ตอนที่ 2784 ไม่มีชื่อตอน

ภูเขาไฟต้านเวทย์มนต์ บริเวณหุบเขาลึก :

ในฐานะที่มันเป็นพื้นที่ที่อยู่ใจกลางภูเขาไฟต้านเวทย์มนต์ ที่นี่ไม่เพียงแต่จะมีสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมากๆ แต่ถ้าหากผู้เล่นมีค่าความต้านทานไฟต่ำกว่าสามร้อยแต้มและเข้ามาที่นี่นั้นก็จะตายทันทีเช่นกัน แถมมอนสเตอร์ที่อยู่รอบบริเวณนี้ยังเป็นลอร์ดบอสขั้นสูงหรือสูงกว่าที่มีเลเวลราวหนึ่งร้อยสี่สิบทั้งหมด

เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงของที่นี่ มันทำให้แม้แต่มอนสเตอร์ระดับลอร์ดบอาขั้นสูงก็ยังแสดงพลังออกมาได้เกือบเท่ากับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้เล่นขั้นสี่เลย แม้แต่ NPC ขั้นสี่ส่วนใหญ่ที่มีเลเวลน้อยก็ยังไม่กล้าที่จะเข้ามาที่นี่แน่นอน

อย่างไรก็ตามในเวลานี้มันมีร่างเงาสีดำพุ่งผ่านแมกมาและเปลวไฟจำนวนมากไป โดยที่ติดตามร่างนี้มานั้นมันก็คือโคลอสซัสแมกมาหลายร้อยตัว

โดยโคลอสซัสแมกมาเหล่านี้มีความสูงมากกว่าสิบเมตร และพวกมันหลายร้อยตัวก็วิ่งตามซือเฟิงไปอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งมันทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน และดึงดูด
มอนสเตอร์เข้ามาอีกจำนวนมาก

(โคลอสซัสแมกมา) (สิ่งมีชีวิตสายธาตุ ลอร์ดบอสขั้นสูง)
เลเวล 140
HP 1,950000,000/1,950,000,000

“ดูเหมือนว่าในบริเวณนี้มันจะมีมอนสเตอร์อยู่แค่ประมาณนี้สินะ …” ซือเฟิงที่บินอยู่มองไปยังโคลอสซัสแมกมา และพวกมอนสเตอร์ระดับลอร์ดบอสอีกหลายตัวที่ติดตามเขามาด้วยท่าทีสบายๆ จากนั้นเขาก็เริ่มร่ายเวทย์

ตอนนี้เขาได้พยายามทำการลากและรวบรวมมอนสเตอร์มานานกว่าสิบนาทีแล้ว แต่มันก็ยังคงมีจำนวนแค่ราวสามพันตัวหรือเพิ่มมากกว่านั้นนิดหน่อยเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงได้เริ่มที่จะลงมือโจมตี

เห็นได้ชัดว่าระบบหลักของ God domain นั้นไม่ต้องการจะให้ผู้เล่นขั้นสี่ได้เพลิดเพลินไปกับการล่าสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาต่ำมากนัก ดังนั้นในแต่ละพื้นที่ ผู้เล่นขั้นสี่จึงสามารถจะรวบรวมและลากมอนสเตอร์แบบนี้มาได้ในจำนวนจำกัด

เมื่อเห็นว่าเหล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดเข้ามาในระยะที่ใกล้เพียงพอแล้ว ซือเฟิงก็ได้จัดการใช้ไฟร์โดเมนทันที

ซึ่งด้วยร่างมานาของซือเฟิงในตอนนี้ รวมทั้งสภาพแวดล้อมโดยรอบ มันได้ช่วยเพิ่มพลังให้กับไฟร์โดเมนมากๆ โดยมันให้ผลรุนแรงแทบจะเท่ากับเวทย์ AOE ขั้นสี่เลย

