ตอนที่ 56 ป่า หมู๋กว๋าง ที่แปดเปื้อน

“นักผจญภัย ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเติบโตเป็น ผู้ผสมพันสัตว์ ที่เพรียบพร้อมไปด้วยความสามารถ ฉันจะให้สัตว์เลี้ยงตัวนี้เป็นรางวัลให้กับคุณด้วย”

หลังจากที่เสี่ยวเฟิง ทำชุดภารกิจเสร็จ เขาได้รับ ไข่สัตว์เลี้ยงแค่เพียง หนึงอัน จากผู้ดูแลฟาร์มเพิ่มเติมจาก สกิล จับสัตว์เลี้ยง

ใบหน้าของเขามือหม่นทันทีที่เขาเห็นชื่อของไข่ ในกระเป๋าของเขา

ไข่สัตว์เลี้ยง (ไก่ อ้อเอ้)

มันคือไก่บ้านั้น! เสี่ยวเฟิงเกือบจะโยนมันทิ้ง

“สัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมสามารถเพิ่มพลังการโจมตีให้กับเจ้านายมันได้อย่างมหาศาล แต่การได้มันมานั้นก็ยากเช่นกัน ยิ่งสัตว์ประหลาดแข็งแกร่งขนาดไหน มันก็จะจับยากขึ้นเท่านั้น เมื่อมันใกล้ตายแล้วเท่านั้นจึงจะมีโอกาสเล็กน่อยที่มันจะกลายเป็น ไข่สัตว์เลี้ยง หลังจากที่คุณจับมันได้สำเร็จ”

“โอกาสที่จะสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับ ความชำนาญของ สกิล จับสัตว์ เอง ด้วย ยิ่งสัตว์ประหลาดอ่อนแอขนาดไหน มันก็จะถูก จับง่ายขึ้นขนาดนั้น นอกจากนั้น เจ้ายังจะสามารถจับไข่ที่ยังไม่ฝักตัว อย่างเข่น ไข่ของ สัตว์เลี้ยงได้ด้วย ยิ่งกว่านั้น พวกสัตว์ประหลาดที่มีรูปรางคล้านสัตว์ป่า จะสามารถ ดรอป ไข่สัตว์เลี้ยงของมันได้เมื่อมันถูกฆ่า และถ้าเจ้าโชคดีพอ เจ้าจะสามารถพบ ไข่ที่ยังไม่ฝักตัวใน รังของมอนเสตอร์

หลังจากที่ เสี่ยวเฟิง เดินทางออกไปจากฟาร์ม เขาก็ได้ตรวจดูเวลา แล้วพบว่า เขาได้ทำงานเสร็จไปแล้วหลายอย่างและนี้ก็เกือบจะบ่ายแล้ว เขาจึง สุ่มหาพื่นที่ว่างๆ และ กดออกจากเกม

เขาลง ฆโษณาออนไลน์ เพื่อหาพยาบาลไว้ แต่ก็ยังไม่มีใครตอบกลับมา เขาจึงแต่งตัวและออกไปช็อปปิ้งด์ หลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน เขาก็ใส้ผ้ากันเปื้อนและเดินเข้าไปในห้องครัว

“เสี่ยวหลิง ทำไมเธอถึงไม่ไปโรงเรียนละ?”

เสี่ยวเฟิง ทำเสียงรบกวน ทำให้ เสี่ยวหลิง ตื่นขึ้นมา เธอใส่ชุดนอนอยู่และเดินออกมาจากห้องของเธอพร้อมกับ ขยี้ดวงตาสลึมสลือที่กลมโตของเธอทั้งสองข้าง

“ก็วันนี้มันวันสุดสัปดาห์! ไอพี่หน้าโง่ พี่นี้น่ารำคาญจริงๆเลย!”

