ตอนที่ 698
เพราะแก่ชรา
“อย่างนี้นี่เอง เจ้าถูกหลี่เซียนช่วยเอาไว้สินะ”หลังจากเล่าเรื่องของชิวซุยให้ท่านแม่ทัพฟัง เหล่ารองแม่ทัพและตัวแม่ทัพเองก็มองไปทางหลี่เซียนด้วยท่าทีประหลาดใจ เรื่องหลี่เซียนช่วยเหลือผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเพราะเห็นหลี่เซียนเป็นแบบนี้ประจำ แต่การที่หลี่เซียนพาผู้หญิงคนที่ว่าติดตามมาด้วยต่างหากที่แปลก เพราะพวกมันอยู่กับหลี่เซียนมาหลายปีไม่เคยเห็นมันคุยกับผู้หญิงแม้แต่ครั้งเดียว แม้ในกองทัพราชสีห์คลั่งจะมีผู้ชายเป็นส่วนมากทำให้ไม่ค่อยได้พบผู้หญิงก็ตาม แต่ถึงขนาดในงานเลี้ยงฉลองหรืองานรื่นเริงเจ้าหลี่เซียนก็ไม่กล้าคุยกับผู้หญิงเลย และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เข้าหาหลี่เซียนนักเพราะมันหน้าตาไม่ได้หล่อเหลาอะไรมาก แถมยังตัวโตจนดูน่ากลัวอีกต่างหาก
“เจ้าถูกใจอะไรเจ้ายักษ์นี่กันถึงได้ขอติดตามมาด้วย”อวิ๋นฉางถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง จากที่ฟังหลี่เซียนพูดก่อนหน้านี้ดูเหมือนอวิ๋นฉางจะเป็นคนหน้าตาบึ้งตึงแบบนี้อยู่ประจำอยู่แล้วสินะ
“นายท่านหลี่เซียนเป็นคนใจดีนะเจ้าคะ ถ้าไม่ได้ท่านช่วยเอาไว้ข้าคง…..”ชิวซุยตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ตอนนี้หลี่เซียนไม่ได้บอกเรื่องชิวซุยเป็นแม่ค้าที่โดนจับตัวมาพร้อมกับพวกพ่อค้าหนีภาษี รู้แต่เพียงว่านางเป็นเด็กสาวที่โดนโจรพวกนั้นจับตัวมาและได้หลี่เซียนช่วยเอาไว้เท่านั้น
“เรื่องนั้นข้าไม่เถียงหรอกแม่หนู ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงต้องปิดหน้าเอาไว้แบบนั้นด้วยล่ะ”ท่านแม่ทัพถามพลางมองชิวซุยด้วยท่าทีสงสัย และสายตานั่นก็ทำเอาชิวซุยเหงื่อตกนิดหน่อยเพราะชิวซุยจำได้ว่านางเคยเจอแม่ทัพท่านนี้มาแล้วในงานฉลองของอาณาจักรไป๋ ดูเหมือนท่านจะชื่อแม่ทัพอั้งจินเป่าแม่ทัพของกองทัพอันดับ 3 ของอาณาจักรจินเป่นนี่เอง
“ข้า…อายเจ้าค่ะ”ชิวซุยตอบพลางหลบสายตาท่านแม่ทัพอั้งจินเป่าอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะไม่ได้พบหน้ากันโดยตรงแต่นางก็เคยร่วมงานกันมาก่อน บางทีท่านอาจจะเคยเห็นนางครู่หนึ่งก็เป็นไปได้
“ฮ้าๆ ขี้อายแบบนี้ก็น่ารักดี แต่ไม่นึกเลยว่าเจ้าหลี่เซียนจะเป็นคนแรกที่พาผู้หญิงมาบ้านข้าแบบนี้”แม่ทัพอั้งจินเป่าหัวเราะพลางตบเข่าตัวเองฉาดหนึ่ง
“คักๆๆๆ!!!” หัวเราะออกมาได้ไม่ทันไรอยู่ๆอั้งจินเป่าก็ไอออกมาด้วยเสียงแปลกประหลาดแถมยังมีเลือดออกมาจากแรงไออีกต่างหากทำเอารองแม่ทัพทั้ง 3 คนลุกพรวดไปดูอาการทันที
“ตาแก่ เป็นอะไรไป”อวิ๋นฉางว่าพลางมองอาหากของอั้งจินเป่าด้วยท่าทีงุนงง ก็รู้ข่าวหรอกว่าท่านแม่ทัพอาการไม่ค่อยดี แต่ไม่คิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้
