ตอนที่ 375 เขียนเครื่องหมายจบประโยค (ตอนจบ)

เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

ได้ยินอวี๋เหวยหมินพูดแบบนี้ เฉินเยี่ยนก็รู้สึกในใจ เธอไปในเมืองบ่อย ความเจริญในเมืองเธอก็เห็นมามาก แต่ทุกครั้งที่กลับมาที่หมู่บ้าน เธอถึงค่อยรู้สึกสงบ รู้สึกว่าที่นี่ต่างหากที่เป็นบ้านของเธอ อยู่แล้วสบายใจ 

 

 

“หลายปีนี้คุณน่าจะมีชีวิตที่ดีเลย” 

 

 

อวี๋เหวยหมินมองหน้าเฉินเยี่ยน นี่ยังเป็นคนที่อยู่ในความทรงจำเขาคนนั้น ไม่ได้เจอกันสิบกว่าปี เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิมเยอะเลย 

 

 

แต่สวรรค์ก็ยังเอ็นดูเธอ เธอไม่ดูแก่เท่าไรเลย 

 

 

“ฉันสบายดีมาก ซินห้าวดีกับฉันมาก ลูกก็แข็งแรงขยันและรู้เรื่อง ที่บ้านแม่ก็ทำให้ฉันสบายใจ นี่คือชีวิตที่ฉันต้องการ แล้วคุณล่ะ?” 

 

 

เฉินเยี่ยนถาม ถึงแม้อวี๋เหวยหมินจะไม่ได้ดูแก่เท่าเฉินเวย แต่หางตาก็ยังมีร่องรอยของการผ่านความยากลำบากมา เทียบกับซินห้าวแล้ว อวี๋เหวยหมินดูแก่ไปเลย 

 

 

“ผม? ที่ออกไปหลายปีแรกนั้นไม่ง่ายเลย ลำบากมาก แต่ก็ผ่านมาได้ ต่อมาได้ทำธุรกิจ ถือว่าทำได้ไม่แย่” 

 

 

อวี๋เหวยหมินพูดมาถึงตรงนี้ก็ยิ้ม แล้วพูดต่อ “แต่ผมไม่ได้แต่งงานเลย” 

 

 

“เอ๋?” 

 

 

เฉินเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ ดูท่าทางอวี๋เหวยหมินน่าจะถือว่าประสบความสำเร็จ หาภรรยาน่าจะเป็นเรื่องง่าย ทำไมถึงไม่แต่งงานล่ะ? 

 

 

“ตอนแรกก็คิดถึงภรรยาที่บ้าน ถึงแม้จะไปด้วยกันกับเธอได้ไม่ดี แต่ก็ไม่เคยคิดจะหาใหม่ กลัวว่าอยู่กับผมแล้วจะลำบาก ต่อมารู้ว่าเธอแต่งงานใหม่แล้ว ผมกลับไม่ได้คิดอะไร แล้วต่อมาก็อยู่จนชินแล้ว ไม่อยากแต่งงาน แต่…” 

 

 

อวี๋เหวยหมินมองเฉินเยี่ยนแล้วยิ้ม พูดต่อ “ผมมีผู้หญิง แต่ผมพูดกับพวกเธอชัดเจนทุกคน ผมไม่อยากมีครอบครัว ถ้ายอมก็อยู่ด้วยกัน ไม่ยอมก็ไม่คบต่อ มีคนไม่น้อยที่ยอมคบผม แต่คบกันได้ปีสองปี เห็นผมไม่อยากแต่งงานจริงๆ ก็เลิกไป” 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าจะว่าอวี๋เหวยหมินยังไง ด่าว่าเขาสารเลว แต่เขาก็บอกชัดเจนก่อนแล้วว่าไม่แต่งงาน พวกเขายังยอม งั้นก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ 

 

 

ทุกคนต่างมีวิถีชีวิตของตัวเอง เธอจะไม่ไปประเมิน 

 

 

“แล้วคิดจะอยู่ที่บ้านหรือจะไปอีก?” 

