Ch.9 – ผู้ใช้พลังแห่งราชา มังกร และยักษ์นึกถึงความทรงจำเก่าๆ
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
ที่ผมถูกพาไปก็คือบ้านหลังหนึ่งที่อยู่มุมของหมู่บ้าน
อาคารชั้นเดียวที่สร้างจากหิน พอเข้าไป ก็เจอเตาเผาอยู่ข้างกำแพง
กลางห้องมีโต๊ะกับเก้าอี้ การที่มีดอกไม้ประดับอยู่ ให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านของเด็กผู้หญิง ถึงท่านเทพธิดาจะบอกว่าระดับอารยธรรมของโลกใบนี้อยู่ในระดับต่ำ แต่ทั้งเครื่องเรือนและบ้าน ก็ดูแข็งแรงมั่นคงดี
“ห้องของท่านโชมะอยู่ทางนี้ค่ะ”
ริเซ็ตดึงมือผม พาเข้าไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด
ตรงนั้นมีห้องกว้างที่มีหน้าต่างติดอยู่ มีเตียงเล็กๆตั้งอยู่บนพื้นไม้
“–หา!?”
พริบตาที่เข้าไปในห้อง ริเซ็ตก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสมกับเป็น[สายเลือดมังกร]เข้าไปหยิบของสีขาวบนเตียงขึ้นมา รวมทั้งของที่เหมือนกับผ้าจากบนพื้นอีกหลายพื้นขึ้นมาซ่อนไว้ที่ด้านหลัง เร็วเกินก็เลยมองไม่ทัน แต่รู้สึกว่าน่าจะเป็นชุดชั้นใน
แต่ว่า นี่มันห้องนอนของริเซ็ตไม่ใช่เหรอน่ะ
“ให้ใช้ที่นี่จะดีจริงๆเหรอครับ?”
“แน่นอนค่ะ กลับกันทางนี้กังวลมากเลยให้อยู่ห้องเล็กแบบนี้จะดีเหรอคะ…”
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ
ไม่คิดเลย…ว่าจะได้อยู่ที่บ้านของริเซ็ต แถมดูเหมือนว่าริเซ็ตจะอยู่ตัวคนเดียวด้วย
“ขอบ้านว่างๆสักหลังหรือห้องเก็บของก็ได้นะครับ…”
“แบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ!”
ริเซ็ตกำหมัดแน่น
“ทำเรื่องเสียงมารยาทแบบนั้นกับท่านโชมะไม่ได้หรอกค่ะ ตามจริงแล้ว ควรจะให้ผู้ใหญ่บ้านพาลูกบ้านทั้งหมดมาทักทายอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำค่ะ เพียงแต่ว่าในตอนนี้…ผู้ชายในหมู่บ้านทุกคนออกไปข้างนอก ก็เลยไม่สามารถให้ทุกคนมาทักทายได้…ขอโทษจริงๆค่ะ”
“ผู้ชายในหมู่บ้านทุกคนออกไปข้างนอก…?”
…จะดีเหรอน่ะ
ให้พนักงานบริษัทวัยเกือบสามสิบที่ไม่รู้จักมาพักในบ้านผู้หญิงในเวลาแบบนั้นเนี่ย
“จะว่าไปแล้วคุณผู้ใหญ่บ้านเป็นคนแบบไหนล่ะ?”
“ฮารุกะค่ะ”
“งั้นหรอกเหรอ!?”