แม้ว่ามอนสเตอร์เหล่านี้จะเป็นสิ่งมีชีวิตสายธาตุไฟที่เกิดมาพร้อมกับการมีค่าความต้านทานไฟสูง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเวทย์ที่รุนแรงอย่างแท้จริงแบบนี้ HP ของพวกมันก็ได้ลดลงไปอย่างรวดเร็ว โดยลดลงไปราวสิบหกล้านต่อวินาที และค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย

เวลานั้นผ่านไปเจ็ดวินาที และในที่สุดด้วยผลของเวทย์นี้มันก็ทำให้พวกมอนสเตอร์ที่มีระดับต่ำกว่าลอร์ดบอสขั้นสูงตายลงแทบทั้งหมด สำหรับพวกที่ไม่ตายนั้นก็อยู่ในสภาพที่สาหัส ส่วนโคลอสซัสแมกมาที่เป็นลอร์ดบอสขั้นสูงนั้นก็ไม่ได้มีสภาพที่ดูดีไปกว่ากันมากนัก โดยพวกมันถูกลด HP ไปหลายร้อยล้านเลย

“มันคงจะดีถ้าพวกนักเวทย์ขั้นสี่ได้มาล่าที่นี่ เพราะท้ายที่สุดแล้วฝูงมอนสเตอร์พวกนี้จะถูกจัดการได้ง่ายๆเลยด้วยคำสาปขั้นสี่ และสิ่งที่พวกนักเวทย์ต้องเสียก็จะมีแค่มานากับค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจ และค่าสตามิน่าเท่านั้น” ซือเฟิงครุ่นคิด เมื่อได้เห็นฉากตรงหน้าของเขา

เขาได้ใช้เวลาหกวันในการกาดล้างพื้นที่ชั้นนอก และชั้นในของภูเขาไฟต้านเวทย์มนต์ไปทั้งหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงสามารถจะมาล่าได้แค่ในพื้นที่ใจกลางภูเขาไฟต้านเวทย์มนต์เท่านั้น แต่กระนั้นพื้นที่ใจกลางนี้กับเต็มไปด้วยพวกลอร์ดบอส และลอร์ดบอสขั้นสูงซึ่งให้ EXP กับเขาไม่มากนัก แถมยังต้องใช้เวลาในฆ่ามากขึ้นด้วย

แต่โชคดีที่เขามีพวกสกิลและเวทย์ AOE อยู่บ้าง ไม่งั้นเขาคงจะต้องเหนื่อยตายก่อนที่จะจัดการมอนสเตอร์พวกนี้ได้ทั้งหมด

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เลือกจะทำการใช้สกิลไลท์นิ่งเอจ หมุนเวียนกับการใช้สกิลและเวทย์ AOE อื่นๆเพื่อจัดการกับมอนสเตอร์ทั้งหมดโดยรอบบริเวณ ซึ่งสกิลไลท์นิ่งเอจของซือเฟิงนี้มันรุนแรงขึ้นมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาได้อัพมันมาถึงขีดจำกัดแล้ว มันจึงมีพลังแทบจะเทียบเท่ากับสกิลขั้นสี่เลย

โดยซือเฟิงก็ใช้เวลาไม่นานนักในการจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมด ….

แน่นอนเลยว่าแม้จะเสียเวลาไปหน่อย แต่หากเทียบกับมอนสเตอร์ในแผนที่ของ God domain ยุคปัจจุบัน การล่าและเก็บเลเวลที่นี่มันก็คุ้มค่ากว่ามาก

และนี่มันก็เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ซือเฟิงมีกำลังใจล่ามาอย่างบ้าคลั่งตลอดหกวัน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เลเวลของซือเฟิงก็ได้มาถึงหนึ่งร้อยสามสิบแปดที่ห้าสิบสามเปอเซ็นต์

อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นขั้นสี่นั้นสามารถจะเก็บเลเวลได้ง่ายมากๆเป็นปกติอยู่แล้ว และในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันก็เป็นปกติที่จะเห็นผู้เล่นขั้นสี่มีเลเวลแค่ราวหนึ่งร้อยสามสิบกว่าๆ ขณะที่ผู้เล่นขั้นสามมีเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบถึงห้าสิบ ….