 

 

เฉินเยี่ยนเปลี่ยนเรื่องคุย 

 

 

“คงจะอยู่อีกสักพัก ถึงแม้จะรู้สึกว่าที่นี่ดี แต่อยู่ข้างนอกจนชินแล้ว ทุกปีกลับมาอยู่หลายวันหน่อยก็ได้ ให้ผมอยู่ที่นี่ทุกวัน ก็กลัวว่าจะอยู่ไม่ได้” 

 

 

อวี๋เหวยหมินพูดตามจริง 

 

 

เฉินเยี่ยนพยักหน้า เธอคิดนิดหนึ่ง จู่ๆ ก็พูดขึ้นมา “วันนี้ฉันบังเอิญเจอเฉินเวย” 

 

 

อวี๋เหวยหมินอึ้งไป นานแล้วที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ คิดถึงตอนนั้นที่เขาหลงใหลเฉินเวยขนาดนั้น ทำร้ายเฉินเยี่ยนโดยไม่สงสารเพื่อเฉินเวย แต่ตอนนี้นึกถึงเฉินเวย ในสมองกลับมีแต่ภาพเลือนราง เงาของเฉินเวยไม่ชัดเจนเท่าเฉินเยี่ยน 

 

 

“เธอสบายดีไหม?” 

 

 

เสียงอวี๋เหวยหมินฟังดูทุ้มต่ำ พูดไปพูดมาก็เป็นตัวเองที่เลว ถ้าศีลธรรมเขาไม่มีปัญหา เขาก็จะไม่คบกับเฉินเวย ดูซินห้าว ซินห้าวสามารถรักษาผู้หญิงอย่างเฉินเยี่ยนได้ ไม่หวั่นไหวกับผู้หญิงคนอื่น ข้อนี้ เขาแกร่งกว่าตัวเอง 

 

 

“ไม่ได้ดีมาก ตอนแรกฉันจำเธอไม่ได้ เธอแก่ขึ้นมากเลย สุขภาพก็ดูไม่ดีเลย” 

 

 

เฉินเยี่ยนคิดถึงตอนนั้นที่หลุมอวกาศบอกเธอ เธอจะแข็งแรงไปจนแก่ แต่อวี๋เหวยหมินและเฉินเวยจะอยู่ได้ถึงแค่ห้าสิบปี อีกอย่างหลายปีมานี้สุขภาพของพวกเขาก็ไม่ดีมาก 

 

 

คำนวณดูแล้ว อวี๋เหวยหมินแก่กว่าเธอสองปี เหมือนจะเหลือเวลาให้อยู่อีกแปดปี เฉินเวยเด็กกว่าเฉินเยี่ยนหลายปี ก็เหลือเวลาอยู่อีกสิบกว่าปี แต่สภาพเฉินเวยแย่กว่าอวี๋เหวยหมินมาก 

 

 

“ทำไมเหรอ?” 

 

 

เห็นเฉินเยี่ยนขมวดคิ้ว อวี๋เหวยหมินรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนมีเรื่องอะไรไม่อยากบอกเขา 

 

 

เฉินเยี่ยนมองไปทางอวี๋เหวยหมินแล้วเหมือนอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด 

 

 

“พูดมาเถอะ ระหว่างพวกเรายังมีอะไรพูดกันไม่ได้อีก ชาติที่แล้วผมมันเลว ชาตินี้ก็ผ่านมาครึ่งชีวิตแล้ว ผมคิดได้หมดแล้ว” 

 

 

อวี๋เหวยหมินรู้ว่าสิ่งที่เฉินเยี่ยนจะพูดกับเขาต้องสำคัญมากแน่ 

 

 

“คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าทำไมพวกเราถึงได้มาเกิดใหม่ที่นี่ใช่ไหม?” 

 

 

เฉินเยี่ยนตัดสินใจบอกอวี๋เหวยหมิน เธอ อวี๋เหวยหมิน เฉินเวย เกรงว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันแล้ว 

 

 

“ทำไม?” 