“ท่านแม่ทัพ น้ำขอรับ”หลี่เซียนว่าพลางนำแก้วน้ำไปยื่นให้ด้วยท่าทีเป็นห่วง พออาการแสดงชัดเจนแบบนี้หลี่เซียนก็เป็นห่วงจนออกนอกหน้า ส่วนทางเจียนหู่ที่อยู่ด้านหลังก็เพียงมองดูอาการอยู่เฉยๆ
“ไม่เป็นไร ก็แค่แผลเก่าเท่านั้น”อั้งจินเป่าตอบพลางดื่มน้ำที่หลี่เซียนเอามาให้ด้วยท่าทีทรมาน ส่วนชิวซุยนั้นทราบอาการของอีกฝ่ายแล้วตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แต่นางไม่คิดว่าอาการแบบนั้นจะมาจากบาดแผลได้ เพราะเลือดที่กระเซ็นออกมานั้นเป็นเลือดจากหลอดอาหารและลำไส้ บางทีอาจจะเกิดจากการวางยาหรือไม่ก็กินอะไรผิดสำแดงเข้าไปแน่ๆ ประกอบกับร่างกายที่เริ่มอ่อนแรงทำให้พลังคุ้มกายที่มีแต่เดิมถดถอยลง
.
.
“ท่านแม่ทัพ อาการหนักขนาดนี้ทำไมถึงต้องปิดบังเอาไว้ด้วย”หลี่เซียนถอนหายใจออกมาหลังจากโดนไล่ออกมาจากบ้านของท่านแม่ทัพพร้อมกับพวกรองแม่ทัพคนอื่นๆ หลี่เซียนดูเหมือนจะเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ช้าที่สุดเลยยังทำใจไม่ได้ เพราะหลี่เซียนโตมาในกองทัพ ถูกท่านแม่ทัพดูแลสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กจะบอกว่าสำหรับมันท่านอั้งจินเป่าเป็นเหมือนพ่อแท้ๆเลยก็คงได้
“ท่านเป็นแม่ทัพนี่เจ้าคะ อาการบาดเจ็บคงแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นไม่ได้หรอก”ชิวซุยตอบพลางถอนหายใจออกมาเช่นกัน ในอาณาจักรที่มีสงคราม แม่ทัพเช่นนี้ก็ชิวซุยก็เห็นอยู่บ่อยครั้ง พวกมันโดนทั้งคมกระบี่ทั้งลูกธนูแต่ก็ไม่อาจแสดงความเจ็บปวดให้ลูกน้องเห็นได้
“แต่แบบนั้นก็เถอะ ข้าทำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรือ”หลี่เซียนถอนหายใจพลางส่ายหน้าช้าๆด้วยท่าทีสมเพชตัวเอง มันไม่มีความรู้เรื่องการรักษา ไม่รู้จัดหมอเก่งๆ และขนาดมีสือหลงที่เก่งเรื่องการแพทย์อยู่แล้วยังทำอะไรไม่ได้ แบบนี้มันก็ได้แต่ดูท่านแม่ทัพล้มป่วยอยู่แบบนี้งั้นหรือ สมัยก่อนแม่ทัพไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมา พอเจอแบบนี้หลี่เซียนก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
“นายท่าน ข้าพอจะรู้วิธีทำซุปบำรุงร่างกายนะเจ้าคะ ท่านสนใจหรือไม่”ชิวซุยถามพลางมองหลี่เซียนด้วยท่าทีเห็นใจ
“เจ้ารู้งั้นหรือ”หลี่เซียนถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนใจ
“แน่นอนอยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านลืมแล้วหรือว่าข้าเคยเป็นแม่ค้านะเจ้าคะ ข้าย่อมรู้เกี่ยวกับสมุนไพรมาบ้าง แล้วก็เคยได้สูตรทำซุปบำรุงร่างกายมานิดหน่อย”ชิวซุยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ
“ยอดเลย มันต้องใช้อะไรบ้างเจ้าบอกข้ามาได้เลย”หลี่เซียนได้ยินก็ทำตาโตรีบสอบถามชิวซุยอย่างกระตือรือร้น ทำเอาชิวซุยอมยิ้มออกมาด้วยท่าทีชอบใจ
“ของพวกนั้นออกจะแพงไปสักหน่อย ท่านแน่ใจนะเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางมองหลี่เซียนด้วยท่าทีลองเชิง แม้จะเป็นซุปสมุนไพรที่หาได้ทั่วไปตามตลาด แต่หากจะแก้อาการของท่านแม่ทัพก็คงต้องใช้สมุนไพรบางตัวที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่ฐานะหลี่เซียนก็ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงรองแม่ทัพเชียวนะมันจะไม่มีเงินเลยงั้นหรือ
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ค่อยได้ใช้เงินเท่าไหร่ก็เลยมีเงินเก็บเหลือเฟือเลย ต่อให้เป็นของนำเข้าจากอาณาจักรไป๋ข้าก็จะซื้อ”ได้ยินหลี่เซียนมีความตั้งใจจะช่วยเหลือท่านแม่ทัพขนาดนี้ชิวซุยก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทียินดี ใบหน้าเช่นนี้แหละที่นางชอบ ดวงตาใสซื้อบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยความหวังดีไม่มีสิ่งใดเจือปนนี่แหละ
“งั้น ท่านก็พาข้าไปที่ตลาดหน่อยนะเจ้าคะ”ชิวซุยว่าพลางเดินเข้าไปจับมือของหลี่เซียนเอาไว้ทำเอามันมีอาการเขินออกมาทันที แต่ดูเหมือนหลี่เซียนจะเริ่มชินแล้วมันจึงพยักหน้าช้าๆก่อนจะพาชิวซุยเดินเข้าไปในตลาดเพื่อหาซื้อของที่มันต้องการ
.
.
“เยอะเหมือนกันนะเนี่ย”หลี่เซียนว่าพลางเก็บสมุนไพรที่ชิวซุยเลือกซื้อมาเข้ามิติส่วนตัว แม้หลี่เซียนจะมีเงินเก็บพอสมควร แถมชิวซุยยังช่วยต่อราคาจนถูกลงมามาก แต่ราคาสมุนไพรนำเข้าจากอาณาจักรไป๋ก็แพงเอาเรื่องจริงๆ มิน่าเล่าถึงได้มีพ่อค้าเถื่อนพยายามนำของเข้ามาแบบหนีภาษีมากมายขนาดนั้น
“ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ พอท่านแม่ทัพได้ดื่มซุปแล้วต้องอาการดีขึ้นแน่ๆ”ชิวซุยเห็นหลี่เซียนเหมือนจะเริ่มคิดถึงเรื่องของท่านแม่ทัพอีกแล้วนางจึงเอ่ยปากปลอบใจมันเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน เพียงแต่ตัวนางเองก็ยังคาใจไม่น้อยเพราะอาการบาดเจ็บของท่านแม่ทัพนั้นเหมือนโดนวางยามากกว่า หรือว่าจะมีคนคิดร้ายกับท่านแม่ทัพกัน
“นั่นสินะ งั้นเรารีบกลับบ้านของข้ากันเถอะ ข้าจะให้เจ้ายืมใช้ครัว”หลี่เซียนตอบพลางนำทางชิวซุยกลับไปที่บ้านของตนเอง ซึ่งบ้านของหลี่เซียนก็อยู่ห่างจากตลาดไม่มาก เพียงเดินไป 15 นาทีก็ถึงที่หมาย แถมตัวบ้านเองก็ยังใหญ่ไม่น้อยและยังมีทหารรับใช้อยู่เฝ้าประตูอีกต่างหาก
“ท่านรอง ท่านกลับมาแล้ว”ชายที่อยู่หน้าประตูพูดพลางเดินเข้ามาหาหลี่เซียนด้วยท่าทีรีบร้อน
“มีอะไรงั้นหรือ”หลี่เซียนถามด้วยท่าทีผิดสังเกตเช่นเดียวกัน การที่ทหารรับใช้เข้ามาหามันเช่นนี้แสดงว่ามีเรื่องต้องรายงานเป็นแน่