เสี่ยวหลิง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความโกรธ เสี่ยวเฟิง พูดไม่ออก ช่วงนี้เขามัวแต่เล่นเกมจนลืมไปวันเวลาไปแล้ว

เสี่ยวเฟิง วางอาหารลงบนโต๊ะกินข้าว และถามเธอว่าอยากจะออกไปเที่ยวเล่นในวันหยุดไหม แต่
เสี่ยวหลิง ตอบว่า เธออยู่บ้านดีกว่า เสี่ยวเฟิงจึงไม่สามารถทำอะไรให้เธอได้

ในขณะเดียวกัน เสี่ยวเฟิง ก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ อาการ ออทิสตริก ของ เสี่ยวหลิง แย่ลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ เซียควางเหวย ตายไป ถึงขนาดแม่เลี้ยงของเธอก็เป็นคนแปลกหน้า ไปแล้วในสายตาของเสี่ยวหลิง ถึงเธอจะไม่สร้างปัญหาให้กับ เสี่ยวหลิง แต่เธอก็ไม่เลี้ยงดู เสี่ยวหลิง ด้วยเช่นกัน

เสี่ยวเฟิงไม่ได้ฆ่า เซียควางเหวย แต่เขาเลือกที่จบชีวิตของตัวเองเนื่องจากตัวเสี่ยวเฟิง เสี่ยวเฟิงนั้นเคยถูก ทรมาน ใน สถานที่เรียกว่า “เฮฟเวน” เมื่อเขากลับออกมาเขาเกือบจะเสียความเป็นมนุษย์ของเขาไปทั้งหมด แต่เขาถูกปลุกคืนกลับมาด้วย น้ำตาอันรักใคร่ ของ เซียควางเหวย

เซียควางเหวย ที่เป็นผู้ขายผมสีเทาวัยกลางคน ข้อร้องอ้อนวอนอย่าให้ เสี่ยวเฟิง ทำร้ายลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา เพราะเธอคือทายาทของเขาที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว หลังจากนั้นเขาก็กระโดดฆ่าตัวตายลงจากชั้นบนสุดของ ตึก กลุ่ม มิดซัมเมอร์ อย่างไม่ลังเล

“ปัง ปัง ปัง!”

พวกเขาทั้งสอง กำลังจะรับประทานอาหารเที้ยงกันด้วยกับ เมื่อเขาได้บิเสียง ประตูของอพาร์ทเม้นของพวกเขาโดนทุบ คนที่อยู่ด้านนอก คงไม่ได้เคาะเพราะกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ดี

“ใคร?”

เสี่ยวเฟิง อารมณ์เสียเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู ทั้งเขาและเสี่ยวหลิงไม่ชอบที่จะถูกรบกวน

“เธอ! ทำไมเธอถึงมาที่นี้?”

แต่เสี่ยวเฟิงไม่คิดว่าคนที่อยู่ด้านนอกประตูคือ ไนท์คูเออร์ หรือชื่อจริงของเธอคือ ซือ เย่จิ๋ง เธอ ดูเป็นสาวสวยแล้วเธอก็ยังแต่งตัวตามแฟชั่น

มันเป็น ฤดูร้อนที่ร้อนสมชื่อ ซือ เย่จิ๋ง ส่วมเสื้อยืดห่านสีเหลืองกับกางเกงยีนขาสั้น เธอเป็นคนตัวสูงและหุ่นดี ขาที่เรียวยาวทั้งสองข้างของเธอ ยาวเกือบจะเท่าครึ่งหนึงของความสูงของเธอ ขาของเธอทั้งขาวและดูบอบบาง ทำให้เสี่ยวเฟิงรู้สึก เคลิ้มขึ้นมาในทันที่

“แน่นอนอยู่แล้วว่าฉันต้องมาหานาย มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับลูกพี่ลูกน้องฉัน !? ฉันถามเธอไปแต่เธอก็ปฏิเสธที่จะพูดความจริง บอกความจริงกับฉันเพือฉันจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาของนายได้….กลิ่นนี้หอมจัง!”