สำหรับผู้เล่นขั้นสี่นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเขาคือการเพิ่มพลังต่อสู้ของตัวเอง ไม่ใช่การเก็บเลเวล เพราะเลเวลจะไม่ช่วยอะไรพวกเขามากนักแล้ว โดยการจะเพิ่มพลังต่อสู้ของตัวเองจะทำได้จากการรวบรวมหนังสือสกิล และเวทย์ขั้นสี่มาเรียนรู้ ส่วนในด้านอุปกรณ์นั้น แม้แต่อุปกรณ์กับอาวุธระดับอีปิคก็จะไม่ช่วยส่งเสริมพลังของผู้เล่นขั้นสี่ให้เพิ่มขึ้นมากนักแล้ว มันจะมีเพียงแค่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเท่านั้นที่จะเสริมพลังของผู้เล่นขั้นสี่ให้เพิ่มขึ้นมากได้อย่างแท้จริง

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ล่าต่ออีกประมาณยี่สิบนาทีจน EXP ของเขาเพิ่มขึ้นมาอยู่หกสิบหกเปอเซ็นต์ ของเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบแปด ก่อนที่เขาจะเริ่มเก็บรวบรวมไอเทมที่
ดรอปจากพวกมอนสเตอร์ทั้งหมด

แน่นอนเลยว่าการเก็บในพื้นที่ใจกลางนั้นมันดีกว่าพื้นที่อื่นๆมาก หลังจากล่ามาถึงตรงนี้ ซือเฟิงก็ได้รับคริสตัลเวทมนต์ธาตุไฟมาอีกมากกว่าห้าร้อยชิ้น และคริสตัลเวทย์มนต์ธรรมดามาอีกมากกว่าสี่พันชิ้น และเขายังได้รับวัสดุระดับอีปิคมาอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตามมันต้องใช้เวลานานมาก ในการเก็บรวบรวมไอเทมเหล่านี้ทั้งหมด

ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงตัดสินใจที่จะไม่คัดแยกประเภทของไอเทมที่ดรอปออกมา เขาโกยมันใส่กระเป๋าไปทั้งหมดโดยไม่ได้แยกใดๆ และเมื่อเขากลับไป เขาก็จะปล่อยให้คนอื่นๆทำหน้าที่คัดแยกมัน

จนถึงตอนนี้เขาได้รับคริสตัลเวทย์มนต์มามากกว่าสามแสนห้าหมื่นชิ้นแล้วจากการล่า แถมเขายังได้รับคริสตัลเวทย์มนต์ธาตุไฟมาอีกมากกว่าสี่หมื่นสามพันชิ้น

การได้มาล่าในฐานะผู้เล่นขั้นสี่ในแผนที่เลเวลสูงแบบนี้มันเจ๋งจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแผนที่ใน God domain ยุคโบราณที่ไม่ค่อยมีใครมากวนและแย่งชิงแผนที่กันระหว่างการล่า และมันยังให้ทั้ง EXP แถมยังดรอปทรัพยากรออกมาจำนวนมากด้วย

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ทำการล่าพวกโคลอสซัสแมกม่าในพื้นที่ใจกลางต่อไปจนกำจัดพวกมันไปได้เกือบครึ่งของทั้งหมด และเลเวลของซือเฟิงก็พุ่งขึ้นมาอยู่ที่เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเก้า

ซึ่งเมื่อมาถึงตรงนี้นั้น ซือเฟิงก็ได้เลือกจะใช้ EXP จำนวนมหาศาลในการอัพเกรดไลท์นิ่งเอจให้เป็นขั้นสี่

โดยเมื่อการอัพเกรดไลท์นิ่งเอจเสร็จสิ้นนั้น เลเวลของซือเฟิงจากหนึ่งร้อยสามสิบเก้าก็ลดลงมาเหลือหนึ่งร้อยสามสิบหก ….