 

 

อวี๋เหวยหมินเคยคิดมาก่อน แต่เขาไม่รู้จริงๆ 

 

 

เฉินเยี่ยนเสยผมขึ้นมา ชี้ไปที่รอยแผลรูปดวงตาเป็นบนหน้าผากตัวเอง 

 

 

“เมื่อก่อนคุณรังเกียจแผลเป็นนี้” 

 

 

คำพูดของเฉินเยี่ยนทำให้อวี๋เหวยหมินครุ่นคิด ชาติที่แล้วเขาไม่ชอบรอยแผลเป็นบนหน้าผากนี้ของเฉินเยี่ยนจริงๆ รู้สึกว่าแผลเป็นนี้ทำลายความสวยของเฉินเยี่ยน 

 

 

“อันที่จริงแผลเป็นนี้คือหลุมอวกาศ” 

 

 

คำพูดเฉินเยี่ยนทำให้อวี๋เหวยหมินเบิกตาโต หลุมอวกาศนั่นเป็นเรื่องที่มีแต่ในนิยายไม่ใช่หรือ? 

 

 

“ตอนแรกฉันตีเฉินเวย คุณตีฉัน เลือดเลยเข้าไปในแผลเป็นนี้ ไปกระตุ้นหลุมอวกาศขึ้นมา ดังนั้นเลยทำให้พวกเราสามคนกลับชาติมาเกิดใหม่ที่นี่ พวกคุณมาเกิดก่อนฉันหนึ่งปี แต่พวกคุณมาเกิดเพราะหลุมอวกาศของฉัน หลุมอวกาศนี้มีผลกระทบต่อฉัน อย่าว่าแต่พวกคุณเลย” 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่ปิดบัง เธอคิดว่าอวี๋เหวยหมินสามารถรับรู้ความจริงได้ ส่วนหลังรู้ความจริงแล้วอวี๋เหวยหมินจะคิดยังไง เฉินเยี่ยนคิดว่าอวี๋เหวยหมินไม่ใช่อวี๋เหวยหมินคนก่อนแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว 

 

 

“มีผลต่อคุณ?” 

 

 

สายตาของอวี๋เหวยหมินจริงจังขึ้นมา ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่าเฉินเยี่ยนพูดเรื่องที่เขานึกไม่ถึง แต่พวกเขาต่างเกิดใหม่มาแล้ว ยังมีอะไรที่เกิดขึ้นไม่ได้อีก 

 

 

“เพราะผลข้างเคียงของหลุมอวกาศ ทำให้ฉันไม่ได้สามารถมีลูกได้ในห้าปี” 

 

 

เฉินเยี่ยนพูดจบก็เห็นสีหน้าอวี๋เหวยหมินเปลี่ยน 

 

 

“ชาติที่แล้วคุณก็มีแผลเป็น หมายความว่า ชาติที่แล้วพวกเราไม่มีลูก เป็นเพราะผลข้างเคียงของหลุมอวกาศนี้?” 

 

 

อวี๋เหวยหมินมองเฉินเยี่ยน เห็นเฉินเยี่ยนพยักหน้า เขากำหมัดแน่น 

 

 

ชาติที่แล้วเขาแต่งงานกับเฉินเยี่ยน เขาอยากจะมีลูก พวกเขาไม่ได้คุมกำเนิด แต่เฉินเยี่ยนไม่ท้อง เขาเคยไปตรวจสุขภาพตัวเอง เขาไม่ได้มีปัญหาอะไร ในใจเขาสงสัยว่าเฉินเยี่ยนท้องไม่ได้ 

 

 

ต่อมาเขากับเฉินเวยคบกัน นอกจากตัวเขาทนไม่ไหวปล่อยในแล้ว เขายังมีความคิดที่จะมีภรรยาสองคน ให้เฉินเวยมีลูกให้เขา 

 

 

แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เฉินเยี่ยนไม่มีปัญหา แต่เป็นเพราะผลข้างเคียงของหลุมอวกาศนี่ 

 

 

“เป็นผมที่ทำผิดต่อคุณ” 