ทันใดนั้น ซือ เย่จิ๋ง ก็หยุดพูดกับ เสี่ยวเฟิง จมูกสวยๆ ของเธอขยับแล้วเธอก็เดินบนนิ้วเท้าเข้าไปในห้อง เธอส่วมร้องเท้ามีส้นโปร่งแสง ซึ้งก็ทั้งดูดีและสวย เธอเห็นโต๊ะกินข้าวอยู่ข้างหลังเสี่ยวเฟิงแล้วกลื้นน้ำลายตัวเอง

“วันนี้พวกเธอกิน ซี่โครงเปรี้ยวหวาน กันหรอ!”

“ใช้” เสี่ยวเฟิงที่ยังยืนขว้างทางเดิน ไม่มีทีท่าว่าจะชวนเธอมาร่วมโต๊ะด้วย

“บังเอิญจัง! ฉันก็ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลย” ซือ เย่จิ๋ง กลื้นน้ำลายอีกครั้ง

“หืม?” เสี่ยวเฟิงก็ยังยืนอยู่เฉยโดยไม่พูดอะไร

“เฮ้ นายนี้มันน่าเบื่อสะจริง! นายรู้ไหมว่ามีผู้ชายกี่คนในเมือง เซี่ยงไฮ้ ที่อยากพาฉันไปกิน ดินเนอร์?”

ซือ เย่จิ๋ง กัดฟันด้วยความโกรธแล้วกรอกตาใส่ เสี่ยวเฟิง

“เราไม่ได้ทำเพื่อเธอไว้นิ”

เสี่ยวเฟิง ตอบอย่างง่ายๆ แต่มันเป็นความจริง เขาไม่ได้คิดว่าจะมีผู้ร่วมโต๊ะอีกคนมาในมื้อเที่ยงนี้ด้วย ดังนั้น อาหารที่อยู่บนโต๊ะจึงพอสำหรับเขา และเสี่ยวหลิง

“นายเป็นผู้ชาย นายก็ช่วยกินให้น้อยๆ แล้วแบ่งหาให้ฉันบ้างไม่ได้หรอ? ฉันกินไม่เยอะหรอก!”

ซือ เย่จิ๋ง ก็ยังคงกรอกตาไปมา แต่เสี่ยวเฟิงไม่สนใจเธอ แม้เธอจะดูสูง ผอมและหุ่นดี แต่เธอเองเคยเรียน ศิลปะการต่อสู้ ฉนั้นเธอจึงต้องกินเยอะเป็นธรรมดา

“ออกไปจากตรงนั้น สักที! ไม่อย่างงั้นฉันจะร้องบอกว่านายจะล่วงละเมิดฉัน ให้เพื่อนบ้านออกมาดู”

ซือ เย่จิ๋ง กอด อกส่งผลให้ หน้าอก ที่ดูไม่เด่นของเธอดูโตขึ้นมานิดหน่อย แล้วพูดขึ้นอย่างไร้ยางอาย

ใบหน้าของเสี่ยวเฟิงคล้ำขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่า ซือ เย่จิ๋ง เคยทำสิ่งเดียวกันตรงหน้าทางเข้า มหาวิทยาลัย เซีย มาก่อน เธอเป็นหญิงสาวที่มี พลังเสน่ห์ อย่างมาก

เสี่ยวเฟิงทำอะไรไม่ได้นอกจากเปิดประตู อพาร์ทเม้น ซือ เย่จิ๋ง เดินผ่าน เสี่ยวเฟิง ด้วยรอยยิ้มอันอวดดี เสี่ยวเฟิงได้กลิ่นหอมอ่อนๆลอยมาจากตัวของเธอ

“น้อง เสี่ยวหลิง พี่ขอลองจับเส้นผมที่สลวย ของหนู ได้ไหมคะ”