“ดีจริงๆที่ฉันเลือกจะเก็บเลเวลให้ตัวเองมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเก้าซะก่อน ไม่งั้นเลเวลของฉันอาจไม่สามารถเทียบกับผู้เล่นขั้นสี่โดยทั่วไปเลย” ซือเฟิงมองไปที่เลเวลของเขา และยิ้มอย่างขมขื่น

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขามีเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเก้า กว่าที่เขาจะสามารถอัพเกรดไลท์นิ่งเอจให้เป็นขั้นสี่ได้ เขาจะต้องสูญเสียเลเวลจนเหลือเลเวลต่ำกว่าหนึ่งร้อยสามสิบสี่แน่นอน

อย่างไรก็ตามการลงทุนครั้งนี้มันก็คุ้มค่ามากเช่นกัน เพราะมันทำให้สกิลไลท์นิ่ง
แลชนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก

โดยสกิลไลท์นิ่งเอจที่ขั้นสี่นั้นมันสร้างความเสียหายทางกายภาพหนึ่งพันสองร้อยเปอเซ็นต์ และสร้างความเสียหายด้วยสายฟ้าหนึ่งพันห้าร้อยเปอเซ็นต์เบื้องหน้าผู้ใช้ ระยะครอบคลุมห้าร้อยหลา ระยะเวลา : เจ็ดวินาที คูลดาวน์ : สิบนาที
แถมหากสามารถใช้ไลท์นิ่งเอจที่อัตราความสำเร็จในการใช้สกิลหนึ่งร้อยยี่สิบเปอเซ็นต์ได้ สกิลก็จะแสดงพลังที่ขั้นสูงสุดของขั้นสี่ออกมาได้ด้วย

ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงรู้สึกพึงพอใจมากๆ อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ซือเฟิงกำลังจิดจะอัพเกรดเลเวลของสกิลต่อ มันก็มีคนส่งข้อความมาหาเขา

โดยผู้ที่ส่งมานั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไลฟ์เลสธอร์น ที่ส่งมาบอกเขาว่าทุกคนได้ออกมาจากดินแดนมรดกขั้นสี่กันแล้ว

“พวกเขาทำได้เร็วกว่าที่ฉันคาดไว้เยอะเลยทีเดียว …” ซือเฟิงที่ได้อ่านข้อความจากไลฟ์เลสธอร์นอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “งั้นตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับไปแล้ว …”

เมื่อพูดจบซือเฟิงก็ได้ใช้สกิลการเคลื่อนย้ายอวกาศของแหวนเจ็ดลูมินาลี่มุ่งหน้ากลับไปที่เมืองอุกกาบาตโดยตรง

ใน God domain ยุคโบราณนั้นมันไม่มีม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมือง และหากไม่ใช่เพราะเขาเป็นผู้เล่นขั้นสี่ที่บินได้ และมีโดเมนมานาของตัวเอง รวมไปถึงมีแหวนเจ็ดลูมินาลี่ การออกมาล่าไกลแบบนี้ มันจะเป็นการฆ่าตัวตายสำหรับเขาแน่นอน ….

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคิดแล้วมันก็สมเหตุสมผล เพราะท้ายที่สุดนี่มันทำให้ผู้เล่นใน God domain ยุคโบราณ มีเลเวลนำผู้เล่นใน God domain ยุคปัจจุบันไม่มากนัก

หลังจากนั้นไม่ถึงยี่สิบนาที ซือเฟิงก็ได้มายืนอยู่ที่หน้าประตูเมืองอุกกาบาตซึ่งดูมีชีวิตชีวาจากการสัญจรผ่านไปมาของผู้คน