“ทางกรมบอกให้ท่านไปรายงานตัวทันทีที่มาถึงขอรับ”นายทหารตอบพลางยืนตัวตรงด้วยท่าทีแข็งขัน แต่นั่นกลับทำให้หลี่เซียนมีท่าทีลังเลออกมาทันที
“นายท่าน ข้าจะเข้าไปทำซุปรอด้านในก็ได้เจ้าค่ะ มันต้องใช้เวลานานมากท่านคงจะกลับมาพอดี”ชิวซุยยิ้มหวานอยู่ภายใต้หน้ากากผ้าก่อนจะกุมมือของหลี่เซียนเอาไว้ ตอนนี้ดูเหมือนมันจะเป็นห่วงท่านแม่ทัพอั้งจินเป่ามากกว่าผลงานของตนเองเสียอีก
“นั่นสิ…..เจ้าพาแม่นางท่านนี้เข้าไปในบ้านแล้วคอยช่วยอำนวยความสะดวกให้นาง ข้าจะไปรายงานตัวกับกรม”หลี่เซียนตอบพลางฝากชิวซุยไว้ให้นายทหารดูแล มันเห็นตอนชิวซุยจับมือกับหลี่เซียนแล้ว ในฐานะนายทหารชั้นผู้น้อยย่อมต้องเกรงใจชิวซุยอย่างแน่นอน
“ขอรับ”นายทหารตอบรับด้วยน้ำเสียงแข็งขันก่อนจะเชิญชิวซุยเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะวิ่งเข้าไปเปิดไฟในบ้านให้สว่างและนำทางชิวซุยไปที่ครัวอย่างรู้งาน
.
.
“ในที่สุดเจ้าก็มาเสียที ข้านึกว่าเจ้าจะแอบไปนอนก่อนสักตื่นเสียอีก”ทันทีที่หลี่เซียนเดินทางมาที่กรม ชายผู้หนึ่งก็เหมือนจะดักรอหลี่เซียนอยู่แล้ว มันคือสือหลงรองแม่ทัพคนที่ 4 ของกองทัพราชสีห์คลั่งนั่นเอง
“สือหลง เจ้ารู้อาการของท่านแม่ทัพหรือไม่”หลี่เซียนได้เห็นเพื่อนร่วมกองทัพก็เอ่ยปากบอกข่าวของท่านแม่ทัพทันที สือหลงผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่เติบโตมาในกองทัพของท่านอั้งจินเป่ามันต้องเป็นห่วงท่านแม่ทัพแน่ๆ
“รู้มาสักพักแล้ว ตาแก่อ่อนแอลงมาก คงต้องสละตำแหน่งเสียที”สือหลงตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่ถึงอย่างนั้นหลี่เซียนก็ไม่ได้พูดอะไรเดินเข้าไปในกรมด้วยท่าทีเหม่อลอย
“ท่านรองแม่ทัพสามหลี่เซียน เชิญทางนี้ขอรับ”ทันทีที่เห็นหลี่เซียนเข้ามา นายทหารคนหนึ่งก็วิ่งมานำทางก่อนจะพาหลี่เซียนเข้าไปในห้องของแม่ทัพอันดับ 1 ของอาณาจักรจินเป่ย หรือก็คือห้องของแม่ทัพใหญ่นั่นเอง
“หลี่เซียน หลี่เซียน….. เจ้ามาเสียที”ทันทีที่เข้าไปในห้องท่านแม่ทัพใหญ่ก็เดินเข้ามาหาหลี่เซียนด้วยท่าทียินดีก่อนจะตบบ่าตบไหล่ของหลี่เซียนอย่างเป็นมิตรอย่างกับกำลังต้อนรับหลานชายกลับบ้านไม่มีผิด ท่าทีเช่นนี้แปลกตาผู้คนเป็นอย่างมากเพราะท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนี้เลย
“……..”แน่นอนว่าคนที่เห็นภาพเช่นนี้ย่อมเป็นนายทหารที่ทำหน้าที่นำทางกับสือหลงที่เดินตามหลี่เซียนเข้ามา มันจ้องไปทางหลี่เซียนด้วยท่าทีแปลกๆจนกระทั่งประตูห้องของท่านแม่ทัพใหญ่จะเริ่มปิดลง แต่ก่อนจะปิดยังได้ยินแม่ทัพใหญ่กล่าวชมเรื่องภารกิจของหลี่เซียนอยู่หลายคำ ท่าทางงานครั้งนี้หลี่เซียนจะได้ความดีความชอบไม่น้อยเลยท่านแม่ทัพใหญ่ถึงได้ยิ้มหน้าบานเช่นนั้น