ซือ เย่จิ๋ง รู้สึกเป็นอิสระและเดินเข้าไปในห้องครัว เธอหยิบจาน ช้อและส้อม แล้วไปเข้าไปนั้งข้างๆ เสี่ยวหลิง เธอมอง ผมสีทองของ เสี่ยวหลิง แล้วยิ้มเพราะเธอ อยากลองจับมันดู

“ทำไมเธอถึงกลับมาที่นี้อีก? เอามืออันโสโครกของเธอไปไกลๆตัวหนู! หนูไม่ยังอยากจะติดเชื้อจากเธอนะ!”

เสี่ยวหลิง ให้คำปฏิเสธที่อย่างตรงๆ แล้วเลื่อนเก้าอี้ของเธออออกห่างจาก ซือ เย่จิ๋ง

แต่ ซือ เย่จิ๋ง ไม่ใส่ใจ เป้าหมายของเธอคือ อาหารเที่ยง ฉนั้นเธอจึงเริ่มกินอย่างมูมมาม

“อ่อ! แล้วแกไอ้ กร๊วก! แกทำอะไรกับลูกพี่ลูกน้องฉัน นายคุกคามทางเพศกับเธอหรอ? ทำไมเธอถึง… ว้าวอันนี้อร่อยจัง!!”

เป็นที่ชัดเจนว่า ซือ เย่จิ๋ง ยังไม่ลืมจุดมุ่งหมายของเธอ เธอกินกร้อมกับถามเขาด้วยเสียงอาหารเต็มปากของเธอ

แต่ เสี่ยวหลิงที่เพิ่งจะเริ่มกินข้าว เงยหัวขึ้นมาพร้อมมองไปบัง เสี่ยวเฟิงอย่างตั้งใจและวาดระแวง

“ไม่ใช่เรื่องกับเธอ เธอรีบๆกินแล้วออกไปจากบ้านฉันสักที”

เสี่ยวเฟิง ไม่ตอบคำถาม และไล่ ซือ เย่จิ๋ง ออกจากบ้านทันทีที่เธอกินข้าวของเขาเสร็จ

“เฮ้ย ไอ กร๊วก! แกจะมาทำหยาบๆแบบนี้กับผู้หญิงๆสวยๆแบบฉันไม่ได้! แกไม่มีทางที่จะหาแฟนได้นะ! แกทำได้แค่อยู่กันสองคนกับ น้องสาวของแก แล้วก็ทำตัวเป็นไอโรคจิต!”

ซือ เย่จิ๋ง ทุบประตู แต่ก็ไม่มีการตอบกลับ เธอจึงเดินกลับไปหลังจากที่เธอทีบประตู ด้วยความโกรธ

เสี่ยวเฟิง กลับมา ออนไลน์ อีกครั้งหลักจากอธิบายกับ เสี่ยวหลิง ไปอย่างคร่าวๆ ที่เขารีบไล่ ซือ เย่จิ๋ง ออกจากบ้าน ก็เพราะว่า เขากลัวว่าเธอจะหลุดปากออกมาก คงจะเป็นปัญหาแน่ๆ ทางเธอพูดถึงชื่อ มิดซัมเมอร์ ขึ้นต่อหน้า เสี่ยวหลิง

5 ชั่วโมง ได้ผ่านไปแล้ว เสี่ยวเฟิงก็เดินทางไปยัง สาขาย่อยของเมือง เตียนหลง มีผู้เล่นบางคนอยู่ในเมือง เตียนหลง แต่ทุกคนที่นั้น ดูเร่งรีบและวิ่งไปทั่วเมือง ไม่มีใครที่เดินเตร็ดเตร่ อยู่กับที่ พวกเขาต้องการที่จะทำภารกิจหลายอย่างใสำเร็จ ก่อนที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะเปลี่ยนอาชีพสำเร็จ