 

 

อวี๋เหวยหมินถอนหายใจ นี่คือชะตาชีวิตสินะ ถ้าตอนแรกเขาทนอยู่กับเฉินเยี่ยนผ่านไปห้าปี มีลูก บางทีวันนี้อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ได้ 

 

 

“เรื่องมันผ่านไปแล้ว แต่อวี๋เหวยหมินฉันจะบอกอะไรคุณ นอกจากฉันที่ได้รับผลกระทบแล้ว พวกคุณก็มีผลกระทบเช่นกัน หลายปีหลังจากนี้สุขภาพของคุณและเฉินเวยจะไม่ดี อีกทั้งอาจจะถึงขั้นสูญเสียชีวิตเลยก็ได้” 

 

 

เฉินเยี่ยนก็บอกความจริง หวังว่าหลังจากนี้อวี๋เหวยหมินจะรักษาชีวิตที่เหลืออยู่ 

 

 

“ยังเหลืออีกกี่ปี?” 

 

 

อวี๋เหวยหมินไม่สงสัย สองปีนี้เขารู้สึกได้ว่าสุขภาพตัวเองไม่ได้ดีมาก แต่ไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอก็บอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร ได้แต่ให้เขารักษาสุขภาพ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผลข้างเคียงของหลุมอวกาศ 

 

 

ก็ใช่ ขนาดเฉินเยี่ยนที่เป็นเจ้าตัวยังมีผลกระทบเลย ประสาอะไรกับเขาและเฉินเวยสองคนที่ตามมาด้วย ผลข้างเคียงนี้คงจะเป็นผลกรรมของเขาและเฉินเวยสินะ 

 

 

“ห้าสิบ พวกคุณมีอายุถึงแค่ห้าสิบปีเท่านั้น” 

 

 

คำพูดเฉินเวยทำให้อวี๋เหวยหมินตัวสั่น ใครได้ฟังว่าตัวเองจะมีอายุอีกแค่ไม่กี่ปีก็เสียใจทั้งนั้น 

 

 

ถ้าอวี๋เหวยหมินไม่กลับมาสร้างบ้านพักคนชรา ถ้าอวี๋เหวยหมินไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เฉินเยี่ยนก็จะไม่บอกเขา 

 

 

“ผมรู้แล้ว เฉินเยี่ยน ขอบคุณที่คุณบอกความจริงกับผม ต่อไปนี้ผมจะมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้บ่อยขึ้น อยู่เป็นเพื่อนแม่ผมมากขึ้น” 

 

 

หลังอวี๋เหวยหมินตกใจก็นิ่งลง แล้วพูดขึ้นมาอีก “เฉินเยี่ยน ถ้าผมไม่อยู่แล้ว ผมมอบบ้านพักคนชราให้คุณระ แล้วถ้าแม่ผมยังอยู่ ผมจะจัดการให้เธอไปอยู่บ้านพักคนชรา คุณช่วยผมดูแลเธอหน่อยได้ไหม?” 

 

 

อวี๋เหวยหมินรู้ว่าไม่มีใครชอบ แม่ตัวเอง แต่ยังไงก็เป็นแม่เขา หลายปีที่เขาไม่ได้เลี้ยงแม่คนนี้เลย แก่แล้วเขาก็หวังว่าแม่จะมีชีวิตที่มั่นคงอีกหลายปี แล้วยังมีลูกสาว เขาก็ติดค้างลูกสาว แต่ลูกสาวแต่งงานไปแล้ว มีชีวิตและครอบครัวของตัวเอง เขาไม่ต้องเป็นห่วง 

 

 

“ได้” 

 

 

เฉินเยี่ยนพยักหน้า เรื่องนี้เธอสามารถรับปากอวี๋เหวยหมินได้ 

 

 

“ขอบคุณนะ อีกอย่าง พรุ่งนี้ผมว่าจะไปดูเฉินเวย ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะพาเธอออกไป ไปภาคใต้ พาไปเมืองใหม่ ให้เธอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่นั่น” 

