คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1077
“แม่ครับ…หยุดนะเจ้าคนเลว!…” แอมโบรสสะอื้นไห้เมื่อได้เห็นฉากที่อยู่ตรงหน้า
เดนิสรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงร้องของเขา เธอจึงยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้สาวใช้พาเขาออกไป
“นายหญิงเดนิส เธอสลบไปแล้วค่ะ เราควรจะทำยังไงกันต่อคะ?” เอพริลเดินเข้าไปหาเดนิสและถามเธออย่างระมัดระวัง
เดนิสสูดหายใจเข้าและมองดูโมนิก้าที่หมดสติไป จากนั้นเธอก็พูดกับเอพริลว่า “เธอยังจะต้องถามฉันอีกเหรอ? เราก็ต้องทำให้หล่อนประทับรอยมือบนคำสารภาพนั่นสิ! จากนั้นก็นำตัวเธอไปขังไว้ ในอีกสามวันข้างหน้า เราจะจับเธอนั่งเกวียนและประจานต่อหน้าสาธารณะชน!”
เดนิสพูดด้วยท่าทางหยิ่งยโส ‘เธอกล้าท้าทายฉัน ฉันจะทำให้เธอต้องอับอายต่อหน้าผู้คนทั้งโลก!’
“ค่ะ นายหญิง!” เอพริลหยักหน้าตอบรับ จากนั้นเอพริลก็เดินเข้าไปหาโมนิก้าและจับมือของเธอที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นมา ก่อนจะกดมันลงบนคำสารภาพทันที
โมนิก้าไม่รู้สึกตัว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถขัดขืนได้
แม้ว่าทุกคนภายในห้องจะได้เห็นเช่นนั้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
เมื่อผู้คุมลากโมนิก้าออกไป รอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเดนิสทันที
‘ต่อจากนี้ไป ชื่อเสียงของเธอจะต้องป่นปี้อย่างไม่มีชิ้นดี!’
“นายหญิงเดนิส” ในเวลานั้น เอียน แม็กซ์เวลล์ซึ่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ก็ถามขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “ผม…ผมไปได้หรือยังครับ?”
เดนิสมองเห็นความหวาดกลัวในแววตาของเขาได้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้เดนิสได้สัญญาว่า ถ้าหากเขาใส่ร้ายโมนิก้าสำเร็จ เธอก็จะให้เงินเขาและส่งเขากลับไปยังบ้านเกิดของเขา
และในตอนนี้เอียนก็ได้ทำภารกิจของเขาเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการอยู่ต่อเพื่อเห็นความโหดร้ายของเดนิสอีกแม้แต่วินาทีเดียว
“เอียน!” เดนิสจ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ “ฉันยังไม่ได้มอบรางวัลให้นายเลย ทำไมนายถึงรีบร้อนนักล่ะ?”
จากนั้นเดนิสก็หันมาพูดกับเอพริลว่า “เอพริล รินน้ำชาให้เอียนที เอียนอยู่ที่นี่เพื่อรับใช้พระราชวังกวนเป๋งมายาวนาน ถ้าหากเขาไป ฉันคงจะคิดถึงเขา เธอช่วยมอบชาที่ดีที่สุดของเราให้เขาดื่มก่อนไปที”
ในเวลานี้ มีเพียงเดนิส เอพริล และเอียนเท่านั้นที่อยู่ภายในห้อง
มีนัยของความโหดร้ายภายใต้รอยยิ้มของเดนิสขณะที่เธอพูดเช่นนั้น
เอพริลรู้จุดประสงค์ของเดนิสทันที เธอรีบยกกาน้ำชาที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าขึ้นมารินใส่ถ้วย จากนั้นเธอก็ยื่นมันให้เอียน “เอียน นี่เป็นรางวัลที่นายหญิงเดนิสมอบให้นาย ดื่มให้หมด และเมื่อนายดื่มหมดแล้วฉันจะไปนำเงินรางวัลมาให้”
“ขอบคุณสำหรับความเมตตาครับนายหญิงเดนิส…”
เอียนพยักหน้าและโค้งคำนับเดนิส จากนั้นเขาก็รับถ้วยชามาและยกดื่มจนหมดแก้วด้วยความรู้สึกโล่งใจ
‘ฉันจะออกไปจากที่นี่ทันทีที่ได้รับเงินรางวัล!’
อย่างไรก็ตาม เอียนเห็นว่าเอพริลไม่ได้ออกไปนำเงินรางวัลมาให้เขา แต่เธอกลับจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
“มิสเอพริล!” เมื่อเขาตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเขาก็รีบเปิดปากพูดทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่หน้าท้องอย่างรุนแรง จากนั้นร่างกายของเขาก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
วินาทีต่อมา เอียนพยายามตะโกนร้องออกมาแต่ราวกับว่าคอของเขาถูกหนามทิ่มตำจนไม่สามารถกรีดร้องออกมาได้
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเดนิสต้องการฆ่าปิดปากเขา แต่มันก็สายไปแล้ว
เอียนชักกระตุกและเบิกตากว้าง เขาสูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายเข้าก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงอย่างน่าอนาจ
เดนิสมองดูเขาอยู่เงียบ ๆ และพูดขึ้นว่า “เอียน อย่าหาว่าฉันใจร้ายเลย แต่ถ้าหากว่าฉันไม่ฆ่านายทิ้ง ฉันกลัวว่านายจะไปสารภาพความจริงกับเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด!”
จากนั้นเดนิสก็หันมาพูดกับเอพริลด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “รีบจัดการกับศพซะ ถ้าหากมีใครถามก็บอกว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกอัปยศอดสู”
“รับทราบค่ะนายหญิง!” เอพริลตอบเดนิสด้วยความเคารพขณะที่เธอมองไปที่ศพของเอียนด้วยใบหน้าที่เย็นชา
…
อีกด้านหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยว่านไห่ ในทวีปมิสท์ลอเรน
แดร์ริลยังคงนั่งคัดลอกหนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์อยู่ภายในห้องทำงานด้วยท่าทางกระสับกระส่าย วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเสียงกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้นไปนานแล้ว แต่เขาเพิ่งจะคัดลอกหนังสือเรียนไปได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แดร์ริลแทบจะร้องไห้เมื่อมองดูหนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ที่อยู่ตรงหน้าของเขา
‘ฉันเขียนจนเจ็บมือแต่เพิ่งจะเสร็จไปได้แต่ครึ่งเล่ม อย่าบอกนะว่าวันนี้ฉันจะต้องค้างคืนที่นี่?’
แกร็ก!