“ค่ะ คุรพ่อของฮารุกะตายไปเมื่อหลายปีก่อน เธอก็ได้รับสืบทอดตำแหน่งมาค่ะ จนกว่าจะเป็นผู้ใหญ่ก็จะเป็นผู้ใหญ่บ้านในนาม แต่จริงๆแล้วงานก็ได้พวกผู้ใหญ่รอบตัวช่วยทำให้ค่ะ”
งั้น ริเซ็ตกับฮารุกะ ก็เป็นคนสำคัญของเมืองนี้สินะ
ริเซ็ตเป็นองค์หญิงที่สืบสายเลือดของจักรพรรดิมังกร ฮารุกะคือผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน
…อะไรล่ะนั่น ตัวเราก็ไม่ต่างจากคนน่าสงสัยที่ได้เข้าใกล้เหล่าคนสำคัญเลยนี่นา
“ถ้าอย่างนั้นริเซ็ตขอไปเตรียมอาหารก่อนนะคะ ท่านโชมะก็เชิญพักได้เลยค่ะ”
“นั่นสินะ…”
ตามจริงแล้วก็ควรที่จะไปช่วยเพื่อจะได้รู้เรื่องของโลกใบนี้มากขึ้น–
“…ขอทำตามที่พูดละกันครับ”
ตามตรงเลยคือเหนื่อยสุดๆ
สักแปปเดียวก็ยังดี ขอได้หลับตานอนหน่อยเถอะ
“ถ้าอย่างนั้นเชิญพักผ่อนได้เลยนะคะ ท่านโชมะ”
พูดแบบนั้นแล้วริเซ็ตก็ออกไปจากห้อง
พอประตูไม้ปิดลงผมก็นอนกองลงบนเตียง จะยืนขึ้นก็ไม่ไหวแล้วล่ะ
มีอะไรเกิดขึ้นมากมายจริงๆ…
การอัญเชิญมาต่างโลก
มันคือความผิดพลาด
ถูกปล่อยทิ้งไว้กลางป่า
ได้รับสกิล [ภาชนะแห่งราชา]และ[ปลุกเผ่ามังกร]
สกิลที่ได้มาจาก[สุสานจักรพรรดิมังกร] [Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]กับ[ชีพจรมังกร]
ต่อสู้กับอสูร
[ปลุกเผ่ายักษ์]ที่ได้มาจากการเจอกับพวกเด็กๆเผ่ายักษ์
[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]กับ[ชีพจรมังกร]นั้นบางทีคงจะเป็นสกิลที่ได้มาจากคุณจักรพรรดิมังกร
ดังนั้น ผมในตอนนี้ถึงไม่รู้วิธีใช้งาน
ส่วน[ปลุกเผ่ามังกร]กับ[ปลุกเผ่ายักษ์]นั้นไม่เหมือนกัน อันนี้ผมรู้วิธีใช้งานได้เองเลย
ถึงจะเป็นที่ความรู้สึก แต่ก็รู้วิธีใช้งาน การเพิ่มความสามารถทา่งกาย เกล็ดมังกร มังกรคำราม(Breath) ของ[ปลุกเผ่ามังกร]นั้นจะแสดงผลออกมาตามที่จินตนาการ
[ปลุกเผ่ายักษ์]ก็เช่นกัน ถึงจะยังไม่เคยใช้ แต่ก็เดาออกว่ามีผลแบบไหน
แล้ว[ภาชนะแห่งราชา]ที่ได้มาตอนแรกก็ด้วย
ความสามารถแปลภาษาของมันคือสิ่งที่ได้จากการที่“ราชาจำเป็นต้องรับฟังคำพูดของประชาชนทั้งหมด” ความสามารถในการเก็บของ ก็เป็นคลังเก็บของตามชื่อ
“ยักษ์กับมังกรก็พอเข้าใจ…ราชาก็ด้วย ไม่รู้สึกผิดปกติเลยกับการที่มีมันอยู่”
แต่ว่า[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]กับ[ชีพจรมังกร]นั้นไม่เข้าใจเลยสักนิด
ความแตกต่างของมันคืออะไรกัน
ในจดหมายของคุณเทพธิดาจะมีเงื่อนงำอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่านะ…
ผมหยิบจดหมายของเทพธิดาออกมาจาก[ภาชนะแห่งราชา]
“ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ได้สงสัยจนนอนไม่หลับแน่…”
ผมเริ่มเปิดจดหมายอ่าน ตั้งแต่ต้นจนจบ หลายต่อหลายรอบ
ที่เขียนอยู่ก็คือ คำขอโทษของท่านเทพธิดา แล้วก็ข้อมูลเกี่ยวกับการอัญเชิญในครั้งนี้
การทำให้แรงกายกับจิตใจของผมกลับไปยังวัยรุ่น
สัญญาว่าถ้ายุดมืดจบลงเมื่อไหร่ ผมก็จะได้กลับไปยังโลกเดิม
แล้วในส่วนท้ายของจดหมายก็มี[ช่องคำถาม] เจ้านี่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
“…มีแต่ต้องลองถามสินะ”
การเอาตัวรอดในโลกใบนี้ มีแต่ต้องพึ่งพาสกิล
มันคือของแบบไหน และใช้ได้ถึงเมื่อไหร่–ตราบใดที่ยังไม่รู้ก็สบายใจไม่ได้ ถ้าเกิดใช้สกิลทำงานแล้วอยู่ๆเกิดใช้ไม่ได้ขึ้นมาล่ะ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“แถม…ทำไมท่านเทพธิดาถึงเขียนชื่อของผมผิดเนี่ย”
จ่าหน้าในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า[คิริวโอ โชมะ]
แต่ว่า ชื่อของผมคือ[คิริว โชมะ]
ถึงจะเป็นท่านเทพธิดาจอมซุ่มซ่าม แต่เขียนผิดแบบนี้มันผิดธรรมชาติเกินไป ไอ้[โอ]เนี่ยมันมาจากไหนกัน?