 

 

อวี๋เหวยหมินฝากฝังเฉินเยี่ยนอีกเรื่อง นี่เป็นเรื่องที่เขาเพิ่งคิดได้ 

 

 

“ก็ดี คุณจัดการให้เธอ บางทีอาจจะดีที่สุดก็ได้” 

 

 

เฉินเยี่ยนคิด บางทีนี่อาจจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

 

 

อวี๋เหวยหมินเห็นเฉินเยี่ยนไม่คัดค้านอะไร เลยมองเข้าไปในแววตาเฉินเยี่ยนลึกๆ เขาก็รู้ การจากกันครั้งนี้ เกรงว่าต่อจากนี้โอกาสที่จะมานั่งคุยกับเฉินเยี่ยนแบบนี้คงมีไม่มากแล้ว 

 

 

สำหรับเฉินเยี่ยนนั้น เขารู้สึกละอายใจ และทำอะไรไม่ได้ มีความอาลัยอาวรณ์อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นคือความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ 

 

 

แต่เฉินเยี่ยนมีซินห้าวแล้ว มีชีวิตของเธอ ชีวิตเธอมีความสุขมาก เขาไม่จำเป็นต้องกังวล 

 

 

จนอวี๋เหวยหมินกับเฉินเยี่ยนแยกกัน เฉินเยี่ยนกลับมาที่บ้านเฉิน หวางนิวถามสองคนคุยอะไรกัน เฉินเยี่ยนคิด บอกอวี๋เหวยหมินบอกว่าต่อจากนี้เขาคงไม่มีเวลาอยู่ที่หมู่บ้านเยอะ ให้เธอช่วยดูแลบ้านพักคนชรา 

 

 

อีกอย่างเธอบอกว่าอวี๋เหวยหมินบอกเธอ เขาจะรับเฉินเวยไปที่ภาคใต้ พวกเขาสองคนไปใช้ชีวิตที่นั่น 

 

 

หวางนิวอึ้งไป สักพักกว่าจะรู้สึกตัว หลายปีขนาดนี้ เธอจำได้ว่าเธอยังมีลูกสาวอีกคน ทุกปีเธอจะให้เฉินจงพาเธอไปเยี่ยมเฉินเวย แต่หลายครั้งที่เฉินเวยไม่มาพบพวกเขา โดยเฉพาะสิบปีมานี้ เฉินเวยไม่ยอมเจอเธอเลยสักครั้ง 

 

 

เธอคิดว่าลูกสาวยังไม่ออกมา คิดไม่ถึงว่าจะไปจากที่นี่แล้ว ไปภาคใต้ ก่อนไปยังไม่แม้แต่มาเจอเธอเลย 

 

 

“เฮ้อ เธอใจดำจริงๆ ไปก็ไปเถอะ กลับมาบ้าน ก็กลัวว่าคนอื่นจะว่าเธอ ไปที่ที่ไม่มีคนรู้จักเธอ เธอจะได้อยู่อย่างมีความสุขบ้าง ตอนนั้นเธอกับอวี๋เหวยหมิน…ตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เธอต้องการ อีกอย่าง ลูกบอกอวี๋เหวยหมินไปหรือเปล่าว่าให้ทำดีกับเฉินเวยหน่อย?” 

 

 

หลายปีนี้หวางนิวก็คิดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะทำอะไรได้ 

 

 

“บอกค่ะ แม่วางใจได้ ตอนนี้อวี๋เหวยหมินไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาจะทำให้เฉินเวยอยู่กับเขาแล้วมีความสุข” 

 

 

เฉินเยี่ยนพยักหน้า ที่จริงแล้วแบบนี้ก็เป็นจุดจบที่ดีที่สุด เฉินเวยไม่ต้องกลับมาบ้านเฉิน ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อื่นกับอวี๋เหวยหมิน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ มีที่เป็นหลักแหล่ง ยังไงก็ดี 

 

 