“แด็ด คุณมาได้ตรงเวลาพอดี! พลังของฉันกลับคืนมาแล้ว ช่วยนำฉันไปสู่ดินแดนโสมม ที่ the บิกลิช ปรากฏขึ้นด้วย ฉันจะชำระบาปของมันในนามแห่ง แสงเอง ”

ทันที ที่ เสี่ยวเฟิง เข้ามาใน ห้องโถงของสาขาย่อย เขาก็พบกับ กัปตันโบลตัน ที่เดินเข้าหาเขา เกราะสีเงินของเขา เปร่งประกายและตัวเขาก็เต็มไปด้วยพลัง

“กัปตัน คุณอยู่คนเดียวหรอ?” เสี่ยวเฟิง สังเหตุเห็นว่า ไม่มีอัศวินคนใดเดินอารักษ์ กัปตันโบลตัน เขาจึงถามด้วยความสงสัย

“กัปตันโบลตัน คือ อัศวินแห่งแสง ที่แกร่งที่สุดใน สาขาย่อยของเมือง เตียนหลง พลังของท่านนั้นเข้าขั้น ระดับตำนาน การชำระล้าง บิกลิช เป็นอะไรที่ง่ายๆ สำหรับเขา” The high priest เดินเข้ามาแล้วตอบคำถาม ด้วยร้อยยิ้ม

เสี่ยวเฟิง ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่า กัปตันโบลตัน คือ บอสระดับตำนาน นี้มันเจ๋งมาก!

“ไปกันเถอะ!”

เสี่ยวเฟิง พยักหน้าอย่างไร้แรงกดดัน ด้วยความช่วยเหลือของ กัปตันโบลตัน เขาสามารถที่จะ กำจัด พวก กองทัพแห่งความมืด ใน ป่า ป่า หมู๋กว๋าง ได้อย่างง่ายดาย

ถึงมันจะไม่ได้รับอนุญาติให้ขี่ในเมือง แต่ กัปตันโบลตัน ก็เรียกม้า ยูนิคอร์น สีขาวมีปีก ออกมาหลังจากที่เขาออก มาจาก สาขาย่อย เขาไม่สนใจพวกทหารในเมือง ที่เดินผ่านไป มา และ พวก NPC ทหารยามก็มอง กัปตันโบลตัน อย่างเคารพ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะหยุด กัปตันโบลตัน

เสี่ยวเฟิงรู้สึกกล้าจึง เรียก ม้าดำ ของเขาออกมาก พวก NPC ทหารยาม ที่เดินลาดตระเวนอยู่ก็ไม่กล้าจะห้ามเขาเช่นกัน เพราะว่าเขากำลังเดินนำหน้า กัปตันโบลตัน

ม้าดำของ เสี่ยวเฟิง นั้นดู กระจอกไปเลย เมื่อเทียบกับ ม้า ยูนิคอร์น ศักดิ์สิทธิ์

ดวงตาของเสี่ยวเฟิง เบิ่งโตขึ้น เขามาถึง ป่า ป่า หมู๋กว๋าง อีกครั้ง ถึงสัญลักษณ์ในแผนที่ของระบบจะบอกว่าเขามาถูกที่ แต่ เสี่ยวเฟิง ก็ยังคิดว่าเขาเดินทางมาผิดที่

“คุณ ได้ ค้นพบ ป่า ป่า หมู๋กว๋าง ที่แปดเปื้อน”

ป้า ป่า หมู๋กว๋าง ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นไม่สว่างโปร่ง เหมือนที่เคยเป็นมา มันถูกห่อหุ่ม ไปด้วย ความรสนิยม อันเน่าเปื่อย!