[คิริว]กับ[โอ]เป็น[คิริวโอ]เหรอ…
“–พอจะเห็นเค้าลางแล้วสิ”
สกิลของผมคือ [ปลุกเผ่ายักษ์][ปลุกเผ่ามังกร][ภาชนะแห่งราชา]
เอาคำสุดท้ายมาเรียงกันก็จะเป็น[ยักษ์(鬼)・มังกร(竜)・ราชา(王)]–[คิริวโอ]
ชื่อของผมคือ [桐生]–อ่านออกเสียงว่า[คิริว]
คล้ายกัน
“เอ๊ะ?”
ประวิ๊ง รู้สึกราวกับชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ในหัวกำลังเรียงกันได้อย่างลงตัวแล้ว
นึกถึงความโกรธตอนที่ต่อสู้กับ[ก็อบลิน ลอร์ดดำ]เมื่อกี้ [โลกใบนี้มันก็เป็นแบบนั้นล่ะ]–พอได้ยินแบบนั้น ผมก็รู้สึกหงุดหงิด ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินคำพูดแบบนั้นมาก่อน
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
ตอนที่ถูกโยนงานมาไม่หยุดเหรอ? ไม่–ไม่ใช่ ก่อนหน้านั้นอีก
เคยคิดเอาไว้ว่า ทำไมโลกใบนี้มันไร้เหตุผลแบบนี้กัน อยู่แน่ๆ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
คิดให้ออกสิ เรื่องที่เคยถูกเรียกว่า[คิริวโอ โชมะ]…มีสิ
ไม่สิ เคยใช้ชื่อแบบนั้นอยู่แน่ๆ
มันคือเรื่องราวในอดีต 10ปีก่อน…อดีตอันยาวนาน
ตอนที่ครอบครัวของผมตายกันหมด จนต้องไปอยู่กับคุณตา–
“…นึกออกแล้ว”
สมัยที่ผมยังอยู่มอต้น
ในงานศพของครอบครัวก็มีใครสักคนพูดออกมา ใครเป็นคนพูดนั้นจำไม่ได้ ที่จำได้ก็แค่ว่ามีคนพูดเรื่องนั้นให้ผมที่กำลังร้องไห้ฟัง แล้วก็รู้สึกโกรธมากเท่านั้น
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ตะโกนออกมา
–ไอ้การที่มีเรื่องโหดร้ายแบบนี้เกิดขึ้นได้ โลกใบนี้น่ะมันบิดเบี้ยวไปแล้ว
–ผมจะต่อสู้กับโลก
–โลกใบนี้จะต้องมีศัตรูอยู่ไม่ผิดแน่
–ถึงจะไม่มีใครเคยพบเจอ แต่ผมรู้ดีว่ามีอยู่!
–ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคิริว โชมะ(桐生正真)ได้ตื่นขึ้นแล้ว และกลายเป็นคิริวโอ โชมะ(鬼竜王翔魔)!
–จงดูให้ดี พลังของราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะ–
“–อาาาาาาาา!”
นึกออกแล้ว
นึกออกซะแล้ว
[คิริวโอ โชมะ]–[鬼竜王翔魔]
ชื่อนั้นคือนามอันแท้จริงในสมัยก่อน–สมัยที่ยังจูนิเบียว