เฉินเยี่ยนออกจากบ้านเฉิน ตอนที่อวี๋เหวยหมินอยู่เธอไม่ได้กลับไปบ้านแม่อีก แต่หลังจากนั้นครึ่งเดือนอวี๋เหวยหมินก็มาหาเธอครั้งหนึ่ง บอกเธอว่าเขาซื้อตั๋วแล้ว และโน้มน้าวเฉินเวยแล้ว พวกเขาจะไปแล้ว อีกหน่อยเขาจะกลับมา แต่เฉินเวยไม่กลับมาแล้ว 

 

 

อวี๋เหวยหมินยังบอกเฉินเยี่ยน เขาเคยถามเฉินเวยว่าจะกลับไปบ้านเฉินไหม เฉินเวยส่ายหน้า เฉินเวยให้เขาฝากบอกว่าขอโทษ ขอโทษเฉินเยี่ยน ขอโทษเจ้าของร่าง และขอโทษหวางนิว 

 

 

อวี๋เหวยหมินและเฉินเวยไปแล้ว การจากไปของพวกเขา ทำให้ในที่สุดโชคชะตาที่พัวพันกันของสามคนได้มาถึงจุดจบในที่สุด 

 

 

อวี๋เหวยหมินและเฉินเวยจากไป ทำให้เฉินเยี่ยนรู้สึกปลงในใจ อยู่ๆ เธอก็อยากจะไปดูสวนผลไม้สถานที่ที่เธอเห็นครั้งแรกตอนมาเกิดใหม่ จากนั้นไปหาซินห้าว แล้วไปโรงเรียนดูเช่อเช่อและเยว่เยว่กับซินห้าว พวกเขาสี่คนนั่งกินข้าวก้วยกัน พูดคุยกัน 

 

 

คิดแล้วก็ทำ เฉินเยี่ยนขับรถไปที่สวนผลไม้ 

 

 

มาถึงข้างสวน เฉินเยี่ยนนั่งมองอยู่ในรถ ต้นไม้โล่งเตียน ต้นเก่าแก่เหลือแต่ตอ สวนผลไม้โดนทำลายหมดแล้ว ตอนนี้แทบจะไม่มีคนดูแล ได้ยินว่าเจ้าของสวนปล่อยให้เช่า แต่ไม่มีคนเช่า ถ้าผ่านไปอีกสักพักยังไม่มีคนเช่า คิดว่าเจ้าของสวนน่าจะตัดต้นไม้ออกหมด สวนนี้ก็จะไม่มีเหลืออยู่แล้ว 

 

 

สถานที่ที่เธอกลับชาติมาเกิดกำลังจะสูญหายไปแล้ว 

 

 

ทันใดนั้น เฉินเยี่ยนเห็นมีคนเดินออกมาจากสวนผลไม้ คนนั้นรูปร่างกำยำ หน้าตาหล่อเหลาและดูเด็ดเดี่ยว แววตาเป็นประกาย และเผยให้เห็นถึงความสงบนิ่ง 

 

 

คนแบบนี้ไม่ควรจะมาปรากฏตัวที่สวนผลไม้นี้ แต่ก็ดันมาปรากฏตัว หรือว่าเพราะเขารู้ว่าสวนผลไม้จะไม่อยู่แล้ว เลยมาดู? 

 

 

นี่เป็นที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรก ถึงแม้ครั้งนั้นตัวเองจะไม่เห็นเขา แต่เขากลับช่วยตัวเอง ดังนั้นเรื่องของเธอและเขาเริ่มต้นจากที่นี่ 

 

 

มองดูผู้ชายคนนี้ที่เปลี่ยนชีวิตเธอ เฉินเยี่ยนมีความคิดมากมาย ตั้งแต่เธอเกิดใหม่มาถึงตอนนี้ แต่ละคนแต่ละเรื่องราวผ่านเข้ามาในสมองเธอ 

 

 

ครอบครัวเธอดีมาก ธุรกิจโรงงานก็เจริญรุ่งเรือง สุขภาพพ่อแม่แข็งแรง พี่ชายและพี่สะใภ้รักใคร่กลมเกลียว ฉือหลิวเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว เฉินเฟยก็เรียนถึงม. หกแล้ว ผลการเรียนก็ไม่แย่ 