ป่าทั้งป่า ทั้งมืดและหนาว ต้้นไม้ทั้งหลายเหี้ยวกลายเป็นสีดำมืด กิ้งไม้ที่ไร้ใบ นั้นดูน่ากลัว นอกจากนั้นยังมีแถวใบหน้าของมนูษย์ ฝังอยู่ในลำต้นอีกด้วย

ป่า ป่า หมู๋กว๋าง ที่เคยดูสงบและศักดฺสิทธิ์ ในตอนนี้ดูน่าขนลุก ก็อบลิน ป่า หมู๋กว๋าง ตัวหนึง ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา มันก็ได้เปลี่ยนตัวเองไปแล้วเช่นกัน

ก็อบลิน แห่งความมืด

เลเวล: 12

เกรด: ปกติ

จำนวน HP: 260

INT: 45

พลังป้องกัน: 20

สกิล: บีบแสง

คำฮธิบาย: องครักษ์ แห่ง ป่า ป่า หมู๋กว๋าง พวกมันช่วยไล่ สัตว์ประหลาดตัวอื่นออกไปจาก ป่า ป่า หมู๋กว๋าง พวกมันจะโหดเหี้ยมขึ้น และกลายเป็นศัตรู หลังจากที่ป่า ป่า หมู๋กว๋าง แปดเปื้อน ไปแล้ว

คุณสมบัติ : มันมีค่า INT ที่สูง ระวังอย่าทำให้มันตื่นตัวกันหลายตัว ไม่อย่างงั้นคุณจะตกอยู่ในอันตราย

มันดูเหมือน ซอมบี้ ของ ก็อบลิน ป่า หมู๋กว๋าง ในขณะที่ ก็อบบลิน ป่า หมู๋กว๋าง นั้นดูน่ารัก ก็อบลินแห่งความมืดนั้นดู น่ากลัว ปีกของมันโดนทำลาย แต่ค่าสถานะของมันกลับสูงขึ้น

“ดูเหมือนว่าป่า ป่า หมู๋กว๋าง จะติดเชื้อเข้า ไปแล้ว แต่โชคยังดีที่ยังไม่สายเกินไปที่เราจะแก้ปัญหานี้ ไปกันเถอะ แด็ด พวกเราต้องรีบหาตัว บิกลิช แล้วฆ่ามันเพื่อความแปดเปื้อนนี้นี้”

กัปตันโบลตัน ขมวดคิ้วและเร่งเสี่ยวเฟิง เสี่ยวเฟิงนำหน้า กัปตันโบลตัน ไปยัง ทะเลสาปตรงกลางของป่า ป่า หมู๋กว๋าง อย่างไม่ล่าช้า

“แสงพิพากษา!”

ก๊อบลินแห่งความมืด กลุ่มใหญ่ วิ่งเข้าหาพวกเขา กัปตันโบลตัน ใช้สกิลที่ดูเหมือนกับ วงแหวนแสง ฆ่าพวกมันทั้งหมดก่อนที่ เสี่ยงเฟิงจะตั้งตัวได้ทัน

“กัปตันโบลตัน มาตั้งทีมกัน!”

เสี่ยวเฟิง ชักจะหวั่นใจเพราะเขาไม่อยากที่จะให้ ค่าประสบการณ์จากก็อบบลิน พวกนี้ หมดไปอย่างปล่าวประโยชน์ เขาจึงได้ความคิด และส่ง คำเชิญชวน ให้กับ กัปตันโบลตัน แต่เขาก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะทำได้สำเร็จ

“เอาละ ในตอนนี้ ป่า ป่า หมู๋กว๋าง เต็มไปดูเสียง กรีดร้อง อยู่ใกล้ๆ กับฉันไว้ แล้ว ฉันจะปกป้องนายเอง”

เสี่ยวเฟิง ได้ยินเสียงของระบบบอกว่า พวกเขาได้ร่วมทีมกันสำเร็จ เขามองไปยังหน้าต่าง ของทีม และเปิด ข้อมุลของค่าสถานะของ กัปตันโบลตัน ขึ้นมา หลังจากที่เขาตรวจดูแล้ว เสี่ยวเฟิงก็อ้าปากค้าง