และสำนักงานตรวจสอบวินัยที่เฉินโจวอี้รู้จักเป็นอย่างดี

เฮ้ เฉินโจวอี้ นายมาแล้ว! เมื่อสายตาของผู้อำนวยการเห็นเฉินโจวอี้ เขาก็ทักทายเฉินโจวอี้อย่างรวดเร็ว

เฉินโจวอี้ไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินเข้าไปหา

” การพิจารณาเป็นยังไงบ้าง?” ผู้อำนวยการถาม

สาวสวยที่นั่งถัดจากเขาไปมองเฉินโจวอี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เฉินโชวอี้พูดอย่างสุภาพว่า ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลย ฉันอยากคิดดูก่อน

” นายบอกคิดดูก่อน อะไรทำให้นายลังเลใจ? บอกให้ฉันฟังสิ” ผู้อำนวยการพูดด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก

เฉินโจวอี้กำลังเตรียมตัวที่จะตอบในแต่เขาก็ได้ยินเสียงของสำนักงานสืบสวนประเภทที่สามดังขึ้น ไอหยา ผู้อำนวยการ มาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวในที่สาธารณะแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะครับ

ในไม่ช้าชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าแบบคนจีนก็ยิ้มแย้มและเดินเข้ามา

หนุ่มน้อย สำนักงานตรวจสอบหลักทรัพย์และอนาคตมีดีอะไร ทุกวันยุ่งจะตาย ดีกว่าถ้านายมาสำนักสืบสวนประเภทที่สามของเรา ตราบใดที่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ต้องทำอะไร

ผู้ที่สามารถอยู่ในสำนักงานตรวจสอบหลักทรัพย์และอนาคต ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ ต้องคนที่มีพรสวรรค์ดีที่สุด แน่นอนนอกจากนี้ชายหนุ่มคนนี้ยังเด็ก คนหนุ่มสาวยังไงก็เป็นตัวแทนของศักยภาพอยู่แล้ว

” ว่าไปเรื่อย ทุกๆครั้งก็เป็นแบบนี้ เวลาแผนกคุณมีเรื่องใหญ่ๆเกิดขึ้นอัตราการตายก็สูงมากด้วยเช่นกัน” ผู้อำนวยการพูดไปยิ้มไป

นายจะไปที่นั่นมั้ย เมื่อปีที่แล้วก็มีคนพลีชีพไปสองคนแล้ว! ชายที่มีใบหน้าจีนคนนั้นหันหน้ามาและพูดทันที และสวัสดิการของเราดีที่สุด เงินเบี้ยเลี้ยงก็สูงที่สุด นอกจากเงินช่วยเหลือครอบครัวแล้ว แผนกของเราจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องบ้านด้วย

” สามารถแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยได้มั้ย?” เฉินโจวอี้อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา ตอนนี้เรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขาคือครอบครัว

ใบหน้าของชายหน้าจีนก็เผยให้เห็นถึงชัยชนะและก็รอยยิ้มอันสดใส ใช่แล้วแผนกของเรามีหมู่บ้านที่สร้างขึ้นเอง ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศด้วย

” คุณอยู่ในชนบท แล้วจะมีอะไรให้อยากได้บ้านตากอากาศ อีกทั้งคุณอาจถูกส่งไปยังอำเภออื่น เมื่อถึงเวลานั้นมันอาจจะกลับมายาก” ผู้อำนวยการกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา แต่พวกเราไม่เหมือนกัน นอกจากระยะเวลาที่เดินทางไปทำงานที่เหอตงแล้ว ส่วนปัญหาเรื่องที่พักนอกจากเงินช่วยเหลือ แผนกของเราจะมอบเงินให้อีก 10 ล้าน

“นี่คุณกำลังเถียงใช่มั้ย ชายหน้าจีนพูดด้วยความยั่วโทสะ

” คนที่เถียงคือคุณต่างหาก!” ผู้อำนวยการตบโต๊ะและยืนขึ้น

ทั้งสองเริ่มกดดันจนสถานการณ์ตึงเครียดและบรรยากาศก็มาคุขึ้นมาทันที

เมื่อเฉินโจวอี้เห็นสถานการณ์นี้ เขารีบพูดอย่างรวดเร็ว: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของผู้นำทั้งสองคนมากนะครับ ผมได้ฟังแล้ว ผมยังไม่มีแผนที่จะทำงานมนตอนนี้ ดังนั้นทั้งสองแผนกจึงไม่เหมาะสมกับผม ผมขอตัวไปดูที่อื่นก่อนนะครับคุณ!

เขายืนขึ้นและเดินออกมาอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมการโต้เถียงระหว่างชายร่างใหญ่สองคน ไม่ว่าเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นความผิดทั้งนั้น ถึงแม้ว่าข้อเสนอจะดึงดูดใจขนาดไหนแต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดี

เมื่อเห็นเฉินโจวอี้เดินจากไป

ผู้อำนวยการก็พ่นคำพูดออกมาด้วยความโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แล้วถลึงตาใส่ชายหน้าจีนที่นั่งถัดไปจากเขา

แย่จริงๆ สุดท้ายแล้วเขาก็จากไป

….

เฉินชูว่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในไม่ช้าเขาก็มาที่บูธของตัวแทนของเมืองเหอตง แต่ก็พบว่าไม่มีใครอยู่ที่บูธนี่ มีแต่จอมยุทธที่อยู่รอบๆตัวเขา

เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ทำไมถึงไม่มีใคร!

” ตัวแทนของเมืองเหอตงกำลังคุยโทรศัพท์เพื่อเรียกร้องให้ขอเงินช่วยเหลือครอบครัวสูงขึ้น” จอมยุทธคนหนึ่งที่รู้สถานการณ์บอก

เป็นอย่างนี้นี่เอง!

ก่อนหน้านี้เงินช่วยเหลือครอบครัวของตัวแทนของเมืองเหอตงนั้นสูงที่สุด แต่คิดไม่ถึงว่าการประชุมของจอมยุทธในวันนี้จะร้อนแรงมากจนตัวแทนของเมืองและมณฑลต่างๆ ขึ้นราคาเงินเลี้ยงดูครอบครัวและทำลายมาตรฐานเดิมของการรับคนซึ่งทำให้เงินช่วยเหลือครอบครัวสามล้านนั่นไม่เพียงพอ ถ้าหากคุณปฏิบัติตามเกณฑ์ก่อนหน้านี้ ตอนนี้เมืองเหอตงคงไม่สามารถรับสมัครคนเพิ่มได้แล้ว

หลังจากรอไม่กี่นาทีตัวแทนของเมืองเหอตงก็รีบเดินกลับมา

ยังไม่ทันได้พักหายใจ เขาก็หยิบเอาน้ำยาลบคำผิดและปากกาไวท์บอร์ดออกแล้วทำการแก้ไขอย่างรวดเร็วบนกระดาน

แปดล้าน!!! เงินช่วยเหลือครอบครัวของเมืองเหอตงเปลี่ยนเป็นแปดล้าน