 

 

เฉินหู่ก้าวหน้ามาก ถือได้ว่าเป็นดาราดังเหมือนกับซินเหลยแล้ว ทั้งเรื่องการงานและความรักต่างดีทั้งคู่ และต่างมีลูกกันแล้ว ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 

 

 

ยังมีหวางจวนที่เธอช่วยไว้ ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขกับเจ้าอ้วน ถึงแม้ลูกชายพวกเขาจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ก็ทำการค้ากับซินห้าว ซินห้าวยกร้านหนึ่งให้เขาและเจ้าอ้วนไปดูแล ตอนนี้ทำได้ดีเลย 

 

 

ลูกสาวหวางจวนกำลังเรียนชั้นม.ปลาย ทุกครั้งที่เจอหวางจวน ตัวเองเห็นความพึงพอใจได้จากใบหน้าเธอ 

 

 

ส่วนบ้านซิน ซินชานเกษียณแล้ว อยู่ที่บ้านอ่านหนังสือ ปลูกดอกไม้ ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ 

 

 

ถึงแม้นิสัยซุนหม่านเซียงแม่สามีจะไม่เปลี่ยนไปเท่าไร แต่ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว เพราะมีซินชานอยู่เป็นเพื่อนเธอ เธอก็ไม่วุ่นวายใจเท่าเมื่อก่อนแล้ว ส่วนบ้านแม่เธอ หลังจากคุณยายเสียชีวิต เธอก็ไม่ปกป้องอย่างไม่มีเหตุผลเหมือนเมื่อก่อนแล้ว 

 

 

ลุงสองและป้ารองก็อยู่อย่างสุขใจ ตอนไม่มีงานอะไรก็จะไปอยู่ที่ปักกิ่งสักระยะ ซินเหวยอยู่ที่นั่นก็ก้าวหน้าดีเช่นกัน 

 

 

สองพี่น้องซินหลานก็มีชีวิตที่ไม่แย่เลย ไม่ต้องกังวลใจ 

 

 

แม่บุญธรรมของเยว่เยว่ พี่สะใภ้เฉียวเฟิ่งมาทำงานที่โรงงานเฉินเยี่ยนหลายปีก่อนแล้ว มีเงินใช้จ่ายสบาย ไม่ได้ทำงานมาสองปีแล้ว แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ เวลาเฉินเยี่ยนไม่มีอะไรก็มักจะไปเยี่ยมเธอ ความสัมพันธ์ของเธอและบ้านซินดีมาก เธอเลยไม่สันโดษเหมือนแต่ก่อนแล้ว 

 

 

แล้วยังมีพวกหลี่จื้อและคนอื่นๆ ผ่านเข้ามาในหัวเฉินเยี่ยน แต่คนพวกนั้นเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านมา 

 

 

ส่วนศัตรูพวกนั้น แต่ละคนก็ได้รับผลกรรมของตัวเองไปแล้ว แต่ละคนมีโชคชะตาเป็นของตัวเอง ต่างก็ผ่านกันไป 

 

 

มองดูซินห้าวที่เดินมาทางรถเธอ อายุวัยกลางคนนี้ ความหล่อและเสน่ห์ของเขาไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย ยังคงดึงดูดผู้คนอยู่เหมือนเดิม 

 

 

เฉินเยี่ยนยิ้มกว้าง ลงจากรถ หันไปทางซินห้าว ผู้ชายคนนี้ที่เธอรัก และก็รักเธอ คนที่ให้ความสุขเธอทั้งชีวิตคนนี้ พวกเธอยังเหลือเวลาอีกครึ่งชีวิต เธอเชื่อว่าพวกเขาจะมีความสุขไปจนแก่เฒ่า 

 

 

ชีวิตของเธอยังดำเนินต่อไป เรื่องราวของเธอก็ยังคงดำเนินต่อ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต….